ตอนที่ 101 อัปเลเวลสมาชิก
ทันทีที่ไป๋เยี่ยยืนขึ้นก็มีเสียง กริ๊ง! ดังขึ้น
เสียงแจ้งเตือนจากระบบนั่นเอง
อะไรล่ะนั่น
ไป๋เยี่ยลองเปิดอ่านทันที
[ติ๊ง! เรียนท่านสมาชิก คุณได้บรรลุเงื่อนไขสำหรับการเพิ่มเลเวลสมาชิกวีไอพีแล้ว ติ๊ง! คุณสามารถเพิ่มเลเวลสมาชิกเป็นวีไอพีสามได้แล้ว]
[ติ๊ง! เรียนผู้ใช้วีไอพีสามที่เคารพ ตอนนี้คุณได้กลายเป็นสมาชิกระดับกลางแล้ว คุณจะได้รับสิทธิพิเศษดังต่อไปนี้
1. ได้รับค่าประสบการณ์เพิ่มขึ้นสิบเท่า
2. เปิดโหมดเพิ่มศักยภาพได้หนึ่งครั้ง
3. เลือกเพิ่มเลเวลวิชาใดก็ได้เป็นเลเวลห้า หรือสุ่มเพิ่มเลเวลวิชาใดวิชาหนึ่งเป็นเลเวลหก
4. ห้องแล็บจำลอง]
สิทธิพิเศษครั้งนี้ดูจะแตกต่างจากครั้งก่อนเล็กน้อย!
สิทธิพิเศษแรกคือได้รับค่าประสบการณ์มากขึ้นสิบเท่า ซึ่งถือว่ามากกว่าวีไอพีสองที่ได้รับค่าประสบการณ์เพียงแปดเท่า แต่แค่แปดเท่าก็เยอะมากแล้ว
สิทธิพิเศษประการที่สามก็ยังคงเป็นการเพิ่มเลเวลวิชา ถ้าสุ่มก็จะเพิ่มขึ้นเป็นเลเวลหก แต่ถ้าเลือกเองก็จะได้เพิ่มแค่เลเวลห้าเท่านั้น
ไป๋เยี่ยยังไม่ได้ใส่ใจสิทธิพิเศษข้อสองและสี่มากนัก เพราะเขาไม่รู้ว่ามันคืออะไร
ได้แต่อ่านข้อความจากระบบต่อเท่านั้น
[แจ้งเตือน สิทธิพิเศษข้อที่สอง เพิ่มศักยภาพ คือการพัฒนาความสามารถ ทักษะ หรือศักยภาพทางกายภาพบางอย่างของผู้ใช้ เช่น การพัฒนาหน่วยความจำ ความสามารถในการวิเคราะห์ หรือการพัฒนาความสามารถด้านการคำนวณ ความสามารถในการทดลอง ความสามารถในการลงมือปฏิบัติ และการพัฒนาของร่างกายบางส่วน]
ไป๋เยี่ยอึ้ง
มีอะไรแบบนี้ด้วย
ชักจะน่ากลัวไปแล้ว…
จู่ๆ ไป๋เยี่ยก็นึกขึ้นได้ว่าถ้าหากเขาพัฒนาศักยภาพด้านความคิดได้ นั่นหมายความว่าทั้งความจำ การวิเคราะห์ และความสามารถอื่นๆ ของเขาก็น่าจะดีขึ้นตามไปด้วย
[ติ๊ง! หากคุณเลือกพัฒนาศักยภาพด้านความคิด ความสามารถทั้งหมดจะได้รับการพัฒนาขึ้นโดยมีขอบเขตที่จำกัดไว้ อย่างไรก็ตาม การพัฒนาศักยภาพเพียงด้านใดด้านหนึ่งก็สร้างผลลัพธ์ได้มากเช่นกัน]
ไป๋เยี่ยถอนหายใจ ดูเหมือนว่าระบบจะไม่มีช่องโหว่ให้เขาเลย โอกาสที่จะได้เพิ่มศักยภาพนั้นหาได้ยากมากๆ นานๆ ทีจะได้รับโอกาสแบบนี้ ไป๋เยี่ยจึงไม่อยากยอมแพ้สักเท่าไหร่
แล้วให้พัฒนาอะไรล่ะ
ความคิด สมรรถภาพทางกาย ความสามารถเฉพาะทาง หรือว่าพัฒนาความสามารถในการจดจำอะไรแบบนี้น่ะเหรอ
ไป๋เยี่ยตัดสินใจไม่ได้เลย
อย่างไรก็ตาม ไป๋เยี่ยยังคงต้องการมีความสามารถรอบด้านอยู่ เขาจึงเลือกพัฒนาศักยภาพทางด้านความคิด แม้ว่ามันจะเป็นการพัฒนาเพียงเล็กน้อย แต่การพัฒนาศักยภาพทางด้านนี้จะต้องก่อให้เกิดการพัฒนาของทักษะอื่นๆ ด้วยเช่นกัน
ส่วนเรื่องความจำ แค่มีแคปซูลเพิ่มความจำก็พอแล้ว ไป๋เยี่ยเองก็ไม่ได้กังวลอะไรเพราะคิดว่ามันเป็นของที่หาได้ง่าย
ในส่วนของการพัฒนาสมรรถภาพทางกาย…ไป๋เยี่ยคิดว่าต่อไปเขาคงจะได้รับรางวัลอย่างน้ำยาวิวัฒนาการอีกแน่นอน
ไป๋เยี่ยจึงเลือกที่จะพัฒนาศักยภาพทางด้านความคิดก่อน
จริงๆ ไป๋เยี่ยก็แอบจินตนาการไว้บ้างว่าถ้าเขาเป็นเหมือนกับนางเอกจากหนังเรื่อง ‘สวยพิฆาต’ ที่เปิดการใช้งานสมองได้ร้อยเปอร์เซ็นต์จนกลายเป็นตัวบั๊กของเรื่องล่ะก็คงจะน่าตื่นเต้นสุดๆ
แต่ว่า…นั่นมันก็แค่หนัง…
[ติ๊ง! ยืนยันพัฒนาศักยภาพทางด้านความคิด ต่อไปนี้คุณจะได้รับการพัฒนาความสามารถในขอบเขตที่จำกัดไว้ อย่างเช่นการรับรู้ การตัดสินใจ การวางแผน ความทรงจำ ความสามารถในการวิเคราะห์ ฯลฯ อย่างเป็นระบบ…]
ไป๋เยี่ยรู้สึกไม่แปลกใจสักเท่าไหร่ ก็เหมือนกับตอนที่เขาดื่มน้ำยาวิวัฒนาการนั่นแหละ กระบวนการพัฒนาศักยภาพจะดำเนินไปอย่างช้าๆ ซึ่งไป๋เยี่ยเองก็สัมผัสได้ถึงสิ่งมหัศจรรย์ที่ค่อยๆ เกิดขึ้นกับตัวเขาเช่นกัน
แน่นอนว่ากระบวนการดังหล่าวจะไม่ส่งผลต่อการใช้ชีวิตของไป๋เยี่ยแต่อย่างใด
ต่อมาคือสิทธิพิเศษข้อสุดท้าย สิทธิพิเศษข้อที่สี่ ห้องแล็บจำลอง
มันคืออะไร
[แจ้งเตือน ห้องแล็บจำลองเป็นการจำลองสภาพแวดล้อมเสมือนจริงซึ่งทำการจำลองหรือทดลองเพื่อการฝึกฝนได้ การฝึกฝนภายในห้องแล็บจะมีผลต่อการพัฒนาความสามารถ สิทธิพิเศษดังกล่าวสงวนไว้สำหรับสมาชิกระดับกลางขึ้นไป มีค่าใช้จ่ายสำหรับการใช้งานแต่ละครั้ง
หมายเหตุ: พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่จำลองสภาพแวดล้อมเสมือนจริง ค่าธรรมเนียมในการเปิดใช้งานจะขึ้นอยู่กับฉากที่จำลอง ผลผลิตที่ได้รับจากระบบจะเป็นผลผลิตที่มีคุณภาพสูง บริการของเราจะต้องทำให้คุณพึงพอใจเกินกว่าจะจินตนาการได้แน่นอน!]
ระบบอธิบายอย่างชัดเจนมากจนไป๋เยี่ยเข้าใจ หมายความว่าห้องแล็บจำลองนี้เป็นการจำลองสภาพแวดล้อมและฉากเสมือนจริงซึ่งเขาจะดำเนินการใดๆ ในพื้นที่นั้นก็ได้ ตัวอย่างเช่น ถ้าไป๋เยี่ยต้องการจะสาธิตการขลิบให้คุณดู ต่อให้ไป๋เยี่ยจะเคยดูคลิปผ่าตัดมานับร้อยนับพันครั้งแล้วก็ตาม คิดว่าจะไม่รู้สึกกลัวบ้างเลยหรือ แต่ในเมื่อมีห้องแล็บจำลองนี้แล้ว การฝึกฝนก็เกิดขึ้นได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด คุณจำลองสถานการณ์และฝึกฝนในพื้นที่นี้ได้ตลอด!
สิทธิพิเศษข้อนี้ฟังดูดีมากเลยทีเดียว!
ท้ายที่สุดแล้ว การเรียนแพทย์ยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องอาศัยการฝึกฝนและพัฒนาตนเองจากการลงมือปฏิบัติจริง
ถ้าคุณยังจะอ่านแต่ตำราล่ะก็ หลีกทางไปซะ เพราะคุณจะทำงานในวอร์ดไม่ได้เลย
[ติ๊ง! แจ้งเตือน หลังจากที่เพิ่มเลเวลสมาชิกแล้ว สิทธิพิเศษของเลเวลที่ต่ำกว่าจะถูกแทนที่ด้วยสิทธิพิเศษของเลเวลที่สูงกว่า เช่น เมื่อเพิ่มเลเวลขึ้นเป็นวีไอพีสาม สิทธิพิเศษต่างๆ ที่คุณได้รับระหว่างที่ยังเป็นสมาชิกวีไอพีสองจะไม่มีผลอีกต่อไป]
[ติ๊ง! เพิ่มเลเวลสมาชิกแล้ว ข้อมูลสมาชิกปัจจุบันของคุณคือ วีไอพีสาม: 180/1000 ค่าสมาชิกรายเดือน 30000 หยวน]
[ติ๊ง! เรียนผู้ใช้ เพิ่มเลเวลสมาชิกเรียบร้อบแล้ว ขอให้มีความสุขกับการใช้ชีวิต!]
เมื่อได้ลองพิจารณาถึงสิทธิพิเศษต่างๆ ไป๋เยี่ยก็พอใจมาก ทั้งค่าประสบการณ์ที่เพิ่มขึ้นสิบเท่า ได้พัฒนาศักยภาพ ไหนจะห้องแล็บจำลองอีก ทั้งหมดนี้เป็นรางวัลที่คุ้มค่ามาก
ห้องแล็บจำลองถือเป็นสิ่งที่วิเศษมาก เพียงแต่ว่ามันยังไม่จำเป็นสำหรับตอนนี้
ไป๋เยี่ยถูมือ ได้เวลาแสดงความสามารถที่แท้จริงแล้ว!
ไม่ว่าจะเป็นการสุ่มอัปเลเวลเป็นเลเวลหก หรือเลือกอัปวิชาใดวิชาหนึ่งขึ้นเป็นเลเวลห้า ไป๋เยี่ยก็ยังคงอยากเดิมพันด้วยโชคชะตาของตนเองอยู่ดี
อันที่จริง เหตุผลที่แท้จริงของไป๋เยี่ยก็คือ เขาไม่มีวิชาไหนที่อยากอัปเลเวลแล้ว จึงเลือกสุ่มอัปเลเวลสักวิชาขึ้นเป็นเลเวลหกแทนที่จะเลือกอัปวิชาใดวิชาหนึ่งขึ้นเป็นเลเวลห้า
จากเลเวลห้าขึ้นเป็นเลเวลหกต้องใช้ค่าประสบการณ์จำนวนมาก
ทว่าไป๋เยี่ยก็คิดว่ามันคุ้มค่า!
คิดได้ดังนั้นหัวใจของไป๋เยี่ยก็เริ่มเต้นระรัว
สุ่มอัปเลเวลขึ้นเป็นเลเวลหก!
[ติ๊ง! สุ่มเพิ่มเลเวลวิชาสรีรวิทยาขึ้นเป็นเลเวลหก!]
ไป๋เยี่ยผงะ สรีรวิทยางั้นเหรอ
สรีรวิทยาเลเวลหก
แล้วสรีรวิทยาคืออะไรล่ะ
สรีรวิทยาคือศาสตร์ที่เน้นการศึกษารูปแบบการทำงานของร่างกายสิ่งมีชีวิต ในช่วงต้นศตวรรษที่สิบเก้า นักสรีรวิทยาชาวฝรั่งเศสผู้มีชื่อเสียงคนหนึ่งเคยอธิบายไว้ว่า ‘แพทยศาสตร์คือศาสตร์เกี่ยวกับโรคภัยไข้เจ็บ ส่วนสรีรวิทยาคือศาสตร์แห่งชีวิต เป็นศาสตร์ที่มีความเป็นสากลมากกว่า จึงเป็นเหตุผลว่าเหตุใดสรีรวิทยาจึงเป็นพื้นฐานสำคัญของวิทยาศาสตร์การแพทย์ หากแพทย์ต้องการรักษาผู้ป่วยก็ต้องอาศัยองค์ความรู้วิชาสรีรวิทยามาใช้ในการศึกษาโรคดังกล่าว’
อันที่จริงสรีรวิทยาก็คือวิชาที่เน้นการศึกษาการทำงานทั่วไปของร่างกาย
แม้ว่าคำว่าสรีรวิทยาจะปรากฏขึ้นได้ไม่นาน แต่ในความเป็นจริง วิชาสรีรวิทยามีมานานแล้ว
เพราะว่าการพัฒนาองค์ความรู้วิชาสรีรวิทยามีความเกี่ยวข้องกับการแพทย์อย่างมาก มนุษย์จึงพยายามสั่งสมองค์ความรู้เกี่ยวกับการทำงานของร่างกายในการต่อสู้กับโรคภัย
นอกจากนี้ ในสมัยโบราณยังมีแพทย์และนักวิทยาศาสตร์หลายคนสรุปความรู้เกี่ยวกับวิชาสรีรวิทยาไว้อีกด้วย
ตัวอย่างเช่นคัมภีร์ ‘เน่ยจิง’ ของประเทศจีนก็เป็นหนึ่งในตำราที่อธิบายเรื่องสรีรวิทยาของมนุษย์ผ่านการศึกษาเรื่องเส้นลมปราณ อวัยวะภายใน พิษร้ายทั้งหก อารมณ์ทั้งเจ็ด ลมปราณ เลือด ฯลฯ