ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก – ตอนที่ 112 เหมือนกันเล็กน้อย

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ตอนที่ 112 เหมือนกันเล็กน้อย

ตอนที่ 112 เหมือนกันเล็กน้อย

หลังจากเจียงเฉิงจากไป ฉินมู่หลานก็มองเซี่ยเจ๋อหลี่และเอ่ยถามอย่างอดไม่ได้ “พรุ่งนี้จะต้องไปกินข้าวที่นั่นแล้ว พวกเราจะเตรียมของขวัญอะไรไปดีคะ?”

ขณะกล่าวเธอก็นึกถึงของขวัญครั้งล่าสุดที่เจียงเฉิงมอบให้ “ใช่แล้ว ครั้งล่าสุดเจียงเฉิงมอบนาฬิกาข้อมือเรือนหนึ่งให้กับฉันเพื่อแสดงความขอบคุณน่ะค่ะ”

“นาฬิกาข้อมือเหรอ? นาฬิกาข้อมืออะไร?”

เซี่ยเจ๋อหลี่ไม่รู้เรื่องนี้เลยจริงๆ

ฉินมู่หลานเองก็ลืมเสียสนิท หลังจากกลับมาก็นำนาฬิกาไปวางไว้และก็เพิ่งนึกขึ้นได้เมื่อกี้นี้ “ฉันไปหาก่อน”

หลังจากฉินมู่หลานหยิบนาฬิกาข้อมือออกมา เซี่ยเจ๋อหลี่พลันเอ่ยด้วยน้ำเสียงหึงหวงเล็กน้อย “มู่หลาน ผมยังไม่เคยให้นาฬิกาข้อมือกับคุณเลยด้วยซ้ำ คาดไม่ถึงเลยว่าเจียงเฉิงกลับมอบให้คุณแล้ว เขามอบนาฬิกาข้อมือให้ได้ยังไง มอบอั่งเปาให้ยังดีเสียกว่า”

ตอนแรกฉินมู่หลานยังไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้ จนกระทั่งมาเข้าใจในภายหลัง จากนั้นก็เหลือบมองเซี่ยเจ๋อหลี่อย่างอดไม่ได้ “คุณกำลังคิดอะไรอยู่ หรือว่าคนอื่นก็ส่งของขวัญให้ฉันไม่ได้เลย นาฬิกาข้อมือเรือนนี้ผู้บัญชาการและภรรยาเป็นคนเลือกเพื่อแสดงความขอบคุณต่อฉันนะคะ”

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ สีหน้าของเซี่ยเจ๋อหลี่พลันดีขึ้นทันใด

“ที่แท้เป็นผู้บัญชาการและภรรยาของเขาเป็นคนเลือกนี่เอง เช่นนั้นมู่หลานก็รีบใส่เถอะ”

เมื่อฉินมู่หลานได้ยินเช่นนี้ เธอพลันอารมณ์ดีและขำอย่างอดไม่ได้ “หรือว่าคุณยังหึงอยู่คะ”

เซี่ยเจ๋อหลี่เอ่ยยอมรับอย่างลูกผู้ชาย “ใช่ เมื่อกี้ผมหึงนิดหน่อย ผมคิดว่าเจียงเฉิงนั่นซื้อมาเพื่อมอบให้คุณ”

“เจียงเฉิงนอนขาหักอยู่บนเตียง กระทั่งวันนี้เพิ่งจะหายดี เขาจะเอาเวลาที่ไหนไปซื้อนาฬิกาข้อมือกันล่ะคะ”

เมื่อเซี่ยเจ๋อหลี่ได้ยินเช่นนั้นก็พลันรีบยอมรับผิด

“ภรรยา……ผมผิดไปแล้ว” ขณะกล่าวก็รีบนวดไหล่ให้กับฉินมู่หลาน

ฉินมู่หลานพบว่าฝีมือนวดไหล่ของเซี่ยเจ๋อหลี่ช่างทำให้รู้สึกสบายเป็นอย่างมาก หลังจากเขานวดอยู่ครู่หนึ่ง เธอก็ยิ้มเล็กน้อยและเอ่ย “เอาล่ะ ฉันอภัยกับการยอมรับผิดของคุณแล้ว”

เมื่อเห็นฉินมู่หลานยิ้ม เซี่ยเจ๋อหลี่ก็ยิ้มเช่นกัน จากนั้นเอ่ยถึงเรื่องการไปกินข้าวที่บ้านตระกูลเจียงในวันพรุ่งนี้ “ของขวัญน่ะไม่จำเป็นหรอก พวกเรานำผลไม้หรือไม่ก็ขนมอบไปก็พอแล้ว”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฉินมู่หลานก็พยักหน้าและเอ่ย “ค่ะ งั้นพรุ่งนี้เช้าฉันจะไปซื้อของ ครั้งก่อนฉันเห็นแอปเปิลอยู่ในตัวเมือง หากพรุ่งนี้ไปก็จะซื้อแอปเปิล ถ้าหากว่าไม่มีก็จะไปซื้อขนมอบที่สหกรณ์”

ตอนนี้มีผลไม้ไม่มากนัก แต่แอปเปิลมักจะพบเห็นได้ทั่วไป

“ได้ งั้นคุณก็เดินทางระวังด้วย”

เซี่ยเจ๋อหลี่ไม่สามารถออกไปได้จริงๆ จึงไม่สามารถไปเป็นเพื่อนเธอได้

“ฉันไปหลายครั้งแล้ว คุณไม่ต้องห่วงหรอก”

กระทั่งเช้าตรู่วันถัดมา ฉินมู่หลานออกมาด้านนอกแล้ว แต่ว่าวันนี้สภาพอากาศไม่ดีเท่าไรนักทำให้ไม่ได้ซื้อแอปเปิล เธอจึงจำต้องไปร้านสหกรณ์เพื่อซื้อขนมอบและสิ่งของอื่นๆ

หลังจากซื้อของเสร็จแล้ว ฉินมู่หลานก็กลับบ้าน ตอนเที่ยงเซี่ยเจ๋อหลี่ไม่ได้กลับมา ดังนั้นเธอจึงกินอะไรง่ายๆเพียงลำพัง จนกระทั่งตอนเย็นหลังจากเซี่ยเจ๋อหลี่กลับมา ทั้งสองคนก็ไปยังบ้านตระกูลเจียงด้วยกัน

เจียงเฉินเปิดประตูบ้านและเห็นว่าทั้งสองคนมาแล้ว เขาพลันยิ้มและเอ่ย “หมอฉิน พวกคุณมาแล้ว รีบเข้ามาเถอะ”

หลังจากหยวนปิงซินได้ยินคำพูดของลูกชาย หล่อนก็เดินออกมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม จากนั้นคว้าฉินมู่หลานพลางเอ่ย “หมอฉิน ในที่สุดพวกเธอก็มาแล้ว อาหารค่ำเตรียมไว้พร้อมแล้ว พวกเรารีบไปนั่งและกินกันเถอะ”

หยวนปิงซินกระตือรือร้นมาก เจียงอันปังเองก็ยืนอยู่ด้านข้างพร้อมกับทักทายสองสามีภรรยาฉินมู่หลานและเซี่ยเจ๋อหลี่ด้วยรอยยิ้ม อย่างไรก็ตามเขาและฉินมู่หลานนั้นไม่คุ้นเคยกัน เขาก็ย่อมต้องคว้าเซี่ยเจ๋อหลี่ไปพูดคุยด้วย

ผู้คนต่างพูดคุยกันพลางเดินไปนั่งด้านหน้าโต๊ะอาหาร

อาหารมื้อค่ำนี้หลากหลายเป็นอย่างมาก มีทั้งปลาและเนื้อ ทุกอย่างล้วนเป็นอาหารจานหลัก ภายในนั้นยังมีผักดองตุ๋นเต้าหู้ที่ฉินมู่หลานชื่นชอบมากอีกด้วย ช่วงนี้ฉินมู่หลานอยากกินอาหารรสเปรี้ยว ไม่ว่าจะรสเปรี้ยวหวานหรือรสเปรี้ยวเค็มเธอล้วนชอบทุกอย่าง

หยวนปิงซินเห็นสถานการณ์เช่นนี้พลันยิ้มและเอ่ยอย่างอดไม่ได้ “รสเปรี้ยวเป็นผู้ชายรสเผ็ดเป็นผู้หญิง มู่หลานไม่แน่ว่าครรภ์นี้ของเธออาจจะเป็นเด็กชายอ้วนจ้ำม่ำนะ”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฉินมู่หลานอดไม่ได้ที่จะเอ่ย “ลูกชายหรือลูกสาวต่างก็ดีทั้งนั้นค่ะ ฉันชอบหมดเลย”

เซี่ยเจ๋อหลี่เองก็รีบแสดงความเห็น “อันที่จริงผมชอบลูกสาวมากกว่า ลูกสาวเชื่อฟังและรู้ความมากกว่า”

เขาเอ่ยอย่างจริงจัง คาดหวังจะมีลูกสาวที่เป็นเสมือนกับฉินมู่หลานจริงๆ

เมื่อเห็นเซี่ยเจ๋อหลี่กล่าวเช่นนี้ หยวนปิงซินอดไม่ได้ที่จะหัวเราะและเอ่ย “ดูเหมือนว่าอาหลี่จะเข้าใจหลักการเป็นอย่างดี แบบนี้น่ะดีมากเลย”

สามีภรรยาคู่นี้ไม่เพียงแต่จะมีรูปลักษณ์โดดเด่นเท่านั้น พฤติกรรมเองก็ดีมากเช่นกัน และดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองคนนี้เป็นไปได้ด้วยดี เป็นสองสามีภรรยาหนุ่มสาวที่ดีมาก

มื้อนี้เป็นมื้ออาหารที่ทั้งแขกและเจ้าบ้านต่างก็กินอาหารกันอย่างมีความสุข กระทั่งฉินมู่หลานและเซี่ยเจ๋อหลี่กำลังจะกลับบ้าน หยวนปิงซินยังเตรียมสิ่งของให้พวกเขานำกลับไปด้วย “มู่หลาน นี่คือซาลาเปาเนื้อที่ฉันทำเอง ตอนนี้อากาศหนาวสามารถเก็บไว้ได้ พวกเธอนำกลับไปและลองชิมฝีมือของฉันดู”

โดยไม่รอให้ฉินมู่หลานเอ่ยปาก ตะกร้าที่เต็มไปด้วยซาลาเปาก็ถูกยัดใส่ภายในมือของเซี่ยเจ๋อหลี่ “อาหลี่ เธอถือเถอะ อย่าให้มู่หลานถือเลย”

เมื่อเซี่ยเจ๋อหลี่ได้ยินเช่นนั้น เขายิ้มและเอ่ยอย่างอดไม่ได้ “ครับคุณป้า ผมถือเอง”

หลังจากฉินมู่หลานและเซี่ยเจ๋อหลี่จากไป หยวนปิงซินจ้องมองเจียงอันปังและเอ่ยอย่างอดไม่ได้ “อาหลี่และภรรยาของเขานั้นไม่เลวเลยจริงๆ เฮ้อ……เมื่อหันกลับมามองอาเฉิงของพวกเราแล้ว ฉันไม่อยากจะมองเขาเลยแม้แต่น้อย”

ยากนักที่เจียงอันปังจะไม่พยักหน้าเห็นด้วย “ใช่ จนกระทั่งตอนนี้ก็ยังหาภรรยาไม่ได้ ไร้ประโยชน์จริงๆ”

เจียงเฉิงเหลือบมองพ่อแม่ของเขาอย่างไร้ซึ่งทางเลือก จากนั้นก็รีบกลับเข้าไปภายในห้อง

อีกด้านหนึ่ง ระหว่างที่ฉินมู่หลานและเซี่ยเจ๋อหลี่เดินทางกลับบ้าน ทั้งสองคนก็พูดคุยและหัวเราะกัน แต่ในไม่ช้าฉินมู่หลานได้สังเกตเห็นอารมณ์ที่เปลี่ยนไปของเซี่ยเจ๋อหลี่ จากนั้นจึงมองตามสายตาของเขา และพบเห็นชายหญิงวัยรุ่นคู่หนึ่งยืนอยู่ภายใต้แสงไฟสลัวของเสาไฟข้างถนน เมื่อมองไปแล้วราวกับว่ากำลังถกเถียงอะไรบางอย่างกันอยู่

ฉินมู่หลานไม่รู้จักผู้ชายตรงหน้า แต่กลับจำผู้หญิงวัยรุ่นคนนั้นได้ หล่อนคือเริ่นม่านลี่ที่เธอเคยพบเมื่อครั้งก่อน ผู้ชายที่เห็นคนนั้นก็น่าจะเป็นเหยาอี้หนิงสามีของเธอ

ขณะนี้เหยาอี้หนิงและเริ่นม่านลี่เองก็เห็นฉินมู่หลานและเซี่ยเจ๋อหลี่แล้ว ทั้งสองคนย่อมหยุดถกเถียงกันและมองมาทางพวกเขา

เมื่อเหยาอี้หนิงเห็นเซี่ยเจ๋อหลี่ สีหน้าก็เต็มไปด้วยการเย้ยหยัน

“ที่แท้ก็เป็นหัวหน้าเซี่ยของพวกเรานี่เอง เพิ่งกลับมาจากกินข้าวที่บ้านของผู้บัญชาการเหรอ ก่อนหน้านี้ผมมองไม่ออกเลยว่าคุณจะมีวิธีการเช่นนี้”

เซี่ยเจ๋อหลี่ได้ยินเช่นนี้ก็ตอบอย่างไร้ซึ่งความสุภาพเช่นกัน “ผมก็นึกว่าใคร ที่แท้คือรองหัวหน้าเหยาของพวกเรานี่เอง แล้วคุณกับน้องสะใภ้ล่ะมาทำอะไรที่นี่ คงจะไม่ได้ประสบปัญหาอะไรหรอกใช่ไหม ต้องการความช่วยเหลือหรือเปล่า”

“ฮึ……พวกเราปกติดีและไม่ได้ต้องการความช่วยเหลือจากคุณ”艾琳小說

เมื่อเอ่ยประโยคสุดท้าย เหยาอี้หนิงก็หันมองฉินมู่หลานพร้อมกับเลิกคิ้วขึ้นและเอ่ย “คนนี้คงจะเป็นหมอฉินผู้โด่งดังใช่หรือเปล่า ได้ยินชื่อเสียงเรียงนามไม่สู้การได้พบหน้า”

เซี่ยเจ๋อหลี่ก้าวมาบังฉินมู่หลานไว้ด้านหลังและเอ่ยด้วยสีหน้าเยือกเย็น “เหยาอี้หนิง ในเมื่อพวกคุณไม่ต้องการความช่วยเหลือ อย่างนั้นพวกเราขอตัวกลับก่อน”

ฉินมู่หลานสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าเซี่ยเจ๋อหลี่ไม่ชอบเหยาอี้หนิงที่อยู่ตรงหน้านี้เป็นอย่างมาก แต่เธอก็ไม่ได้ถามอะไรมากนัก อย่างไรเสียพวกเขาก็ทำงานหน่วยงานเดียวกัน คนมากมายขนาดนั้นเป็นไปไม่ได้หรอกที่ทุกคนจะมีความสัมพันธ์สนิทสนมกลมเกลียวกัน

เมื่อทั้งสองคนเดินผ่านสองสามีภรรยาเหยาอี้หนิง เหยาอี้หนิงก็ประโยคหนึ่งขึ้นมาด้วยเสียงแผ่วเบา “เซี่ยเจ๋อหลี่ อย่าคิดว่าตัวเองมีอำนาจมากนักเลย คุณได้รับความสำคัญจากผู้บัญชาการนั้นก็เพราะภรรยาของคุณต่างหาก”

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ภายในใจของฉินมู่หลานพลันไม่สบอารมณ์ จากนั้นขมวดคิ้วและจ้องมอง

ขณะนี้ระยะห่างระหว่างพวกเขานั้นใกล้กันมาก ฉินมู่หลานเองก็มองเห็นใบหน้าของเหยาอี้หนิงได้อย่างชัดเจน จากนั้นก็อดไม่ได้ที่จะชำเลืองมองเซี่ยเจ๋อหลี่ ไม่รู้ว่าเธอคิดไปเองหรือเปล่าที่รู้สึกว่าใบหน้าของเซี่ยเจ๋อหลี่และเหยาอี้หนิงค่อนข้างคล้ายกัน

…………………………………………………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

มีแนวโน้มจะเป็นญาติกันหรือเปล่านะ เพราะแม่พี่หลี่ก็คนตระกูลเหยานี่

ไหหม่า(海馬)

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

Status: Ongoing
เมื่อแพทย์สาวมือฉมังพบว่าตนเองได้กลายเป็นหญิงอ้วนผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่เป็นที่รักของสามี เธอจะเปลี่ยนเป็นคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก[嫁七零糙汉后,我双胞胎体质藏不住]ผู้แต่ง : 钰儿เรื่องย่อหลังผชิญวรหนักจนวูบ ฉินมู่หลาน แพทย์สาวมือฉมังก็พบว่าตนองได้มาสวมร่างของหญิงอ้วนหลานสาวผู้เชี่ยวชาญด้นสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่มีอะไรดีสักอย่างนอกจากได้สามีหล่อเหลานิสัยดีผู้แสนเย็นขาจากความลั่งรักของตัวเองจจับเขามาแต่งงด้วยสำเร็จ ซึ่งกรสวมวิญญาณในครั้งนี้เธอได้รับภารกิจหลักสามอย่าง หนึ่งคือสร้างเนื้อสร้างตัว สองคือลดน้ำหนักให้ตนเองทำงานทำการสะดวกขึ้น และสามคือทำให้สามีเป็นฝ่ายคลั่งรักเธอแทน คุณหมอฉินจะทำสำเร็จหรือไม่ จะเปลี่ยนเป็นฉินมู่หลานคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท