ซื่อจิ่น หวนรักประดับใจ – ตอนที่ 549 ความหวัง

ซื่อจิ่น หวนรักประดับใจ

​เมื่อ​เผชิญหน้า​กับ​ความ​เป็นความ​ตาย​ ​ผู้คน​จำนวนมาก​ล้วน​ขจัด​ข้อผูกมัด​ออก​ไป​ ​อย่างเช่น​ความหวาดกลัว​ต่อ​ขุนนาง​ชั้นสูง

พวก​ผู้ประสบภัย​มอง​อวี​้​จิ​่น​ตา​ใสแจ๋ว

ถึงแม้ว่า​จะ​รู้สึก​ดี​ต่อ​ท่าน​อ๋อง​ท่าน​นี้​ ​แต่​หาก​ไม่ได้​รับคำ​ตอบ​ที่​น่าพอใจ​ ​พวกเขา​ก็​จะ​โวยวาย​เหมือนเดิม​ ​จะ​ไม่ยอม​รอค​วาม​ตาย​อยู่​ใน​เมือง​นี้​เด็ดขาด

โรคติดต่อ​นั้น​น่ากลัว​เพียงใด​ ​พวกเขา​รู้อยู่เต็มอก

วันนี้​ร่างกาย​แข็งแรง​ ​แต่​อีก​วัน​กลับเป็น​ไข้​ ​กระอัก​เลือด​ ​ทั้งตัว​เน่าเปื่อย​…​แค่​คิด​ก็​กลัว​จน​ตัวสั่น​แล้ว

ที่นี่​เคย​เป็น​เหมือน​แดน​สวรรค์​สำหรับ​พวกเขา​ ​ทว่า​ตอนนี้​มัน​กลับกลาย​เป็น​นรก

พวกเขา​ยัง​เป็น​คน​เป็น​ๆ​ ​อยู่​ ​ทำไม​ต้อง​ใช้ชีวิต​อยู่​ใน​นรก​ด้วย

อวี​้​จิ​่น​เห็น​สายตา​อัน​เด็ดเดี่ยว​ของ​พวก​ผู้ประสบภัย

เขา​แอบ​ส่าย​หัว​อยู่​เงียบๆ

จ้าว​ซื่อ​หลาง​คิดในใจ​อยาก​จะ​ให้​ผู้ประสบภัย​ทั้งหลาย​อยู่​ใน​เมือง​อย่างว่า​นอน​สอนง่าย​ ​นึก​ว่า​อาศัย​บารมี​ของ​ราชสำนัก​แล้ว​ประชาชน​ที่​ปกติ​ไม่กล้า​ต่อปากต่อคำ​เหล่านี้​จะ​ยอม​ทำตาม​อย่าง​เชื่อฟัง​ ​ทว่า​กลับ​ลืม​นึกถึง​พลัง​ของ​คนที​่​อยาก​จะ​มีชีวิตรอด

เขา​กล้า​ยืนยัน​ได้​เลย​ ​ถ้าหาก​ไม่มี​วิธี​แก้ปัญหา​ ​แล้ว​ให้​ความหวัง​คน​เหล่านี้​ ​การปะทะ​ครั้ง​ต่อไป​จะ​ต้อง​รุนแรง​มาก​ว่า​เดิม​ ​จน​สุดท้าย​มัน​จะ​กลายเป็น​สงคราม​ระหว่าง​พวก​ทหาร​กับ​ผู้ประสบภัย

ทาง​ราชสำนัก​ได้​ส่ง​พลทหาร​มา​จำนวน​ไม่น้อย​เพื่อ​สงเคราะห์​ผู้ประสบภัย​ ​สุดท้าย​ยังไง​ก็​ต้อง​แก้ปัญหา​ผู้ประสบภัย​เหล่านี้​ได้​แน่​ ​และ​เมื่อ​บันทึก​เรื่อง​โรคระบาด​นี้​เป็น​ลายลักษณ์อักษร​ ​การนองเลือด​พวก​นี้​ก็​อาจจะ​ถูก​ปิดบัง​ไว้​ ​จน​สุดท้าย​อาจ​ถูก​เติม​แต่ง​ปิดบัง​ความจริง​ให้​กลายเป็น​ความสำเร็จ​ก็​เป็นได้

เขา​เคย​เห็น​ทาง​ตอน​ใต้​ ​พวก​ทหาร​ได้​สังหาร​ประชาชน​ที่​บริสุทธิ์​จากนั้น​สวมรอย​ว่า​เป็น​ทหาร​ทำคุณ​ประโยชน์​ ​เขา​รู้สึก​เกลียดชัง​และ​เจ็บปวด​มาก

“​ทุกคน​โปรด​รอสั​กค​รู่​ ​ข้า​จะ​ไป​ปรึกษาหารือ​กับ​ใต้เท้า​ซื่อ​หลาง​ว่า​จะ​จัดการ​เรื่อง​ของ​พวก​เจ้า​อย่างไร​ ​รอ​หารือ​เสร็จ​ ​ข้า​จะ​มาแจ้ง​ให้​ทุกคน​ทราบ​ด้วย​ตัว​ข้า​เอง​”

“​แล้ว​จะ​ได้ผล​สรุป​จาก​การหารือ​เมื่อใด​”​ ​มี​คน​ตะโกน​ถาม

คน​จำนวน​ไม่น้อย​พูดเส​ริม​ ​“​ใช่​ ​หาก​เอาแต่​ปรึกษาหารือ​แต่​ไม่มี​ข้อสรุป​ ​จะ​ให้​พวกเรา​รอ​อยู่​ตลอด​งั้น​รึ​”

“​ก่อน​ฟ้าสาง​ ​ข้า​จะ​มา​ให้​คำตอบ​กับ​ทุกคน​”​ ​อวี​้​จิ​่​นม​อง​ชาวบ้าน​ที่​สวม​เสื้อผ้า​ขาด​รุ่งริ่ง​พวก​นั้น​ ​พร้อมกับ​พูดเสี​ยง​ขรึม

ผู้ประสบภัย​ทั้งหลาย​เงียบ​ไป​ครู่หนึ่ง​ ​สุดท้าย​ก็​มี​คน​ตะโกน​ออกมา​ ​“​ก็ได้​ ​พวกเรา​เชื่อ​ท่าน​อ๋อง​ ​ก่อน​ฟ้าสาง​ค่อย​กลับมา​ที่นี่​อีกครั้ง​!​”

จ้าว​ซื่อ​หลาง​ทำ​ปากขมุบ​ขมิบ​ ​มี​หลายครั้ง​ที่​อยาก​จะ​เอ่ยปาก​ห้าม​ ​ทว่า​สถานการณ์​เช่นนี้​ทำได้​เพียงแต่​ข่มอารมณ์​ไว้

เมื่อ​พ้น​ประตูเมือง​ไป​ ​จ้าว​ซื่อ​หลาง​ก็​ถอนหายใจ​พร้อมกับ​เอ่ย​ขึ้น​ ​“​ท่าน​อ๋อง​ ​ท่าน​บุ่มบ่าม​ใจร้อน​ไป​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​!​”

อวี​้​จิ​่น​เหลือบมอง​เด็กชาย​ที่​ถูก​นำ​ตัว​ออกมา​จาก​เมือง​มา​อย่างราบรื่น​ ​เอ่ย​เสียง​เรียบ​ ​“​รอค​นครบ​แล้ว​ค่อย​พูด​เถอะ​”

ห่าง​จาก​นอกเมือง​เมือง​เฉียน​เหอ​ไป​ไม่​ไกล​นัก​มี​กระโจม​ตั้งอยู่​บน​พื้นที่​กว้างขวาง​ ​เป็น​ที่​หยุดพัก​ของ​ทหาร​พวก​นั้น

อีก​ด้าน​มี​การ​สร้าง​กระโจม​จาก​หญ้า​เป็นแถว​ ​มัน​แตกต่าง​กับ​กระโจม​หลัง​อื่น​อย่างเห็นได้ชัด​ ​หนึ่ง​ใน​นั้น​มี​ห้อง​ที่​กว้าง​ที่สุด​ก็​คือ​ที่​สำหรับ​ปรึกษาหารือ​ของ​เหล่า​ขุนนาง​ที่มา​สงเคราะห์​ผู้ประสบภัย

อวี​้​จิ​่น​สังเกต​มอง​บริเวณ​รอบ​ๆ​ ​อยู่​เงียบๆ

“​ไท่​จื่อ​ล่ะ​”​ ​จ้าว​ซื่อ​หลาง​เอ่ย​ถาม​ขุนนาง​ที่​ตาม​ไท่​จื่อ​ออกมา​นอกเมือง​ก่อน

ขุนนาง​ที่​ตาม​ไท่​จื่อ​ขึ้นไป​บน​กำแพง​นั้น​มี​ไม่น้อย​ ​ทว่า​เวลานี้​กลับ​เหลือ​เพียง​ไม่​กี่​คน

หนึ่ง​ใน​นั้น​ตอบ​ออกมา​ ​“​เสด็จ​กลับ​ไป​ที่​เมือง​จิ๋น​หลี​่​แล้ว​…​”

จ้าว​ซื่อ​หลาง​ชะงัก​ไป​ครู่หนึ่ง

เพียงเท่านี้​ก็​กลับ​เมือง​จิ๋น​หลี​่​ไป​แล้ว​รึ​ ​ไม่ว่า​อย่างไรก็ตาม​เสแสร้ง​ทำเป็น​เดิน​ไป​ที่​ห้อง​ปรึกษาหารือ​ก็ได้​นี่​นา

สำหรับ​ไท่​จื่อ​ท่าน​นี้​ ​จ้าว​ซื่อ​หลาง​ไม่รู้​ว่า​ควรจะ​พูด​ยังไง​ดี​ ​ได้​แต่​แอบ​ถอนหายใจ​อยู่​เงียบๆ​ ​แล้ว​เอ่ย​ขึ้น​ ​“​ท่าน​อ๋อง​ ​เช่นนั้น​พวกเรา​กลับ​ไปรวม​ตัว​กับ​ไท่​จื่อ​ที่​เมือง​จิ๋น​หลี​่​กัน​เถอะ​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”

อวี​้​จิ​่​นขมวด​คิ้ว​ขึ้น​ ​“​ไม่ทราบ​ว่า​ผู้ใด​เป็น​ขุนนาง​หลัก​ใน​การ​สงเคราะห์​ผู้ประสบภัย​ครั้งนี้​”

จ้าว​ซื่อ​หลาง​ประสานมือ​ที่​หน้าอก​ ​“​กระหม่อม​เอง​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”

“​จุดประสงค์​ที่​ไท่​จื่อ​มาที​่​นี่​คือ​อะไร​”​ ​อวี​้​จิ​่น​ถาม​ออก​ไป​อีกครั้ง

จ้าว​ซื่อ​หลาง​เอ่ย​ตอบ​ ​“​เป็นตัวแทน​ของ​ฮ่องเต้​มาป​ลอบ​ใจ​ผู้ประสบภัย​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”

อวี​้​จิ​่น​ยิ้ม​ออกมา​ ​คิ้ว​ที่​ขมวด​ดูท่าทาง​ดุดัน​เล็กน้อย​ ​“​เมื่อ​ครู่​ไท่​จื่อ​ได้​ปลอบใจ​ประชาชน​ไป​แล้ว​ ​กลับ​ไป​พักผ่อน​ที่​เมือง​จิ๋น​หลี​่​นั้น​ไม่มี​อะไร​ให้​ต้อง​ว่ากล่าว​ติเตียน​ ​ทว่า​หน้าที่​ของ​ใต้เท้า​จ้าว​นั้น​ยัง​ไม่​หมด​”

“​ท่าน​อ๋อง​หมายความว่า​…​”

“​แน่นอน​ว่า​ก็​ต้อง​ปรึกษาหารือ​กับ​เพื่อนร่วมงาน​ว่า​จะ​แก้ปัญหา​เรื่อง​การ​จัดหา​ที่อยู่​ให้​ชาวบ้าน​อย่างไร​”​ ​พอ​พูดถึง​ตรงนี้​ ​อวี​้​จิ​่​นก​็​หยุด​พูด​ ​มุม​ปาก​ยิ้ม​เชิง​เยาะเย้ย​ ​“​หรือว่า​จะ​ไม่สน​ใจ​เรื่อง​ที่อยู่​ของ​ชาวบ้าน​ ​แล้ว​ปล่อย​ให้​พวกเขา​รอค​วาม​ตายอ​ยู​ใน​เมือง​”

จ้าว​ซื่อ​หลาง​ตาก​ระ​ตุก​ขึ้น​มาทัน​ที​ ​รีบ​เอ่ย​ขึ้น​ ​“​ท่าน​อ๋อง​เข้าใจผิด​แล้ว​ ​พวกเรา​เหล่า​ขุนนาง​ล้วน​สุขุม​ระมัดระวัง​ ​มีสติปัญญา​ ​ไม่​อาจ​เพิกเฉย​ต่อ​ความ​เป็นความ​ตาย​ของ​ชาวบ้าน​ได้​…​”

อวี​้​จิ​่น​ไม่​รอ​ให้​จ้าว​ซื่อ​หลาง​พูด​จบ​ ​“​เช่นนั้น​ก็ดี​ ​พวกเรา​ไป​ที่​ห้อง​ปรึกษา​กัน​”

ไม่นาน​ห้อง​ที่ปรึกษา​ก็​เต็มไปด้วย​ขุนนาง​ ​แน่นอน​ว่า​มี​ขุนนาง​ส่วนหนึ่ง​ได้​ตาม​ไท่​จื่อ​กลับ​ไป​ที่​เมือง​จิ๋น​หลี​่​แล้ว​ ​แต่​อวี​้​จิ​่​นก​็​ไม่ได้​บังคับ​ว่า​จะ​ต้อง​อยู่​ครบ​ทุกคน

“​เรื่อง​ใน​วันนี้​ ​ทุกท่าน​เห็น​ว่า​อย่างไร​”

จ้าว​ซื่อ​หลาง​ถอนหายใจ​ออกมา​อย่าง​กลัดกลุ้ม​ใจ​ ​“​ท่าน​อ๋อง​ไม่​ควร​ทำลาย​กฎ​โดย​การนำ​เด็กชาย​คน​นั้น​ออก​นอกเมือง​มา​ ​เมื่อ​ทำลาย​กฎ​แล้ว​ ​การ​ปลอบขวัญ​ประชาชน​พวก​นั้น​ก็​จะ​ยิ่ง​ยาก​ขึ้นไป​อีก​”

ผู้​ที่​มีคุณ​สมบัติ​เป็น​ขุนนาง​อัน​ดำรงตำแหน่ง​อยู่​ใน​เมืองหลวง​นั้น​จะ​มีนิ​สัย​อยู่​อย่างหนึ่ง​ ​หาก​คุย​ถึง​เรื่อง​การงาน​ ​เกรง​ว่า​แม้​จะ​มี​ความเห็น​ไม่​ตรง​กับ​ฮ่องเต้​ก็​สามารถ​พ่น​น้ำลาย​พูด​ออกมา​ได้​โดยตรง​ ​เช่นนั้น​ยิ่ง​ไม่ต้อง​พูดถึง​อวี​้​จิ​่น​ ​ท่าน​อ๋อง​ที่​ไม่มี​อำนาจ​อะไร​คน​นี้​เลย

จ้าว​ซื่อ​หลาง​เป็น​ฝ่าย​เอ่ยปาก​พูด​ออกมา​ก่อน​ ​ขุนนาง​ที่มา​จาก​เมืองหลวง​ทยอย​คล้อยตาม

เจ้าหน้าที่​ท้องถิ่น​พวก​นั้น​ได้​แต่​เงียบ

สิ่งของ​ใน​การ​สงเคราะห์​ผู้ประสบภัย​ก็​เป็น​ขุนนาง​พวก​นั้น​ที่​เอา​มา​ ​พลทหาร​ก็​เป็น​ขุนนาง​พวก​นั้น​ที่​จัดการ​ให้​ ​ในอนาคต​การ​ไปรา​ยงาน​สถานการณ์​ต่อหน้า​ฮ่องเต้​ก็​ต้อง​เป็น​ขุนนาง​พวก​นั้น​ ​พวกเขา​จึง​ไม่มี​สิทธิ์​จะ​พูด​อะไร​ ​ได้​แต่​ฟัง​อยู่​เงียบๆ

“​จุด​ที่​ใต้เท้า​จ้าว​ใส่ใจ​นั้น​ไม่​ถูก​”​ ​อวี​้​จิ​่น​ใช้​นิ้วมือ​เคาะ​ลง​บน​โต๊ะ​ ​“​ข้า​พูดถึง​เรื่อง​คำร้องของ​ชาวบ้าน​ใน​เมือง​ ​พวกเขา​สามารถ​อดทน​ได้​หนึ่ง​วัน​ ​สอง​วัน​ ​แต่​จะ​อดทน​ไป​ได้​ตลอด​หรือ​ ​วันนี้​ได้​เห็น​การนองเลือด​แล้ว​ ​นี่​เป็น​เพียง​จุดเริ่มต้น​เท่านั้น​ ​หาก​ไม่มี​แผนการ​รับมือ​ ​รอ​จน​เกิด​การปะทะ​ขนาดใหญ่​ ​หรือว่า​ต้องการ​ให้​พวกเขา​ทั้งหมด​ทำสงคราม​กัน​”

เขา​พูด​ไป​ ​พลาง​กวาดสายตา​มอง​ทุกคน​ ​เอ่ย​พูด​น้ำเสียง​เย็นชา​ ​“​ถ้าหาก​เป็น​เช่นนั้น​ ​นี่​มัน​ไม่ใช่​การ​ช่วยเหลือ​ผู้ประสบภัย​ ​แต่​เป็นการ​เข่นฆ่า​ ​คุณธรรม​ใน​ใจ​ของ​ทุกท่าน​ยัง​มีอยู่​หรือไม่​”

ทุกคน​สีหน้า​เริ่ม​เปลี่ยน

คนเรา​นั้น​ ​แม้แต่​ขุนนาง​ที่​ทุจริต​ก็​ยัง​อยาก​จะ​มีชื่อเสียง​หน้าตา​ที่​ดี​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​ยัง​มี​ขุนนาง​อีก​จำนวน​ไม่น้อย​ที่​ยอม​ลงมือทำ​จริง​ ​โดยเฉพาะ​ขุนนาง​ท้องถิ่น​ชั้นผู้น้อย​ที่เกิด​ที่นี่​และ​เติบโต​อยู่​ที่นี่​ ​มีสา​ยสัม​พันธ์​อย่างใกล้ชิด​ฉัน​ญาติพี่น้อง​กับ​ชาวบ้าน​ ​ทว่า​ถ้า​เป็น​ขุนนาง​นอก​พื้นที่​อย่างเช่น​นายอำเภอ​เมือง​เฉียน​เหอ​นั้น​จะ​ไม่ได้​คิดมาก​ขนาด​นี้

ที่​ต้า​โจว​ขุนนาง​ท้องถิ่น​ที่​ตำแหน่ง​สูง​กว่า​ระดับ​อำเภอ​ขึ้นไป​มักจะ​หลีกเลี่ยง​การ​สุงสิง​กับ​ชาวบ้าน​นี่​จึง​เป็น​เหตุผล​ที่ว่า​ทำไม​นายอำเภอ​เมือง​เฉียน​เหอ​ถึง​ได้​ไม่รู้​สึก​อะไร​กับ​ประชาชน​ใน​เมือง​นี้

จ้าว​ซื่อ​หลาง​ถูก​ว่า​จน​ไม่รู้​จะ​เอาหน้า​ไป​ไว้​ที่ไหน​ ​แล้ว​เอ่ย​ถาม​ออก​ไป​ ​“​ไม่ทราบ​ว่า​ท่าน​อ๋อง​มีแผน​รับมือ​อย่างไร​”

อวี​้​จิ​่น​ไม่มี​ความเกรงใจ​แม้แต่น้อย​ ​เอ่ย​พูด​ขึ้น​ทันควัน​ ​“​ข้า​ขอ​เสนอ​ว่า​ให้​แบ่ง​พื้นที่​ใน​เมืองออก​เป็น​อีก​เขต​หนึ่ง​ ​เรียกว่า​เขต​เปลี่ยน​ผ่าน​”

“​เขต​เปลี่ยน​ผ่าน​งั้น​หรือ​”

“​ถูกต้อง​ ​ตอนนี้​มี​เพียงแค่​ฝั่ง​ตะวันตก​กับ​ตะวันออก​ ​เมื่อ​ต้อง​เลือก​ ​ถ้าหาก​ฝั่ง​ตะวันออก​มี​ผู้​ติดเชื้อ​เข้าไป​ใน​ฝั่ง​ตะวันตก​โดยตรง​ก็​อาจจะ​เกิดผล​ลัพธ์​ที่​รุนแรง​ ​แต่​ถ้าหาก​ระ​หว่า​ฝั่ง​ตะวันออก​และ​ตะวันตก​มี​การ​แบ่ง​เป็น​เขต​เปลี่ยน​ผ่าน​ ​ผู้​ที่มา​จาก​ฝั่ง​ตะวันออก​แล้ว​เข้ามา​ยัง​ฝั่ง​ตะวันตก​จะ​ต้อง​กักตัว​อยู่​ใน​เขต​นี้​สอง​ถึง​สาม​วัน​ ​เพื่อที่จะ​ได้​ลด​จำนวน​ผู้ป่วย​ที่​อาจ​เข้ามา​ใน​เขต​ฝั่ง​ตะวันตก​…​”

ทุกคน​พยักหน้า​เห็นด้วย​อย่าง​ไม่รู้​ตัว

ข้อเสนอ​ของ​เยี​่​ยน​อ๋อง​นั้น​ไม่เลว​เลย​ ​มัน​น่าจะ​ลด​ความเสี่ยง​ได้

จ้าว​ซื่อ​หลาง​ลูบ​เครา​แสดง​ความ​สนับสนุน​ ​พร้อมกับ​เอ่ย​ขึ้น​ ​“​ถึง​จะ​เป็น​เช่นนี้​ ​มัน​ก็​ไม่​อาจ​กำจัด​ความคิด​ของ​ขาว​บ้าน​ฝั่ง​ตะวันตก​ที่​อยาก​ออก​ไป​จาก​เมือง​ได้​หรอก​”

อวี​้​จิ​่น​ยิ้ม​ ​“​เหตุใด​ต้อง​กำจัด​ด้วย​ ​การปิดกั้น​อย่าง​สุ่มสี่สุ่มห้า​นั้น​ไม่ดี​เท่ากับ​ให้เหตุผล​ ​เช่นนั้น​เหตุใด​ถึง​ไม่​ให้​ความหวัง​กับ​ประชาชน​เล่า​ ​เพียงแค่​มีความหวัง​ ​ทุกคน​ใน​เมือง​ก็​จะ​อดทน​รอ​”

คนที​่​มีชีวิต​อยู่​ก็​ต้อง​มีความหวัง

ไม่มีใคร​สอน​เรื่อง​เหตุผล​อะไร​มากมาย​กับ​เขา​ ​แต่​เขา​รู้ดี​ว่า​คนที​่​อยู่​ใน​ภาวะ​สิ้นหวัง​ต้องการ​อะไร​มาก​ที่สุด​ ​ไม่​ใช้​ชาม​ข้าว​ตรงหน้า​หรือ​เงินทอง​ไม่​กี่​เหรียญ​ ​แต่​เป็นความ​หวัง​ที่จะ​ได้​อยู่​มีชีวิต​ต่อไป​ต่างหาก ​เมื่อ​เผชิญหน้า​กับ​ความ​เป็นความ​ตาย​ ​ผู้คน​จำนวนมาก​ล้วน​ขจัด​ข้อผูกมัด​ออก​ไป​ ​อย่างเช่น​ความหวาดกลัว​ต่อ​ขุนนาง​ชั้นสูง

พวก​ผู้ประสบภัย​มอง​อวี​้​จิ​่น​ตา​ใสแจ๋ว

ถึงแม้ว่า​จะ​รู้สึก​ดี​ต่อ​ท่าน​อ๋อง​ท่าน​นี้​ ​แต่​หาก​ไม่ได้​รับคำ​ตอบ​ที่​น่าพอใจ​ ​พวกเขา​ก็​จะ​โวยวาย​เหมือนเดิม​ ​จะ​ไม่ยอม​รอค​วาม​ตาย​อยู่​ใน​เมือง​นี้​เด็ดขาด

โรคติดต่อ​นั้น​น่ากลัว​เพียงใด​ ​พวกเขา​รู้อยู่เต็มอก

วันนี้​ร่างกาย​แข็งแรง​ ​แต่​อีก​วัน​กลับเป็น​ไข้​ ​กระอัก​เลือด​ ​ทั้งตัว​เน่าเปื่อย​…​แค่​คิด​ก็​กลัว​จน​ตัวสั่น​แล้ว

ที่นี่​เคย​เป็น​เหมือน​แดน​สวรรค์​สำหรับ​พวกเขา​ ​ทว่า​ตอนนี้​มัน​กลับกลาย​เป็น​นรก

พวกเขา​ยัง​เป็น​คน​เป็น​ๆ​ ​อยู่​ ​ทำไม​ต้อง​ใช้ชีวิต​อยู่​ใน​นรก​ด้วย

อวี​้​จิ​่น​เห็น​สายตา​อัน​เด็ดเดี่ยว​ของ​พวก​ผู้ประสบภัย

เขา​แอบ​ส่าย​หัว​อยู่​เงียบๆ

จ้าว​ซื่อ​หลาง​คิดในใจ​อยาก​จะ​ให้​ผู้ประสบภัย​ทั้งหลาย​อยู่​ใน​เมือง​อย่างว่า​นอน​สอนง่าย​ ​นึก​ว่า​อาศัย​บารมี​ของ​ราชสำนัก​แล้ว​ประชาชน​ที่​ปกติ​ไม่กล้า​ต่อปากต่อคำ​เหล่านี้​จะ​ยอม​ทำตาม​อย่าง​เชื่อฟัง​ ​ทว่า​กลับ​ลืม​นึกถึง​พลัง​ของ​คนที​่​อยาก​จะ​มีชีวิตรอด

เขา​กล้า​ยืนยัน​ได้​เลย​ ​ถ้าหาก​ไม่มี​วิธี​แก้ปัญหา​ ​แล้ว​ให้​ความหวัง​คน​เหล่านี้​ ​การปะทะ​ครั้ง​ต่อไป​จะ​ต้อง​รุนแรง​มาก​ว่า​เดิม​ ​จน​สุดท้าย​มัน​จะ​กลายเป็น​สงคราม​ระหว่าง​พวก​ทหาร​กับ​ผู้ประสบภัย

ทาง​ราชสำนัก​ได้​ส่ง​พลทหาร​มา​จำนวน​ไม่น้อย​เพื่อ​สงเคราะห์​ผู้ประสบภัย​ ​สุดท้าย​ยังไง​ก็​ต้อง​แก้ปัญหา​ผู้ประสบภัย​เหล่านี้​ได้​แน่​ ​และ​เมื่อ​บันทึก​เรื่อง​โรคระบาด​นี้​เป็น​ลายลักษณ์อักษร​ ​การนองเลือด​พวก​นี้​ก็​อาจจะ​ถูก​ปิดบัง​ไว้​ ​จน​สุดท้าย​อาจ​ถูก​เติม​แต่ง​ปิดบัง​ความจริง​ให้​กลายเป็น​ความสำเร็จ​ก็​เป็นได้

เขา​เคย​เห็น​ทาง​ตอน​ใต้​ ​พวก​ทหาร​ได้​สังหาร​ประชาชน​ที่​บริสุทธิ์​จากนั้น​สวมรอย​ว่า​เป็น​ทหาร​ทำคุณ​ประโยชน์​ ​เขา​รู้สึก​เกลียดชัง​และ​เจ็บปวด​มาก

“​ทุกคน​โปรด​รอสั​กค​รู่​ ​ข้า​จะ​ไป​ปรึกษาหารือ​กับ​ใต้เท้า​ซื่อ​หลาง​ว่า​จะ​จัดการ​เรื่อง​ของ​พวก​เจ้า​อย่างไร​ ​รอ​หารือ​เสร็จ​ ​ข้า​จะ​มาแจ้ง​ให้​ทุกคน​ทราบ​ด้วย​ตัว​ข้า​เอง​”

“​แล้ว​จะ​ได้ผล​สรุป​จาก​การหารือ​เมื่อใด​”​ ​มี​คน​ตะโกน​ถาม

คน​จำนวน​ไม่น้อย​พูดเส​ริม​ ​“​ใช่​ ​หาก​เอาแต่​ปรึกษาหารือ​แต่​ไม่มี​ข้อสรุป​ ​จะ​ให้​พวกเรา​รอ​อยู่​ตลอด​งั้น​รึ​”

“​ก่อน​ฟ้าสาง​ ​ข้า​จะ​มา​ให้​คำตอบ​กับ​ทุกคน​”​ ​อวี​้​จิ​่​นม​อง​ชาวบ้าน​ที่​สวม​เสื้อผ้า​ขาด​รุ่งริ่ง​พวก​นั้น​ ​พร้อมกับ​พูดเสี​ยง​ขรึม

ผู้ประสบภัย​ทั้งหลาย​เงียบ​ไป​ครู่หนึ่ง​ ​สุดท้าย​ก็​มี​คน​ตะโกน​ออกมา​ ​“​ก็ได้​ ​พวกเรา​เชื่อ​ท่าน​อ๋อง​ ​ก่อน​ฟ้าสาง​ค่อย​กลับมา​ที่นี่​อีกครั้ง​!​”

จ้าว​ซื่อ​หลาง​ทำ​ปากขมุบ​ขมิบ​ ​มี​หลายครั้ง​ที่​อยาก​จะ​เอ่ยปาก​ห้าม​ ​ทว่า​สถานการณ์​เช่นนี้​ทำได้​เพียงแต่​ข่มอารมณ์​ไว้

เมื่อ​พ้น​ประตูเมือง​ไป​ ​จ้าว​ซื่อ​หลาง​ก็​ถอนหายใจ​พร้อมกับ​เอ่ย​ขึ้น​ ​“​ท่าน​อ๋อง​ ​ท่าน​บุ่มบ่าม​ใจร้อน​ไป​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​!​”

อวี​้​จิ​่น​เหลือบมอง​เด็กชาย​ที่​ถูก​นำ​ตัว​ออกมา​จาก​เมือง​มา​อย่างราบรื่น​ ​เอ่ย​เสียง​เรียบ​ ​“​รอค​นครบ​แล้ว​ค่อย​พูด​เถอะ​”

ห่าง​จาก​นอกเมือง​เมือง​เฉียน​เหอ​ไป​ไม่​ไกล​นัก​มี​กระโจม​ตั้งอยู่​บน​พื้นที่​กว้างขวาง​ ​เป็น​ที่​หยุดพัก​ของ​ทหาร​พวก​นั้น

อีก​ด้าน​มี​การ​สร้าง​กระโจม​จาก​หญ้า​เป็นแถว​ ​มัน​แตกต่าง​กับ​กระโจม​หลัง​อื่น​อย่างเห็นได้ชัด​ ​หนึ่ง​ใน​นั้น​มี​ห้อง​ที่​กว้าง​ที่สุด​ก็​คือ​ที่​สำหรับ​ปรึกษาหารือ​ของ​เหล่า​ขุนนาง​ที่มา​สงเคราะห์​ผู้ประสบภัย

อวี​้​จิ​่น​สังเกต​มอง​บริเวณ​รอบ​ๆ​ ​อยู่​เงียบๆ

“​ไท่​จื่อ​ล่ะ​”​ ​จ้าว​ซื่อ​หลาง​เอ่ย​ถาม​ขุนนาง​ที่​ตาม​ไท่​จื่อ​ออกมา​นอกเมือง​ก่อน

ขุนนาง​ที่​ตาม​ไท่​จื่อ​ขึ้นไป​บน​กำแพง​นั้น​มี​ไม่น้อย​ ​ทว่า​เวลานี้​กลับ​เหลือ​เพียง​ไม่​กี่​คน

หนึ่ง​ใน​นั้น​ตอบ​ออกมา​ ​“​เสด็จ​กลับ​ไป​ที่​เมือง​จิ๋น​หลี​่​แล้ว​…​”

จ้าว​ซื่อ​หลาง​ชะงัก​ไป​ครู่หนึ่ง

เพียงเท่านี้​ก็​กลับ​เมือง​จิ๋น​หลี​่​ไป​แล้ว​รึ​ ​ไม่ว่า​อย่างไรก็ตาม​เสแสร้ง​ทำเป็น​เดิน​ไป​ที่​ห้อง​ปรึกษาหารือ​ก็ได้​นี่​นา

สำหรับ​ไท่​จื่อ​ท่าน​นี้​ ​จ้าว​ซื่อ​หลาง​ไม่รู้​ว่า​ควรจะ​พูด​ยังไง​ดี​ ​ได้​แต่​แอบ​ถอนหายใจ​อยู่​เงียบๆ​ ​แล้ว​เอ่ย​ขึ้น​ ​“​ท่าน​อ๋อง​ ​เช่นนั้น​พวกเรา​กลับ​ไปรวม​ตัว​กับ​ไท่​จื่อ​ที่​เมือง​จิ๋น​หลี​่​กัน​เถอะ​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”

อวี​้​จิ​่​นขมวด​คิ้ว​ขึ้น​ ​“​ไม่ทราบ​ว่า​ผู้ใด​เป็น​ขุนนาง​หลัก​ใน​การ​สงเคราะห์​ผู้ประสบภัย​ครั้งนี้​”

จ้าว​ซื่อ​หลาง​ประสานมือ​ที่​หน้าอก​ ​“​กระหม่อม​เอง​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”

“​จุดประสงค์​ที่​ไท่​จื่อ​มาที​่​นี่​คือ​อะไร​”​ ​อวี​้​จิ​่น​ถาม​ออก​ไป​อีกครั้ง

จ้าว​ซื่อ​หลาง​เอ่ย​ตอบ​ ​“​เป็นตัวแทน​ของ​ฮ่องเต้​มาป​ลอบ​ใจ​ผู้ประสบภัย​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”

อวี​้​จิ​่น​ยิ้ม​ออกมา​ ​คิ้ว​ที่​ขมวด​ดูท่าทาง​ดุดัน​เล็กน้อย​ ​“​เมื่อ​ครู่​ไท่​จื่อ​ได้​ปลอบใจ​ประชาชน​ไป​แล้ว​ ​กลับ​ไป​พักผ่อน​ที่​เมือง​จิ๋น​หลี​่​นั้น​ไม่มี​อะไร​ให้​ต้อง​ว่ากล่าว​ติเตียน​ ​ทว่า​หน้าที่​ของ​ใต้เท้า​จ้าว​นั้น​ยัง​ไม่​หมด​”

“​ท่าน​อ๋อง​หมายความว่า​…​”

“​แน่นอน​ว่า​ก็​ต้อง​ปรึกษาหารือ​กับ​เพื่อนร่วมงาน​ว่า​จะ​แก้ปัญหา​เรื่อง​การ​จัดหา​ที่อยู่​ให้​ชาวบ้าน​อย่างไร​”​ ​พอ​พูดถึง​ตรงนี้​ ​อวี​้​จิ​่​นก​็​หยุด​พูด​ ​มุม​ปาก​ยิ้ม​เชิง​เยาะเย้ย​ ​“​หรือว่า​จะ​ไม่สน​ใจ​เรื่อง​ที่อยู่​ของ​ชาวบ้าน​ ​แล้ว​ปล่อย​ให้​พวกเขา​รอค​วาม​ตายอ​ยู​ใน​เมือง​”

จ้าว​ซื่อ​หลาง​ตาก​ระ​ตุก​ขึ้น​มาทัน​ที​ ​รีบ​เอ่ย​ขึ้น​ ​“​ท่าน​อ๋อง​เข้าใจผิด​แล้ว​ ​พวกเรา​เหล่า​ขุนนาง​ล้วน​สุขุม​ระมัดระวัง​ ​มีสติปัญญา​ ​ไม่​อาจ​เพิกเฉย​ต่อ​ความ​เป็นความ​ตาย​ของ​ชาวบ้าน​ได้​…​”

อวี​้​จิ​่น​ไม่​รอ​ให้​จ้าว​ซื่อ​หลาง​พูด​จบ​ ​“​เช่นนั้น​ก็ดี​ ​พวกเรา​ไป​ที่​ห้อง​ปรึกษา​กัน​”

ไม่นาน​ห้อง​ที่ปรึกษา​ก็​เต็มไปด้วย​ขุนนาง​ ​แน่นอน​ว่า​มี​ขุนนาง​ส่วนหนึ่ง​ได้​ตาม​ไท่​จื่อ​กลับ​ไป​ที่​เมือง​จิ๋น​หลี​่​แล้ว​ ​แต่​อวี​้​จิ​่​นก​็​ไม่ได้​บังคับ​ว่า​จะ​ต้อง​อยู่​ครบ​ทุกคน

“​เรื่อง​ใน​วันนี้​ ​ทุกท่าน​เห็น​ว่า​อย่างไร​”

จ้าว​ซื่อ​หลาง​ถอนหายใจ​ออกมา​อย่าง​กลัดกลุ้ม​ใจ​ ​“​ท่าน​อ๋อง​ไม่​ควร​ทำลาย​กฎ​โดย​การนำ​เด็กชาย​คน​นั้น​ออก​นอกเมือง​มา​ ​เมื่อ​ทำลาย​กฎ​แล้ว​ ​การ​ปลอบขวัญ​ประชาชน​พวก​นั้น​ก็​จะ​ยิ่ง​ยาก​ขึ้นไป​อีก​”

ผู้​ที่​มีคุณ​สมบัติ​เป็น​ขุนนาง​อัน​ดำรงตำแหน่ง​อยู่​ใน​เมืองหลวง​นั้น​จะ​มีนิ​สัย​อยู่​อย่างหนึ่ง​ ​หาก​คุย​ถึง​เรื่อง​การงาน​ ​เกรง​ว่า​แม้​จะ​มี​ความเห็น​ไม่​ตรง​กับ​ฮ่องเต้​ก็​สามารถ​พ่น​น้ำลาย​พูด​ออกมา​ได้​โดยตรง​ ​เช่นนั้น​ยิ่ง​ไม่ต้อง​พูดถึง​อวี​้​จิ​่น​ ​ท่าน​อ๋อง​ที่​ไม่มี​อำนาจ​อะไร​คน​นี้​เลย

จ้าว​ซื่อ​หลาง​เป็น​ฝ่าย​เอ่ยปาก​พูด​ออกมา​ก่อน​ ​ขุนนาง​ที่มา​จาก​เมืองหลวง​ทยอย​คล้อยตาม

เจ้าหน้าที่​ท้องถิ่น​พวก​นั้น​ได้​แต่​เงียบ

สิ่งของ​ใน​การ​สงเคราะห์​ผู้ประสบภัย​ก็​เป็น​ขุนนาง​พวก​นั้น​ที่​เอา​มา​ ​พลทหาร​ก็​เป็น​ขุนนาง​พวก​นั้น​ที่​จัดการ​ให้​ ​ในอนาคต​การ​ไปรา​ยงาน​สถานการณ์​ต่อหน้า​ฮ่องเต้​ก็​ต้อง​เป็น​ขุนนาง​พวก​นั้น​ ​พวกเขา​จึง​ไม่มี​สิทธิ์​จะ​พูด​อะไร​ ​ได้​แต่​ฟัง​อยู่​เงียบๆ

“​จุด​ที่​ใต้เท้า​จ้าว​ใส่ใจ​นั้น​ไม่​ถูก​”​ ​อวี​้​จิ​่น​ใช้​นิ้วมือ​เคาะ​ลง​บน​โต๊ะ​ ​“​ข้า​พูดถึง​เรื่อง​คำร้องของ​ชาวบ้าน​ใน​เมือง​ ​พวกเขา​สามารถ​อดทน​ได้​หนึ่ง​วัน​ ​สอง​วัน​ ​แต่​จะ​อดทน​ไป​ได้​ตลอด​หรือ​ ​วันนี้​ได้​เห็น​การนองเลือด​แล้ว​ ​นี่​เป็น​เพียง​จุดเริ่มต้น​เท่านั้น​ ​หาก​ไม่มี​แผนการ​รับมือ​ ​รอ​จน​เกิด​การปะทะ​ขนาดใหญ่​ ​หรือว่า​ต้องการ​ให้​พวกเขา​ทั้งหมด​ทำสงคราม​กัน​”

เขา​พูด​ไป​ ​พลาง​กวาดสายตา​มอง​ทุกคน​ ​เอ่ย​พูด​น้ำเสียง​เย็นชา​ ​“​ถ้าหาก​เป็น​เช่นนั้น​ ​นี่​มัน​ไม่ใช่​การ​ช่วยเหลือ​ผู้ประสบภัย​ ​แต่​เป็นการ​เข่นฆ่า​ ​คุณธรรม​ใน​ใจ​ของ​ทุกท่าน​ยัง​มีอยู่​หรือไม่​”

ทุกคน​สีหน้า​เริ่ม​เปลี่ยน

คนเรา​นั้น​ ​แม้แต่​ขุนนาง​ที่​ทุจริต​ก็​ยัง​อยาก​จะ​มีชื่อเสียง​หน้าตา​ที่​ดี​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​ยัง​มี​ขุนนาง​อีก​จำนวน​ไม่น้อย​ที่​ยอม​ลงมือทำ​จริง​ ​โดยเฉพาะ​ขุนนาง​ท้องถิ่น​ชั้นผู้น้อย​ที่เกิด​ที่นี่​และ​เติบโต​อยู่​ที่นี่​ ​มีสา​ยสัม​พันธ์​อย่างใกล้ชิด​ฉัน​ญาติพี่น้อง​กับ​ชาวบ้าน​ ​ทว่า​ถ้า​เป็น​ขุนนาง​นอก​พื้นที่​อย่างเช่น​นายอำเภอ​เมือง​เฉียน​เหอ​นั้น​จะ​ไม่ได้​คิดมาก​ขนาด​นี้

ที่​ต้า​โจว​ขุนนาง​ท้องถิ่น​ที่​ตำแหน่ง​สูง​กว่า​ระดับ​อำเภอ​ขึ้นไป​มักจะ​หลีกเลี่ยง​การ​สุงสิง​กับ​ชาวบ้าน​นี่​จึง​เป็น​เหตุผล​ที่ว่า​ทำไม​นายอำเภอ​เมือง​เฉียน​เหอ​ถึง​ได้​ไม่รู้​สึก​อะไร​กับ​ประชาชน​ใน​เมือง​นี้

จ้าว​ซื่อ​หลาง​ถูก​ว่า​จน​ไม่รู้​จะ​เอาหน้า​ไป​ไว้​ที่ไหน​ ​แล้ว​เอ่ย​ถาม​ออก​ไป​ ​“​ไม่ทราบ​ว่า​ท่าน​อ๋อง​มีแผน​รับมือ​อย่างไร​”

อวี​้​จิ​่น​ไม่มี​ความเกรงใจ​แม้แต่น้อย​ ​เอ่ย​พูด​ขึ้น​ทันควัน​ ​“​ข้า​ขอ​เสนอ​ว่า​ให้​แบ่ง​พื้นที่​ใน​เมืองออก​เป็น​อีก​เขต​หนึ่ง​ ​เรียกว่า​เขต​เปลี่ยน​ผ่าน​”

“​เขต​เปลี่ยน​ผ่าน​งั้น​หรือ​”

“​ถูกต้อง​ ​ตอนนี้​มี​เพียงแค่​ฝั่ง​ตะวันตก​กับ​ตะวันออก​ ​เมื่อ​ต้อง​เลือก​ ​ถ้าหาก​ฝั่ง​ตะวันออก​มี​ผู้​ติดเชื้อ​เข้าไป​ใน​ฝั่ง​ตะวันตก​โดยตรง​ก็​อาจจะ​เกิดผล​ลัพธ์​ที่​รุนแรง​ ​แต่​ถ้าหาก​ระ​หว่า​ฝั่ง​ตะวันออก​และ​ตะวันตก​มี​การ​แบ่ง​เป็น​เขต​เปลี่ยน​ผ่าน​ ​ผู้​ที่มา​จาก​ฝั่ง​ตะวันออก​แล้ว​เข้ามา​ยัง​ฝั่ง​ตะวันตก​จะ​ต้อง​กักตัว​อยู่​ใน​เขต​นี้​สอง​ถึง​สาม​วัน​ ​เพื่อที่จะ​ได้​ลด​จำนวน​ผู้ป่วย​ที่​อาจ​เข้ามา​ใน​เขต​ฝั่ง​ตะวันตก​…​”

ทุกคน​พยักหน้า​เห็นด้วย​อย่าง​ไม่รู้​ตัว

ข้อเสนอ​ของ​เยี​่​ยน​อ๋อง​นั้น​ไม่เลว​เลย​ ​มัน​น่าจะ​ลด​ความเสี่ยง​ได้

จ้าว​ซื่อ​หลาง​ลูบ​เครา​แสดง​ความ​สนับสนุน​ ​พร้อมกับ​เอ่ย​ขึ้น​ ​“​ถึง​จะ​เป็น​เช่นนี้​ ​มัน​ก็​ไม่​อาจ​กำจัด​ความคิด​ของ​ขาว​บ้าน​ฝั่ง​ตะวันตก​ที่​อยาก​ออก​ไป​จาก​เมือง​ได้​หรอก​”

อวี​้​จิ​่น​ยิ้ม​ ​“​เหตุใด​ต้อง​กำจัด​ด้วย​ ​การปิดกั้น​อย่าง​สุ่มสี่สุ่มห้า​นั้น​ไม่ดี​เท่ากับ​ให้เหตุผล​ ​เช่นนั้น​เหตุใด​ถึง​ไม่​ให้​ความหวัง​กับ​ประชาชน​เล่า​ ​เพียงแค่​มีความหวัง​ ​ทุกคน​ใน​เมือง​ก็​จะ​อดทน​รอ​”

คนที​่​มีชีวิต​อยู่​ก็​ต้อง​มีความหวัง

ไม่มีใคร​สอน​เรื่อง​เหตุผล​อะไร​มากมาย​กับ​เขา​ ​แต่​เขา​รู้ดี​ว่า​คนที​่​อยู่​ใน​ภาวะ​สิ้นหวัง​ต้องการ​อะไร​มาก​ที่สุด​ ​ไม่​ใช้​ชาม​ข้าว​ตรงหน้า​หรือ​เงินทอง​ไม่​กี่​เหรียญ​ ​แต่​เป็นความ​หวัง​ที่จะ​ได้​อยู่​มีชีวิต​ต่อไป​ต่างหาก

ซื่อจิ่น หวนรักประดับใจ

ซื่อจิ่น หวนรักประดับใจ

Status: Ongoing
นิยายโรแมนติกยุคโบราณ-แนวแต่งงาน ดราม่าในอดีตจะหายไป รักใหม่สุดหวานซึ้งจะเริ่มต้น…กับคนเดิม?!ชาติที่แล้วเพราะนาง ‘เจียงซื่อ’ คุณหนูสี่แห่งตระกูลตงผิงปั๋วดวงตามืดบอดทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรจนถึงแก่ความตายเมื่อได้รับโอกาสให้กลับมามีชีวิตที่สองนางจะไม่ทำเรื่องผิดพลาดซ้ำอีกต่อไปคนที่หวังดีกับนางจากใจจริงนางล้วนเข้าใจและพร้อมตอบแทนด้วยสิ่งเดียวกันคนที่คิดร้ายวางแผนทำลายนาง นางก็พร้อมจะเอาคืนเป็นทบเท่าพันทวีชีวิตการแต่งงานที่ไม่สมหวังในชาติก่อนทำให้นางเข็ดขยาดไม่คิดจะมีความรักอีกแต่เหตุใดกัน ‘อวี้จิ่น’ สามีคนที่สองของนางในชาติก่อนกลับมาคอยตามตอแยนางไม่หยุดเช่นนี้!แม้ชาติก่อนข้าจะเคยชอบเจ้า แต่ชาตินี้อย่าหวังจะทำให้ข้าเสียน้ำตาได้อีกเป็นหนที่สองนางต้องอยู่ให้ห่างจากเจ้าคนเลวนั่นไว้ ยิ่งไกลยิ่ง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท