ตอนที่ 155 พันธุวิศวกรรม
การประชุมที่ห้องประชุมชั้นสิบเก้าของอาคารบริหารในมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนจิ้นซีถูกจัดขึ้นเพื่อไป๋เยี่ยโดยเฉพาะ!
กลุ่มผู้เชี่ยวชาญประกอบด้วยจางฮั่นหลิน ศาสตราจารย์วิชาเวชสถิติ ผู้อำนวยการแผนกปริญญาโท ผู้อำนวยการโรงพยาบาลในเครือ และผู้อำนวยการศูนย์ทดลองของมหาวิทยาลัย
ไป๋เยี่ยยืนตรงข้ามทั้งหกคน พร้อมกับฉายสไลด์พาวเวอร์พอยต์ที่เขาเตรียมมาขึ้นบนหน้าจอ
ปกติการเสนอหัวข้องานวิจัยใช้เวลาเพียงสิบนาทีเท่านั้น ทว่าไป๋เยี่ยกลับใช้เวลาไปครึ่งชั่วโมง
ตามมาด้วยช่วงถาม-ตอบจากผู้เชี่ยวชาญ คนแรกที่เอ่ยปากคือผู้อำนวยการศูนย์ทดลอง เธอเป็นผู้หญิงอายุสี่สิบห้าปีชื่อว่าเถิงเสี่ยวเจวียน
“ดิฉันมีคำถามค่ะ จุดประสงค์ของการทดลองนี้คือเพื่อพิสูจน์ว่าหนูเลี้ยงด้วยอาหารบีวาย-วันมีคุณภาพดีกว่าหนูที่เลี้ยงด้วยอาหารประเภทอื่นใช่ไหมคะ”
ไป๋เยี่ยพยักหน้า
ผู้หญิงคนนั้นยิ้ม “ถ้าคุณไม่ได้สนับสนุนโครงการนี้ด้วยทุนของคุณเอง ฉันคงไม่ให้ผ่านอย่างแน่นอน เพราะพวกเราไม่รู้จักอาหารบีวาย-วันมาก่อน ฉันจะไม่มีทางอนุมัติการทดลองกับสัตว์โดยใช้อาหารที่พวกเราไม่รู้จักแน่นอน”
ผู้อำนวยการแผนกปริญญาโทพูดขึ้นบ้าง “เงินทุนสนับสนุนโครงการของคุณทำผมตกใจจริงๆ ผมคาดไว้ว่ามันจะต้องเป็นงานวิจัยใช้งบเยอะที่สุดในประวัติศาสตร์การทำงานวิจัยของสถาบันเราแน่ๆ!”
ศาสตราจารย์วิชาเวชสถิติดูจะเคลือบแคลงใจมาก “ผมมีคำถาม การทดลองนี้มีหน่วยทดลองหลายกลุ่ม อาจจะเกิดปัญหาในการวิเคราะห์สถิติได้ ยิ่งพอเห็นรูปแบบการทดลอง ผมก็ยิ่งกังวล ถ้าผมต้องเป็นคนวิเคราะห์ข้อมูลทั้งหมดนี่ ผมก็คงลำบากใจและกลัวว่าจะทำมันออกมาได้ไม่ดีเหมือนกัน แต่แน่นอนว่าผมเชื่อในศักยภาพของคุณนะ ผมจะบอกอะไรให้ ตอนที่ผอ.จางเชิญผมมา ผมแทบจะกลั้นหัวเราะไม่อยู่ เขาจะให้ผมตรวจสอบข้อมูลการทดลองของคุณจริงๆ”
พูดจบเขาก็ยิ้มให้ “ผมขอให้คุณโชคดี นี่เป็นโครงการและการทดลองอิสระแรกของคุณ ผมหวังว่าคุณจะได้อะไรจากโครงการนี้ไม่มากก็น้อย! แต่โปรดอย่าประมาท หัวใจของการทดลองอยู่ที่การจัดเตรียมการทดลอง ส่วนการวิเคราะห์ข้อมูลนั้น ถ้าคุณทำมันออกมาได้ไม่ดี การทดลองก็จะไม่ประสบผลสำเร็จ ถ้าเป็นคนอื่นมาเสนอหัวข้อนี้กับผม ผมจะไม่มีทางอนุมัติให้อย่างแน่นอน สุดท้ายนี้ ผมขอให้คุณโชคดี!”
ไป๋เยี่ยพยักหน้า “ขอบคุณครับอาจารย์!”
“ผ่าน!”
“ผ่าน!”
“ผ่าน!”
“ผ่าน!”
ในที่สุดโครงการนี้ก็ได้รับการอนุมัติสักที!
รายงานข้อเสนอหัวข้อเป็นเพียงขั้นตอนที่จำเป็นต้องทำเท่านั้น จางฮั่นหลินคงจะไม่มีทางปฏิเสธโครงการของไป๋เยี่ยอยู่แล้ว
เพราะว่าประการแรก ทางมหาวิทยาลัยจะได้รับหนูทดลองจำนวนหนึ่งมาโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการใช้หนูทดลองในการทดลอง
ประการที่สอง โครงการนี้ถือเป็นโครงการของทางมหาวิทยาลัย หากโครงการนี้มีผลการทดลองออกมาเมื่อไหร่ ทางมหาวิทยาลัยก็จะได้คะแนนสำหรับการจัดอันดับงานวิจัยระดับวิทยาลัยในช่วงสิ้นปีด้วย
ประการสุดท้ายคือข้อที่จางฮั่นหลินให้ความสำคัญมากที่สุด นั่นคือโครงการนี้ถือเป็นกิจกรรมทางการวิจัยอย่างหนึ่งที่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้มีส่วนร่วม นักศึกษาทุกคนลงทะเบียนเพื่อเข้าเป็นหนึ่งในผู้ร่วมสังเกตการทดลองได้ และยังเป็นการฝึกฝนและปลูกฝังศักยภาพด้านงานวิจัยให้กับนักศึกษาอีกด้วย นี่คือสิ่งที่จางฮั่นหลินรู้สึกภูมิใจในตัวไป๋เยี่ยมากหลังจากที่ได้อ่านรายงานทั้งหมด
วันที่สาม ทางมหาวิทยาลัยได้ติดประกาศและแบบฟอร์มลงทะเบียนบนบอร์ดแจ้งข่าวสาร
‘การศึกษาผลกระทบของอาหารหนูบีวาย-วันต่อพารามิเตอร์การทดลองโยใช้หนู’
หมายความว่าอาจารย์ที่ลงทะเบียนจะเบิกหนูทดลองได้ แต่จะต้องกรอกแบบฟอร์มที่มอบให้เมื่อทำการทดลอง
มีการสนับสนุนให้นักศึกษาเข้าร่วมโครงการนี้เนื่องจากการทดลองต้องใช้คนจำนวนมาก นักศึกษาที่เข้าการทดลองจะได้รับเงินหนึ่งร้อยหยวน เป็นการกระตุ้นให้นักศึกษาเข้าร่วมโครงการวิจัยและเป็นการปลูกฝังแนวคิดไปในตัว…
ทั้งมหาวิทยาลัยดูมีชีวิตชีวาขึ้นทันที
ตอนที่ยังเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัย หลายคนก็อยากรู้เรื่องการทำวิจัยอยู่แล้ว แต่พวกเขากลับไม่มีโอกาสได้สัมผัสมัน คราวนี้พวกเขาไม่ได้แค่มีโอกาสเท่านั้น แต่ยังได้เงินอีกตั้งหนึ่งร้อยหยวน
ใครจะกล้าปฏิเสธ
มีคนลงทะเบียนมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็มีการจำกัดจำนวนผู้ลงทะเบียนเช่นกัน อันที่จริงงานของพวกเขานั้นง่ายมาก ก็แค่ต้องสังเกตและจดบันทึกการทดลองที่ใช้หนูเท่านั้น
เหตุผลที่รับคนพวกนี้เข้ามาด้วย ก็เพราะว่าจางฮั่นหลินต้องการเห็นทั้งมหาวิทยาลัยมีบรรยากาศของการทำวิจัยบ้าง
ไป๋เยี่ยซึ่งอยู่ที่ศูนย์การทดลองของมหาวิทยาลัยกำลังจดจ้องไปที่หน้าจอโปร่งแสงตรงหน้าเขา เขากำลังรอคอยรางวัลสำเร็จภารกิจอยู่
[ติ๊ง! ภารกิจงานวิจัยของจางฮั่นหลินเสร็จสมบูรณ์ จัดทำรายงานเสนอหัวข้องานวิจัยได้เสร็จสิ้นภายในเวลาที่กำหนด (ก่อนสำเร็จการศึกษา) ได้รับการอนุมัติโดยกลุ่มผู้เชี่ยวชาญ ได้รับการสนับสนุนจากกองทุนโครงการระดับวิทยาลัย และจัดตั้งโครงการได้สำเร็จ!
รางวัลสำเร็จภารกิจ: 1. ค่าประสบการณ์ทักษะด้านงานวิจัย 5000 แต้ม 2. โอกาสจับรางวัลหมวดงานวิจัยหนึ่งครั้ง]
ไป๋เยี่ยรู้สึกดีใจมาก ประสบการณ์ทักษะงานวิจัยตั้งห้าพันแต้ม ถือว่าไม่เลวเลย! ว่าแต่เราอัปเกรดทักษะ ‘การแยกและสกัดสาร’ ด้วยค่าประสบการณ์นี้ได้ไหมนะ
[ติ๊ง! ค่าประสบการณ์ทักษะงานวิจัยนำไปใช้เพิ่มเลเวลทักษะงานวิจัยได้อย่างไม่มีการจำกัดค่าประสบการณ์ ต้องการใช้หรือไม่]
ไป๋เยี่ยยิ่งดีใจเข้าไปใหญ่ ใช้ได้จริงด้วย!
ใช้!
ทำไมจะไม่ใช้ล่ะ ในเมื่อตอนนี้เราก็มีทักษะงานวิจัยแค่ทักษะเดียวที่อัปเลเวลได้
คิดได้ดังนั้น ไป๋เยี่ยก็เลือกเพิ่มค่าประสบการณ์ทันที
เดิมทีทักษะการแยกและสกัดสารอยู่ที่ lv 0: 500/1000 แต่เพราะว่าเขาต้องสะสมค่าประสบการณ์อีกครึ่งหนึ่งจากการทดลอง แต้มจึงคาอยู่ที่ห้าร้อยเท่านั้น
เสียงอัปเลเวลดังขึ้นต่อเนื่องสองครั้ง
[ติ๊ง! เพิ่มค่าประสบการณ์สำเร็จ เพิ่มเลเวลทักษะการแยกและสกัดสารแล้ว]
[ติ๊ง! เลเวลปัจจุบันของทักษะการแยกและสกัดสารอยู่ที่ lv 2: 1500/5000]
ไป๋เยี่ยมองทักษะที่เพิ่งอัปขึ้นเลเวลสองไปด้วยความพึงพอใจ เขาพอมีหวังเรื่องงานวิจัยอีกงานแล้ว
เขายังมีงานที่อาจารย์ที่ปรึกษามอบให้อยู่อีกชิ้นหนึ่ง นั่นก็คือทำการวิเคราะห์และวิจัยเกี่ยวกับส่วนผสมของยาตันชีหั่วเซวี่ยให้สำเร็จ ถ้าต้องวิเคราะห์ส่วนผสม ก็ต้องพัฒนาทักษะการแยะและสกัดสารเสียก่อน
ต่อไปคือการจับรางวัล รางวัลหมวดงานวิจัยจะมีอะไรดีๆ บ้างไหมนะ
ไป๋เยี่ยกำลังตั้งตารอดูอยู่!
จานหมุนขนาดใหญ่ดูจะแตกต่างจากเมื่อก่อน ทว่าไป๋เยี่ยก็กดจับรางวัลทันที
จานหมุนขนาดใหญ่หมุนไปมาอย่างบ้าคลั่ง หยุด!
ทันใดนั้น ภาพอันคุ้นเคยก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าไป๋เยี่ย…รางวัลทักษะงั้นเหรอ
ไป๋เยี่ยรู้สึกดีใจมากที่ได้รับรางวัลทักษะงานวิจัย!
เขายื่นมืออกไป ทันใดนั้นทักษะที่เขาเพิ่งได้รับก็เรืองแสงและค่อยๆ ซึมเข้าสู่สมองของเขา ไป๋เยี่ยหลับตาลง เขาสัมผัสได้ถึงความรู้ที่หลั่งไหลเข้ามา
ร่างกายของเขาสั่นเล็กน้อย เขารู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย ต้องเป็นของดีแน่ๆ!
เขาเห็นว่าในกระดานนั้นยังมีอีกทักษะหนึ่งที่ไม่ใช่ทักษะการแยกและสกัดสาร
[พันธุวิศวกรรม: lv 3: 0/10000 (ยังไม่ปลดล็อค)]
รางวัลก็คือทักษะพันธุวิศวกรรมนั่นเอง!
พันธุวิศวกรรมจัดเป็นหนึ่งในสาขาที่ยากและล้ำสมัยมากที่สุดในสาขาวิชาวิศวกรรมชีวภาพ กล่าวได้ว่านี่คือสาขาวิชาที่มาแรงที่สุดในตอนนี้เลยก็ว่าได้
การวิจัยใดๆ ที่ต้องอาศัยพันธุวิศวกรรมล้วนมีความโดดเด่นทั้งนั้น
ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมไป๋เยี่ยถึงตื่นเต้น
แต่ว่า…ทำไมมันถึงไม่ปลดให้ล่ะ
[ติ๊ง! หากต้องการปลดล็อคทักษะพันธุวิศวกรรมเลเวล 3 ต้องผ่านเงื่อนไขต่อไปนี้:
โรคทางพันธุกรรม: เลเวล 3
อณูชีววิทยา เลเวล 3
ชีววิทยาของเซลล์เลเวล 3]
ไป๋เยี่ยถึงกับผงะ ถ้าจะปลดล็อคก็ต้องอัปเลเวลวิชาพื้นฐานพวกนี้ให้ถึงเลเวลสามก่อนเหรอ