บทที่ 180 เราทำสำเร็จแล้ว
ครอบครัวของเหออวี่อาศัยอยู่ในเมืองจิ้นจง แม่ของเขาเคยเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลครั้งหนึ่งเนื่องจากโรคหลอดเลือดสมอง หลังจากออกจากโรงพยาบาล เธอยังคงรู้สึกไม่สบายที่แขนขาซ้าย มีอาการเดินเซตลอดเวลา ดังนั้นเธอจึงไปพบแพทย์หัวหน้าแผนกโรคสมองที่โรงพยาบาลแพทย์แผนจีนจิ้นซี ผลการรักษาออกมาค่อนข้างดี เธอจึงมาติดตามผลสัปดาห์ละครั้ง
อย่างไรก็ตาม ที่ตั้งของเมืองจิ้นจงอยู่ห่างจากเมืองไท่หยวนมาก ต้องใช้เวลาเดินทางโดยรถไฟราวๆ สามถึงสี่ชั่วโมง เมื่อลงรถไฟแล้วก็ต้องต่อแท็กซี่ไปที่โรงพยาบาล พวกเขาออกเดินทางในเวลาหกโมงเช้า และไปถึงโรงพยาบาลตอนประมาณสิบเอ็ดโมง แต่ไม่ว่าจะไปสักกี่ครั้งก็ไม่เคยได้รับบัตรคิวเลย
ดังนั้นทุกครั้งเหออวี่จึงต้องพาแม่ไปหาหมอตอนกลางคืนทุกครั้ง พอมาถึงไท่หยวน เขาก็รีบทำเรื่องรับบัตรคิวทันที
ทั้งขาไปขากลับต้องเปลืองทั้งเวลาทั้งค่าใช้จ่ายจำนวนมาก
เมื่อเขาไปหาหมอที่โรงพยาบาลแพทย์แผนจีนจิ้นซีเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เขาก็เห็นคนกลุ่มหนึ่งกำลังโปรโมทแอปที่ชื่อว่า ‘เฮลท์ตี้จิ้นซี’ เขาจึงลองดาวน์โหลดมันมาด้วยความอยากรู้
สัปดาห์นี้เขาต้องมาติดตามผลการรักษาอยู่แล้ว เดิมทีเขาอยากพาแม่มาตั้งแต่วันก่อนแล้ว แต่ตัวเขาเองก็ติดธุระกะทันหัน จึงต้องตื่นไปซื้อตั๋วรถไปตั้งแต่หกโมงเช้า ระหว่างที่เขานั่งอยู่ในรถก็เอาแต่กังวลว่าจะไม่ได้คิว ทว่าจู่ๆ เขาก็นึกขึ้นได้ถึงแอปลงทะเบียนนั่น
เขาจึงลองลงทะเบียนตามขั้นตอน และพบว่าต้องมีการตรวจสอบตัวตนก่อนลงทะเบียน และจำเป็นต้องมีหมายเลขผู้ป่วยด้วย
หลังจากที่ดำเนินการตามขั้นตอนเสร็จแล้ว เขาก็เลือกเวลานัดหมายเป็นเวลาสิบเอ็ดโมงครึ่ง ทันใดนั้นก็มีข้อความแจ้งเตือนปรากฏขึ้นต่อหน้าเขา
[การลงทะเบียนจะเริ่มขึ้นหลังเวลาเจ็ดโมงเช้า ไม่มีการลงทะเบียนล่วงหน้า]
เหออวี่ชะงัก ยังไม่ถึงเวลางั้นเหรอ
เขาจึงรอจนถึงเจ็ดโมงกว่าจะได้ลงทะเบียน จากนั้นเขาก็ได้รับข้อความแจ้งเตือนจากระบบอีกครั้ง
[โปรดรับบัตรคิวก่อนถึงเวลานัดหมาย
แจ้งเตือน: โปรดรับบัตรคิวก่อนเวลานัดหมายเท่านั้น มิเช่นนั้นจะถือว่าพลาดนัด หากพลาดนัดครบสามครั้ง จะถือว่าเป็นการก่อกวนและถูกแบน…]
เหออวี่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง และตัดสินใจเลือกคิวเวลาสิบเอ็ดโมงครึ่ง
[ติ๊ง! ลงทะเบียนสำเร็จแล้ว โปรดไปที่ห้องทะเบียนเพื่อรับบัตรคิวล่วงหน้าอย่างน้อยสิบนาที]
ประมาณสิบเอ็ดโมง เหออวี่ก็มาถึงห้องทะเบียนของโรงพยาบาล จากนั้นก็พาแม่ไปที่รับบัตรคิวเพื่อให้แน่ใจว่าเขาได้คิวแล้วจริงๆ!
เดิมทีเขากังวลมากว่าจะไม่ได้คิว แต่กลับกลายเป็นว่าเขาได้นัดหมอและลงทะเบียนล่วงหน้าไว้แล้ว ซึ่งต่อไปมันจะมีประโยชน์มากๆ!
เหตุการณ์ทำนองเดียวกันเกิดขึ้นกับผู้ป่วยจำนวนนับไม่ถ้วนในจิ้นซี ผู้คนเริ่มดาวน์โหลดแอปเฮลท์ตี้จิ้นซีมากขึ้นเรื่อยๆ จากการบอกเล่าแบบปากต่อปาก
จำนวนเคสผู้ป่วยนอกของโรงพยาบาลแพทย์แผนจีนจิ้นซีมีจำนวนมากขึ้นเป็นพิเศษ มีผู้คนจำนวนมากมารอเข้าคิวตามที่ลงทะเบียนไว้ทุกวัน ต่างคนก็ต่างพากันพูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน
“เฮ้อ! วันนี้จับได้คิวสี่สิบแน่ะ กว่าจะได้หาหมอก็คงเที่ยง! นี่ขนาดมาเร็วแล้วนะเนี่ย ว่าแต่เจ๊ได้คิวที่เท่าไหร่น่ะ”
“ฉันเหรอ ได้คิวที่ยี่สิบน่ะ เพิ่งมาถึงเลยนะเนี่ย”
“หา มาช้ากว่าทำไมได้คิวที่ยี่สิบล่ะ ฉันมาก่อนได้คิวตั้งสี่สิบ!”
“ไม่รู้เหรอ เดี๋ยวนี้ใครเขาตื่นมารอบัตรคิวกัน ฉันจองคิวนัดตอนเก้าโมงผ่านแอปนี้ตั้งแต่เจ็ดโมงแล้ว แค่ต้องแวะมารับบัตรคิวตอนแปดโมงครึ่งเท่านั้นเอง”
“มีจองคิวผ่านแอปด้วยเหรอ”
“ก็ใช่น่ะสิ! ไม่เห็นพวกเด็กๆ เดินแจกใบปลิวเหรอ แอปเฮลท์ตี้จิ้นซีเป็นแอปลงทะเบียนรับบัตรคิวออนไลน์ แค่โหลดไว้ก็ไม่ต้องกลัวตื่นมาจับบัตรคิวไม่ทันแล้ว! เธอมาหาอาจารย์เซียวใช่ไหม เนี่ยฉันก็นัดให้แม่ไว้เหมือนกัน ปกติไม่เคยจองคิวนัดได้เลย พอเมื่อเช้าลองจองผ่านแอปดูก็ดันจองได้เฉยเลย
ไม่พูดมากแล้ว ฉันต้องเข้าไปหาหมอละ เฮ้อ! หวังว่าแอปนี้จะถูกโปรโมทไปทั่วทั้งจิ้นซีนะ ต่อไปคงทำให้การจองคิวสะดวกขึ้นมากเลย!”
หลังจากที่หญิงสาวคนนั้นพูดจบ เธอก็พยุงหญิงชราคนนึ่งไปที่ห้องตรวจทันที
ส่วนผู้หญิงคนนั้นก็ได้แต่นั่งอึ้ง ไม่คิดว่าจะมีแอปดีๆ แบบนั้นอยู่จริง
เธอจึงรีบคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาโหลดแอปโดยไว…
เหตุการณ์คล้ายๆ กันเกิดขึ้นทั่วโรงพยาบาลแพทย์แผนจีนจิ้นซี ทุกคนต่างบอกกันปากต่อปากว่ามีเจ๊คนหนึ่งอยากนัดอาจารย์เซียวแต่เธอมาสายเกินไปเลยไม่ได้คิว ด้วยความโกรธเธอจึงส่งลิงก์นี้ลงไปในกลุ่มแชทของครอบครัวเพื่อให้ทุกคนดาวน์โหลดแอปและช่วยเธอลงทะเบียนได้
ในตรอกข้างอาคารว่านเซี่ยง ไป๋เยี่ยและพ่างจื่อเพิ่งกินข้าวเที่ยงกันเสร็จ ทว่าเมื่อพวกเขากลับมาดูข้อมูลก็ต้องตกตะลึงไปพร้อมๆ กัน!
ยอดดาวน์โหลดของวันนี้คือสามหมื่นสิบสองครั้ง
เป็นไปได้ไง
ลองรีเฟรชข้อมูลหรือยัง
ไป๋เยี่ยอึ้งกับภาพตรงหน้าก่อนจะหันไปถามพ่างจื่อ “นี่นายเกณฑ์คนจากกองทัพเรือมาเหรอ ไหงยอดดาวน์โหลดมันถึงพุ่งขนาดนี้ล่ะ!”
พ่างจื่อเองก็งงเหมือนกัน “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน อีกอย่างฉันจะเอาเงินที่ไหนไปจ้างกองทัพเรือ”
จำนวนเคสผู้ป่วยนอกต่อวันในมณฑลจิ้นซีมีแค่ราวๆ หนึ่งหมื่นเคสเท่านั้น เวลาแค่ครึ่งวันจะมีเคสทะลุสามหมื่นเคสได้อย่างไร!
เจ็ดวันผ่านไป ยอดดาวน์โหลดสุดท้ายคือหนึ่งแสนสองหมื่นครั้ง โดยมียอดดาวน์โหลดในวันสุดท้ายสูงถึงหกหมื่นครั้ง
พ่างจื่อทำหน้าบูดบึ้ง ดูไม่ยินดีสุดๆ “ไอ้หมาจ้าวอวี่เจ๋อคงกำลังเล่นตุกติกกับเราอยู่ เขาจงใจสร้างเรื่องให้เราอยู่แน่ๆ! ถึงชวนคนมาดาวน์โหลดแอปของเราเยอะแบบนี้”
ไป๋เยี่ยเองก็ไม่แน่ใจเช่นกัน
จู่ๆ ก็มีข้อความแจ้งเตือนเด้งขึ้นมาบนหน้าจอโทรศัพท์ของทั้งคู่
[โปรดนำเอกสารที่เกี่ยวข้องมาที่…เพื่อทำการสรุปและประกาศผลในวันพรุ่งนี้]
ไป๋เยี่ยและพ่างจื่อหันมามองหน้ากัน ผลจะออกในวันพรุ่งนี้แล้ว!
วันรุ่งขึ้น ทั้งสองคนตื่นมาจัดการตัวเองตั้งแต่เช้า จากนั้นก็ขี่จักรยานไปตามสถานที่นัดหมาย
สถานที่นัดหมายในครั้งนี้ไม่ใช่ที่หน่วยงานราชการ แต่เป็นห้องประชุมขนาดใหญ่ของโรงแรม
ทันทีที่ทั้งคู่เดินเข้ามาก็พบว่าด้านในมีคนรออยู่หลายคนแล้ว
ในเวลาประมาณหนึ่งชั่วโมง ผู้คนก็ค่อยๆ ทยอยเข้ามาร่วมงานครั้งนี้เรื่อยๆ
มีคนเจ็ดคนนั่งอยู่รออยู่บนเก้าอี้กรรมการแล้ว ซึ่งนำทีมโดยหยางเฉินเซิง
ในฐานะที่ดำรงตำแหน่งเป็นประธานสภาประชาชนจิ้นซี เขาจึงกลายเป็นผู้รับผิดชอบโครงการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของประชาชนมาโดยตลอด ครั้งนี้ก็เช่นกัน
“โครงการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของประชาชนมาโดยตลอด…ประสบความสำเร็จแต่โดยดี! พวกเราได้เห็นความพยายามของหน่วยงานเอกชนมามากมายแล้ว…จุดประสงค์ของโครงการนี้คือการแก้ไขปัญหาที่ประชาชนกำลังประสบอย่างเร่งด่วน…”
หยางเฉินเซิงพูดถึงเรื่องนี้ด้วยน้ำเสียงเบิกบานใจ “ครั้งนี้ เราได้เห็นผลงานจากบริษัทที่มีความคิดสร้างสรรค์มามากมาย โครงการของพวกเขาได้ช่วยแก้ไขปัญหาได้อย่างแท้จริง เช่นความลำบากในการเข้าพบแพทย์ หรือในเรื่องของการประหยัดพลังงาน ประหยัดน้ำ ปรับปรุงระบบการประปา ฯลฯ เป็นต้น มีบุคลากรมากความสามารถจากหลากหลายสาขาอาชีพมารวมตัวกัน ณ ที่แห่งนี้…ซึ่งทางเราก็ได้ประจักษ์ถึงความแข็งแกร่งของหน่วยงานภาคเอกชนแล้ว!”
“สุดท้ายนี้ ผมจะขอประกาศผลโครงการแต่ละรายการที่จะได้เข้าร่วมในโครงการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของประชาชนนี้ ภาครัฐจะให้การสนับสนุนและความร่วมมืออย่างแข็งขันแน่นอน!”
“ความปลอดภัยด้านอาหาร: บริษัทการประปาเจี๋ยลี่เอ๋อร์”
“ด้านการแพทย์และสุขภาพ: บริษัทเย่ว์เถิงเทค!”
“เราขอปรบมือให้กับพวกเขา และขอขอบคุณที่ทำสิ่งที่เป็นประโยชน์เพื่อประชาชนในมณฑลจิ้นซีของเรา!”
“แน่นอนว่าทางมณฑลของเราจะยังคงให้การสนับสนุนโครงการที่ไม่ได้เข้าร่วมในโครงการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยในครั้งนี้ผู้ประกอบการโครงการที่ผ่านการพิจารณาเบื้องต้นจะได้รับการยกเว้นภาษีหนึ่งปี…และการสนับสนุนในด้านอื่นๆ”
ไป๋เยี่ยและพ่างจื่อยังกังวลเมื่อได้ยินคำว่าการแพทย์และสุขภาพอยู่เลย แต่เมื่อชื่อบริษัทเย่ว์เถิงเทคถูกประกาศออกมา พวกเขาก็กระโดดโลดเต้นกันใหญ่
สำเร็จแล้ว!
พวกเราทำสำเร็จแล้ว!