บทที่ 193 การคิดบัญชีครั้งสุดท้าย
คาร์ลเดินทางออกจากปักกิ่งและกลับไปที่สำนักงานใหญ่ของ ‘เซลล์’ เพราะหลังจากที่พิสูจน์ได้แล้วว่ายีนของหนูเคเอ็มไม่เสถียร เขาก็ยังมีหลายเรื่องที่ต้องจัดการต่อ
ทั้งทีมทดลองเก่า ด็อกเตอร์ไมคัส และเพื่อนๆ ของเขา…
หลังจากที่คาร์ลจากไป ไป๋เยี่ยก็ได้รับข้อความจากระบบ
[ติ๊ง! ภารกิจความปรารถนาของคาร์ลสำเร็จแล้ว ปลดปล่อยคาร์ลออกจากปมในอดีตสำเร็จ]
ในฐานะที่เป็นผู้เข้าร่วมการทดลองคนหนึ่ง คาร์ลจึงถือว่าตนเองเป็นสาเหตุที่ทำให้การทดลองล้มเหลวมาโดยตลอด คุณได้ช่วยคาร์ลคลายปมในใจ ภารกิจสำเร็จแล้ว ได้รับรางวัลภารกิจดังนี้
1. สุ่มได้รับทักษะบางอย่างจากคาร์ล
2. โอกาสจับรางวัล 4 ดาว 1 ครั้ง!
[ติ๊ง! กำลังสุ่มทักษะ…ติ๊ง! ได้รับทักษะงานวิจัย: วิศวกรรมชีวภาพ เลเวล 4]
ไป๋เยี่ยใจชื้นขึ้นมาทันที วิศวกรรมชีวภาพเลเวลสี่งั้นเหรอ
เขาจำได้ว่าจางซูหลานเคยเล่าให้ฟังว่าด็อกเตอร์ไมคัส ทรานส์ลีเป็นนักวิจัยสิ่งมีชีวิตผู้ยิ่งใหญ่และเกือบจะได้รับรางวัลโนเบล ส่วนคาร์ลก็เป็นลูกศิษย์ของไมคัสจึงเชี่ยวชาญด้านนี้ไปด้วย
ไป๋เยี่ยไม่ได้คาดหวังว่าเขาจะได้รับทักษะนี้เลย คลังความรู้ขนาดใหญ่ถาโถมเข้ามาในหัวสมองของไป๋เยี่ยจนเขาสัมผัสได้ถึงความรู้เรื่องวิศวกรรมชีวภาพที่กำลังไหลเวียนอยู่ในหัว
ทว่าหลังจากนั้นไป๋เยี่ยกลับถอนหายใจ เขาคิดว่าโลกใบนี้มันช่างซับซ้อนเหลือเกิน ความรู้จำนวนมากที่ถาโถมเข้ามาทำเอาเขาต้องกลับมาตั้งคำถามกับชีวิต
หรือว่าจริงๆ แล้วมนุษย์จะเป็นปรสิต…
ไป๋เยี่ยส่ายหัวไล่ความคิดเพ้อเจ้อออกไป แล้วจึงกดจับรางวัลทันที!
ไป๋เยี่ยมีความสุขกับการจับรางวัลสี่ดาวมากจริงๆ
เขารีบกดสุ่มในทันใด
[ติ๊ง! จับรางวัลสำเร็จ ได้รับกล่องทักษะการศัลยกรรม!]
ไป๋เยี่ยชะงัก กล่องทักษะศัลยกรรมงั้นเหรอ
นี่มันบ้าอะไรเนี่ย
ไป๋เยี่ยมองสิ่งที่มีรูปร่างคล้ายกล่องพัสดุก่อนจะตัดสินใจเปิดมันออกดฮณ๊ฯดฯฌซ,
[ติ๊ง! คุณเปิดใช้กล่องทักษะศัลยกรรมแล้ว ได้รับทักษะการผูกไหมผ่าตัด การตัดไหมผ่าตัด การทำแผล การเย็บแผล และการกำจัดเนื้อตายเบื้องต้น]
ไป๋เยี่ยมองกล่องทักษะนั่นแล้วก็ถอนหายใจออกมา ฉันเป็นหมออายุรกรรมนะโว้ย ช่วยเอาทักษะเกี่ยวกับอายุรกรรมมาหน่อยเซ่
ถ้าไม่ได้ก็เอาทักษะซีทีสแกนมาก็ได้!
ไป๋เยี่ยยังจำได้ลางๆ ว่าทักษะภาคคลินิกสาขาลำไส้ใหญ่และทวารหนักของเขาก็อยู่ที่เลเวลสาม ทำเอาเขาต้องถอนหายใจออกมาอย่างหมดหนทาง…
เขาคิดว่าทักษะที่เขาได้รับดูจะผิดจากตัวเขาไปหน่อย
แต่ก็ไม่เป็นไร ในฐานะแพทย์ อย่างไรก็ควรรู้ทักษะการผ่าตัดขั้นพื้นฐานบ้าง ทั้งการผูกไหม การทำแผล การตัดไหม และการเย็บแผลก็ล้วนเป็นทักษะการผ่าตัดขั้นพื้นฐานที่สุด ฝึกฝนเพียงนิดเดียวก็จะเชี่ยวชาญขึ้นได้
เพียงแต่ว่า…เขารู้สึกว่ารางวัลสี่ดาวครั้งนี้ดูจะไม่คุ้มค่าสักเท่าไหร่…
ไป๋เยี่ยประเมินว่าทักษะเหล่านี้น่าจะเทียบเท่าทักษะเลเวลสอง ซึ่งนั่นหมายความว่าเขาได้รับทักษะเลเวลสองมาหลายทักษะด้วย
ทักษะการผ่าตัดเลเวลสองหลายๆ ทักษะจากการจับรางวัลสี่ดาวก็ถือว่ายังไม่แย่ อย่างน้อยต่อไปก็อาจจะมีโอกาสได้ใช้มันบ้าง
แวดวงงานวิจัยในโลกจะสงบสุขได้อย่างไร ในเมื่อหลังจากที่มีคนพูดเรื่องความไม่เสถียรของหนูเคเอ็มขึ้นมา ทำให้สาเหตุของความล้มเหลวในการทดลองจำนวนนับไม่ถ้วนถูกเปิดเผยออกมาด้วย
แม้แต่การทดลองระดับแนวหน้าที่แต่ก่อนเคยมีปริศนาที่แก้ไขไม่ได้ก็ถูกเปิดโปงความจริงในที่สุด
และเมื่อมีการค้นพบลำดับเบสที่ไม่เสถียรในหนูเคเอ็ม ไป๋เยี่ยก็เริ่มคิดหาวิธีที่จะลบลำดับเบสนั้นออกไปได้
ไป๋เยี่ยได้รับคำเชิญให้เข้าร่วมเป็นหนึ่งในคณะกรรมการของบริษัทน่าย่า
ในห้องมีคนเพียงห้าคนรวมถึงไป๋เยี่ยด้วย
ถังฮั่นแนะนำไป๋เยี่ย “ตรงหน้าคุณคือผู้ถือหุ้นของน่าย่า ที่ทางเราเชิญคุณมาในวันนี้ก็เพราะเรามีเรื่องอยากคุยกับคุณน่ะครับ”
ไป๋เยี่ยมองดูผู้คนในห้อง นอกจากถังฮั่นแล้ว ยังมีผู้ชายสองคนและผู้หญิงอีกคนหนึ่งด้วย
ถังฮั่นแนะนำ “นี่คือคุณ ‘หนานเฟยซี’ ส่วนนี่คุณ ‘เซียวนั่วเหยียน’ และนี่คือคุณ ‘เฉียนหย่าอวี้‘ ครับ”
ไป๋เยี่ยกล่าวทักทาย ทั้งสามคนก็ส่งยิ้มตอบกลับมา
เฉียนหย่าอวี้กล่าวอย่างยิ้มแย้ม “สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น ทุกครั้งที่พี่ถังเล่าเรื่องคุณให้ฟัง ฉันก็ชอบแอบคิดว่ามันฟังดูเพ้อเจ้อไปหน่อย ไม่คิดว่าที่แท้จะเป็นแบบนี้!”
ไป๋เยี่ยประหม่าเล็กน้อย เขารู้สึกเหมือนว่าตนเองเป็นลิงที่กำลังถูกคนรุมจ้อง
ถังฮั่นพูดขึ้น “วันนี้ผมเรียกคุณมาที่นี่เพราะผมมีเรื่องสำคัญจะคุยกับคุณ”
“ผมเล่าเรื่องของคุณให้ทุกคนฟังแล้ว ซึ่งทุกคนก็ดูจะเข้าใจดี ทางเราได้มีการตกลงกันตั้งแต่ตอนก่อตั้งบริษัทน่าย่าแล้วว่าถ้ามีบุคคลที่เหมาะสมมาเข้าร่วม เราก็ปรับส่วนแบ่งหุ้นได้”
ไป๋เยี่ยตะลึง!
ปรับส่วนแบ่งเหรอ
หมายความว่าเราจะได้เป็นผู้ถือหุ้นของน่าย่าเหรอ
ถังฮั่นพูดต่อ “ปัจจุบันบริษัทน่าย่าของเรามีส่วนแบ่งดังนี้ครับ ถังฮั่นเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ เซียวนั่วเหยียน หนานเฟยซี และเฉียนหย่าอวี้คนละสิบเปอร์เซ็นต์”
“ไป๋เยี่ย คุณยินดีเข้าร่วมกับบริษัทน่าย่าไหมครับ เข้าร่วมด้วยนวัตกรรมหนูเคเอ็มรุ่นใหม่และหนูเอสเอชอาร์รุ่นใหม่ในฐานะผู้คิดค้นเทคโนโลยีน่ะครับ”
ความจริงแล้วเทคโนโลยีเหล่านี้ไม่มีประโยชน์กับไป๋เยี่ยเลย สุดท้ายถ้าจะต้องขายมันออกไป ก็สู้ขายให้น่าย่าไปเลยดีกว่า อย่างน้อยตอนนี้เขาก็มองว่าถังฮั่นไม่ใช่พวกหัวหมอ แถมยังเป็นแบบอย่างด้านการลงทุนของน่าย่าอีกด้วย เหมือนกับที่เถ้าแก่ไป๋เคยพูดไว้ว่าถ้ามีโอกาสเข้าร่วมกับเขาก็จะเป็นการดีมากๆ
เพียงแต่ว่า…ยังมีปัญหาเรื่องจำนวนหุ้นอยู่ดี เพราะว่านวัตกรรมทั้งสองก็ต้องอาศัยเทคโนโลยีขั้นสูง…
ระหว่างที่ไป๋เยี่ยกำลังใช้ความคิดอยู่นั้น ถังฮั่นก็ยื่นใบรับรองการโอนหุ้นมาให้ไป๋เยี่ย
“นี่คือใบรับรองการโอนหุ้นครับ หุ้นของทุกบริษัทในเครือน่าย่ายกเว้นบริษัทผลิตอาหารสัตว์ มูลค่าทางการตลาดอยู่ที่ แปดพันห้าร้อยล้านหยวน และทางเราจะเชิญคุณเข้าร่วมด้วยส่วนแบ่งหุ้นจำนวนยี่สิบเปอร์เซ็นต์”
หัวใจของไป๋เยี่ยเต้นรัว หุ้นยี่สิบเปอร์เซ็นต์ มูลค่าทางการตลาดของน่าย่าอยู่ที่ แปดพันห้าร้อยล้านหยวน ถ้าหุ้นยี่สิบเปอร์เซ็นต์ก็คือพันเจ็ดร้อยล้านหยวน…
ได้เงินเยอะขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย
ถังฮั่นไม่ใช่คนโง่ เขาเข้าใจว่านี่เป็นโอกาสของเขา ทุกวันนี้ตลาดสัตว์ทดลองกำลังตกอยู่ในสภาวะวุ่นวาย และด้วยการรับรองเกณฑ์บีพีเอฟเอชก็จะทำให้หนูเคเอ็มรุ่นใหม่ได้เปิดตัวสู่ตลาด รวมถึงหนูเอสเอชอาร์รุ่นใหม่ด้วย
จะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่อีกครั้งแน่นอน!
หากต้องการแข่งขันเพื่อชิงเจ้าแห่งอำนาจในยุคปัจจุบันนี้ นวัตกรรมที่ไป๋เยี่ยคิดค้นนั้นก็คงกลายเป็นยอดศาสตราวุธอย่างไม่ต้องสงสัย
สิ่งที่เขาจะได้รับไม่ใช่แค่เงินจำนวนพันเจ็ดร้อยล้านหยวน แต่ยังมีบริษัทที่มากศักยภาพด้วย
หลังจากที่ไป๋เยี่ยครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็หยิบเอกสารขึ้นมาอ่านอย่างละเอียดหลายครั้งก่อนจะเซ็นชื่อลงไป
ถังฮั่นเห็นดังนั้นก็ดูจะมีความสุขมาก “ยินดีต้อนรับสู่น่าย่า!”
ไป๋เยี่ยยิ้ม “เป็นเกียรติอย่างยิ่งครับ”
การประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมระหว่างผู้ถือหุ้นที่จัดขึ้นอย่างไม่เป็นทางการ ส่วนไป๋เยี่ยก็ได้เข้าร่วมกับน่าย่าอย่างเป็นทางการแทน โดยจะถือหุ้นจำนวนยี่สิบเปอร์เซ็นต์ และกลายเป็นผู้ถือหุ้นอันดับสองของน่าย่าไปโดยปริยาย
ส่วนอีกสิบเอ็ดเปอร์เซ็นต์ ถังฮั่นตัดสินใจแบ่งให้ทั้งสามคนคนละสามเปอร์เซ็นต์
ทว่า…ไป๋เยี่ยกลับนึกขึ้นได้ว่าเขายังมีโรงงานผลิตอาหารสัตว์อยู่…ถึงตอนนั้นสัดส่วนหุ้นจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงแน่นอน…
ในวันต่อมา ศูนย์วิจัยของน่าย่าก็ได้เริ่มศึกษาและเพาะเลี้ยงหนูเคเอ็มรุ่นใหม่ ตอนนี้บริษัทน่าย่ากำลังเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว
เช้าวันที่ยี่สิบเจ็ดสิงหาคม
บริษัทน่าย่าได้ออกประกาศฉบับใหม่
‘หนูเอสเอชอาร์รุ่นใหม่ถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว และได้คะแนนบีพีเอฟเอชสูงถึงเก้าสิบสี่คะแนน ราคาจำหน่ายภายในประเทศคือตัวละสองร้อยหยวน’