บทที่ 210 ก้าวสู่โตเกียวด้วยความร้อนแรง (1)
บริษัทเอดะเป็นบริษัทเภสัชกรรมขนาดใหญ่ในโลก แม้ว่าจะตามหลังบริษัทชั้นนำอย่างจอห์นสันแอนด์จอห์นสันและไฟเซอร์อยู่บ้าง แต่ก็ถือเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงมากในเอเชียและยังครอบครองพื้นที่ตลาดส่วนใหญ่อยู่
การประชุมประจำปีได้รับการสนับสนุนจากบริษัทต่างๆ ทุกปี ซึ่งก็ถือเป็นโอกาสทางการตลาดที่ดีสำหรับบริษัทเหล่านั้นด้วย
เพราะว่าการประชุมประจำปีคือการสัมมนาแลกเปลี่ยนความรู้ทางวิชาการที่น่าเชื่อถือที่สุดแห่งปีของสาขาโรคทางทวารหนัก ผู้เข้าร่วมจึงต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการที่มีความโดดเด่นจากภูมิภาคต่างๆ
บริษัทเอดะยึดมั่นในธรรมเนียมปฏิบัติอันดีงามด้านการบริการตามฉบับบริษัทญี่ปุ่น กล่าวได้ว่าการเดินทางมายังการประชุมครั้งนี้ได้รับการจัดการเป็นอย่างดี
ผู้จัดการประชุมครั้งนี้คือโรงพยาบาลในเครือของสถาบันวิทยาศาสตร์การแพทย์มหาวิทยาลัยโตเกียว ซึ่งตั้งอยู่ในเขตบุงเคียวที่รายล้อมไปด้วยความเจริญรุ่งเรือง
ระหว่างที่นั่งเครื่องบิน ไป๋เยี่ยก็นั่งอ่านตารางงานไปด้วย ตอนนี้จิตใจของเขากำลังเต็มไปด้วยความคาดหวังและความอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับการเดินทางครั้งนี้
ธีมของวันแรกคือ ‘ทบทวนและพัฒนา‘ ซึ่งจะจัดขึ้นในศูนย์นิทรรศการโดยโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยโตเกียวและบริษัทเอดะ โดยจัดแสดงประวัติการพัฒนายารักษาบริเวณทวารหนัก แนวคิดการรักษา ตลอดจนวิธีการและอุปกรณ์การรักษาล่าสุด ทั้งยังสร้างวิสัยทัศน์ของการพัฒนาในอนาคตต่อไป
ในตอนท้ายของวัน จะมีการจัดงานแลกเปลี่ยนความรู้ขนาดใหญ่ในโรงแรม ซึ่งถ้าเรียกอย่างเหมาะสมก็คงกล่าวได้ว่าเป็นงานเลี้ยงงานหนึ่ง ที่นี่คุณจะสื่อสารและสนทนากับผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการจากทั่วทุกมุมโลกได้
ในวันที่สอง จะเป็นการเข้าสู่วาระการประชุมและจะมีการบรรยายในที่ประชุมโดยผู้อำนวยการสาขาโรคทางทวารหนักของสมาคมศัลยแพทย์นานาชาติและคณะกรรมการประจำภูมิภาคต่างๆ และจะมีการสรุปอีกทีหนึ่ง
โดยหลักแล้วจะเน้นไปที่แนวทางการรักษาล่าสุดและการทบทวนการดำเนินงานต่างๆ ที่ผ่านมา และไป๋เยี่ยก็มั่นใจว่านี่จะต้องเป็นคลังประสบการณ์ของเขาอย่างแน่นอน
วันที่สาม จะมีการมอบหมายงานจากวาระเมื่อวันที่สองให้แต่ละภูมิภาคไปจัดการ โดยแต่ละภูมิภาคจะจัดทำรายงานสรุปประจำปี มีการอภิปรายทางวิชาการ โดยจะมีเจ้าหน้าที่เฉพาะกิจคอยสรุปข้อมูลที่สำคัญไว้
หลังจากนั้นก็จะมีเวลาสามวันในการออกไปท่องเที่ยวภายใต้การสปอนเซอร์ของบริษัทเอดะ โดยในสามวันนี้คุณจะได้รับการดูแลโดยผู้เชี่ยวชาญเพื่อในการทำกิจกรรมต่างๆ หรือเที่ยวรอบโตเกียว
ส่วนในวันสุดท้ายของการประชุม คณะกรรมการสาขาโรคทางทวารหนักของสมาคมศัลยแพทย์นานาชาติจะทำการสรุปข้อเสนอแนะและจะประกาศแนวทางการผ่าตัดบริเวณทวารหนักประจำปีหน้าขึ้นมา ซึ่งวันดังกล่าวก็คือวันที่สำคัญที่สุดของการประชุมครั้งนี้
เมื่ออ่านจบแล้ว ไป๋เยี่ยก็รู้สึกประทับใจกับงานนี้ จึงเริ่มวางแผนในใจไว้คร่าวๆ
คนเราต้องรู้ว่าตนเองควรจะโชว์เหนือตอนไหนบ้าง และควรจะซุ่มเก็บประสบการณ์เงียบๆ ตอนไหนบ้าง
พานเซี่ยงเหนียน หลี่มู่หยาง และคนอื่นๆ นั่งด้วยกัน ผู้คนที่เข้าร่วมการประชุมล้วนเป็นผู้เชี่ยวชาญและอาจารย์แพทย์จากโรงพยาบาลใหญ่ๆ พวกเขาทั้งหมดจึงพูดคุยกันอย่างถูกคอ
ในขณะที่ไป๋เยี่ยได้แต่นั่งคิดบทที่เขาต้องพูดในวันที่สามอยู่ข้างหลังเงียบๆ
วันที่สามเป็นการรายงานและการบรรยาย ซึ่งพานเซี่ยงเหนียนเป็นคนมอบหมายให้ไป๋เยี่ยเป็นคนขึ้นไปพูด ถ้าไป๋เยี่ยบอกว่าเขาไม่กังวลเรื่องการบรรยายต่อหน้าผู้คนจากหลากหลายภูมิภาคและหลากหลายประเทศเลยก็คงโกหก
ผู้ที่มาเข้าร่วมการประชุมต่างไม่ใช่คนธรรมดา แต่เป็นบุคลากรชั้นนำจากโรงพยาบาลต่างๆ ที่อย่างน้อยๆ ก็พ่วงตำแหน่งหัวหน้าแผนกมาด้วย จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่ไป๋เยี่ยจะกลบราศีของคนพวกนี้ลงได้ ถ้าเขาไม่มีความสามารถมากพอ
ผู้เชี่ยวชาญจะรู้ได้ทันทีว่าใครเชี่ยวชาญถึงขั้นไหน ทั้งยังรู้ว่าสิ่งที่นำมาพูดนั้นเป็นข้อมูลจริงหรือเท็จได้ในทันทีที่ฟัง
ยิ่งไปกว่านั้น ในเมื่อเป็นการบรรยายเชิงอภิปราย ผู้เชี่ยวชาญหลายคนก็อาจจะตั้งคำถามและอภิปรายได้ ทำให้การบรรยายท้าทายขึ้นไปอีก
การที่มีนักศึกษาขึ้นไปยืนต่อหน้ากลุ่มผู้เชี่ยวชาญและอาจารย์แพทย์มากมายก็คงไม่ต่างจากการแกว่งดาบต่อหน้ากวนอูสักเท่าไหร่
ปักกิ่งอยู่ห่างจากโตเกียวไม่มากนัก หลังจากลงเครื่องก็มีรถมารับไปที่โรงแรมระดับห้าดาวทันที เจ้าภาพนี่รวยใช้ได้เลย! อีกทั้งผู้ร่วมงานแต่ละคนยังได้นอนแยกกันคนละห้องด้วย
และในคืนนั้นก็มีการจัดงานเลี้ยงอาหารญี่ปุ่นขึ้นด้วย ทำเอาไป๋เยี่ยกินเยอะกว่าปกติหลายเท่า
อาจจะฟังดูเกินจริง ทว่าตอนนี้ไป๋เยี่ยก็มีเพียงสามคำที่อยากมอบให้อาหารมื้อนี้ ‘ยังไม่อิ่ม!’
ชามข้าวขนาดเท่าช้อนนั้นไม่ทันใจเขาจริงๆ ไป๋เยี่ยเหลือบไปเห็นแววตาคาดโทษของพานเซี่ยงเหนียน แต่ก็อดใจขอข้าวเพิ่มอีกชามหนึ่งไม่ได้
หลังจากรับประทานมื้อเช้าในวันรุ่งขึ้นแล้วก็มีรถบัสมารับทุกคนไปที่ศูนย์จัดนิทรรศการ เมื่อมาถึงก็ได้รู้ว่าที่นี่เคยใช้เป็นศูนย์นิทรรศการหุ่นยนต์ แต่มีโซนพิเศษที่ถูกแบ่งออกมาจัดเป็นนิทรรศการโรคทางทวารหนักด้วย
มีห้องนิทรรศการมากมายเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมในโตเกียว หากกล่าวตามตรงก็คงกล่าวได้ว่าญี่ปุ่นยังคงเป็นประเทศที่ให้ความเคารพต่อวัฒนธรรมของตนเองมาก ทั้งวัฒนธรรมและภูมิปัญญาดั้งเดิมต่างได้รับการอนุรักษ์ไว้ที่นี่ ในขณะที่เทคโนโลยีสมัยใหม่ก็ถูกนำเสนอในสถานที่เดียวกันดฮณ๊ฯดฯฌซ,
ที่นี่มีการจัดแสดงสิ่งของต่างๆ ตามแต่ละโซน โดยส่วนใหญ่จะเป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์
ไกด์เริ่มแนะนำ “นี่คือหูฟังแพทย์เครื่องแรกของโลก ที่นี่เรามีการจัดแสดงเครื่องตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจเครื่องแรกด้วย แน่นอนว่าหลายเครื่องที่เห็นอยู่นี้เป็นแบบจำลองที่ถูกสร้างขึ้นมาในภายหลัง ทุกท่านลองสัมผัสได้เลย”
“ทุกท่านลองดูได้เลย ทั้งหมดนี่คือบันทึกเกี่ยวกับการพัฒนาวิทยาการเกี่ยวกับโรคทางทวารหนักในประวัติศาสตร์อันทรงคุณค่า”
“ทุกท่านจะเห็นได้ว่าสิ่งประดิษฐ์เหล่านี้ล้วนมีความสำคัญข้ามยุคอย่างชัดเจน รวมถึงหลักฐานและตำราต่างๆ เช่นกัน”
ทุกคนรู้สึกประหลาดใจกับนิทรรศการแสนสร้างสรรค์นี้มากจนแทบอยากจะบันทึกสิ่งประดิษฐ์และทฤษฎีต่างๆ ที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาวิทยาการเกี่ยวกับโรคทางทวารหนักเพื่อให้ผู้คนรับรู้ได้ถึงพัฒนาการที่มีมาตลอดยุคประวัติศาสตร์นี้
ไกด์ใช้ภาษาอังกฤษในการแนะนำ เพราะการประชุมระดับนานาชาติเช่นนี้ย่อมมีผู้เชี่ยวชาญจากทั่วทั้งมุมโลกมาเข้าร่วมด้วย จึงต้องใช้ภาษาอังกฤษซึ่งเป็นภาษาสากลในการอธิบาย