ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก – ตอนที่ 107 ใกล้ชิดเล็กน้อย

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ตอนที่ 107 ใกล้ชิดเล็กน้อย

ตอนที่ 107 ใกล้ชิดเล็กน้อย

เซี่ยเจ๋อหลี่มองถานเล่อเวยที่กำลังหน้าซีดอยู่ตรงหน้าของเขา ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “ไปซะ”

เมื่อได้ยินคำพูดนั้น ถานเล่อเวยก็ดึงสติกลับมาได้อีกครั้ง หล่อนจึงเอ่ยอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก “เซี่ยเจ๋อหลี่ นายต้องทำถึงขนาดนี้จริงเหรอ ที่ฉันไปทั้งหมดนั้นก็เป็นเพราะชอบนายนะ”

“เธออย่าเอาความชอบมาอ้างเลย การชอบใครสักคนไม่ใช่ข้ออ้างในการทำร้ายคนอื่น แล้วฉันก็ปฏิเสธเธอมานานแล้วด้วย แต่เธอก็ยังดึงดันจะเดินต่อ ครั้งนี้ทำเกินไปถึงกับมาทำร้ายมู่หลาน เธอควรดีใจที่ตัวเองไม่พลั้งมือฆ่าพวกเขา ไม่อย่างนั้นตอนนี้เธอคงไม่ได้มีโอกาสมายืนอยู่ตรงหน้าฉันหรอก แล้วหยุดพูดเรื่องไร้สาระกับฉันได้แล้ว”

เซี่ยเจ๋อหลี่เคยเอ่ยปากเตือนตั้งแต่ตอนที่ถานเล่อเวยเริ่มมีใจแล้ว และทำให้มันชัดเจนมาตั้งแต่แรกแล้วด้วย

แต่เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายแสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน และยังต้องการเดินหน้าต่อ หลังจากนั้นมาเซี่ยเจ๋อหลี่ก็จะแสดงสีหน้าท่าทางเย็นชาใส่หล่อนทุกครั้งที่เจอกัน แต่เนื่องจากเขาออกไปทำภารกิจบ่อย พวกเขาจึงไม่ค่อยได้เจอกันบ่อยนัก ครั้งก่อน ถานเล่อเวยก็ออกไปทำการแสดงข้างนอกอยู่หลายเดือน ครั้งล่าสุดที่ได้เจอกันก็ตอนที่เขาอยู่โรงพยาบาล

เพียงแต่เขาคิดได้ไม่เร็วพอ จึงเกือบทำให้ฉินมู่หลานตกอยู่ในอันตราย

เมื่อคิดถึงเรื่องนั้น เซี่ยเจ๋อหลี่ก็จ้องมองถานเล่อเวยด้วยสายตาเย็นชามากขึ้น

“ฉันขอแนะนำให้เธอรีบเก็บข้าวของออกไป ไม่อย่างนั้น…เรื่องจะร้ายแรงกว่านี้แน่”

เมื่อจ้องมองลึกเข้าไปในดวงตาแสนเย็นชาของเซี่ยเจ๋อหลี่ ถานเล่อเวยจึงก้าวถอยหลังโดยไม่รู้ตัว และเห็นว่าเซี่ยเจ๋อหลี่ไม่ได้ล้อเล่น หากยังดันทุรังอยู่ต่อไป อาจมีเรื่องเลวร้ายกว่านี้เกิดขึ้นก็เป็นได้

ถานเล่อเวยตื่นตระหนกและไม่ค่อยพอใจนัก และเซี่ยเจ๋อหลี่ก็มุ่งตรงกลับบ้านทันทีโนเวลพีดีเอฟ

ฉินมู่หลานเห็นเซี่ยเจ๋อหลี่กลับมา จึงอดไม่ได้ที่จะยิ้ม “ทำไมวันนี้กลับมาเร็วจังคะ ฉันยังไม่ได้ทำอาหารเลยนะ”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น เซี่ยเจ๋อหลี่ก็รีบก้าวเดินตรงไปหาแล้วพูดขึ้น “มู่หลาน คุณปล่อยมันเถอะ เดี๋ยวผมทำอาหารเอง” เขาพยายามกลับบ้านเร็วทุกวัน เพียงเพื่อจะทำอาหารให้มู่หลาน

ฉินมู่หลานไม่ได้รู้สึกเหนื่อย แต่เซี่ยเจ๋อหลี่ก็เข้ามาจัดการเองแล้ว เธอจึงทำได้แค่นั่งและพักผ่อนไป

หลังจากเซี่ยเจ๋อหลี่ทำอาหารเสร็จแล้ว ก็บอกให้ฉินมู่หลานไปกินข้าว ในขณะนั้นก็ได้พูดเรื่องของถานเล่อเวย

“มู่หลาน พรุ่งนี้ถานเล่อเวยจะไปแล้ว หลังจากนี้ก็จะไม่ต้องเจอหล่อนแล้ว ต่อไปถ้ามีเรื่องอะไรอีก คุณบอกผมได้เลยนะ”

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ฉินมู่หลานก็ยกยิ้มแล้วพยักหน้า พลางเอ่ยขึ้น “ได้”

เธอค่อนข้างพอใจกับวิธีการจัดการของเซี่ยเจ๋อหลี่ ช่างตรงไปตรงมาและสมเหตุสมผล

หลังจากทั้งสองกินข้าวเสร็จ เซี่ยเจ๋อหลี่ก็ถามเรื่องการไปโรงพยาบาลของฉินมู่หลานอีกครั้ง “พรุ่งนี้คุณต้องไปฝังเข็มให้เจียงเฉิงใช่ไหม”

ฉินมู่หลานได้ยินดังนั้นก็พยักหน้า แล้วกล่าวขึ้น “ใช่ค่ะ พรุ่งนี้ตอนเช้าฉันต้องไปฝังเข็มให้เจียงเฉิง แล้วก็จะคุยกับหมอเลี่ยวเรื่องความร่วมมือ”

หลังจากได้ยินคำพูดของฉินมู่หลาน เซี่ยเจ๋อหลี่ก็ถามด้วยความประหลาดใจ “ร่วมมือ? ร่วมมืออะไรหรือ?”

“ฉันมีสูตรยาอีกสองใบ หลังจากหมอเลี่ยวรู้เรื่องนี้ก็ค่อนข้างอยากได้ เลยได้คุยเรื่องการร่วมมือกับเขาว่าอยากจะให้พวกคุณได้เอาไปใช้ได้ด้วย จึงอยากให้คุณช่วยคุยกับพวก ผบ.ของคุณหน่อย ว่าอยากเอามาใช้หรือเปล่า” พูดจบ ฉินมู่หลานก้อธิบายเรื่องใบสั่งยาทั้งสองใบอีกครั้ง “เป็นยาลดไข้กับยาแก้อักเสบที่มีประสิทธิภาพ มีสรรพคุณดีมาก”

เซี่ยเจ๋อหลี่ได้ยินเช่นนั้น จึงพยักหน้าแล้วเอ่ย “ได้ ผมเข้าใจแล้ว ผมจะบอกผบ.ให้นะ”ดฯฌซ,ฑ๊โฌฮฤ

เมื่อพูดถึงเรื่องสูตรยา เซี่ยเจ๋อหลี่ก็ได้พูดถึงสูตรยาทั้งห้าตัวที่ฉินมู่หลานเคยให้ไป “มู่หลานคุณวางใจเถอะ ผบ. เองก็ทราบเรื่องยาพวกนั้นดี และก็ได้ลองกับตัวเองแล้ว เขารู้สึกชื่นชมคุณมาก อีกไม่นานน่าจะมีรางวัลมอบให้”

ฉินมู่หลานอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเมื่อได้ยินสิ่งนี้

“ผบ. เจียงเก่งเรื่องเยินยอคนมากเลย ทำเอาช่วงนี้ฉันเขินใหญ่แล้ว ตอนนี้ออกไปข้างนอก คนมองฉันเยอะมาก ดูเหมือนว่าจะรู้จักฉันกันหมดแล้ว”

เซี่ยเจ๋อหลี่ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเช่นกัน ก่อนจะเอ่ยขึ้น “ใช่แล้ว ทุกคนรู้จักคุณหมดแล้ว พวกเขาต่างร็ว่าคุณเป็นภรรยาที่ยอดเยี่ยมมาก เลยพากันอิจฉาผม”

เมื่อเห็นใบหน้าของเซี่ยเจ๋อหลี่เต็มเปี่ยมไปด้วยความภูมิใจ ฉินมู่หลานก็อดที่จะบีบแก้มของเขาเสียไม่ได้ “ดีใจอะไรขนาดนั้น”

หลังจากทำแบบนั้น ทั้งสองก็นิ่งอึ้งกันไปครู่หนึ่ง

ในจิตใต้สำนึกของมู่หลาน ใบหน้ายิ้มแป้นแสนภูมิใจของเซี่ยเจ๋อหลี่เมื่อสักครู่ค่อนข้างสะดุดตามาก เธอจึงอดไม่ได้ที่จะบีบจับเนื้อบนแก้มของเขา

เซี่ยเจ๋อหลี่จ้องมองดวงตาของฉินมู่หลาน นัยน์ตานั้นส่องประกาย นับจากมู่หลานแต่งงานกับเขาก็เฉยเมยใส่เขามาโดยตลอด แต่หลังจากทั้งสองได้ผ่านเรื่องราวมาด้วยกันก็รู้สึกได้ถึงความใกล้ชิดมากขึ้น และในตอนนี้มู่หลานก็ได้ใกล้ชิดกับเขามากขึ้นแล้ว ความใกล้ชิดของทั้งคู่ทำให้เขาจิตใจของเขาหวานชื่น

“ใช่ มีความสุขมาก โชคดีจังที่ผมได้แต่งงานกับคุณ”

เมื่อพูดจบ เซี่ยเจ๋อหลี่ก็คว้ามือของฉินมู่หลานมาจับ เพื่อให้เธอถูไถแก้มของตนแรง ๆ อีกครั้ง

หลังจากที่ฉินมู่หลานตกตะลึงในตอนแรก ก็รู้สึกขบขันกับพฤติกรรมของเซี่ยเจ๋อหลี่ “หยุดถูได้แล้ว เดี่ยวหน้าคุณก็เสียโฉมหรอก”

“ก็ได้”

เซี่ยะเจ่อหลี่อมหยุดอย่างว่าง่าย แต่เขาก็ยังไม่ปล่อยมือออกจากฉินมู่หลาน ยังคงกุมมือเรียวบางอันอ่อนโยนของเธอไว้ด้วยกำลังพอดีไม่รุนแรงหรือแผ่วเบาจนเกินไป

ฉินมู่หลานรู้สึกเขินนิดหน่อย จึงเหลือบมองเซี่ยเจ๋อหลี่ แล้วพูดขึ้น “คุณทำอะไรคะ ช่วงบ่ายคุณยุ่งไม่ใช่เหรอ”

“เดี๋ยวผมจะออกไปแล้ว”

พูดจบ เซี่ยเจ๋อหลี่ก็คว้ามือของฉินมู่หลาน แล้วกดริมฝีปากประทับลงไป

เมื่อรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นที่หลังมือ ใบหูของฉินมู่หลานก็เปลี่ยนเป็นสีแดงนิดหน่อย เธอไม่คิดว่าเซี่ยเจ๋อหลี่จะทำแบบนี้ แต่ก็ไม่ได้รังเกียจมัน แถมในใจยังรู้สึกกระชุ่มกระชวยด้วย

เซี่ยเจ๋อหลี่ยังคงจ้องมองฉินมู่หลาน เมื่อเห็นว่าเธอไม่มีท่าทางต่อต้านใด ๆ แววตาจึงเต็มไปด้วยรอยยิ้ม และอดไม่ได้ที่จะโน้มตัวเข้าไปหาภรรยาของตัวเองอย่างช้า ๆ ก่อนจะก้มจูบบนริมฝีปากของเธอทันที

“คุณ…”

ฉินมู่หลานตกตะลึงไปจนหมดสิ้น

เซี่ยเจ๋อหลี่ยังคงโน้มตัวไปด้านข้าง ก่อนจะเอ่ยกระซิบข้างหู “คุณภรรยา…”

ตอนแรกใบหูของฉินมู่หลานแดงเพียงนิดหน่อยเท่านั้น แต่ตอนนี้ทั้งใบหน้าพลันเห่อแดง เธอรีบลุกขึ้นยืนอย่างตื่นตระหนกก่อนจะพูดขึ้น “ฉันจะไปงีบสักหน่อย คุณรีบออกไปทำงานเถอะค่ะ”

หลังจากพูดจบก็รีบเปิดประตูเข้าไปในห้องทันที

เมื่อเห็นฉินมู่หลานกำลังหนีด้วยความอับจนหนทาง เซี่ยเจ๋อหลี่ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะขึ้นมา ภรรยาของเขาช่างน่ารักเสียจริง

แต่เขาก็รู้ว่าตนไม่อาจทำอะไรต่อได้อีกแล้ว จึงตะโกนไปที่ประตู “คุณภรรยา ผมไปก่อนนะ”

ฉินมู่หลานได้ยินเสียงปิดประตู จึงทราบว่าเซี่ยเจ๋อหลี่ออกไปแล้ว หลังจากนั้นเธอก็เปิดประตูแล้วโผล่หัวออกไปมองข้างนอกห้อง สุดท้ายก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยออกมาด้วยเสียงกระซิบ “เกินไปมากเลย น่าอายมากจริงๆ”

เซี่ยเจ๋อหลี่รู้สึกอารมณ์ดีตลอดทั้งช่วงบ่าย แต่เขาก็ยังไม่ลืมสิ่งที่มู่หลานบอกกับเขา จึงไปพบเวินโหย่วเหลียง แล้วอธิบายถึงสูตรยาอีกสองตัวให้ฟัง

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ เวินโหย่วเหลียงก็รีบอ่ยทันที “เอา เอาแน่นอนอยู่แล้ว อาหลี่ ภรรยาของนายเก่งมากเลย สูตรยาที่เธอให้เอาไว้ก่อนหน้านี้ เราลองทำและทดสอบดูแล้ว ผลที่ได้ออกมาน่าทึ่งมาก หลังจากนี้ไม่ว่าภรรยานายจะมีสูตรยาอะไรเราก็จะเอาหมด นายวางใจได้ ส่วนเรื่องราคาก็ต่อรองกันได้”

………………………………………………………………………………………………………………………..

สารจากผู้แปล

รีบไปซะยัยถาน ช้าอีกนิดชีวิตจะหาไม่นะ

พี่หลี่เวอร์ชันคลั่งรักมันเป็นแบบนี้นี่เอง เขินแทนมู่หลานเลยค่ะ

ไหหม่า(海馬)

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

Status: Ongoing
เมื่อแพทย์สาวมือฉมังพบว่าตนเองได้กลายเป็นหญิงอ้วนผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่เป็นที่รักของสามี เธอจะเปลี่ยนเป็นคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก[嫁七零糙汉后,我双胞胎体质藏不住]ผู้แต่ง : 钰儿เรื่องย่อหลังผชิญวรหนักจนวูบ ฉินมู่หลาน แพทย์สาวมือฉมังก็พบว่าตนองได้มาสวมร่างของหญิงอ้วนหลานสาวผู้เชี่ยวชาญด้นสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่มีอะไรดีสักอย่างนอกจากได้สามีหล่อเหลานิสัยดีผู้แสนเย็นขาจากความลั่งรักของตัวเองจจับเขามาแต่งงด้วยสำเร็จ ซึ่งกรสวมวิญญาณในครั้งนี้เธอได้รับภารกิจหลักสามอย่าง หนึ่งคือสร้างเนื้อสร้างตัว สองคือลดน้ำหนักให้ตนเองทำงานทำการสะดวกขึ้น และสามคือทำให้สามีเป็นฝ่ายคลั่งรักเธอแทน คุณหมอฉินจะทำสำเร็จหรือไม่ จะเปลี่ยนเป็นฉินมู่หลานคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท