หลิ่วฮุ่ยถูกขู่จนหวาดผวาขึ้นมา
เป็นใครกัน? ก็แค่คนที่มารับตัวเจ้าสาวมิใช่หรือ? อย่างมากก็คงจะเป็นเพียงแค่คนข้างกายองค์ไท่จื่อที่ได้รับความโปรดปรานอยู่บ้างสักคน หรือไม่ก็เป็นอนุคนโปรดขององค์ไท่จื่อเอง?
เพราะได้ข่าวมาว่า ไท่จื่อของเผ่ามังกรทมิฬผู้นั้น ตลอดหลายปีมานี้ไม่เคยทรงอภิเษกชายาเอกมาก่อนเลย มีแต่รับอนุ รับเหล่าอนุเข้าไปตั้งมากมาย
เรื่องที่ให้อนุของเขาไปรับตัวอนุอีกคนหนึ่ง ก็ใช่ว่าเขาจะไม่เคยทำมาก่อน
นางเป็นถึงราชินีของราชามังกรตะวันตก….หรือว่ายังจะต้องมาถูกคนที่มารับตัวเจ้าสาวเช่นนี้รังเกียจเดียจฉันท์ด้วย?
หลิ่วฮุ่ยงัดความกล้าขึ้นมาถลึงตากลับไป
แต่ว่ากลับถูกผู้ที่ประคองเปลือกหอยเอาไว้ยกเท้าเตะใส่ “องค์หญิงผู้สูงส่งและล้ำค่าของพวกเราใช่ผู้ที่ราชินีกระจอกอย่างเจ้าจะมาถลึงตาใส่ได้หรือ?”
อะไรนะ? องค์หญิง!
ลู่กว่าง หลิ่วฮุย และลู่เวยต่างก็พากันตกตะลึงไปแล้ว
ต่อให้ตีให้ตายพวกเขาก็ไม่อยากจะเชื่อว่า คนที่มารับตัวเจ้าสาวตรงหน้าจะเป็นองค์หญิงของเผ่ามังกรทมิฬ?
ก่อนหน้านี้ก็เคยได้ยินมาบ้างว่า…..องค์หญิงของเผ่ามังกรทมิฬเยี่ยอิง เป็นคนที่หยิ่งทนงในศักดิ์ศรีอย่างยิ่ง
ทั้งยังอารมณ์ร้าย!
นางเป็นน้องสาวแท้ๆของ เยี่ยเฉิน ไท่จื่อแห่งเผ่ามังกรทมิฬ
ที่แท้แล้วก็เป็นน้องสาวมารับอนุให้กับพี่ชายนั่นเอง?
ทั้งสามคนต่างก็ตาค้างไปแล้ว
แม้แต่ตู๋กูซิงหลันก็ยังต้องเหลือบตาดูสาวน้อยผู้นี้อีกหลายครั้งเช่นกัน
อ๋อ? องค์หญิงเผ่ามังกรทมิฬ?
มิน่าเล่า…..รัดเกล้าสีครามและเงินยวงบนศีรษะถึงได้เตะตานัก
สายตาของเยี่ยอิงเปล่งประกายเย็นชา หันไปมองดูลู่กว่างอีกครั้ง “คนตาบอดผู้หนึ่งกลายเป็นราชามังกรตะวันตก ดูท่าทะเลตะวันตกคงต้องถึงจุดจบแล้ว”
ลู่กว่างอยากจะกระอักเลือด
เขาหันไปถลึงตาใส่หลิ่วฮุ่ยครั้งหนึ่ง ส่งเสียงอย่างโกรธแค้น “ตอนนั้นเจ้าทำอะไรลงไปกันแน่?”
หลิ่วฮุ่ยหัวใจสั่นเทา นางคิดจะหาทางแก้ตัวให้กับตนเอง แต่ว่าสายตาที่คมกริบของตู๋กูซิงหลันกับเยี่ยอิงตวัดมาทางนี้อย่างรวดเร็ว
คำพูดของนางพอมาถึงริมฝีปากก็ต้องกลืนกับลงไป
“เสด็จแม่ ท่านพูดสิ ข้าก็คือมังกรทองนี่….ข้าคือผู้มีพรสวรรค์รุ่นเยาว์ของสี่ทะเล นี่เป็นเรื่องที่ทุกเผ่ามังกรต่างก็ทราบดีอยู่แล้ว!” ลู่เวยโวยวายไม่ยอมหยุด
เดิมทีนางคิดเอาไว้ว่า วันนี้พอได้รับมุกพลังวิญญาณจากเผ่ามังกรดำ นางก็จะได้ครองตำแหน่งผู้เยาว์อันดับหนึ่งของเผ่ามังกร
แต่ว่าในวันนี้ นางไม่เพียงแต่ถูกทุบตีเกือบตาย ทั้งยังสูญเสียดาบกระดูกมังกร ตอนนี้แม้แต่ร่างสีทองก็ยังเป็นของปลอม?
นางแทบจะเป็นบ้าไปแล้ว!
หลิ่วฮุ่ยไหนเลยจะยังกล้าบิดพลิ้วอีกต่อไป …..ตอนนี้แค่นางอ้าปากขึ้นมา ก็มีคนพร้อมจะฆ่านางอยู่แล้ว
นางหวาดกลัวตู๋กูซิงหลันมากพออยู่แล้ว ตอนนี้ก็ยังมีองค์หญิงเผ่ามังกรทมิฬมาเพิ่มอีกคน ทั้งสองต่างก็โหดเ**้ยม แค่สายตาของพวกนางกวาดผ่านมา ร่างกายของนางก็คล้ายว่าจะถูกฉีกเป็นชิ้นๆไปเสียแล้ว
เมื่อไม่พูด ก็เท่ากับว่ายอมรับ…..
ลู่กว่างเห็นท่าทางเช่นนั้นของนาง หัวใจก็เย็นวาบลงไปในทันที ทันใดนั้นก็กระอักเลือดคำโตออกมา
ความพยายามตลอดหลายปีมานี้ของเขา…..ล้วนสิ้นสูญไปอย่างเปล่าประโยชน์!
เขามองดูชือหลี เห็นพอมุกมังกรกลับเข้าสู่ร่างของนาง ร่างของนางก็ค่อยๆทอประกายสีทองออกมา
ดาบกระดูกมังกรที่อยู่ในมือของนาง ก็ค่อยๆหลอมรวมเข้ากับร่างกายอย่างรวดเร็ว
ทั้งๆที่ไม่มีสายลมใดๆ แต่เสื้อผ้าและเส้นผมของชือหลีกลับพลิ้วขึ้นมา แสงสว่างสีทองยิ่งทีก็ยิ่งสว่างชัดเจนกว่าเดิม
พอเห็นภาพที่เกิดขึ้นเช่นนั้น หัวใจของลู่กว่างก็ยิ่งแตกสลาย เขากระอักเลือดออกมามากมาย แทบจะขาดใจตายลงไปตรงนี้แล้ว
ที่แท้เขา….ที่แท้เขาก็ทำลายชือหลี บุตรสาวที่เป็นมังกรทองของตนลงไปกับมือ แถมยังไปสนับสนุนลู่เวยที่เป็นขยะไร้ค่า?
พอครุ่นคิดอย่างละเอียด ถึงแม้ว่าตอนนั้นเขาจะยอมอยู่กับชือฉางเพราะมุ่งหมายในบัลลังก์มังกร แต่ว่าก็เคยมอบความจริงใจให้ไปเล็กน้อยเช่นกัน
หากว่าไม่มีหลิ่วฮุ่ยกัยลู่เวย ……บางที่เขากับชือฉางอาจอยู่ร่วมกันอย่างดีได้ต่อไป
ชือฉางถึงแม้จะหยิ่งยโส และอารมณ์ร้าย แต่ทุกเรื่องที่ทำลงไปล้วนปรารถนาดีต่อเขา
แม้กระทั้งตำแหน่งราชามังกรตะวันตก ก็เป็นเพราะชือฉางวอนขอมาจากราชามังกรเฒ่าให้กับเขา….
ตลอดหลายปีมานี้ หลิ่วฮุ่ยต่อหน้าอ่อนโยน แต่ลับหลังกลับผลาญสมบัติของทะเลตะวันตกไปมากมายเพียงใดก็ไม่รู้….วังมังกรแห่งนี้ใกล้จะถูกนางควักออกไปจนว่างเปล่าแล้ว
มีแต่ใช้ออกไป ไม่เคยมีอะไรกลับเข้ามา
ลู่กว่างยิ่งคิดก็ยิ่งโกรธเคือง ยิ่งโกรธก็ยิ่งแค้น ยิ่งแค้นก็ยิ่งสำนึกเสียใจ หากว่าตอนนี้เขายังสามารถเคลื่อนไหวได้ละก็ ย่อมต้องฆ่านังคนหลอกลวงหลิ่วฮุ่ยกับมือ
ชือหลีเองก็ตกตะลึงไปแล้ว นางไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าตนเองคือมังกรทอง
วันเวลาหลายปีที่ยากลำบากมาตลอดนั้น นางอดทนจนผ่านมาได้…ด้วยร่างงู
หากว่าไม่มีตู๋กูซิงหลัน เกรงว่าชาตินี้ทั้งชาติ นางก็คงจะไม่มีทางรู้ว่าตนเอง ที่จริงแล้วแข็งแกร่งถึงขนาดนี้
พอมุกมังกรและดาบกระดูกมังกรเข้าสู่ร่าง นางก็รู้สึกปลอดโปร่งไปทั้งร่าง
ส่วนลู่กว่างและครอบครัวของเขาแต่ะคนกลับมีสีหน้าเหมือนกินอึเข้าไป
“ท่านพี่ ข้า….” หลิ่วฮุ่ยไม่กล้าไปแก้ตัวกับตู๋กูซิงหลันและเยี่ยอิง ได้แต้หันมามองไปทางลู่กว่าง
“หุบปาก เจ้ามันนังคนชั่ว!” ลู่กว่างด่าทอออกมายกใหญ่ “ข้ามันตาบอดไปแล้วจริงๆ ถึงได้ไปแต่งเอาตัววิบัติอย่างเจ้ามา!”
“เสด็จพ่อ ท่านเป็นเช่นนี้ได้อย่างไร!” ลู่เวยไม่เคยถูกปฏิบัติด้วยเช่นนี้มาก่อน นางย่อมโกรธเกรี้ยวอย่างยิ่ง “คนอื่นพูดอย่างไรท่านก็เชื่อเช่นนั้นหรือ? ท่านเป็นไอ้โง่ไปแล้วหรือไง?”
ถึงอย่างไรไอ้แก่นี่ก็ถูกถอดกระดูกทิ้งไปแล้ว ยังจะต้องไปเกรงกลัวเขาอีกทำไม?
หากว่าเขาตายไป นางก็จะรีบป่าวประกาศไปถึงอีกสามทะเล ว่าเขาตายภายใต้น้ำมือของชือหลีและฮ่องเต้หญิงแคว้นเหยียน ถึงตอนนั้นเมืองบาดาลทั้งใต้หล้าก็จะไม่มีที่ใดยอมรับชือหลีอีก
“เจ้าหุบปากให้ข้าเสียเดียวนี้ ไอ้เดรัจฉานน้อยที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง!” ลู่กว่างจดจ้องนางอย่างแค้นเคือง พอเห็นลู่เวยเผยไอสังหารออกมาทางสีหน้า ถึงได้รู้ว่านางที่ว่าง่ายเชื่อฟังมาโดยตลอดนั้นเป็นเพียงแค่การเสแสร้งเท่านั้น
“ไปขออภัยต่อน้องสาวของเจ้าเดี๋ยวนี้!” เขากล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ในเมื่อเผ่ามังกรทมิฬต้องการคน เจ้าก็แต่งไปซะ เจ้าไปสวมชุดเจ้าสาวมาให้ข้าเดี๋ยวนี้ รีบไสหัวไป!”
เขาไม่มีทางให้ชือหลีแต่งไปอย่างแน่นอน
นางต่างหากที่เป็นมังกรทอง เขาจะต้องชดเชยให้กับนางอย่างดี
ชือหลีอยากจะหัวเราะแล้ว….คนบ้านนี้กัดกันเองราวกับสุนัข ช่างสนุกสนานจริงๆ
“เรื่องอะไรข้าจะต้องไปขอโทษนาง? ฝันไปเถอะ! ไอ้เฒ่าปลาดุก คิดจะให้ข้าแต่งงานออกไป แต่งไปเป็นอนุนะรึ! ท่านมันบ้าไปแล้ว?” ลู่เวยฉีกหน้ากับเขาแล้วจริงๆ นางพาลเรียกเขาเป็นปลาดุกเฒ่าอย่างตู๋กูซิงหลันบ้าง แม้แต่คำว่าเดรัจฉานเฒ่าก็ยังอยากจะด่าออกไป
“ข้าจะบอกให้รู้เอาไว้เลยนะ จะให้ข้าแต่งออกไป นั่นไม่มีทาง! ไอ้แก่ที่ไม่ยอมตายอย่างท่าน มันเห็นแก่ตัวอย่างที่สุด คิดจะเอาข้าไปแลกเปลี่ยนกับผลประโยชน์หรอ ท่านคิดจะให้ข้าถูกเผ่ามังกรทมิฬกลั่นแกล้งจนตายไปหรือไง?”
ลู่เวยถึงกับฉีกหน้าทุบหม้อข้าวแล้ว วันนี้นางต้องพบกับความผิดหวังมากจนเกินไป บิดาที่รักถนอมตนเองเสมือนไข่มุกบนฝ่ามือถึงกับมาทำกับนางเช่นนี้อีก ทำเอาจิตใจของนางถึงแหลกสลายแล้ว
หลิ่วฮุ่ยเห็นเช่นนั้น ก็กล่าวอย่างคล้อยตาม “ลู่กว่าง ท่านอย่าได้ทำเกินไปนัก มีสิทธิอะไรจะมาส่งเวยเอ๋อร์ของข้าไปตายกัน? หากจะตายก็สมควรเป็นท่านนั่นแหละ!”
ลู่กว่างโกรธแค้นจนกระอักเลือดติดต่อกัน แต่ว่าเขาถูกถอดกระดูกมังกรออกไปแล้ว ยามนี้จึงไม่อาจทำอย่างไรกับแม่ลูกคู่นี้ได้
เขาได้แต่มองไปทางชือหลี ปรับเปลี่ยนสีหน้าที่เคยแต่โหดร้ายกับนาง “หลีเอ๋อร์ เป็นบิดาผิดต่อเจ้าแล้ว คนชั่วสองคนนั้นเจ้าคิดจะจัดการอย่างไรก็ตามแต่ใจของเจ้าเถิด ต่อไป บิดาจะต้องชดเชยให้กับเจ้าอย่างดี เจ้ายกโทษให้กับข้าได้หรือไม่?”
ชือหลีคร้านจะสนใจเขาอีกแล้ว นางมองไปทางเยี่ยอิง “องค์หญิงเพคะ พี่สาวของนางคือเจ้าสาวที่พวกท่านหมั้นหมายเอาไว้ ความเข้าใจผิดเล็กน้อยจึงทำให้เสียเวลาไปบ้าง เช่นนี้สมควรรีบนำตัวไปเลยดีหรือไม่?”
หากเทียบกับเรื่องที่จะคิดบัญชีกับครอบครัวนี้อย่างไรดีนั้น นางยังอยากจะรีบไล่คนเผ่ามังกรทมิฬกลุ่มนี้ไปมากกว่า
เพราะว่า…..พวกเขาอันตรายอย่างยิ่ง
เยี่ยอิงกวาดตามองดูนางอย่างเรียบเฉย โดยมิได้มองดูลู่เวยเลยสักนิด เพียงเอ่ยว่า “นังโง่นั่นไม่คู่ควรจะเป็นอนุของพี่ชายข้า”
ว่าแล้ว นางก็หันสายตามาจับจ้องไปที่ตู๋กูซิงหลัน “เจ้า คู่ควร!”
………………………………..
ไรท์: อ้าวเฮ้ย! ไงหวยมาออกทางนี้ได้กัน! อยากจะร้องเพลงว่า “ผิดคนแล้ว อย่ามาห่วงฉันเลยเธอ….”
งานเข้าหลันหลันของแม่แล้ว
ตอนต่อไป “ข้าไม่สนใจไท่จื่อของพวกท่าน”
ไรท์: ชื่อตอนก็ส่อแววอีก งานนี้ไม่จบง่ายๆแน่ รีดทั้งหลายหาที่กำบังด่วน!