ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก – ตอนที่ 71 ถูกจับตามอง

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ตอนที่ 71 ถูกจับตามอง

ตอนที่ 71 ถูกจับตามอง

เซี่ยเจ๋อหลี่พยักหน้าเมื่อได้ยินดังนั้น แล้วพูดว่า: “แน่นอน เราติดตามพวกมันมานาน ก่อนจะพบแหล่งกบดานของพวกมัน เราต้องจับพวกมันทุกคนได้แน่นอน”

“ใช่ ครั้งนี้มันต้องสำเร็จ”

ฟู่ซวี่ตงตามมา แล้วพูดทันทีว่า: “คาดไม่ถึงเลยจริง ๆ ว่าแหล่งกบดานของคนพวกนี้จะอยู่ในมณฑลซานตง อาหลี่ ถ้าเหตุการณ์นี้จบลง นายอยากกลับไปเยี่ยมบ้านไหม?”

เซี่ยเจ๋อหลี่ส่ายหน้า แล้วพูดว่า “ภารกิจนี้เร่งด่วน หลังจากจับคนพวกนี้ได้แล้วก็ยังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องจัดการ”

“นั่นก็จริง แต่ฉันได้ยินมาว่านายสมัครบ้านสวัสดิการแบบครอบครัวไว้ ถึงตอนนั้นน้องสะใภ้จะมาหรือเปล่า?”

เมื่อพูดถึงฉินมู่หลาน รอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าที่ตึงเครียดในตอนแรกของเซี่ยเจ๋อหลี่ “ใช่แล้ว มู่หลานจะตามมาเข้าร่วมกองทัพ แล้วเราจะได้ใช้เวลาร่วมกันมากขึ้น”

เมื่อเห็นรอยยิ้มอันอบอุ่นบนใบหน้าของเซี่ยเจ๋อหลี่ ฟู่ซวี่ตงก็เดาะลิ้นสองครั้ง

“นี่ช่างแตกต่างจากตอนที่นายแต่งงานเหลือเกิน ตอนนั้นพูดถึงน้องสะใภ้ทีไร นายจะทำหน้ากระอักกระอ่วนใจ แต่พอเห็นนายกับน้องสะใภ้มีความสัมพันธ์ที่ดีแบบนี้ ฉันก็รู้สึกโล่งใจ ก่อนหน้านี้ฉันกังวลว่าครอบครัวของนายจัดแจงให้นายแต่งงานแบบคลุมถุงชนแล้วนายจะไม่พอใจเสียอีก แต่ตอนนี้ทุกอย่างก็ดีขึ้นแล้ว ความสัมพันธ์แบบสามีภรรยาของพวกนายรักใคร่กลมเกลียวกันดี วันข้างหน้าก็คงเป็นเหมือนเดิมแน่นอน”

เซี่ยเจ๋อหลี่ได้ฟังดังนั้นก็ไม่ได้ปฏิเสธ มองฟู่ซวี่ตงแล้วพูดว่า “นายก็รีบหาคนมาแต่งงานด้วยเร็ว ๆ สิ”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฟู่ซวี่ตงก็รีบโบกมือแล้วพูดว่า “ไม่ ฉันยังไม่มีแผนเรื่องนี้”

ทั้งสองคุยเล่นกันอีกสองสามประโยค ไม่นานก็เริ่มพูดคุยเรื่องแผนปฏิบัติการในครั้งนี้อย่างละเอียดถี่ถ้วนในแต่ละขั้น

ในอีกด้านหนึ่ง หลังจากที่ฉินมู่หลานกลับไปยังห้องที่เธออาศัยอยู่ เธอก็เห็นเสิ่นหรูฮวนลุกขึ้นนั่งทันที ครั้นเห็นเพื่อนร่วมห้องกลับมา หล่อนก็รีบถามว่า: “มู่หลาน เธอเป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมถึงไปนานขนาดนั้นล่ะ?”

“ฉันสบายดี แต่ทำไมเธอถึงยังนอนอยู่ล่ะ? พี่จูไม่มาส่งอาหารเหรอ?”

เสิ่นหรูฮวนถอนหายใจ แล้วพูดว่า “มาส่งแล้ว มีแค่โวโวโถวชิ้นเดียว ฉันกินไปหมดแล้ว เธอล่ะ กินข้าวหรือยัง?”

“กินแล้ว”โนเวลพีดีเอฟ

เธอได้กินอาหารที่ทำสดใหม่แล้วในตอนช่วยทำอาหารในครัว ในตอนแรกพี่จูรู้สึกอายเล็กน้อยและไม่กล้ากินข้าวกับเธอ แต่ด้วยการโน้มน้าวของเธอ ในที่สุดพี่จูก็ยอมลิ้มรสอาหารที่เธอทำ

เมื่อได้ยินดังนั้น เสิ่นหรูฮวนก็พูดด้วยรอยยิ้ม: “กินแล้วก็ดี ในที่สุดช่วงนี้ฉันก็รู้แล้วว่าความหิวทำให้ทรมานแค่ไหน เธอต้องกินให้เพียงพอ”

ได้ยินเช่นนั้น ฉินมู่หลานก็มองเสิ่นหรูฮวนด้วยสายตาครุ่นคิด แล้วพูดว่า “เธอรู้ไหม เธอไม่ได้ถูกพวกค้ามนุษย์จับมาหรอก แต่ถูกคนจับมาขาย”

“อะ… อะไรนะ… เธอว่ายังไงนะ?”

เสิ่นหรูฮวนเบิกตากว้างจ้องมองฉินมู่หลานด้วยความไม่เชื่อ “เป็นไปได้ยังไง? ใครเป็นคนขายฉัน?”

“เรื่องนั้นฉันไม่รู้ แต่ฉันเพิ่งได้ยินมาว่าคนของชางไห่เป็นคนรับเงิน แล้วจับตัวเธอมาที่นี่ แล้ว… พรุ่งนี้จะส่งตัวเธอไปขายที่ต่างประเทศ”

“โครม…”

หลังจากที่เสิ่นหรูฮวนได้ฟังคำพูดของฉินมู่หลาน หล่อนก็ตกใจกลัวจนล้มลงจากเตียงทันที สายตาเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก “ทำยังไงดี เรื่องนี้เกิดขึ้นได้ยังไง เป็นใคร มันเป็นใคร?”

ฉินมู่หลานก้าวเข้าไปพยุงเสิ่นหรูฮวนขึ้นมา แล้วพูดว่า “อย่าเพิ่งตกใจไป ตอนนี้เรื่องหาว่าใครเป็นคนขายเธอยังไม่สำคัญ ต้องหาทางหลบหนีให้ได้ก่อน”

“เป็นไปไม่ได้ ไม่มีทางหลบหนีได้ พรุ่งนี้ฉันจะถูกพาตัวไปแล้ว มันไม่มีประโยชน์หรอก”

ในตอนนี้ฉินมู่หลานจึงพบว่ามันยุ่งยากกว่าที่คิด เพราะสมุนไพรในมือเธอมีไม่เพียงพอ อีกทั้งยังมีคนมากมายที่นี่ ทำให้เธอไม่สามารถจัดการพวกมันทั้งหมดได้ในคราวเดียว แต่ตราบใดที่ถ่วงเวลาไว้ได้แม้เพียงเล็กน้อย เธอก็อาจจะหลบหนีได้

แต่สิ่งที่ทำให้ฉินมู่หลานต้องประหลาดใจคืออวี๋หนานที่หายตัวไปอีกครั้งในวันรุ่งขึ้น แต่เสิ่นหรูฮวนยังคงอยู่ที่นี่เป็นปกติโดยไม่ถูกพาตัวไป ส่วนคนอื่นก็ไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับการพาเสิ่นหรูฮวนออกไป

ด้วยความสงสัย ฉินมู่หลานจึงหยิบเข็มทองคำมาเตรียมฝังเข็มให้ชางไห่

ชางไห่ยังคงดูซีดเซียวและอ่อนแอ แต่ฉินมู่หลานรู้ว่าชายคนนี้เป็นผู้มีอิทธิพลที่โหดเหี้ยม ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่อาจทำธุรกิจซื้อขายผู้หญิงได้ และเธอก็รู้สึกโดยสัญชาตญาณว่าสิ่งต่าง ๆ อาจไม่ง่ายขนาดนั้น ในเมื่อตอนนี้คนเหล่านี้เก่งถึงขั้นติดต่อกับคนที่ต่างประเทศได้ ใครจะรู้ว่าพวกเขาทำอะไรได้บ้าง

แม้จะมีเรื่องมากมายอยู่ในใจ แต่ฉินมู่หลานไม่ได้เปิดเผยผ่านทางสีหน้าเลย หลังจากที่เธอพร้อม เธอก็มองชางไห่แล้วพูดว่า “การฝังเข็มของวันนี้กำลังจะเริ่มต้นแล้วนะคะ”

“ดี”

ชางไห่พูดเบา ๆ ยากที่จะบอกได้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่

แต่เจ้าผอมที่อยู่ด้านข้างพูดด้วยรอยยิ้ม: “หมอมู่ ทักษะทางการแพทย์ของคุณดีมากจริง ๆ ผมว่าวันนี้เจ้านายดูดีขึ้นมาก ปกติท่านจะอ่อนแรงอยู่นานหลังจากอาการปวดหัว”

ขณะที่เจ้าผอมกำลังจะพูดอะไรบางอย่างเพิ่มเติม ทันใดนั้นก็เห็นดวงตาเย็นชาของเจ้านาย จึงรีบหุบปากอย่างรวดเร็ว แต่ในใจคิดว่าฉินมู่หลานมีทักษะทางการแพทย์ที่ดีจริงๆ หากสามารถเก็บหมอไว้กับตัวได้ ก็จะเป็นการสะดวกสำหรับพวกเขาเมื่อต้องรักษาอาการบาดเจ็บในอนาคต

เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ เจ้าผอมจึงตัดสินใจบอกเจ้านาย

ฉินมู่หลานไม่ได้พูดอะไรขณะทำการฝังเข็ม หลังจากฝังเข็มเสร็จแล้วเธอก็ถามขึ้น “รู้สึกยังไงบ้างคะ?”

ชางไห่นั่งบนเก้าอี้อย่างเกียจคร้าน เมื่อได้ยินคำถามของฉินมู่หลาน เขาก็พยักหน้าแล้วพูดว่า “รู้สึกดีขึ้นมาก”

ทักษะการรักษาของหมอหญิงคนนี้ดีจริง ๆ เมื่อวานเขาได้เห็นผลชัดเจนแล้ว ส่วนการฝังเข็มวันนี้ก็ทำให้รู้สึกสบายขึ้นมาก เธอเป็นหมอฝีมือดีที่หายาก นับว่ามีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยมจริง ๆ

เมื่อฉินมู่หลานได้ยินดังนั้น เธอก็พยักหน้าและพูดว่า: “ดีแล้วค่ะ ฉันจะปรุงยาให้ทีหลัง แต่ถ้าคุณต้องการความสะดวก ก็คงทำเป็นยาเม็ดได้ จะได้กลืนลงไปพร้อมน้ำได้ง่ายขึ้นค่ะ”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ชางไห่ก็เหลือบมองฉินมู่หลาน แล้วถามว่า “หมอมู่ทำยาเม็ดได้ด้วยเหรอ?”

ฉินมู่หลานพยักหน้า และกล่าวว่า “ค่ะ ฉันพอรู้วิธีนิดหน่อย จริง ๆ แล้วแค่ใช้วัตถุดิบแบบเดียวกัน แต่เอามาอัดเป็นเม็ดเท่านั้นค่ะ”

ก่อนที่ชางไห่จะพูดอะไร เจ้าผอมก็โพล่งออกมาแล้ว “เจ้านายครับ ในเมื่อเรามียาอยู่แล้ว ก็ควรเอาไปทำเป็นยาเม็ดเลยสิครับ จะได้พกพาสะดวก”

คราวนี้ชางไห่เห็นด้วยกับคำพูดของเจ้าผอม จึงมองฉินมู่หลานแล้วพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นก็ต้องรบกวนหมอมู่แล้ว”

“ไม่มีปัญหา ตราบใดที่คุณจะปล่อยฉันไปเมื่อถึงเวลาค่ะ”

หลังจากที่ฉินมู่หลานพูดจบ เธอก็มองเจ้าผอม แล้วพูดว่า “เนื่องจากการทำยาเม็ดจำเป็นต้องใช้สมุนไพรจำนวนมากเพิ่ม และต้องการเครื่องมือบางอย่างด้วย พวกคุณต้องให้คนไปซื้อทุกอย่างก่อนค่ะ”

“ไม่มีปัญหา”

เจ้าผอมรับปากด้วยรอยยิ้ม ฉินมู่หลานจึงจดปริมาณของสมุนไพรและเครื่องมือที่จำเป็นลงในใบสั่งยา แล้วมอบให้กับเขา โดยกำชับให้เขาซื้อมาโดยเร็วที่สุด

หลังจากที่เจ้าผอมจากไปแล้ว ฉินมู่หลานก็จากไปเช่นกัน ขณะที่เธอเดินออกไปข้างนอกนั้น อวี๋ตงก็เข้ามาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เมื่อเดินผ่านฉินมู่หลาน เขาก็เหลือบมองเธอด้วยหางตา แล้วรีบเข้าไปกระซิบบางอย่างกับชางไห่

“เจ้านายครับ เรื่องเริ่มยุ่งยากขึ้นแล้ว คนของอวี๋หนานกำลังถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด มีความเป็นไปได้สูงที่ภายในสองสามวันนี้สินค้าจะไม่ถูกจัดส่งครับ”

………………………………………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

เกิดอะไรขึ้นกับทางอวี๋หนาน กองกำลังของพี่หลี่เริ่มปฏิบัติงานแล้วใช่ไหม

ไหหม่า(海馬)

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

Status: Ongoing
เมื่อแพทย์สาวมือฉมังพบว่าตนเองได้กลายเป็นหญิงอ้วนผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่เป็นที่รักของสามี เธอจะเปลี่ยนเป็นคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก[嫁七零糙汉后,我双胞胎体质藏不住]ผู้แต่ง : 钰儿เรื่องย่อหลังผชิญวรหนักจนวูบ ฉินมู่หลาน แพทย์สาวมือฉมังก็พบว่าตนองได้มาสวมร่างของหญิงอ้วนหลานสาวผู้เชี่ยวชาญด้นสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่มีอะไรดีสักอย่างนอกจากได้สามีหล่อเหลานิสัยดีผู้แสนเย็นขาจากความลั่งรักของตัวเองจจับเขามาแต่งงด้วยสำเร็จ ซึ่งกรสวมวิญญาณในครั้งนี้เธอได้รับภารกิจหลักสามอย่าง หนึ่งคือสร้างเนื้อสร้างตัว สองคือลดน้ำหนักให้ตนเองทำงานทำการสะดวกขึ้น และสามคือทำให้สามีเป็นฝ่ายคลั่งรักเธอแทน คุณหมอฉินจะทำสำเร็จหรือไม่ จะเปลี่ยนเป็นฉินมู่หลานคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท