ตอนที่ 130 ข้อมูลของคาร์ล
ทันทีที่ไป๋เยี่ยพูดจบ ทุกคนก็หันไปมองหูเฟิงอวิ๋นอย่างประหม่า
หูเฟิงอวิ๋นเห็นดังนั้นก็ถอนหายใจแล้วจึงหันไปพูดกับไป๋เยี่ย “เสี่ยวเยี่ย หนูเองก็รู้ด้วยว่างานวิจัยต่างๆ ในมณฑลจิ้นซีของเรานั้นล้าหลังมณฑลอื่นๆ มาก ในฐานะที่พวกเราเป็นผอ.จากสถาบันใหญ่ๆ พวกเราจึงกังวลกับเรื่องนี้มากจริงๆ!”
“อย่างไรก็ตาม เรื่องแบบนี้คงรีบแก้ไขไม่ได้ แต่เมื่อทุกคนรู้ข่าวที่รองบรรณาธิการจาก ‘เซลล์‘ มาที่มหาวิทยาลัยของเรา ทุกคนก็ปรึกษากันและคิดว่านี่เป็นโอกาสที่ดี”
ไป๋เยี่ยตะลึง เป็นเช่นนั้นจริงด้วย ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคนใหญ่คนโตเหล่านี้ถึงมาหาเขา ที่แท้ก็เพราะคาร์ลนี่เอง
แต่เกิดอะไรขึ้นกับคาร์ลล่ะ
ทันใดนั้นผู้อำนวยการเหอจากวิทยาลัยแพทย์ก็ถอนหายใจก่อนจะเอ่ยขึ้น “จริงๆ แล้วอาจารย์เก่าๆ หลายคนในสถาบันของเราต่างก็มีเนื้อหาวิชาและผลงานที่ดีมาก เพียงแต่ว่าผลงานของพวกเขาไม่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารชั้นนำ…มันไม่เอื้อต่อการพัฒนาด้านวิชาการของพวกเราเลย เพราะในระดับสากล ผู้คนก็ยังคงให้ความสำคัญกับวารสารชั้นนำมากกว่า”
“พวกเราจึงอยากขอให้บรรณาธิการของ ‘เซลล์’ อธิบายถึงเกณฑ์การตีพิมพ์บทความ ตลอดจนทิศทางในการพัฒนาและแนวโน้มการวิจัยของวิทยาศาสตร์สมัยใหม่…”
“สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การบอกนักศึกษาว่าจริงๆ แล้วนักศึกษาอย่างพวกเขาก็มีความสามารถเหมือนกัน แต่เพราะสภาพแวดล้อมในตอนนี้ ทำให้คุณภาพของงานวิจัยและเอกสารต่างๆ แตกต่างไปจากพื้นที่อื่นที่พัฒนาแล้ว…”
ทันทีที่พูดจบ ทุกคนก็หันมามองไป๋เยี่ยด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหวัง
ไป๋เยี่ยเห็นดังนั้นก็ตอบอย่างไม่ลังเล “ผมจะพยายามทำให้ดีที่สุดครับ แต่ผมก็ไม่แน่ใจว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นยังไงบ้างนะครับ”
หลังจากที่ไป๋เยี่ยกล่าวอำลาทุกคนแล้วก็รีบมุ่งหน้าไปที่โรงแรมทันที
หลังจากที่คาร์ลมาถึง เขาก็ได้พูดคุยกับไป๋เยี่ยเล็กน้อยก่อนจะไปที่โรงแรม
เขาไม่ได้ติดต่อกับคนอื่นๆ สักเท่าไหร่ เพราะจุดประสงค์ในการมาที่นี่ของเขานั้นเข้าใจได้ง่ายมาก นั่นคือเขามาที่นี่เพื่อตามหาไป๋เยี่ยแ ละขอให้ไป๋เยี่ยลองถอดรหัสข้อมูลให้เขา
ทันทีที่ไป๋เยี่ยมาถึงโรงแรม คาร์ลก็ตื่นเต้นมากที่เจอเขา จึงตรงเข้าไปจับมือทันที!
“โอ๊ะ เสร็จธุระแล้วเหรอ พวกเราเริ่มทำงานได้หรือยังล่ะ”
ไป๋เยี่ยพึมพำเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยปากเบาๆ “อื้ม ตอนนี้ผมช่วยคุณวิเคาระห์ข้อมูลได้แล้ว…แต่ผมขออะไรคุณอย่างหนึ่งสิ”
คาร์ลผงะ “อะไรเหรอ”
ไป๋เยี่ยครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “คุณช่วยมาอธิบายถึงการเขียนบทความและแนวโน้มงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์หน่อยได้ไหม”
คาร์ลเบิกตากว้าง “หมายความว่าไงน่ะ”
ไป๋เยี่ยจึงเล่าเหตุการณ์เมื่อเช้าในคาร์ลฟัง
“คุณช่วยผมเรื่องนี้หน่อยได้ไหม ไม่ต้องกังวลนะ ผมจะตั้งใจวิเคราะห์ข้อมูลให้คุณ ผมสัญญาเลย”
คาร์ลลุกขึ้นไปชงกาแฟสักแก้ว
ก่อนที่ทั้งคู่จะเงียบไป
คาร์ลจิบกาแฟในแก้วก่อนจะถอนหายใจออกมา “ผมลองคิดดูแล้ว ผมน่ะไม่ค่อยถนัดเรื่องการวิเคราะห์ข้อมูลสักเท่าไหร่ คุณเองก็น่าจะช่วยอะไรมากไม่ได้ ถ้างั้นผมตกลงเรื่องการบรรยายแล้วกัน”
ไป๋เยี่ยตะลึง! “จริงเหรอครับ!”
คาร์ลพยักหน้าทั้งรอยยิ้มก่อนจะยื่นมือออกไปตบไหล่ของไป๋เยี่ย “ใช่แล้ว ผมสัญญา แต่…ผมคงอยู่ที่จิ้นซีแค่หนึ่งสัปดาห์เท่านั้น หลังจากนั้นผมจะต้องกลับไปแล้ว…ส่วนค่าบรรยายผมก็ขอเก็บหน่อยแล้วกัน! คิดตามราคาทั่วไปเลย แต่เห็นแก่มิตรภาพของพวกเรา ผมจะไม่บวกเงินเพิ่มแล้วกันนะ”
แววตาของไป๋เยี่ยเป็นประกาย เขารีบโผเข้ากอดคาร์ล “ขอบคุณมากครับ ผมจะตั้งใจวิเคราะห์ข้อมูลให้คุณนะ”
จากนั้นไป๋เยี่ยก็รีบติดต่อไปหาหูเฟิงอวิ๋น เห็นได้ชัดว่าทางนั้นก็กำลังรอข่าวจากไป๋เยี่ยเช่นกัน
พอได้รู้ว่าคาร์ลตอบตกลง พวกเขาก็อดยินดีไม่ได้เลย!
รีบเสนอราคามาเลย!
อันที่จริง การบรรยายจากบรรณาธิการของวารสารชั้นนำอย่าง ‘เซลล์’ และ ‘ธรรมชาติ’ นั้นประเมินค่าไม่ได้
การบรรยายของพวกเขาอาจไม่ได้มีค่าบรรยายที่สูงลิบ แต่ก็ไม่ได้จะมีการบรรยายขึ้นบ่อยๆ
บางทีแวดวงนี้ก็แปลกประหลาดเหมือนกัน
คืนนั้น ทั้งหูเฟิงอวิ๋นและผู้อำนวยการคนอื่นๆ กว่าสิบคนต่างร่วมมือกันวางแผนการบรรยาย
วันรุ่งขึ้น ไป๋เยี่ยก็พาคาร์ลมาพบทุกคน ซึ่งคาร์ลเองก็มีท่าทีนอบน้อม
การบรรยายหลายสิบชั่วโมงจะเริ่มขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
แม้ว่าไป๋เยี่ยจะไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเตรียมการ แต่เขาก็ได้จองห้องพักข้างๆ คาร์ลไว้เป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์เช่นกัน
อย่างไรคาร์ลเองก็มาที่ประเทศจีนเพียงลำพัง ไป๋เยี่ยจึงต้องพยายามช่วยเหลือเขาให้มากที่สุด นอกจากนี้ ทางมหาวิทยาลัยยังต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดด้วย พูดให้ถูกก็คือ มีสถาบันกว่าสิบแห่งที่ต้องรับผิดชอบในส่วนนี้
คืนนั้น คาร์ลเสียบฮาร์ดไดร์ฟเข้าไปในโน้ตบุ๊กของเขาด้วยท่าทางลับๆ ล่อๆ
เขาหันมาพูดกับไป๋เยี่ยอย่างเคร่งขรึม “นี่คือจุดประสงค์ที่ผมมาที่นี่ นี่คือข้อมูลที่ผมอยากให้คุณช่วยวิเคราะห์”
“จริงๆ นะ ไป๋เยี่ย ได้โปรดเถอะ คุณจะทำได้แน่นอนใช่ไหม ยังไงคุณก็เป็นอัจฉริยะนี่!”
ไป๋เยี่ยชะงัก!
เขามองคาร์ลด้วยความสับสนและแปลกใจว่าข้อมูลเหล่านั้นเป็นข้อมูลอะไร
ก่อนที่เขาจะลองอ่านข้อมูลตรงหน้า
ไป๋เยี่ยเพ่งหน้าจอโน้ตบุ๊กก่อนจะรู้ทันทีว่ามันคือข้อมูลอะไร!
นี่คือขั้นตอนการพัฒนายาชนิดใหม่!
นี่ไม่ใช่ยาธรรมดา แต่เป็นเทคโนโลยีการพัฒนายาในระดับโมเลกุลในการใช้รักษาเนื้องอกต่างๆ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะถูกผูกขาดโดยชาติที่พัฒนาแล้วในตะวันตกเสียส่วนใหญ่!
หัวใจของไป๋เยี่ยเต้นระรัว แม้ว่านี่จะเป็นเพียงโครงร่างงานวิจัย แต่มันก็ดูเป็นระบบมาก!
ส่วนแรกคือการออกแบบการทดลอง เขาลองอ่านชุดสมมติฐานและการคาดคะเนที่ปรากฏบนหน้าจอ ตามด้วยการวิเคราะห์สมมติฐานและแนวคิดด้านการทดลองอื่นๆ
เขาอ่านทั้งการค้นพบ การสกัดยาใหม่ ไปจนถึงการเตรียมยาชนิดใหม่…ฯลฯ ซึ่งเป็นขั้นตอนแรกของการทดลอง
ขั้นตอนที่สองคือการทดลองกับสัตว์ทดลองซึ่งครอบคลุมข้อมูลส่วนใหญ่ ข้อมูลหลายร้อยหน้าเป็นผลจากการทดลองกับสัตว์ทั้งหมด
และส่วนสุดท้ายคือการทดลองทางคลินิกที่ทำให้ไป๋เยี่ยแปลกใจมาก
ทำไมถึงไม่มีข้อมูลในส่วนการทดลองในคลินิกล่ะ
ไม่มีข้อมูลเลย!
เกิดอะไรขึ้น
คาร์ลพูดขึ้น “ข้อมูลนี้มีจำนวนค่อนข้างมาก คงต้องใช้ความพยายามมากหน่อยนะ ขอบคุณที่ทำงานหนัก”
ไป๋เยี่ยส่ายหัวก่อนจะหันไปหาคาร์ล “นี่คือ…การทดลองที่คุณเข้าร่วมเหรอครับ”
คาร์ลได้ยินดังนั้นก็เผยรอยยิ้มมั่นใจออกมา “ใช่แล้ว นี่เป็นข้อมูลการทดลองที่ผมได้รับจากฐานทดลอง ผมอยากจะเขียนบทความเพื่อสรุปผลการทดลองนี้มาโดยตลอด แต่กลับไม่ได้ผลลัพธ์จากข้อมูลพวกนี้เลย ต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ๆ…ซึ่งผมเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน”