ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก – ตอนที่ 117 ฉันจะหมั้นแล้ว

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ตอนที่ 117 ฉันจะหมั้นแล้ว

ตอนที่ 117 ฉันจะหมั้นแล้ว

เมื่อเสิ่นหรูฮวนมาถึง ฉินมู่หลานและเซี่ยเจ๋อหลี่กำลังจะออกจากบ้านพอดี

ฉินมู่หลานเห็นเสิ่นหรูฮวนแล้วก็มีสีหน้าฉายความประหลาดใจ และเอ่ยอย่างแปลกใจ “หรูฮวน เธอมาได้ยังไงน่ะ เดิมทีฉันคิดว่ามาเมืองหลวงครั้งนี้แล้วหากมีเวลาพอฉันถึงจะไปหาเธอ คาดไม่ถึงเลยว่าเธอจะมาหาฉันแล้ว”

แวบแรกที่เสิ่นหรูฮวนเห็นฉินมู่หลาน หล่อนก็รีบอยากเข้าไปกอดเธอ แต่ถูกเซี่ยเจ๋อหลี่ขวางไว้

เมื่อเห็นเซี่ยเจ๋อหลี่ขวางอยู่ด้านหน้า เสิ่นหรูฮวนพลันจ้องมองด้วยสีหน้าสับสน

ลุงเจี่ยงรีบก้าวเท้ามาด้านหน้าและเอ่ย “คุณเสิ่น คุณหนูของพวกเรากำลังตั้งครรภ์ ไม่อาจพุ่งเข้าไปกอดหล่อนอย่างรุนแรงได้”

“อ๊ะ……ใช่ ๆ ดูความจำของฉันสิ”

สาเหตุหลักเพราะว่าตอนนี้ยังมองไม่ออกว่าฉินมู่หลานตั้งครรภ์ ดังนั้นหล่อนเองก็ไม่ได้นึกถึงเรื่องนี้

ฉินมู่หลานชำเลืองมองเซี่ยเจ๋อหลี่ด้วยความจนใจเล็กน้อยและเอ่ย “อันที่จริงแล้วฉันก็ไม่ใช่ตุ๊กตากระเบื้องบอบบางนะคะ พวกคุณไม่จำเป็นต้องกังวลขนาดนั้น”

เสิ่นหรูฮวนคว้าแขนของฉินมู่หลานไว้พร้อมกับเอ่ย “มู่หลาน เธอควรต้องระมัดระวังจริง ๆ เป็นฉันเองที่ตื่นเต้นมากเกินไปและลืมว่าเธอกำลังตั้งครรภ์ อย่างไรก็ตามเธอควรจะบอกฉันให้เร็วกว่านี้ว่าเธอมาเมืองหลวง ฉันจะได้เลี้ยงต้อนรับเธอ”

“พวกเรามาเมืองหลวงครั้งนี้ก็อยู่ได้เพียงแค่ไม่กี่วัน เลยไม่ได้บอกเธอน่ะ”

เมื่อเอ่ยคำพูดสุดท้าย ฉินมู่หลานจ้องมองเสิ่นหรูฮวนด้วยความสงสัยและเอ่ยถาม “ใช่แล้วหรูฮวน เธอรู้ได้อย่างไรว่าพวกเรามาเมืองหลวง?”

“ฉันเจอฟู่ซวี่ตง เขาเป็นคนบอกฉัน”

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ฉินมู่หลานพยักหน้าอย่างอดไม่ได้ ไม่แปลกใจสักนิด

เสิ่นหรูฮวนเห็นว่าฉินมู่หลานและพวกเขากำลังจะออกไปข้างนอก หล่อนเอ่ยอย่างอดไม่ได้ “มู่หลาน ไม่อย่างนั้นฉันออกไปกับพวกเธอได้ไหม เมืองหลวงนี้ฉันรู้จักเป็นอย่างดี ฉันจะนำทางให้กับพวกเธอเอง”

ฉินมู่หลานย่อมพยักหน้าเห็นด้วย “ได้เลย งั้นวันนี้ต้องรบกวนเธอแล้วล่ะ”

เดิมทีเจี่ยงสือเหิงวางแผนจะออกไปเดินเล่นเป็นเพื่อนฉินมู่หลานและเซี่ยเจ๋อหลี่ แต่วันนี้มีเสิ่นหรูฮวนไปเป็นเพื่อนพวกเขาแล้ว ดังนั้นเขาคงไม่จำเป็นต้องไป “มู่หลาน อาหลี่ งั้นพวกเธอไปเที่ยวให้สนุกนะ” จากนั้นหันไปมองเสิ่นหรูฮวนและเอ่ย “หรูฮวน เธอเองก็มากินอาหารเที่ยงด้วยกันสิ”

“อาเจี่ยง ตอนเที่ยงพวกเราไม่กลับมากินข้าวนะคะ ฉันจะพามู่หลานไปทานเป็ดย่างค่ะ”

เมื่อเจี่ยงสือเหิงได้ยินเช่นนั้น เขายิ้มอย่างอดไม่ได้และเอ่ย “งั้นก็ได้ พวกเธอเที่ยวให้สนุกนะ”

ในไม่ช้า ทั้งสามคนก็ออกไปเดินเที่ยวด้านนอก ฉินมู่หลานนึกถึงเรื่องที่เสิ่นหรูฮวนถูกจับครั้งก่อนและเอ่ยถามอย่างอดไม่ได้ “เธอตรวจสอบเรื่องก่อนหน้านี้แล้วหรือยัง?”

เมื่อเอ่ยเช่นนี้ อารมณ์ของเสิ่นหรูฮวนพลันเปลี่ยนไปเล็กน้อยโนเวลพีดีเอฟ

“ตรวจสอบชัดเจนแล้ว”

ฉินมู่หลานเห็นท่าทางนี้ของเสิ่นหรูฮวน จึงคิดว่าการคาดเดาของตนเองอาจถูกต้อง “เพื่อนคนนั้นของเธอเป็นคนทำจริง ๆ เหรอ?”

“ใช่ เป็นฟางโหรวจริง ๆ” สีหน้าของเสิ่นหรูฮวนแลดูน่าเกลียดยิ่ง “เห็นได้อย่างชัดเจนว่าพวกเราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน แต่หล่อนกลับทำแบบนี้ เป็นเพราะว่าครอบครัวของฉันดีกว่าหล่อน หล่อนเลยรู้สึกรับไม่ได้และอยากผลักให้ฉันตกลงไปในโคลนตม”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของฉินมู่หลานไม่ได้เปลี่ยนไปมากนัก อันที่จริงโลกนี้ก็มีคนที่เห็นคนอื่นดีกว่าตนไม่ได้อยู่จริง ๆ “เอาล่ะ เธอไม่ต้องโกรธนักหรอก รู้เร็วหน่อยก็ดีแล้ว หล่อนจะได้ไม่ต้องทำเรื่องเลวร้ายอีก แต่ว่าพวกเธอจัดการกับหล่อนอย่างไร?”

“พ่อของฉันเป็นคนจัดการน่ะ ฟางโหรวถูกจับไปแล้วและครอบครัวของหล่อนย้ายออกไปจากเมืองหลวงแล้ว”

แม้ว่าฟางโหรวจะถูกจัดการไปแล้ว แต่เสิ่นหรูฮวนยังคงรู้สึกเศร้า ด้วยคิดว่าจะยังคบหาสหายคนนี้ได้ตลอดไป แต่คาดไม่ถึงเลยว่าหล่อนจะชั่วร้ายขนาดนี้ หล่อนไม่กล้านึกภาพเลยว่าหากตอนนั้นไม่เผอิญพบกับฉินมู่หลานแล้วตนจะเป็นอย่างไร

เมื่อเห็นสีหน้าเศร้าหมองของเสิ่นหรูฮวน ฉินมู่หลานตบไหล่ของหล่อนพลางเอ่ย “เอาล่ะหรูฮวน เดี๋ยวก็เป็นวันขึ้นปีใหม่แล้ว มีความสุขหน่อย อย่าปล่อยให้คนที่ไม่คู่ควรเหล่านั้นมาส่งผลกระทบต่อความรู้สึกเลย”

ได้ยินคำพูดนี้ เสิ่นหรูฮวนพลันคลี่ยิ้มและกล่าว “ใช่ มีความสุขหน่อย ให้ใจเพื่อคนแบบนั้นช่างไม่คุ้มค่าเลย ยิ่งไปกว่านั้นเธอมายังเมืองหลวง ด้วยสถานะคนในพื้นที่ของเมืองหลวง ฉันจะต้องให้การต้อนรับเธอเป็นอย่างดี”

ฉินมู่หลานเห็นว่าอารมณ์ของเสิ่นหรูฮวนดีขึ้นแล้วเล็กน้อย เธอยิ้มและอดไม่ได้ที่จะเอ่ย “ใช่ เธอจะต้องให้การต้อนรับฉันอย่างดี ยากนักที่ฉันจะมาเมืองหลวงสักครั้ง ฉันอยากลิ้มรสเมนูเด็ดของเมืองหลวงและวางแผนจะซื้อของฝากกลับบ้านเกิดสักหน่อย”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ เสิ่นหรูฮวนตบหน้าอกของตนเองพลางเอ่ยรับประกัน “มู่หลาน เธอวางใจได้เลย ฉันจะพาเธอไปกินเมนูเด็ดรสต้นตำรับของเมืองหลวง จากนั้นจะพาเธอไปซื้อของฝากด้วย”

“เยี่ยมเลย”

เซี่ยเจ๋อหลี่เดินตามหลังทั้งสองคนโดยไม่กล่าวอะไร เมื่อใดก็ตามที่ผู้คนรอบข้างเยอะขึ้น เขาจะก้าวไปด้านหน้าอย่างรวดเร็วเพื่อกีดกั้นฝูงชนและปกป้องฉินมู่หลาน

เมื่อเสิ่นหรูฮวนเห็นความสัมพันธ์ระหว่างเซี่ยเจ๋อหลี่และฉินมู่หลาน นัยน์ตาของหล่อนเต็มไปด้วยความอิจฉาขณะเอ่ย “มู่หลาน ความสัมพันธ์ของเธอกับพี่ใหญ่เซี่ยนั้นดีจริง ๆ ไม่รู้ว่าหลังจากที่ฉันแต่งงานแล้วสามีของฉันจะเป็นแบบนี้หรือเปล่า”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฉินมู่หลานยิ้มอย่างอดไม่ได้และเอ่ย “แน่นอน เธอจะต้องพบสามีที่ดีและรักเธออย่างแน่นอน”

เสิ่นหรูฮวนได้ยินเช่นนั้น ใบหน้าพลันแดงระเรื่อ จากนั้นหล่อนโน้มตัวเข้าหาใบหูของฉินมู่หลานพร้อมกับเอ่ยเสียงเบา “มู่หลาน อันที่จริง…ฉันกำลังจะหมั้นแล้ว”

“อะไรนะ…”

ฉินมู่หลานจ้องมองไปด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย เธอจำได้ว่าก่อนหน้านี้เสิ่นหรูฮวนไม่มีแฟนดฯฌซ,ฑ๊โฌฮฤ

ตอนแรกเสิ่นหรูฮวนรู้สึกเขินอายเล็กน้อย แต่เมื่อเห็นท่าทางตื่นตระหนกเช่นนี้ของฉินมู่หลานและคิดว่าอีกฝ่ายอาจจะกล่าวโทษตนเองที่ไม่แจ้งข่าวให้เร็วกว่านี้ จึงรีบเอ่ยอธิบาย “มู่หลาน อันที่จริงพวกเราเพิ่งจะยืนยันการหมั้นเมื่อวานนี้ เลยยังไม่ได้บอกเธอ เดิมทีหลังจากช่วงหลังปีใหม่ฉันคิดจะเขียนจดหมายเธอ คาดไม่ถึงว่าพวกเธอจะมาเมืองหลวงเสียก่อน”

ฉินมู่หลานได้ยินคำอธิบายของเสิ่นหรูฮวน จากนั้นเอ่ย “ฉันไม่ได้หมายความว่าแบบนั้นเลย ฉันเพียงอยากจะถาม ไม่ใช่ว่าก่อนหน้านี้เธอไม่มีแฟนหรอกเหรอ ทำไมถึงหมั้นกันอย่างกะทันหันล่ะ”

เมื่อกล่าวเช่นนี้ เสิ่นหรูฮวนทอดถอนหายใจและเอ่ย “หลังจากฉันกลับมายังเมืองหลวง ครอบครัวได้แนะนำให้กับฉัน อันที่จริง…”

หล่อนเม้มริมฝีปากและเอ่ยด้วยสีหน้าเศร้าหมอง “ก่อนหน้านี้ฉันหายตัวไปหลายวัน หลายคนคาดเดาว่ามีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้นกับฉัน แม้ว่าฉันจะกลับมาโดยไม่ได้รับบาดเจ็บและครอบครัวของฉันได้ปกปิดเรื่องนี้ไว้ แต่คนบางส่วนก็ยังรู้เรื่องนี้ ดังนั้นเรื่องการแต่งงานของฉันเลยได้รับผลกระทบ ทางครอบครัวจึงแนะนำครอบครัวที่มีสถานะแย่กว่าครอบครัวของฉันเล็กน้อยให้กับฉัน คิดว่าหลังจากที่พวกเราได้แต่งงานกันแล้ว ตระกูลของสามีจะเคารพฉันมากขึ้นเล็กน้อย”

ฉินมู่หลานพลันทอดถอนใจหลังจากได้ยินเช่นนี้

เรื่องนี้ไม่สามารถพูดอะไรได้จริง ๆ

ในยุคนี้ชื่อเสียงยังคงมีความสำคัญมาก แม้เสิ่นหรูฮวนจะไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่คนบางส่วนก็ยังไม่เชื่อ ดังนั้นที่คู่สามีภรรยาเสิ่นเจิ้นอวี่คิดก็ถูกต้องแล้วกับการตามหาตระกูลที่อ่อนแอกว่าตระกูลเสิ่น ในอนาคตหรูฮวนจะได้ไม่โดนรังแก

“ในเมื่อครอบครัวของเธอเป็นคนหามาให้เธอ เช่นนั้นก็น่าจะดีนะ”

ใบหน้าของเสิ่นหรูฮวนแดงก่ำพลางพยักหน้า “ใช่ คุณเจิ้งเขาดีมาก ถ้าหากมีโอกาส พวกเราไปกินข้าวด้วยกันนะ ฉันจะแนะนำเขาให้พวกเธอรู้จัก”

ฉินมู่หลานพยักหน้าตอบรับและเอ่ย “ได้เลย”

ทั้งสองคนเดินไปพลางพูดคุยกันไปพลาง แต่ในไม่ช้า ฝีเท้าของเสิ่นหรูฮวนพลันหยุดนิ่ง จากนั้นเอ่ยด้วยความประหลาดใจ “เอ๊ะ…ทำไมคุณเจิ้งถึงอยู่ที่นี่ล่ะ?”

………………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

กล่าวถึงคู่หมั้นก็เจอตัวเลย คู่หมั้นหรูฮวนมาทำอะไรนี่ จะเป็นคนดีอย่างที่แสดงต่อหน้าพ่อแม่หรูฮวนหรือเปล่านะ

ไหหม่า(海馬)

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

Status: Ongoing
เมื่อแพทย์สาวมือฉมังพบว่าตนเองได้กลายเป็นหญิงอ้วนผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่เป็นที่รักของสามี เธอจะเปลี่ยนเป็นคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก[嫁七零糙汉后,我双胞胎体质藏不住]ผู้แต่ง : 钰儿เรื่องย่อหลังผชิญวรหนักจนวูบ ฉินมู่หลาน แพทย์สาวมือฉมังก็พบว่าตนองได้มาสวมร่างของหญิงอ้วนหลานสาวผู้เชี่ยวชาญด้นสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่มีอะไรดีสักอย่างนอกจากได้สามีหล่อเหลานิสัยดีผู้แสนเย็นขาจากความลั่งรักของตัวเองจจับเขามาแต่งงด้วยสำเร็จ ซึ่งกรสวมวิญญาณในครั้งนี้เธอได้รับภารกิจหลักสามอย่าง หนึ่งคือสร้างเนื้อสร้างตัว สองคือลดน้ำหนักให้ตนเองทำงานทำการสะดวกขึ้น และสามคือทำให้สามีเป็นฝ่ายคลั่งรักเธอแทน คุณหมอฉินจะทำสำเร็จหรือไม่ จะเปลี่ยนเป็นฉินมู่หลานคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท