บทที่ 190 เซอร์ไพร์สยิ่งใหญ่
วันที่สาม สิงหาคม ในที่สุดหนูทดลองล็อตที่ไป๋เยี่ยและต่งฉุนกวงร่วมกันเพาะพันธุ์ก็คลอดแล้ว ซึ่งทั้งคู่จะเริ่มวัดความดันโลหิตในสัปดาห์ต่อมา ผลที่ได้คือหนูล็อตนี้มีความดันโลหิตเฉลี่ยที่ยี่สิบเอ็ดเคพีเอ[1]
เป็นหนูที่มีภาวะความดันโลหิตสูงทั้งร้อยเปอร์เซ็นต์!
เรื่องนี้ทำให้พวกเขาทั้งสองอดตื่นเต้นไม่ได้ แต่แล้วอีกเสองสัปดาห์ต่อมา พวกเขาก็ต้องผืดหวังเมื่อพบว่ามีหนูที่รอดชีวิตไม่ถึงหนึ่งร้อยตัวจากจำนวนหนูทั้งหมดสองร้อยตัว
อัตราการรอดชีวิตต่ำกว่าห้าสิบเปอร์เซ็นต์
อัตราการรอดชีวิตที่ต่ำกว่าครึ่งทำให้ทั้งคู่ต้องสงบสติอารมณ์ลงทันที พันธุวิศวกรรมคงไม่ได้ง่ายถึงขั้นอาศัยการทดลองเพียงหนึ่งหรือสองครั้งก็จะสำเร็จ แต่ต้องทำซ้ำไปเรื่อยๆ ถึงจะได้ผลลัพธ์
แต่ถึงอย่างไรเรื่องนี้ก็ทำให้ทั้งคู่มีความสุขอยู่ดี เพราะถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีทีเดียว!
ต่งฉุนกวงจึงรีบแจ้งข่าวนี้ให้เจียวเจิ้งเต๋อซึ่งเป็นที่ปรึกษาของเขาทราบทันที
เจียวเจิ้งเต๋อมองดูลูกหนูตัวน้อยกว่าร้อยตัวในกรงก่อนจะหยิบหนูตัวหนึ่งออกมาทดลอง โดยเริ่มจากวัดความดันโลหิตก่อน จากนั้นก็ทดลองตามปกติ
เวลาผ่านไปราวๆ ครึ่งชั่วโมง เจียวเจิ้งเต๋อก็หันมาด้วยสีหน้าจริงจัง “พวกคุณเคยทำการทดลองโดยใช้เสียง แสง หรืออุณหภูมิบ้างไหม”
ต่งฉุนกวงส่ายหัว “ไม่เลยครับ พวกเราไม่ได้ทำการทดลองเชิงลบแบบนั้นเลยครับ!”
เจียวเจิ้งเต๋อขมวดคิ้ว “รีบทำได้ก็ดี ผมคิดว่าหนูพวกนี้มีความทนทานกว่าหนูเอสเอชอาร์มาก หลังจากที่ผมทดลองกระตุ้นมันเมื่อครู่ ผมก็พบว่ามันมีปฏิกิริยาเหมือนกับหนูธรรมดาไม่มีผิดเลย”
เจียวเจิ้งเต๋อหันไปมองกรงหนูที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ “พวกคุณเลี้ยงมันยังไงบ้าง”
ต่งฉุนกวงเบิกตากว้าง “พ…พวกเราเลี้ยงแบบหนูปกติเลยครับ! เหมือนกับเลี้ยงหนูเอสดีเลย”
หนูเอสเอชอาร์มีร่างกายที่อ่อนแอมาก จึงมีความไวต่อสิ่งเร้าต่างๆ ดังนั้นภายในห้องเพาะพันธุ์จะต้องเงียบและมีการควบคุมทั้งอุณหภูมิห้อง อุณหภูมิน้ำ คุณภาพน้ำ ความชื้น ฯลฯ
เท่านี้ก็พอจะรู้แล้วว่าอัตราการเจ็บป่วยของหนูเอสเอชอาร์นั้นสูงถึงเจ็ดสิบถึงแปดสิบเปอร์เซ็นต์ทีเดียว เมื่อพวกมันป่วยก็จะมีภาวะตื่นตระหนก ซึ่งไม่เอื้อต่อการนำมาทดลอง
แม้ว่าอัตราการเสียชีวิตของหนูจะสูงมากในตอนนี้ แต่ก็หนูพวกนี้กลับไม่มีอาการตามที่กล่าวเลย!
เจียวเจิ้งเต๋อพยักหน้าก่อนจะกล่าวต่อด้วยสีหน้าจริงจัง “เล่าขั้นตอนการทดลองของพวกคุณให้ผมฟังอย่างละเอียดหน่อยได้ไหมครับ”
ต่งฉุนกวงเหลือบมองไป๋เยี่ยชั่วครู่ เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายพยักหน้าให้ ต่งฉุนกวงก็เริ่มอธิบายขั้นตอนการทดลองอย่างละเอียดทันที
เจียวเจิ้งเต๋อได้ฟังก็มีท่าทีลังเลอยู่พักหนึ่ง ก่อนที่เขาจะต่อสายหาถังฮั่น
ทันทีที่ถังฮั่นทราบข่าว เขาก็รีบปิดวาระการประชุมและตรงมาที่ห้องแล็บทันที
เมื่อเข้ามาแล้วเขาก็เดินเข้ามาหาเจียวเจิ้งเต๋อด้วยท่าทีตื่นเต้น “จริงเหรอ เหล่าเจียว”
เจียวเจิ้งเต๋อพยักหน้า “พวกเราลองทำการทดลองมาหลายครั้งแล้ว พบว่าหนูพวกนี้มีความเสถียรกว่าหนูเอสเอชอาร์มาก แต่ก็ยังไม่มีการตรวจสอบข้อมูลโดยสรุปอยู่ดีครับ แล้วก็…ตอนนี้อัตราการเสียชีวิตของหนูค่อนข้างสูงด้วย”
ถังฮั่นถามต่อ “อัตราการเสียชีวิตงั้นเหรอ สูงแค่ไหนล่ะครับ”
“ภายในสองสัปดาห์นี้มีอัตราการเสียชีวิตของหนูสูงถึงห้าสิบเปอร์เซ็นต์ แต่ช่วงเวลาที่จะเกิดการเสียชีวิตได้ง่ายที่สุดคือช่วงสัปดาห์แรกครับ หลังจากผ่านไปหนึ่งสัปดาห์ อัตราการเสียชีวิตก็ลดลง คาดว่าหากติดตามผลต่อไปเรื่อยๆ อัตราการเสียชีวิตก็จะน้อยลงไปอีกครับ อีกอย่างนี่ก็เพิ่งเป็นหนูล็อตแรกนะครับ ถ้านำมาเพาะพันธุ์ต่อไป อัตราการเสียชีวิตก็อาจจะเปลี่ยนแปลงไปครับ” หลังจากที่ใช้ความคิดอยู่พักหนึ่ง เจียวเจิ้งเต๋อก็กล่าวช้าๆ
ถังฮั่นมองไป๋เยี่ยพร้อมกับถอนหายใจออกมา “คุณนี่…สุดยอดจริงๆ ครับ คุณสร้างปาฏิหาริย์ได้ทุกที่จริงๆ”
“เหล่าเจียว คุณจะเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องนี้ โปรดศึกษามันอย่างรอบคอบ ต้องการทุนหรืออุปกรณ์อะไรก็ขอผมมา พอเรื่องนี้จบก็…”
นวัตกรรมแบบจำลองหนูทดลองที่มีภาวะความดันโลหิตสูงถูกพัฒนามาจากต่างประเทศแล้ว หากจะมีนวัตกรรมใดที่ดีกว่าก็คงจะทำให้ชาติจีนต้องตกตะลึงอย่างไม่ต้องสงสัยแน่นอน
พูดจบถังฮั่นก็หันไปมองต่งฉุนกวงและไป๋เยี่ย “พวกคุณคือฮีโร่ รอผลการทดลองออกมาก่อน ทางน่าย่าจะไม่ทำให้พวกคุณผิดหวังแน่นอน!”
ระหว่างที่การทดลองลับๆ นี้กำลังดำเนินไปอย่างช้าๆ ลอนก้าก็ได้จัดงานแถลงข่าวครั้งใหญ่ที่ปักกิ่ง
ผู้รับผิดชอบประจำภูมิภาคเอเชียของบริษัทลอนก้ายืนอยู่กลางศูนย์จัดนิทรรศการ “นี่คือช่วงเวลาที่น่าจดจำและควรค่าแก่การจดจำมากที่สุด ทางเราได้ทำการประเมินหนูทดลองเอสเอชอาร์ที่มีภาวะความดันโลหิตสูงตั้งแต่กำเนิดโดยอิงตามเกณฑ์บีพีเอฟเอช และได้รับคะแนนสูงถึงเก้าสิบเอ็ดคะแนน นี่คือผลิตภัณฑ์ระดับแนวหน้าเลยครับ”
“เราใช้ความพยายามอย่างมากกว่าจะเดินทางมาถึงทุกวันนี้ ทางเราหวังว่าจะพัฒนาสายพันธุ์หนูเอสเอชอาร์ให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งครั้งนี้เราตั้งใจจะขายหนูในราคาตัวละหกร้อยหยวน”
เมื่อได้ฟังสิ่งที่ผู้รับผิดชอบป่าวประกาศออกมา เหล่าบุคลากรจากสถาบันวิจัยที่ยืนอยู่ด้านล่างก็ได้แต่ยืนเม้มริมฝีปากแน่น “อะไรกันเนี่ย พูดซะดิบดี ที่แท้ก็ของย้อมแมวนี่เอง นี่น่ะเหรอผลิตภัณฑ์แนวหน้า ได้ยินมาว่าพวกเขาเคยเปิดตัวผลิตภัณฑ์นี้ที่ยุโรปและอเมริกาเมื่อปีที่แล้วด้วยราคาแค่สองสามร้อยหยวนเท่านั้น พูดมาได้ ไม่ละอายเลยหรือไง!”
“ใครจะกล้าแย้ง! ทุนสนับสนุนงานวิจัยก็มาจากเรา ยังมีหน้ามาทำไขสืออีก!”
“เฮ้อ! พอเถอะ ใครให้พวกเราด้อยกว่าเขาล่ะ เฮ้อ…ตกต่ำขนาดนี้เชียวเหรอ แต่ก็ไม่มีทางอื่นแล้วแหละนะ ยังไงพวกเราก็ต้องใช้หนูทดลองจำนวนหนึ่งพันตัว”
“คงจะดีไม่น้อยถ้าวันหนึ่งเราพัฒนาแบบจำลองขึ้นมาเองได้! ไม่ต้องโมโหไปหรอก เมื่อก่อนพวกนายทุนก็ตกลงว่าจะขายมันในราคาห้าร้อยหยวน ปีที่แล้วก็ดันเพิ่มเป็นห้าร้อยห้าสิบหยวน พอออกประกาศต่อหน้าสาธารณะก็ขึ้นราคาเป็นหกร้อยหยวนซะงั้น!”
“เฮ้อ…ช่างมันเถอะ เลิกพูดเรื่องนี้ดีกว่า เราต้องคุยกับผอ.เรื่องเงินทุนก่อน ทุนจะไม่พออีกแล้วเนี่ย แค่หนูตัวเดียวก็ปาไปหกร้อยแล้ว ร้อยตัวก็หกหมื่นหยวนแน่ะ เฮ้อ…”
พูดไปพูดมา ต่างฝ่ายก็ต่างพากันเงียบ
คิดจะถอยหลังก็ไม่ได้แล้ว…
ผู้รับผิดชอบจากลอนก้ายิ้มเมื่อเห็นท่าทีของฝูงชน “หนูล็อตนี้มีจำนวนจำกัดนะครับ ทุกท่านจับจองล่วงหน้าไว้ได้เลย”
จู่ๆ ก็มีเสียงแย้งขึ้น “มีแค่เก้าสิบเอ็ดคะแนนงั้นเหรอ ไม่มีสูงกว่านี้แล้วหรือไง”
ชายผมบลอนด์ยิ้ม “แน่นอนครับว่ามี แต่ราคาก็จะสูงขึ้นและปริมาณก็จะลดลงด้วย หากคุณสนใจ คุณก็ทิ้งข้อมูลการติดต่อไว้ได้ แล้วเราจะส่งรายละเอียดไปให้คุณ”
ไม่เพียงแต่ผู้คนที่ศูนย์นิทรรศการเท่านั้น แม้แต่จางฮั่นหลินเองก็โกรธมากเช่นกัน ทำเอาสวี่เหยียนอดถอนหายใจออกมาไม่ได้เมื่อเห็นท่าทีขุ่นเคืองของอาจารย์
“อาจารย์จะซื้อไหมคะ”
จางฮั่นหลินขมวดคิ้ว ภายในใจของเขาโมโหสุดขีด จากห้าร้อยเจ็ดสิบขึ้นเป็นหกร้อยหยวน พวกนี้มันไม่ใช่คนแล้ว!
แต่เราจะไปทำอะไรได้
ถ้าไม่ซื้อจะหาหนูที่ไหนมาใช้ทดลองล่ะ!
ถ้านำหนูทดลองคุณภาพต่ำมาใช้ ผลที่เกิดขึ้นกับการทดลองก็ย่อมแย่ตามลงไปด้วย และจะยิ่งทำให้ต้องเสียเงินมากขึ้นด้วย จางฮั่นหลินคิดแล้วก็ตัดสินใจไม่ถูก
ไม่ซื้อก็รู้สึกแย่ แต่ซื้อก็รู้สึกแย่พอกัน!
คะแนนของหนูเอสเอชอาร์ในประเทศจีนคือเก้าสิบเอ็ดคะแนน ทว่าเขาได้ยินมาจากเพื่อนที่ต่างประเทศว่าหนูเอสเอชอาร์ที่ทางนั้นได้รับกลับได้คะแนนเก้าสิบสามคะแนน
หมายความว่าเราได้ของเหลือใช้งั้นเหรอ
เมื่อไหร่เราจะหยุดเป็นทาสการตลาดให้กับต่างชาติพวกนี้ได้…
ระหว่างที่จางฮั่นหลินกำลังจมดิ่งอยู่กับความมืดแปดด้านนั้น จู่ๆ บริษัทน่าย่าก็ได้ออกประกาศฉบับใหม่!
[บริษัทน่าย่าได้เปิดตัวหนูทดลองรุ่นใหม่ที่มีภาวะความดันโลหิตสูงตั้งแต่กำเนิด โดยได้คะแนนบีพีเอฟเอชอยู่ที่เก้าสิบสามคะแนน โปรดติดตามข้อมูลต่อไป…]
[1] เคพีเอ หรือ กิโลปาสคาล (kPa) คือ หน่วยเอสไอสำหรับการวัดความดัน โดยหนึ่งเคพีเอจะมีค่าเท่ากับหนึ่งพันปาสคาล