ตอนที่ 26 ไม่อยากแต่ง
เยียนอวิ๋นฉีมีสิ่งที่ต้องการพูดเต็มไปหมด
เซียวฮูหยินรู้ความคิดของนาง เอ่ยเตือนขึ้น “มีเรื่องใดกลับจวนก่อนค่อยพูด”
เยียนอวิ๋นฉีพยักหน้า จับมือของเยียนอวิ๋นเกอออกจากพระราชวังไปอย่างรวดเร็ว
ภายในวังทำให้คนรู้สึกอึดอัด
นางไม่อยากเข้าวังอีกแล้ว
ระหว่างทางไร้ซึ่งคำพูด
เมื่อกลับถึงจวน ยังไม่ทันได้ดื่มน้ำชาสักคำ เยียนอวิ๋นฉีก็พูดขึ้นอย่างรีบร้อน
“ท่านแม่ ฮองเฮาจะหมั้นหมายข้าให้แก่องค์ชายใหญ่จริงหรือ ข้าควรทำอย่างไร”
หากมีโอกาสหลีกหนีเพียงน้อยนิด นางก็ไม่อยากสมรสกับองค์ชาย
เซียวฮูหยินปลอบนาง “เจ้าอย่าใจร้อน พระราชโองการยังไม่ออกมา เรื่องนี้ก็ยังคงมีทางหลีกหนี”
“หลีกหนีอย่างไร องค์ชายใหญ่เป็นโอรสที่กำเนิดจากภรรยาเดิมของฝ่าบาท ฮองเฮามององค์ชายใหญ่เป็นเหมือนตะปูในตา ก้างในเนื้อเสมอมา ลูกดูออก ฮองเฮาไม่โปรดตระกูลเยียน นางหมั้นหมายข้าให้แก่องค์ชายใหญ่ เพียงแค่ต้องการก่อปัญหาให้องค์ชายใหญ่เท่านั้น”
เยียนอวิ๋นฉีมองออกอย่าทะลุปรุโปร่ง
มารดาขององค์ชายใหญ่ ตายจากไปหลังจากให้กำเนิดเขาเมื่อสิบกว่ายี่สิบปีก่อน
เวลานั้น โอรสแห่งสวรรค์ ฮ่องเต้หย่งไท่เป็นเพียงองค์ชายที่ไม่มีความโดดเด่นท่านหนึ่ง
หลังจากที่ภรรยาเดิมของตนเองตายจากไปไม่นานนัก ฮ่องเต้หย่งไท่ก็สมรสกับเถาฮองเฮา
หลังจากฮ่องเต้หย่งไท่ขึ้นรองราชย์ ตามหลักแล้วควรแต่งตั้งภรรยาเดิมเป็นฮองเฮาย้อนหลัง
ไม่รู้เพราะเถาฮองเฮาขัดขวางหรือไม่ หลายปีมานี้ ฮ่องเต้หย่งไท่ไม่เคยแต่งตั้งภรรยาเดิมแม้แต่น้อย
ครานี้ สถานการณ์ขององค์ชายใหญ่จึงกระอักกระอ่วนยิ่งนัก
บอกว่าเขาเป็นองค์ชายใหญ่ แต่มารดาของเขากลับไม่ใช่ฮองเฮา
บอกว่าเขาเป็นโอรสจากพระสนม แต่มารดาของเขาก็เป็นภรรยาเดิมที่ฮ่องเต้หย่งไท่แต่งงานอย่างถูกต้องตามประเพณี
ต้องโทษตระกูลมารดาขององค์ชายใหญ่ไม่มีอำนาจ
เพียงแค่ตระกูลมารดาของเขามีความสามารถ มารดาของเขาคงไม่ต้องรอการแต่งตั้งเป็นฮองเฮาย้อนหลังมานานเพียงนี้
เยียนอวิ๋นฉีพูดอีกครั้ง “ลูกยังได้ยินมาว่า แต่ก่อนองค์ชายใหญ่เคยหมั้นหมายเอาไว้ แต่ว่าที่พระชายาของเขาตายในอุบัติเหตุจากการเที่ยวเล่น”
เซียวฮูหยินถามนาง “เจ้ารู้หรือไม่ ว่าที่พระชายาขององค์ชายใหญ่เป็นหญิงสาวตระกูลใด”
เยียนอวิ๋นฉีส่ายหน้า “ลูกไม่รู้เจ้าค่ะ”
เซียวฮูหยินพูดอย่างจริงจัง “ว่าที่พระชายาขององค์ชายใหญ่ก่อนหน้านี้มีชาตกำเนิดจากตระกูลหลิว เป็นหลานสาวของอวี้สื่อต้าฟู หลิวจิ้น การหมั้นหมายครานี้ ฝ่าบาททรงออกหน้าหมั้นหมายกับตระกูลหลิวเอง เจ้ารู้หรือไม่ว่ามันหมายความว่าอย่างไร”
เยียนอวิ๋นฉีส่ายหน้า
เซียวฮูหยินพูด “มันหมายความว่า ฮ่องเต้เป็นห่วงและให้ความสำคัญกับองค์ชายใหญ่ เจ้าลองคิดดู หากไม่มีการปกป้องของฮ่องเต้ ตระกูลมารดาขององค์ชายใหญ่ไร้ความสามารถ องค์ชายใหญ่จะเติบโตอย่างปลอดภัยได้อย่างไร”
“แต่ดูจากท่าทีของฝ่าบาท ราวกับเขาเห็นด้วยกับข้อเสนอของฮองเฮา ต้องการหมั้นหมายลูกให้แก่องค์ชายใหญ่ ท่านแม่ ลูกไม่อยากสมรสกับองค์ชาย”
ดวงตาของเยียนอวิ๋นฉีแดงก่ำ ร้อนใจจนแทบจะร้องไห้
เมื่อนึกถึงว่าต้องสมรสกับองค์ชายใหญ่ อีกทั้งยังต้องถูกเถาฮองเฮากลั่นแกล้ง ภายในใจของนางก็เป็นกังวล
นางไม่มีความมั่นใจที่จะรับมือกับเถาฮองเฮา
เถาฮองเฮามีอำนาจมาก ขุนนางภายในราชสำนักล้วนไม่กล้าเป็นปรปักษ์ นางเป็นเพียงหญิงสาวตัวคนเดียวจะกล้าได้อย่างไร
ตระกูลเยียนอยู่ไกลที่แคว้นโยวโจว ช่วยเหลือนางไม่ได้
หากต้องสมรสกับองค์ชายใหญ่จริง นางมีเพียงพึ่งพาตนเอง
เมื่อเห็นอารมณ์ของเยียนอวิ๋นฉีใกล้จะพังทลาย เซียวฮูหยินถามนางด้วยสายตาเข้มงวด
“หากฮ่องเต้ต้องการให้เจ้าสมรสกับองค์ชายใหญ่ เจ้าจะทำอย่างไร จะปฏิเสธหรือ”
“ข้าๆ…”
เยียนอวิ๋นฉีตะกุกตะกัก ดวงตาแดงก่ำ
“หากต้องสมรสจริง ลูกย่อมจะสมรส เพียงแต่ก่อนที่เรื่องจะมีบทสรุป ลูกยังคงต้องการสู้เพื่อตนเอง หากมีโอกาสเปลี่ยนแปลงได้ ลูกย่อมอยากหลีกเลี่ยงที่สมรสกับราชวงศ์ได้”
“เจ้าคิดได้เช่นนี้ย่อมดีมาก!” เซียวฮูหยินหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมา เช็ดหางตาแทนเยียนอวิ๋นฉี
“เจ้าจำไว้ ไม่ว่าฝ่าบาทพระราชทานเจ้าให้ผู้ใด เจ้าอย่าได้ท้อแท้ ตอนนั้นฮ่องเต้องค์ก่อนพระราชทานข้าให้แก่ท่านพ่อเจ้า หากข้าเป็นเหมือนเจ้า จะมีชีวิตอยู่จนถึงทุกวันนี้ได้อย่างไร”
เยียนอวิ๋นฉีพูดด้วยเสียงสะอื้น “ลูก…ลูกตื่นตระหนกเกินไป ไม่สามารถควบคุมตนเองได้ในชั่วขณะ”
เซียวฮูหยินดึงให้นางนั่งลง
“ตื่นตระหนกอันใด! เจ้าไม่อยากสมรสกับองค์ชายใหญ่ ใช่ว่าอีกฝ่ายจะยอมสมรสกับเจ้า”
เยียนอวิ๋นฉีได้ยิน ผงะไป
จริงด้วย!
นางไม่ยอมสมรส ทางด้านองค์ชายใหญ่ก็อาจจะเป็นเช่นเดียวกัน
เยียนอวิ๋นฉีมีความมั่นใจขึ้นมากะทันหัน “ท่านแม่มีแผนการแล้วหรือ”
เซียวฮูหยินเงียบ แต่ความคิดหมุนเวียนอยู่ภายในหัว
เยียนอวิ๋นเกอที่เงียบมาเสมอมีการเคลื่อนไหวขึ้นมา
นางยื่นมืออกมาเคาะโต๊ะ จรดดินสอ “อวี้สื่อต้าฟู หลิวจิ้น”
เยียนอวิ๋นฉีไม่เข้าใจ “น้องสี่ต้องการสื่ออันใด”
เยียนอวิ๋นเกอสีหน้าเคร่งเครียด เห็นได้ชัดว่ามีความคิดอีกแบบต่อการสมรสของเยียนอวิ๋นฉี
อวี้สื่อต้าฟู หลิวจิ้นเป็นขุนนางสำคัญของราชสำนัก
ตอนนั้นฝ่าบาทเป็นผู้พระราชทานหลานสาวคนโตของหลิวจิ้นให้องค์ชายใหญ่ด้วยตนเอง
เห็นได้ชัด เวลานั้นฮ่องเต้หย่งไท่ให้ความสำคัญกับองค์ชายใหญ่อย่างมาก
ถึงแม้จะมีลมข้างหมอนอย่างเถาฮองเฮา แต่ก็ไม่สามารถสั่นไหวตำแหน่งขององค์ชายใหญ่ภายในใจของฮ่องเต้หย่งไท่ได้
เพียงแค่องค์ชายใหญ่สมรสกับตุณหนูตระกูลหลิว ย่อมเปรียบเสมือนเสือติดปีก
ไม่มีการสนับสนุนจากตระกูลมารดา แต่มีการสนับสนุนจากตระกูลพระชายา ย่อมทำให้เขาต้านลมพลิกหมากได้
แต่คุณหนูตระกูลหลิวตายไปแล้ว
ห่างจากงานสมรสครึ่งปี เหล่าชายหนุ่มหญิงสาวชนชั้นสูงออกไปเที่ยวเล่น สุดท้ายคุณหนูตระกูลหลิวเกิดเรื่องจนเสียชีวิต
เรื่องนี้หากบอกว่าไม่ผิดปกติ ผียังไม่เชื่อ
แต่คนตายไปแล้ว เชื่อหรือไม่แล้วอย่างไร
ตระกูลหลิวไม่มีทางให้คุณหนูคนที่สองสมรสกับองค์ชายใหญ่
แผนการที่องค์ชายใหญ่ต้องการเพิ่งพาตระกูลภรรยา ได้รับการสนับสนุนจากขุนนางสำคัญในราชสำนักล่มสลาย!
แตกละเอียดเป็นผุยผง
คาดเดาว่า การตายของคุณหนูตระกูลหลิว คนที่้เสียใจมากที่สุดคงจะเป็นองค์ชายใหญ่
ระยะเวลาสองปีผ่านไป…
เวลานี้ ภายใต้การจัดการของเถาฮองเฮา ฮ่องเต้หย่งไท่มีความคิดที่จะหมั้นหมายเยียนอวิ๋นฉีให้แก่องค์ชายใหญ่
คุณหนูตระกูลเยียน!
ตระกูลเยียนถูกราชสำนักสงสัย เพียงแค่ดูจากงบทางการหารที่ลดลงในแต่ละปีก็รู้แล้วว่าราชสำนักต้องการถอนรากถอนโคนตระกูลเยียนให้หมดสิ้น
เยียนโส่วจ้านมีใจกบฏ คาดว่าฮ่องเต้หย่งไท่ต้องการให้เยียนโส่วจ้านตายแม้แต่ขณะที่กำลังฝัน
นอกจากนี้ ความแค้นระหว่างเซียวฮูหยินผู้เป็นนายหญิงแห่งตระกูลเยียนและฮ่องเต้หย่งไท่ หนึ่งวันหนึ่งคืนยังพูดไม่หมก
พระราชทานบุตรสาวตระกูลเยียนให้องค์ชายใหญ่ เห็นได้ชัดว่าองค์ชายใหญ่หมดความโปรดปรานแล้ว หรือบางทีเขาอาจกระทำผิดบางอย่างจนทำให้ฮ่องเต้หย่งไท่ละทิ้ง
การสมรสในครานี้ไม่ใช่เรื่องที่ดี
เยียนอวิ๋นเกอมีเรื่องต้องการพูดมากมาย แต่นางเพียงแค่เขียนสั้นๆ
“สถานการณ์ขององค์ชายใหญ่ไม่ดีนัก แต่การสมรสในครานี้ ยังคงต้องลงมือจากทางเขา”
เซียวฮูหยินพยักหน้า “อวิ๋นเกอพูดถูก พวกเราไม่อยากแต่ง องค์ชายใหญ่ก็อาจไม่อยากแต่ง พวกเราไม่สะดวกที่จะขัดขืนกับฝ่าบาท แต่เขาสามารถทำได้”
เยียนอวิ๋นฉีรีบถาม “ความหายของท่านแม่และน้องสีคือ เข้าเฝ้าองค์ชายใหญ่ ให้เขาออกหน้าล้มเลิกความคิดพระราชทานงานสมรสของฝ่าบาท?”
เซียวฮูหยินพูด “จากทีดูในเวลานี้ วิธีนี้ดีที่สุด”
เยียนอวิ๋นฉีกังวล “แต่ว่า องค์ชายใหญ่จะออกหน้าหรือ เขายอมร่วมมือกับพวกเราหรือ พวกเราไม่แม้แต่จะได้พบหน้าเขา จะโน้มน้าวเขาอย่างไร”
เซียวฮูหยินหัวเราะ “เวลานี้ องค์หญิงเฉิงหยางจึงมีประโยชน์”
คนตระกูลเยียนไม่สะดวกเข้าเฝ้าองค์ชายใหญ่ด้วยตนเอง เพราะง่ายต่อการจับผิดและคาดเดา
ให้องค์หญิงเฉิงหยางออกหน้าแทนตระกูลเยียน นัดองค์ชายใหญ่ออกมา เรื่องคงจะง่ายขึ้นมาก
เยียนอวิ๋นฉีถาม “องค์หญิงเฉิงหยางจะช่วยหรือ”
“นางช่วยแน่นอน” เซียวฮูหยินพูดอย่างมั่นใจ