ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก – ตอนที่ 100 โต้กลับ(2)

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ตอนที่ 100 โต้กลับ(2)

ตอนที่ 100 โต้กลับ(2)

ที่นี่นอกจากมีทหารในฐานทัพแล้วก็ยังมีสมาชิกในครอบครัวบางส่วนด้วย หลังจากที่ทุกคนได้ยินคำพูดของฉินมู่หลาน พวกเขาก็เริ่มบทสนทนาทันที พร้อมกับแววตาเต็มไปด้วยความกระหายใคร่รู้

ถานเล่อเวยคิดไม่ถึงเลยว่าฉินมู่หลานจะกล้าพูดเช่นนั้นออกมา

เป็นเรื่องจริงที่หล่อนชอบเซี่ยเจ๋อหลี่ แต่มันไม่เคยถูกเปิดเผยต่อที่ใดมาก่อน เพราะไม่มีใครกล้าพอที่จะสารภาพรักกับผู้อื่น แต่ฉินมู่หลานกลับเปิดเผยเรื่องนี้ นอกจากนี้ยังเป็นกลางที่สาธารณะอีกด้วย แล้วต่อไปหล่อนจะมองหน้าใครเขาได้

“เธอ…เธอมันหน้าด้านเกินไปแล้ว แต่ต่อให้เธอจะมีเหตุผลที่ไล่พวกเราออกไป เธอก็ผ่าตัดให้เซี่ยเจ๋อหลี่จริงอยู่ดี เรื่องนี้เธอคงไม่ปฏิเสธใช่ไหม”

ฉินมู่หลานได้ยินดังนี้จึงพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “แน่นอนว่าฉันจะไม่ปฏิเสธ ฉันทำการผ่าตัดเซี่ยเจ๋อหลี่จริง เดิมทีขาของเขาอาจทิ้งผลข้างเคียงเอาไว้ แต่ถ้าผ่าตัดอีกครั้ง เขาจะฟื้นตัวได้เต็มที่ ดังนั้นฉันก็ต้องผ่าตัดให้เขาอยู่แล้ว”

“ฮ่า…เธอคิดว่าตัวเองเป็นหมอเทวดาหรือไง ที่เธอจะผ่าตัดให้เซี่ยเจ๋อหลี่กลับมาเป็นเหมือนเดิมเนี่ยฉันเองก็อยากจะเห็นนัก ว่าหลังจากนี้เซี่ยเจ๋อหลี่จะกลายเป็นคนพิการจนต้องโดนปลดประจำการออกจากกองทัพไหม”

ตอนนี้ถานเล่อเว่ยรู้สึกโมโหมากจนพลอยเกลียดเซี่ยเจ๋อหลี่ไปด้วย หากไม่ใช่เพราะเซี่ยเจ๋อหลี่บอกฉินมู่หลาน ผู้หญิงคนนี้จะทราบได้อย่างไรว่าหล่อนชอบเขา ช่างเป็นคู่สามีภรรยาที่น่ารังเกียจเหลือเกิน

ฉินมู่หลานได้ยินดังนี้ก็เหยียดยิ้ม ก่อนจะเอ่ย “ถ้าอย่างนั้นเธอก็คงผิดหวังแล้วล่ะ เซี่ยเจ๋อหลี่จะไม่มีวันออกจากกองทัพก่อนเกษียณแน่นอน เขาจะหายดี แล้วเฉิดฉายในตำแหน่งของเขาต่อไป”

หลังจากเอ่ยจบ ฉินมู่หลานก็คร้านเกินจะสนใจถานเล่อเว่ยและเฉินเฉี่ยวเซียง หันหลังกลับแล้วเดินจากไปพร้อมกล่องอาหารในมือโนเวลพีดีเอฟ

“เธอหยุดเดี๋ยวนี้นะ”

ถานเล่อเว่ยตะโกนด้วยสีหน้าดุร้าย แต่ฉินมู่หลานไม่ได้สนใจเลย เดินจากไปโดยไม่หันกลับมามองเลยสักนิด

หลังจากฉินมู่หลานกลับมาถึงบ้าน ก็วางข้าวกล่องลงเงียบ ๆ สุดท้ายก็มองหาเซี่ยเจ๋อหลี่ เมื่อไม่พบใบหน้าของเธอจึงยับยู่ขึ้น

เซี่ยเจ๋อหลี่เห็นฉินมู่หลานเช่นนั้น จึงรีบเอ่ยถาม “เป็นอะไรไปมู่หลาน รู้สึกไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า?”

“เฮ้อ…เซี่ยเจ๋อหลี่ คุณนี่มีโชคเรื่องผู้หญิงจังเลยนะ ขนาดสาวจากคณะสันทนาการยังมาชอบคุณได้ วันนี้ก็ยังมาก่อกวนฉันอีก พูดบ้าบออะไรกับฉันก็ไม่รู้ ตอนนี้ฉันเริ่มกังวลแล้วล่ะว่าต่อไปจะมีผู้หญิงคนไหนโผล่มาก่อกวนอีก”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น แล้วเห็นว่าฉินมู่หลานดูโกรธเล็กน้อย เซี่ยเจ๋อหลี่จึงรีบโต้ตอบทันที

“มู่หลาน ถานเล่อเวยมาก่อกวนคุณเหรอ”

“คุณก็รู้นี่นา คุณดูออกอยู่แล้วใช่ไหมว่าถานเล่อเว่ยชอบคุณ หล่อนเลยมาก่อกวนฉันนี่ไง คุณบอกฉันมาให้หมดเลยก็ได้นะว่ายังมีดอกท้อเน่าแบบนี้อีกกี่คน”

เมื่อเห็นท่าทางโกรธเกรี้ยวของฉินมู่หลาน เซี่ยเจ๋อหลี่กลับรู้สึกมีความสุขมากแม้ว่ามันจะไม่ควรก็ตาม “มู่หลาน คุณ…หึงเหรอ?”

ตั้งแต่แต่งงานมา เขาพบว่ามู่หลานไม่ได้คลั่งรักตัวเองเหมือนแต่ก่อนอีกแล้ว เธอพยายามทำตัวห่างเหินเขามาตลอด แต่หลังจากที่มู่หลานเป็นเช่นนี้ มันกลับทำให้เขารู้ว่าเธอเองก็มีดีอยู่เยอะมาก และเธอก็เก่งมากด้วย ทำให้เขาค่อย ๆ หลงรักเธอมาตลอด เขาจึงหวังอยากให้ฉินมู่หลานกลับมาคลั่งรักเขาเหมือนเดิม

ฉินมู่หลานได้ยินคำพูดนี้ของเซี่ยเจ๋อหลี่ จึงมีท่าทางสงบลง ในขณะเดียวกันก็รู้ตัวว่าใส่อารมณ์มากเกินไป

แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ เธอรู้สึกโกรธมากจริง ๆ แต่เธอก็ปฏิเสธอย่างหนักแน่นที่จะยอมรับว่าตัวเองหึง

“เปล่าสักหน่อย ฉันก็แค่หงุดหงิด รำคาญพวกที่สร้างปัญหาให้ฉัน”

เซี่ยเจ๋อหลี่มองฉินมู่หลานด้วยท่าทางขบขัน เพียงแค่คิดว่าเธอหึงก็แอบมีความสุขอยู่ในใจ แต่เขาก็รู้สึกโกรธมากเช่นกันกับสิ่งที่ถานเล่อเวยทำ “มู่หลาน คุณสบายใจได้เลย ผมจะไม่ยอมให้ถานเล่อเวยมาปรากฎตัวตรงหน้าคุณอีก”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฉินมู่หลานก็เหลือบมองเซี่ยเจ๋อหลี่ แล้วเอ่ยขึ้น “ยังไงเหรอ จะให้ถานเล่อเวยออกจากคณะสันทนาการอย่างนั้นเหรอ”

ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นจริงหรอก

ฉินมู่หลานเพียงใช้ประโยชน์จากสถานการณ์เอ่ยเช่นนั้น แต่เซี่ยเจ๋อหลี่กลับเห็นว่าเป็นความคิดที่ดี “ใช่ ขอแค่ถานเล่อเวยออกจากคณะสันทนาการในเขตฐานทัพเรา เช่นนั้นก็จะไม่ต้องเจอหล่อนอีก”

เขาสามารถคิดหาวิธีให้ถานเล่อเวยโดนย้ายไปคณะสันทนาการที่อื่นได้

ฉินมู่หลานที่ได้ยินเช่นนั้นไม่ได้คิดว่าเขาพูดจริงจัง จึงยังรู้สึกโกรธอยู่นิดหน่อย

เซี่ยเจ๋อหลี่เห็นดังนั้น จึงนำหวีที่เขาทำเอาไว้มานานแล้วออกมาให้ “มู่หลาน หวีอันนี้ผมทำกับมือ หวังว่าคุณจะชอบมันนะ”

ฉินมู่หลานจ้องมองไปหลังจากได้ยินสิ่งนี้

เธอรู้เรื่องหวีจากฟู่ซวี่ตงก่อนหน้านี้แล้ว ตอนนี้เมื่อได้เห็นหวีไม้ขัดเงา จึงอดไม่ได้ที่จะถาม “คุณแกะมันตั้งแต่ตอนไหนคะ?”

“แค่มีเวลา ผมก็ค่อย ๆ แกะมันทีละนิดตอนไปทำภารกิจที่ภาคตะวันตกเฉียงเหนือ สุดท้ายก็เสร็จจนได้ ผมจับหวีเอาไว้ตลอดตอนที่เจ็บ ในใจก็นึกถึงแต่คุณ คิดภาวนาขออย่าให้มีอะไรเกิดขึ้นกับตัวเอง เพราะผมทิ้งคุณไม่ได้”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฉินมู่หลานก็หยิบหวีไม้ขึ้นมา ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “ โชคดีที่คุณไม่เป็นอะไร ไม่อย่างนั้นฉันคงต้องให้ลูกเรียกคนอื่นว่าพ่อแทน”

เซี่ยเจ๋อหลี่ได้ยินสิ่งนี้ เส้นเลือดบนหน้าผากก็เต้นตุบๆ

“มู่หลาน….คุณ…”

ฉินมู่หลานเห็นท่าทางโกรธเกรี้ยวของเซี่ยเจ๋อหลี่ จึงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะขึ้นมา “ฉันพูดจริงนะ เพราะฉะนั้นคุณห้ามให้ตัวเองเป็นอะไรเด็ดขาด ไม่อย่างนั้น…คุณจะได้รู้ผลที่ตามมา”

อันที่จริงเซี่ยเจ๋อหลี่ทราบดีว่าฉินมู่หลานไม่อยากให้มีอะไรเกิดขึ้นกับตัวเอง เขาจึงพยักหน้าแล้วเอ่ยขึ้น “ได้ จากนี้ไปผมจะระวัง”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฉินมู่หลานก็ไม่ได้พูดอะไรอีก และชวนเขาไปกินข้าวแทน “เอาเถอะ พวกเรารีบกินข้าวกันดีกว่าค่ะ หิวกันแล้ว”

หลังจากรับประทานอาหาร ฉินมู่หลานก็จัดบ้านให้เรียบร้อย จากนี้ไป ที่แห่งนี้จะเป็นบ้านหลังเล็ก ๆ ของเธอกับเซี่ยเจ๋อหลี่

เซี่ยะเจ่อหลี่มองฉินมู่หลานที่กำลังวุ่นอยู่ในห้อง รอยยิ้มจาง ๆ ปรากฎอยู่ตรงมุมปากตลอด แต่เขาก็กลัวว่าฉินมู่หลานจะเหนื่อย ไม่นานนักจึงให้เธอพักผ่อน

อันที่จริงแล้วบ้านก็ไม่ได้รก ดังนั้นฉินมู่หลานจึงจัดเพียงเล็กน้อยแล้วพักผ่อน

วันรุ่งขึ้น หลังจากฉินมู่หลานฝังเข็มให้เซี่ยเจ๋อหลี่เรียบร้อยแล้วก็ต้มยาให้เขาอีก หลังจากนั้นก็ออกไปเดินเที่ยวเพื่อหาซื้อของเข้าบ้านเพิ่มเติม ซึ่งเป็นของที่จำเป็นต้องมีก่อน เพียงแต่ต้องเข้าไปซื้อในเมือง จึงใช่เวลานานมากพอสมควรกว่าจะได้กลับ เมื่อฉินมู่หลานกลับมาถึงก็เป็นเวลาเที่ยงวันเข้าได้แล้ว

“อาหลี่ ฉันจะรีบทำอาหาร คุณรอก่อนนะ”

เซี่ยเจ๋อหลี่ได้ยินเช่นนั้นจึงกล่าวขึ้น “มู่หลาน คุณก็รีบมากินข้าวเถอะ ผมให้ซวี่ตงช่วยจัดการเรื่องอาหารแล้ว”

ฉินมู่หลานได้ยินเช่นนั้น ก่อนจะพบว่ามีอาหารตั้งวางอยู่แล้วจริง ๆ จึงนั่งลงแล้วเริ่มรับประทานอาหารด้วยกัน หลังจากรับประทานอาหารแล้ว ทั้งสองก็พักผ่อน เมื่อถึงเวลาช่วงเย็น จึงมุ่งหน้าไปที่บ้านของเวินโหย่วเหลียงด้วยกัน

“อาหลี่ อยากให้ฉันช่วยประคองคุณไหม”

เมื่อเซี่ยเจ๋อหลี่ได้ยินคำพูดของฉินมู่หลาน เขาก็ส่ายหัวแล้วพูดขึ้นว่า “ไม่ต้องหรอก ผมใช้ไม้เท้าได้”

ถึงเซี่ยเจ๋อหลี่จะพูดเช่นนั้น แต่ฉินมู่หลานก็ยังคงต้องการช่วยเขาอยู่ดี โชคดีที่บ้านของเวินโหย่วเหลียงอยู่ใกล้ ทั้งสองจึงมาถึงในไม่ช้า

ลู่เพ่ยจวินเห็นทั้งสองมากันแล้ว จึงยิ้มทักทายแล้วให้พวกเขาเข้ามา “เหล่าเวิน อาหลี่กับภรรยามาแล้ว ออกมาเร็วเข้า”

………………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

พี่หลี่ซุกซ่อนดอกท้อเน่าที่ไหนไว้อีกบ้างคะ รีบไปกวาดทิ้งเสียนะ มู่หลานหึงใหญ่แล้ว

ไหหม่า(海馬)

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

Status: Ongoing
เมื่อแพทย์สาวมือฉมังพบว่าตนเองได้กลายเป็นหญิงอ้วนผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่เป็นที่รักของสามี เธอจะเปลี่ยนเป็นคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก[嫁七零糙汉后,我双胞胎体质藏不住]ผู้แต่ง : 钰儿เรื่องย่อหลังผชิญวรหนักจนวูบ ฉินมู่หลาน แพทย์สาวมือฉมังก็พบว่าตนองได้มาสวมร่างของหญิงอ้วนหลานสาวผู้เชี่ยวชาญด้นสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่มีอะไรดีสักอย่างนอกจากได้สามีหล่อเหลานิสัยดีผู้แสนเย็นขาจากความลั่งรักของตัวเองจจับเขามาแต่งงด้วยสำเร็จ ซึ่งกรสวมวิญญาณในครั้งนี้เธอได้รับภารกิจหลักสามอย่าง หนึ่งคือสร้างเนื้อสร้างตัว สองคือลดน้ำหนักให้ตนเองทำงานทำการสะดวกขึ้น และสามคือทำให้สามีเป็นฝ่ายคลั่งรักเธอแทน คุณหมอฉินจะทำสำเร็จหรือไม่ จะเปลี่ยนเป็นฉินมู่หลานคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท