ตอนที่ 138 p = 0.05
ไป๋เยี่ยจองตั๋วรถไฟสำหรับวันพรุ่งนี้ หลังจากที่ไปพบอาจารย์แล้ว เขาก็ตัดสินใจไปเยี่ยมเหล่าปรมาจารย์แพทย์แผนจีนและอาจารย์ถูด้วย
พวกเขาช่วยไป๋เยี่ยไว้หลายครั้ง ดังนั้นได้มาเมืองหลวงทั้งที ก็ต้องไปเยี่ยมเยียนเป็นมารยาทบ้าง
วันรุ่งขึ้น ไป๋เยี่ยก็เก็บข้าวของกลับไปที่จิ้นซีทันที
ช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ ไป๋เยี่ยได้คุยกับเมิ่งอวิ๋นซีบ่อย แต่ก็คุยกันแค่ไม่กี่ประโยค เพราะทั้งคู่ต่างก็คนต่างยุ่ง
ทั้งคู่สนิทกันมากขึ้นกว่าแต่ก่อน อย่างน้อยเมิ่งอวิ๋นซีก็ไม่ถามไป๋เยี่ยว่า ‘คุณเป็นใคร‘ แล้ว แถมบางทียังมีแอบเล่นมุกตลกใส่ด้วย ทว่าไป๋เยี่ยกลับรู้สึกเกร็งทุกครั้งที่ต้องพูดถึงเรื่องหนูทดลอง เพราะเมื่อพูดไปอีกฝ่ายก็จะมีท่าทียุ่งทันที เขาจึงต้องหาเวลาคุยเรื่องนี้วันหลัง
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ไป๋เยี่ยเองก็มีเรื่องที่ต้องจัดการมากมาย เขาไม่ได้มีเวลาว่างขนาดนั้น
เมื่อกลับมาถึงมหาวิทยาลัย ไป๋เยี่ยก็จัดการตัวเองให้เรียบร้อย พอวันรุ่งขึ้นก็รีบหอบกระเป๋าและโน้ตบุ๊กไปที่ห้องสมุด
ห้องสมุดดูจะสะอาดกว่าเมื่อก่อนมาก ช่วงนี้ไม่ใช่เดือนสอบ แล้วก็ไม่ใช่ช่วงสอบเข้าเช่นกัน ต่างคนต่างออกไปใช้ชีวิตวัยรุ่นในเดือนพฤษภาคม จึงมีเพียงคนหมั่นศึกษาหาความรู้อย่างไป๋เยี่ยเท่านั้นที่มาห้องสมุด
ไป๋เยี่ยมาห้องสมุดด้วยจุดประสงค์ง่ายๆ นั่นคือเขาต้องการหาคำตอบให้คาร์ล
ตอนนี้เลเวลวิชาเวชสถิติของเขาอยู่ที่เลเวลหกแล้ว อีกทั้งข้อมูลยังได้รับการแก้ไขแล้วด้วย ใช้เวลาไม่นานก็น่าจะคำนวณผลลัพธ์ออกมาได้!
ไป๋เยี่ยยังคงอยากรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แล้วถ้าหากว่าข้อมูลนี้ถูกลบออกโดยเจตนา อีกฝ่ายจะมีจุดประสงค์อะไรกันแน่
ส่วนแรกของข้อมูลยังคงเป็นบันทึกแนวคิดการทดลองและกระบวนการถอดรหัสและการจำลองสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียว
ข้อมูลดังกล่าวบันทึกความแตกต่างของสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวหลังเกิดมะเร็ง รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างกรดนิวคลีอิก อีกฝ่ายตั้งใจจะลดความน่าจะเป็นของการเกิดมะเร็งในสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวหรือไม่
กระบวนการนี้ค่อนข้างซับซ้อน ขั้นตอนแรกจะต้องเปรียบเทียบการเกิดมะเร็งในสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ภายใต้สภาวะที่ก่อให้เกิดมะเร็งเหมือนกัน
จากนั้นจึงค้นหาจุดที่ทำให้เกิดการกลายพันธุ์ในสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวโดยใช้การถอดรหัสและแปลรหัสดีเอ็นเอและอาร์เอ็นเอ เมื่อพบแล้วให้ลองเปลี่ยนลำดับดูว่าอัตราการเกิดมะเร็งลดลงอย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่
นี่คือแกนหลักของการทดลอง
ไป๋เยี่ยเริ่มทำการวิเคราะห์ใหม่ ข้อมูลเดิมมีเพียงอัตราส่วนของสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวเท่านั้น ซึ่งเป็นข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์แบบ เกณฑ์การคัดแยกเคสตัวอย่างของพวกเขาเข้มงวดมาก หากเคสการทดลองใดเกิดการเปลี่ยนแปลงระหว่างการทดลองแม้เพียงเล็กน้อยก็จะถูกคัดออกทันที
ด้วยวิธีการนี้ จำนวนเคสก็จะลดลงและยังเพิ่มอัตราความสำเร็จในการทดลองได้ด้วย
ไป๋เยี่ยคำนวณข้อมูลของทุกเคส ทั้งยังรวบรวมข้อมูลเหล่านั้นมาใช้ในเกณฑ์การคัดแยกด้วย
ข้อมูลจำนวนมหาศาลทำให้ไป๋เยี่ยต้องมุ่งความสนใจไปที่การคำนวณ เขาจึงปิดโทรศัพท์และหันมาใจจดใจจ่อกับการคำนวณก่อน
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว สองวันต่อมา ในที่สุดไป๋เยี่ยก็คำนวณข้อมูลชุดแรกเสร็จแล้ว!
เขาพบว่าการเปลี่ยนแปลงลำดับของดีเอ็นเอและอาร์เอ็นเอยังไม่ใช่ปัจจัยทั้งหมดที่ส่งผลต่อความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง
มีเพียงสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวบางชนิดเท่านั้นที่มีปัจจัยที่ส่งผลต่ออัตราการเกิดมะเร็งได้ ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงของลำดับอาจนำมาใช้วิเคราะห์เคสของสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวบางชนิดไม่ได้
ทว่ายังมีสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวชนิดหนึ่งที่ลดอัตราการเกิดมะเร็งได้!
นั่นคือข้อมูลที่ได้จากการทดลองเมื่อไม่กี่วันก่อน!
หมายความว่าอย่างไร
หมายความว่าการเปลี่ยนแปลงของลำดับนั้นจะมีผลกับสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวบางประเภทเท่านั้น!
ข้อมูลในส่วนแรกมีข้อสรุปที่ถูกต้องแล้ว
ตอนนี้ไป๋เยี่ยกำลังทำการศึกษาข้อมูลในส่วนที่สองต่อไป ซึ่งจะเป็นการทดลองกับหนูที่เป็นมะเร็งทางเดินอาหาร
มีการฉีดยาที่ทำให้โครงสร้างของกรดนิวคลีอิกในเซลล์เนื้องอกเกิดการเปลี่ยนแปลง และสังเกตว่ามีการยับยั้งการแพร่กระจายของเซลล์เนื้องอกอย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่
พวกเขาเลือกใช้หนูเคเอ็ม ข้อดีของหนูสายพันธุ์นี้คือเพาะพันธุ์ง่าย โตเร็ว ทนทานต่อโรค และปรับตัวได้ดี เป็นพันธุ์หนูทดลองที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในการทดลองด้านเภสัชวิทยา พิษวิทยา ทางจุลชีววิทยา และการทดสอบผลของยาและผลิตภัณฑ์ชีวภาพเพื่อประเมินความปลอดภัย
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้มีการวิจัยโรคมะเร็งเกิดขึ้นอย่างแพร่หลาย
มีหนูที่เป็นมะเร็งมากกว่าสองหมื่นตัว ทำเอาไป๋เยี่ยสับสนเล็กน้อย เพราะจำนวนหนูนั้นเยอะเกินไปจนยากต่อการวิเคราะห์
เพื่อที่จะเปรียบเทียบประสิทธิภาพได้ดีขึ้น ไป๋เยี่ยได้เพิ่มกลุ่มยาอิมาทินิบ[1] กลุ่มออกซาลิพลาติน[2] กลุ่มว่างเปล่า และกลุ่มยาหลอก[3]ลงไปด้วย…
ปัจจุบันแนวทางการรักษาโรคมะเร็งล้วนเกี่ยวกับการเปรียบเทียบประสิทธิภาพทั้งนั้น
การคำนวณค่อนข้างยุ่งยาก แต่มันก็ยุ่งยากได้เท่านั้นแหละ
ไป๋เยี่ยไม่เกรงกลัวต่ออุปสรรคใดๆ เขาใช้เวลาทั้งวันไปกับการคำนวณ จนกระดาษเอสี่ในมือของเขาเริ่มกองสูงขึ้นเป็นภูเขาลูกเล็กๆ
กระดาษที่เต็มไปด้วยร่องรอยการขีดเขียนถูกปาทิ้งแทบทุกนาที
มาถึงวันอาทิตย์ ซึ่งเป็นวันที่สี่ที่ไป๋เยี่ยมาที่ห้องสมุด
ได้ผลลัพธ์แล้ว!
ผลลัพธ์ที่คาดไม่ถึงทำเอาไป๋เยี่ยต้องประหลาดใจ p = 0.05!
หมายความว่าอะไร
พอไปไม่เป็นแบบนี้รู้สึกอึดอัดชะมัดเลย!
ถ้าผลลัพธ์คือ P < 0.05 จะถือว่ามีความน่าจะเป็นน้อยมาก ถ้าเกิดเหตุการณ์ใดน้อยกว่าห้าครั้งในร้อยครั้งก็จะถือว่าไม่มีผลกระทบอะไร แต่ถ้าผลลัพธ์ได้น้อยกว่า 0.05 แบบนี้ จะหมายความว่าไม่มีการตั้งสมมติฐาน ซึ่งความแตกต่างนั้นจะถือว่ามีนัยสำคัญทางสถิติด้วย!
หมายความว่าควรเริ่มต้นการทดลองได้แล้ว!
อย่างไรก็ตาม ค่าที่อยู่ในขอบเขต 0.05 ไม่ได้เพียงแค่แสดงถึงความน่าจะเป็นที่น้อยมาก แต่มันมีความเป็นไปได้ว่าอาจจะเป็นไปได้ร้อยเปอร์เซ็นต์หรือเป็นไปไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์!
ทำไมมันถึงกลับมาจุดนี้ล่ะ
หมายความว่าอะไร
ว่ากันตามตรง การทดลองชุดนี้พิสูจน์ได้จริงๆ ว่ามันประสบความสำเร็จ!
เราพิสูจน์ได้ว่ายาชนิดนี้ดีกว่ายาชนิดอื่นๆ และมีประสิทธิภาพมากกว่ายาต้านมะเร็งที่ขายกันในท้องตลาด!
แต่!
มันจริงเหรอ
ไป๋เยี่ยยังคงสงสัย ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง แล้วทำไมข้อมูลถึงหายไปตั้งแต่แรก
ข้อมูลส่วนไหนหายไป
นี่แหละปัญหา!
ทันใดนั้น ไป๋เยี่ยจึงนึกขึ้นได้ถึงข้อมูลต้นฉบับ ถ้าเขานำข้อมูลต้นฉบับมาเปรียบเทียบ เขาก็จะได้รู้ว่าข้อมูลที่ขาดหายไปคือส่วนไหนบ้าง
คำนวณเสร็จแล้วเราจะต้องได้คำตอบของเรื่องนี้แน่นอน!
พอถึงตอนนั้นก็จะได้รู้ผลลัพธ์กันสักที!
ไป๋เยี่ยคิดได้ดังนั้นก็รีบเก็บข้าวของและลุกออกจากห้องสมุดไปทันที
ไป๋เยี่ยกลับมาที่หอพัก และพบว่าต้วนเย่ว์กำลังนั่งเล่นเกม ในขณะที่ลู่เผยอี้กำลังคุยโทรศัพท์ ส่วนพ่างจื่อก็ไม่อยู่ที่หอ ไป๋เยี่ยไม่ได้เจอพ่างจื่อมาหลายวันแล้ว ไม่รู้ว่าเขากำลังยุ่งอยู่กับอะไรกันแน่
ไป๋เยี่ยหยิบแฟลชไดร์ฟขึ้นมาและตรงไปที่โน้ตบุ๊กของเขาทันที ทว่าสภาพในหอพักตอนนี้…ดูจะไม่เหมาะสำหรับการค้นคว้าสักเท่าไหร่
ไป๋เยี่ยไม่อยากตำหนิอะไรเพื่อนๆ มากนัก เพราะอย่างไรเสียนี่ก็เป็นหอพักรวม ไม่ควรขออะไรที่ล้ำเส้นคนอื่นมากจนเกินไปอยู่แล้ว
ไป๋เยี่ยจึงกลับมาที่ห้องสมุด เขาเสียบแฟลชไดร์ฟเข้ากับโน้ตบุ๊กและเริ่มเปรียบเทียบข้อมูล!
ข้อมูลเยอะเกินไป ทำให้การเปรียบเทียบไม่ง่ายนัก ทว่าไป๋เยี่ยก็ยังคงตื่นเต้นกับมันอยู่ดี!
เขาใช้เวลาเกือบทั้งบ่าย จนในที่สุดก็หาเจอ!
เมื่อลองเอาข้อมูลทั้งสองชุดเทียบกันแล้วจะพบว่ามีข้อมูลที่สูญหายไปเพียงตัวเดียว!
ข้อมูลเพียงชิ้นเดียวสร้างผลกระทบมากขนาดนี้ได้อย่างไร
ไป๋เยี่ยถึงกับตกตะลึง!
[1] ยาอิมาทินิบ เป็นยารักษาโรคมะเร็ง โดยจะเป็นตัวยับยั้งโมเลกุลขนาดเล็ก
[2] ยาออกซาลิพลาติน เป็นยารักษาโรคมะเร็งที่ใช้ในการรักษามะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก ให้โดยการฉีดเข้าเส้นเลือด
[3] ยาหลอก เป็นการใช้ยาที่ไม่เกิดผลใดๆ เพื่อหลอกผู้ป่วยในการทดลอง