บทที่ 202 ความมหัศจรรย์ของห้องแล็บจำลอง
ช่วงบ่ายมีการผ่าตัดทั้งสิ้นสามครั้ง ซึ่งทั้งหมดเป็นการผ่าตัดริดสีดวงทวาร แต่เพราะว่ามีไป๋เยี่ยอยู่ จึงทำให้ขั้นตอนการผ่าตัดแตกต่างไปจากเดิม
ปัจจุบันการผ่าตัดริดสีดวงมักใช้วิธีการผ่าตัดแบบพีพีเอช ซึ่งป็นการผ่าริดสีดวงออกเป็นแผลทรงกลม มักใช้ในเคสที่ริดสีดวงมีขนาดใหญ่ เป็นการผ่าตัดที่ทั้งง่ายและรวดเร็ว ช่วยยับยั้งการไหลเวียนของเลือดมายังริดสีดวงและทำให้เนื้อเยื่อบริเวณนั้นเกิดการแข็งตัว
แม้ว่าจะง่าย รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ แต่อัตราการกลับมาเป็นโรคนี้ซ้ำกลับสูงมาก ไม่ว่าจะผ่าตัดด้วยวิธีใดก็ตาม โรคนี้จะค่อยๆ กลับมาเป็นซ้ำภายในระยะเวลาสิบหกเดือน
แม้ว่าวิธีการเย็บของไป๋เยี่ยจะค่อนข้างซับซ้อน แต่ก็เป็นการลดอัตราการเกิดโรคซ้ำที่มีประสิทธิภาพ
เนื่องจากการใช้วิธีรัดหนังยาง ถือเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพและได้รับการยอมรับจากแผนกทวารหนักในโรงพยาบาลขนาดใหญ่และขนาดเล็กทั่วประเทศ จึงนำวิธีการนี้มาใช้ในการผ่าตัดด้วย
ทว่ากลับไม่มีใครคาดถึงว่าการเย็บหลอดเลือดจะเป็นการรัดหนังยางระยะยาว
หากนำไหมละลายหรือไหมชนิดอื่นๆ มาใช้จะได้ผลอย่างไรบ้าง
พานเซี่ยงเหนียนเอาแต่คิดเรื่องนี้ตลอดทั้งบ่าย
ไป๋เยี่ยได้รับโอกาสเข้าไปผ่าตัดหลายครั้ง ทว่ากลับไม่มีเคสใดที่ใช้การผ่าแบบพีพีเอชเลย เพราะเมื่อเทียบกับการผ่าตัดด้วยวิธีดั้งเดิมแล้ว การผ่าแบบพีพีเอชจะมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าทั้งที่ประสิทธิภาพไม่ต่างกันนัก
ไป๋เยี่ยรับหน้าที่เป็นผู้ช่วยซ่งเจี๋ยเย็บแผล
หลังจากการผ่าตัดในช่วงบ่ายทั้งสามเคสจบลง ไป๋เยี่ยก็ไม่ได้บันทึกฉากการผ่าตัดไว้ทั้งหมด ยกเว้นผู้ป่วยเคสแรกที่มีอาการรุนแรง เพราะเคสอื่นๆ ก็เป็นโรคเดียวกันหมด
[ติดตามดูการผ่าตัด 3/20 หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจแล้วจะได้รับชุดศัลยกรรมพิเศษระดับต้น]
หลังจากที่เข้าไปช่วยผ่าตัดทั้งสามเคส ทักษะการเย็บของไป๋เยี่ยก็เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ทักษะการเย็บแผลของเขาเพิ่มขึ้นเป็นเลเวลสอง: 1020/5000
ไป๋เยี่ยจึงคิดว่าเขาน่าจะลองฝึกโดยใช้ห้องแล็บทดลองหลังจากกลับไปที่หอพักในคืนนี้
หลังจากการผ่าตัดเสร็จสิ้นหมดแล้ว ไป๋เยี่ยก็เก็บสัมภาระของตนเองและกลับไปที่หอพัก
เขายังมีภารกิจล้างแผลสองร้อยครั้งและภารกิจติดตามดูการผ่าตัดยี่สิบครั้งอยู่ ไป๋เยี่ยจึงสงสัยว่าการล้างแผลในห้องแล็บจำลองนั้นจะถือเป็นการทำภารกิจด้วยหรือไม่
เมื่อกลับมาถึงหอพัก ไป๋เยี่ยก็พบว่ายังไม่มีใครมาถึงเลย เขาจึงปิดประตูและนั่งลง ก่อนจะลองกดเข้าไปในห้องแล็บจำลอง
ทันใดนั้นไป๋เยี่ยก็รู้สึกว่ากายหยาบของเขาหลับไปแล้ว ทว่ากายทิพย์กลับกำลังเข้าสู่ห้องแล็บที่ว่า
เมื่อเข้าไปในห้องแล็บ เขาพบว่าทุกอย่างดูสมจริงเหมือนกับห้องผ่าตัดเมื่อบ่ายไม่มีผิด
ดูเหมือนนี่จะเป็นการนำฉากการผ่าตัดเมื่อบ่ายกลับมาฉายซ้ำ ทว่าครั้งนี้ไป๋เยี่ยกลับต้องเป็นคนลงมือเองตั้งแต่ขั้นตอนแรกจนขั้นตอนสุดท้าย
พยาบาลก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่ว่าไป๋เยี่ยจะต้องการอุปกรณ์ชิ้นไหน พยาบาลก็จะส่งอุปกรณ์ให้เขาตามที่ต้องการ
ครั้งแรกอาจจะยังเกร็งอยู่ แต่ไป๋เยี่ยก็ยังคงทำต่อไปจนจบ เมื่อผ่าออกมาแล้ว ไป๋เยี่ยก็เริ่มเย็บแผลโดยใช้วิธีการเดียวกับเมื่อตอนบ่าย
หลังจากทำเสร็จแล้ว ไป๋เยี่ยก็ลองดูผลลัพธ์ตรงหน้า แม้ว่านี่จะเป็นครั้งแรก แต่เขาก็มีทักษะแผนกทวารหนักอยู่ที่เลเวลสาม จึงทำออกมาได้ค่อนข้างดี
[ติ๊ง การจำลองผ่าริดสีดวงทรงกลม การประเมินครั้งนี้: ผ่าน]
ไป๋เยี่ยถึงกับผงะ มีแบบประเมินด้วยเหรอ ชักจะหรูเกินไปแล้ว! แล้ว…ถ้าการผ่าตัดล้มเหลวล่ะ จะเป็นยังไง
ไป๋เยี่ยจึงลองใช้มีดตัดลำไส้ออก…และปล่อยให้แผลเน่า…
จากนั้นเสียงแจ้งเตือนจากระบบก็ดังขึ้น
[ติ๊ง! การจำลองล้มเหลว โปรดลองอีกครั้ง]
ไป๋เยี่ยตื่นเต้น มีแบบนี้ด้วยแฮะ มีประเมินว่าล้มเหลวได้ด้วย แบบนี้ก็ปรับปรุงตัวเองได้เรื่อยๆ สินะ
ไม่เลวนี่ ของจากระบบนี่มีคุณภาพจริงๆ!
ไป๋เยี่ยลองทำการผ่าตัดซ้ำอีกหลายครั้ง แต่ทุกครั้งเขาจะทำได้แค่ ‘ผ่าน’ เท่านั้น ยังไม่มีครั้งไหนที่ทำได้ ‘ปานกลาง’ เลย
หลังจากที่ทำไปได้สักเจ็ดแปดครั้ง เสียงแจ้งเตือนจากระบบก็ดังขึ้น
[ติ๊ง! การประเมินครั้งนี้: ปานกลาง โปรดพยายามต่อไป…]
ไป๋เยี่ยถอนหายใจก่อนจะกดออกมา เขาลืมตาขึ้นช้าๆ ด้วยความมึนงง ก่อนจะส่ายหัวไปมา
ไป๋เยี่ยคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาดูเวลา ตอนนี้เป็นเวลาสองทุ่มครึ่ง
เขากลับมาถึงหอพักตอนห้าโมงเย็น ใช้เวลาสามชั่วโมงไปกับการผ่าตัดราวๆ แปดครั้ง แสดงว่าเวลาข้างในนั้นตรงกับเวลาข้างนอกสินะ!
ไป๋เยี่ยเปิดหน้าจอเสมือนจริงขึ้นมา และเห็นว่าเขามีทักษะที่เพิ่มมา
[ทักษะภาคปฏิบัติ: การผ่าตัดบริเวณทวารหนัก, การผ่าตัดริดสีดวงทวาร: เลเวล 2]
[ทักษะเย็บแผล: เลเวล 2: 3010/5000]
ไป๋เยี่ยชะงัก นี่เขาได้รับค่าประสบการณ์ทักษะเย็บแผลมากกว่าสองพันแต้มอีกเหรอ
ไป๋เยี่ยคิดก็ยิ่งมีความสุข นี่แหละอาวุธเทพเจ้า ค่าประสบการณ์ที่ได้มานั้นเยอะมากจริงๆ! อีกไม่นานทักษะการเย็บของเราต้องพัฒนาขึ้นแบบก้าวกระโดดแน่นอน
ทว่าภารกิจติดตามดูการผ่าตัดก็ยังคงเป็น 3/20 ดูเหมือนว่าการผ่าตัดในห้องแล็บจำลองจะทำได้แค่เพิ่มความชำนาญ แต่จะไม่นับรวมกับการทำภารกิจ
แต่…เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว!
เช้าวันรุ่งขึ้น ไป๋เยี่ยมาถึงแผนกแต่เช้าและเริ่มล้างแผล คิวแรกยังคงเป็นเฉียนโหรว เธอใกล้จะหายดีแล้ว และน่าจะได้ออกจากโรงพยาบาลภายในสัปดาห์นี้
ช่วงนี้ซ่งเจี๋ยจึงค่อนข้างว่าง เพราะตั้งแต่ที่ไป๋เยี่ยมาฝึกงานในแผนก ไป๋เยี่ยก็เป็นคนรับหน้าที่ล้างแผล ในการผ่าตัดก็คอยช่วยด้วยเหมือนกัน คาดว่าต่อไป ซ่งเจี๋ยอาจจะไม่ต้องลงมือผ่าตัดเองด้วยซ้ำ! เวชระเบียนก็มีไป๋เยี่ยเป็นคนเขียนให้ ทำให้เขาว่างมากๆ ถึงขั้นนำกาแฟจากที่บ้านมาชง และใช้เวลาไปกับการกินอาหารเช้าอย่างเพลิดเพลิน
ทันทีที่เฉียนโหรวเห็นไป๋เยี่ยก็ส่งยิ้มให้ “ขอบคุณมากจริงๆ คุณหมอไป๋ ช่วงนี้ฉันรู้สึกดีขึ้นมากเลยค่ะ”
ไป๋เยี่ยยิ้มแต่ไม่ได้ตอบอะไร เนื่องจากเขาสวมหน้ากากอนามัยอยู่
เฉียนโหรวปูผ้าขนหนูบนเตียงแล้วถอดกางเกงออก เผยให้เห็นบาดแผล
ไป๋เยี่ยก้มมองบั้นท้าย ไม่ใช่! เขาก้มมองบาดแผลพลางเกิดความคิดที่จะคัดลอกฉากนี้ไปใช้ในแล็บจำลอง
[ติ๊ง! จำลองฉากได้ การจำลองนี้มีค่าใช้จ่าย 5,000 หยวน คุณต้องการจำลองหรือไม่]
ไป๋เยี่ยดีใจมากที่เขาจำลองฉากนี้ได้ แถมมีค่าใช้จ่ายแค่ห้าพันหยวนเท่านั้น ถือว่าไม่แย่!
ดูเหมือนว่าต่อไปทักษะการล้างแผลของเราจะต้องพัฒนาขึ้นมากๆ แน่
[ยืนยันการจำลอง!]
[กำลังจำลอง…50%…100% ติ๊ง! การจำลองเสร็จสิ้น]
ไป๋เยี่ยตั้งชื่อมันว่า [ล้างแผลให้เฉียนโหรว]
หลังจากที่เขาล้างแผลให้ผู้ป่วยทุกคนแล้ว เขาก็สัมผัสได้ว่าทักษะการล้างแผลของเขาดีขึ้นเล็กน้อย
หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมไป๋เยี่ยถึงเลือกจำลองการล้างแผลให้เฉียนโหรวแทนที่จะจำลองของคนอื่น หรือไปจำลองฉากอื่นๆ
นี่เป็นคำถามสินะ
ก็ชัดเจนอยู่นี่ แต่ช่างมันเถอะ คำถามนี้ไม่ต้องถามหรอก
หลังจากกลับมาที่วอร์ด ไป๋เยี่ยก็นั่งเคลียร์เคสอื่นๆ จนเที่ยงโดยที่มีซ่งเจี๋ยคอยนั่งกำกับดูงานอยู่ข้างๆ ทั้งเช้า พร้อมกับเล่าเรื่องปัญหาต่างๆ ที่พบในแผนก และวิธีการแก้ไขปัญหาเหล่านั้น