ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก – ตอนที่ 129 ย้ายไปอาศัยที่ฐานทัพอย่างเป็นทางการ (1)

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ตอนที่ 129 ย้ายไปอาศัยที่ฐานทัพอย่างเป็นทางการ (1)

ตอนที่ 129 ย้ายไปอาศัยที่ฐานทัพอย่างเป็นทางการ (1)

เมื่อได้ยินสิ่งที่เซี่ยเจ๋อน่าเอ่ย ฉินมู่หลานก็อดมองเสียไม่ได้ จึงได้เห็นว่ารูปร่างของอีกฝ่ายค่อนข้างกลมนิดหน่อย ทว่าสีหน้าหล่อนกลับไม่ค่อยสู้ดีนัก เห็นได้ชัดว่าถึงแม้เซี่ยเจ๋อน่าจะตั้งครรภ์แล้ว แต่ก็ไม่ได้รับการดูแลดีขนาดนั้น

ประกอบกับเซี่ยเจ๋อน่าไม่รู้จักดูแลตัวเองให้ดีอยู่แล้ว

หลังจากที่เธอสร้างสถานการณ์ให้สองคนนั้นไม่นาน ก็ได้ฝังเข็มให้หล่อนกับมือตัวเอง ตอนแรกเธอคิดว่าหากเซี่ยเจ๋อน่ายอมเปลี่ยนแปลงตัวเอง เธอจะทำให้หล่อนกลับมาแข็งแรงเหมือนเดิมอีกครั้ง แต่แล้วเซี่ยเจ๋อน่าก็ยังเลวทรามเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน ครั้งก่อนยังหวังจะทำให้เธอแท้งลูกเสียด้วยซ้ำ เมื่อเป็นเช่นนั้นก็ค่อย ๆ อ่อนแอลงแบบนี้ไปนั่นแหละ ในเมื่อเซี่ยเจ๋อน่ากำลังตั้งครรภ์ ดังนั้นหลังจากคลอดลูกแล้วสภาพร่างกายหล่อนก็จะอ่อนแอลงกว่าเดิมมาก

เมื่อคิดได้เช่นนั้น ฉินมู่หลานก็ละสายตาเมินเฉยเซี่ยเจ๋อน่าอีกครั้ง

เมื่อเซี่ยเหวินปิงได้ยินคำพูดของลูกสาว แววตาก็เต็มไปด้วยความสับสน เขาไม่เคยคิดว่าลูกสาวจะตั้งครรภ์ เช่นนั้นหล่อนคงหนีห่างจากเกาหยวนได้ยากมากขึ้น เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ เขาก็รู้สึกหมดความอดทนกับเซี่ยเจ๋อน่าและเกาหยวนที่อยู่ตรงหน้า

“พวกแกรีบไปซะ บ้านนี้ไม่ต้อนรับพวกแก”

เมื่อได้ยินสิ่งที่ผู้เป็นพ่อเอ่ย ท่าทางหยิ่งผยองของเซี่ยเจ๋อน่าในตอนแรกก็ชะงักลงในทันที หล่อนหันมองเซี่ยเหวินปิงก่อนจะเอ่ยพูดอย่างรู้สึกเหลือเชื่อ “พ่อ พ่อเกลียดหนูมากขนากนั้นเลยเหรอ วันปีใหม่ทั้งทียังจะไล่พวกเราอีก”

เกาหยวนที่อยู่ด้านข้าง ตอนแรกก็อยากมาบ้านตระกูลเซี่ยเพื่อรักษาความสัมพันธ์กับตระกูลเซี่ย เนื่องจากตระกูลเซี่ยยังมีเซี่ยเจ่อหลี่ที่ทำงานอยู่ในกองทัพ แต่ไม่คิดเลยว่าพ่อตาจะเกลียดตัวเองมากขนาดนี้ แค่ก้าวเข้าประตูบ้านยังไม่ได้เสียด้วยซ้ำ

ในตอนนั้นเอง เหยาจิ้งจือก็เดินออกมา แน่นอนว่าหล่อนได้ยินสิ่งที่หลายคนพูดคุยกัน แล้วก็ทราบด้วยว่าลูกสาวตั้งครรภ์แล้ว ความรู้สึกจึงปั่นป่วนเล็กน้อย แต่ในเมื่อสามีพูดเช่นนั้น และลูกชายคนเล็กกับลูกสะใภ้ก็อยู่ที่นี่ หล่อนจึงไม่สามารถเอ่ยอะไรได้ง่าย ๆ ไม่อย่างนั้นอาจเป็นการทำร้ายจิตใจมู่หลาน

ระหว่างที่เหยาจิ้งจือกำลังรู้สึกปั่นป่วน ความคิดในใจสับสน เซี่ยเจ่อเหว่ยพร้อมกับภรรยาและลูกก็กลับมาแล้ว ทันทีที่เขาเห็นเซี่ยเจ๋อน่า สีหน้าก็มืดมนลง ก่อนจะเอ่ยแบบเดียวกับที่เซี่ยเหวินปิงพูด “เซี่ยเจ๋อน่า เธอมาทำอะไรที่นี่”

เซี่ยเจ่อหน่าเห็นครอบครัวของพี่ใหญ่กลับมาแล้ว นอกจากนี้พวกเขายังขวางทางเข้าประตูบ้านด้วย จึงได้แต่รู้สึกอึดอัดใจ

“พ่อ แม่ จะเอาแต่มองพวกเรายืนอยู่ข้างนอกเหรอ หนูก็เป็นลูกสาวแท้ ๆ นะ แล้วตอนนี้ก็กำลังท้องด้วย ไม่อยากให้หนูเข้าไปนั่งพักจริงเหรอ จะทนดูหนูยืนอยู่ตลอดเวลาเลยหรือไง” หลังจากพูดจบก็อดไม่ได้ที่จะโซซัดโซเซ รู้สึกเหมือนเวียนหัวนิดหน่อย

ตั้งแต่ตั้งครรภ์ เซี่ยเจ๋อน่ารู้สึกเหนื่อยมาก เวียนศีรษะอยู่บ่อยครั้ง นอกจากนี้ก้าวเดินเพียงไม่กี่ก้าวก็รู้สึกหายใจหอบเหนื่อย แต่ก็ทราบดีว่าการตั้งครรภ์เป็นอะไรที่น่าเบื่อหน่ายมาก จึงไม่ได้คิดอะไรมากมายเกี่ยวกับเรื่องนี้ ครั้งนี้ก็คงเป็นเพราะรีบ อีกทั้งยังยืนอยู่นานด้วย จึงเริ่มรู้สึกทนไม่ไหว

เหยาจิ้งจือเห็นลูกสาวเป็นเช่นนี้ ภายในใจจึงรู้สึกทุกข์ใจ แต่…สิ่งที่ลูกสาวเคยทำเอาไว้ก่อนหน้านี้มันช่างโหดเหี้ยมเกินทน ดังนั้นเมื่อเห็นลูกสาวเป็นเช่นนี้ คนอื่นจึงพากันเมินเฉย

ฉินมู่หลานกับเซี่ยเจ่อหลี่ไม่มีท่าทางอะไรเลย เซี่ยเจ๋อหลี่ถึงกับพาตัวฉินมู่หลานเดินไป

“มู่หลาน เพิ่งกินมื้อกลางวันเสร็จ คุณต้องไปพักผ่อนสักหน่อย”

ฉินมู่หลานรู้สึกง่วงนอนนิดหน่อยจริง ๆ จึงพยักหน้า แล้วเดินตามไป

เซี่ยเจ๋อน่าเห็นทั้งสองกำลังเข้าบ้านไป ไม่ทันคิดอะไร ก็คิดรั้งพวกเขาเอาไว้ เซี่ยเจ๋อหลี่จึงทำเพียงแค่หันปรายตามองกลับมา สายตาเย็นชานั้นทำให้เซี่ยเจ๋อน่ารู้สึกเย็นวาบไปถึงหัวใจ รีบชะงักมือโดยพลัน

เซี่ยเจ๋อหลี่เห็นดังนั้น จึงหันกลับไปอีกครั้ง แล้วพาฉินมู่หลานเข้าบ้านไปทันที

เซี่ยเจ่อเหว่ยเห็นว่าน้องชายกับน้องสะใภ้ของตนเข้าไปแล้ว เขาก็พาลูกและภรรยาของตนเข้าบ้านไปทันที

เซี่ยเจ๋อน่าเห็นพวกเขาเข้าไปในบ้านกันหมดแล้ว หล่อนจึงจะเข้าไปบ้าง แต่ก็ถูกเซี่ยเหวินปิงขวางไว้เสียก่อน “ไม่อนุญาตให้พวกแกเข้ามา”

“พ่อ…ทำไมพ่อทำแบบนี้”

เซี่ยเหวินปิงรู้สึกผิดหวังกับลูกสาวคนนี้มาก “เซี่ยเจ๋อน่า ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่แกแต่งงานกับเกาหยวนแบบไม่เป็นทางการเลย แต่สิ่งที่แกทำกับพี่สะใภ้รองของแกน่ะมันทำให้พวกฉันผิดหวัง ในเมื่อตอนนี้แกตั้งท้องแล้ว หลังจากนี้ก็จงใช้ชีวิตอยู่กับเกาหยวนให้ดี ไม่ต้องเสนอหน้ากลับมาบ้านนี้แล้ว”ดฯฌซ,ฑ๊โฌฮฤ

“พ่อ พ่อ…”

ตอนแรกเซี่ยเจ๋อน่ามั่นใจมากว่าในฐานะที่ตนเป็นลูกสาวแท้ ๆ ของตระกูลเซี่ย พ่อกับแม่ต้องไม่มีทางปฏิเสธตนอย่างแน่นอน แต่ครั้งนี้หล่อนรู้สึกแล้วว่าผู้เป็นพ่อไม่ต้องการหล่อนอีกต่อไป บ้านหลังนี้ไม่มีที่ว่างให้หล่อนอีกต่อไป แค่เพราะหล่อนแต่งงานกับเกาหยวน จึงไม่มีบ้านเกิดให้กลับอีกต่อไป

เกาหยวนเห็นว่าตระกูลเซี่ยเหมือนจะไม่ยอมรับ สีหน้าของเขาจึงมืดมนลงราวกับหยดหมึก

เมื่อเห็นว่าบ้านตระกูลเซี่ยมีเรื่องวุ่นวาย คนรอบข้างจึงออกมารับชมความสนุกสนานกัน และเมื่อเห็นว่าเซี่ยเหวินปิงไม่ยอมให้เซี่ยเจ๋อน่ากับเกาหยวนเข้าบ้าน จึงมีบางคนเริ่มพูดคุยซุบซิบขึ้น

“เหล่าเซี่ย นี่ปีใหม่นะ ลูกสาวกับลูกเขยก็มาแล้ว ทำไมถึงไม่ให้เข้าไปล่ะ ถึงแม้ว่าลูกสาวจะไม่ได้แต่งงานตามที่นายต้องการ แต่จะทำแบบนี้ไม่ได้นะ”

“ใช่แล้ว ปีใหม่ทั้งที เป็นแบบนี้ไม่ดีเลย”

สิ่งที่หลายคนกำลังคิดก็คือ ตอนนี้เป็นปีใหม่ หากมีเรื่องอะไรก็ไม่ต้องถือเป็นเรื่องใหญ่ แค่เพียงฉลองวันปีใหม่อย่างมีความสุขก็พอ

ทุกคนไม่ทราบว่าเซี่ยเจ๋อน่าทำอะไรไป แต่เซี่ยเหวินปิงล่วงรู้ทุกอย่าง เขาจึงยอมปล่อยผ่านไปไม่ได้

เกาหยวนเห็นหลายคนพูดเช่นนั้นแล้วเซี่ยเหวินปิงก็ยังไม่ยอมให้พวกเขาเข้าไป แววตาจึงเปลี่ยนเป็นมืดมนดูน่ากลัว รู้สึกว่าหน้าตนเองเสียหายยับเยินไปหมดแล้ว จึงคว้าตัวเซี่ยเจ๋อน่าแล้วตะโกนเสียงดัง “เธอยังจะมาทำอะไรที่นี่อีก มาให้คนอื่นเขาหัวเราะเยาะเราเหรอ รีบกลับบ้านผมเร็ว”

เซี่ยเจ๋อน่าที่โดนเกาหยวนลากตัวไป สิ่งแรกที่ผุดขึ้นในใจโดยอัตโนมัติคือการโดนทุบตีทำร้ายร่างกาย ดังนั้นจึงยกแขนขึ้นกุมศีรษะตัวเองอย่างไม่รู้ตัว

หลังจากเห็นด้วยกับสิ่งที่เกาหยวนเอ่ย จึงเอ่ยกระซิบ “ได้ ได้ พวกเรากลับกันเถอะ” เดิมทีหล่อนอยากกลับบ้านเพื่อไปอวดว่ากำลังตั้งครรภ์แล้ว เพื่อให้เห็นว่าชีวิตของตัวเองในตอนนี้ดีแค่ไหน ได้อาศัยอยู่ในเมือง ซื้อข้าวกิน อีกทั้งตระกูลเกาก็ใจดีมาก แต่ไม่คิดเลยว่าจะโดนห้ามไม่ให้เข้าบ้าน

แถมเกาหยวนก็กำลังโกรธด้วย ไม่รู้ด้วยว่ากำลังโกรธตนหรือเปล่า

แต่เมื่อคิดว่าตนกำลังตั้งครรภ์ลูกของเกาหยวน เซี่ยเจ๋อน่าก็ยืดตัวผงาดขึ้นมาอีกครั้ง ตอนนี้หล่อนมีคุณค่าขึ้นมาแล้ว เกาหยวนคงไม่กล้าทำอะไรแน่นอน ด้วยเหตุนี้ทั้งสองจึงออกจากหมู่บ้านชิงซานไป

เมื่อเห็นลูกสาวเดินจากไป เหยาจิ้งจือก็อดไม่ได้ที่จะมองสามีแล้วพูดว่า “เหวินปิง คุณใจร้ายมากเลยนะ ไม่ยอมให้ลูกสาวเข้ามานั่งสักพักเสียด้วยซ้ำ”

“คุณลืมไปแล้วเหรอ ว่าเซี่ยเจ๋อน่าก็รู้ว่ามู่หลานกำลังท้อง แต่ก็ยังจะเข้าไปผลักมู่หลาน”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น เหยาจิ้งจือก็ถึงกับพูดไม่ออก หล่อนถอนหายใจอย่างหนักก่อนจะเดินเข้าประตูบ้านไปด้วยสีหน้าสับสน

อีกด้านหนึ่ง หลังจากที่ฉินมู่หลานกลับไปที่ห้องเพื่อพักผ่อนแล้ว เซี่ยเจ๋อหลี่ก็ทอดกายลงข้าง ๆ เธอแล้วพักผ่อนเช่นกัน

หลังจากทั้งสองลุกขึ้นแล้ว เซี่ยเจ๋อหลี่ก็หันมองฉินมู่หลานแล้วพูดขึ้นว่า “มู่หลาน อีกสองวันเราจะกลับกันแล้วนะ คุณรีบจัดกระเป๋าเดินทางพรุ่งนี้เลยเถอะ”

ฉินมู่หลานได้ยินเช่นนั้น จึงพยักหน้าแล้วพูดขึ้น “ค่ะ เดี๋ยวฉันจัดการเอง”โนเวลพีดีเอฟ

ครั้งนี้เธอจะไปพักอาศัยที่ฐานทัพอย่างเป็นทางการ จึงต้องการนำของบางอย่างติดตัวไปด้วย เพราะหลังจากนี้คงไม่มีเวลากลับมาบ่อยนัก

………………………………………………………………………………………………………………………..

สารจากผู้แปล

กลับไปเผชิญกับชีวิตของเธอเสียยัยเจ๋อ รู้สึกว่าหลังจากนี้ชีวิตเธอน่าจะดิ่งเหวเลยนะ

พี่หลี่พามู่หลานไปอยู่ที่ฐานทัพเถอะค่ะ น่าจะได้อยู่อย่างสงบสุขกว่าที่นี่

ไหหม่า(海馬)

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

Status: Ongoing
เมื่อแพทย์สาวมือฉมังพบว่าตนเองได้กลายเป็นหญิงอ้วนผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่เป็นที่รักของสามี เธอจะเปลี่ยนเป็นคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก[嫁七零糙汉后,我双胞胎体质藏不住]ผู้แต่ง : 钰儿เรื่องย่อหลังผชิญวรหนักจนวูบ ฉินมู่หลาน แพทย์สาวมือฉมังก็พบว่าตนองได้มาสวมร่างของหญิงอ้วนหลานสาวผู้เชี่ยวชาญด้นสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่มีอะไรดีสักอย่างนอกจากได้สามีหล่อเหลานิสัยดีผู้แสนเย็นขาจากความลั่งรักของตัวเองจจับเขามาแต่งงด้วยสำเร็จ ซึ่งกรสวมวิญญาณในครั้งนี้เธอได้รับภารกิจหลักสามอย่าง หนึ่งคือสร้างเนื้อสร้างตัว สองคือลดน้ำหนักให้ตนเองทำงานทำการสะดวกขึ้น และสามคือทำให้สามีเป็นฝ่ายคลั่งรักเธอแทน คุณหมอฉินจะทำสำเร็จหรือไม่ จะเปลี่ยนเป็นฉินมู่หลานคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท