ตอนที่ 42 การลอบสังหารของเซียวอี้
หย่งไท่ปีที่สิบเอ็ด!
ตามการเดินทางเข้าเมืองของบรรดาท่านอ๋องและแม่ทัพจากพื้นที่ต่างๆ เมืองหลวงนับวันยิ่งคึกคัก
วันที่หนึ่ง เดือนหนึ่ง
พระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชบริพาร ภริยาข้าราชบริพาร…
ต่างเดินทางเข้าพระราชวังเฉลิมฉลอง
เซียวอี้ในฐานะตัวแทนของท่านโหวผิงอู่ สืออุนผู้มีตำแหน่งขุนนางระดับสี่ติดตตัวย่อมต้องปรากฏอยู่ในตำหนักจินหลวน
เมื่อท่านอ๋องตงผิงเห็นเซียวอี้ เขาโกรธจนใบหน้าบิดเบี้ยวพลันตะหวาด “ลูกทรพี!”
เซียวอี้กรอกตาใส่อีกฝ่าย แต่ไม่พูดไม่มองท่านอ๋องตงผิงแม้แต่น้อย
ท่านอ๋องตงผิงโกรธจัด
สมกับเป็นลูกทรพี!”
ไม่รู้จักคำนับทักทายเมื่อพบบิดา
เขาคิดว่าพึ่งพาท่านโหวผิงอู่ สืออุนจะไม่ต้องเกรงกลัวผู้ใดหรือ
ไร้เดียงสา!
ท่านอ๋องตงผิงต่อว่าเขาอีกครั้ง “สารเลว!”
เซียวอี้เย้ยหยัน แต่ยังคงไม่โต้เถียง
ท่านอ๋องตงผิงไม่สามารถระงับความโกรธได้ จึงชี้เขากลันต่อว่า
“กฎเกณฑ์ที่เจ้าเรียนรู้ตกอยู่ในท้องหมาหมดแล้วหรือ”
จนกระทั่งเวลานี้ เซียวอี้จึงยอมมองไปที่ท่านอ๋องตงผิง
“ท่านอ๋องช่างขี้หลงขี้ลืมเสียจริง ข้าถูกไล่ออกจากวงศ์ตระกูลแล้ว ท่านกับข้าไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกัน ในฐานะของขุนนางร่วมราชสำนัก เหตุใดข้าต้องทักทายท่าน”
“เจ้าๆ…”
ท่านอ๋องตงผิงโกนธจนใบหน้าแดงก่ำ
เขาไม่เคยคาดคิดว่าลูกทรพีจะบังอาจทำให้เขาเสียหน้าในตำหนักจินหลวน
เซียวอี้หัวเราะเย้ยหยัน สะบัดแขนเสื้อจากไป
เขากลัวตนเองจะพูดจาบาดหูมากกว่านี้ ทำให้บิดาผู้ให้กำเนิดของตนเองโกรธตาย
หากทำให้บิดาผู้ให้กำเนิดโกรธจนตายคงจะอกตัญญูอย่างมาก!
อีกทั้งยังอยู่ในตำหนักจินหลวน
ไม่เหมาะสม…ไม่เหมาะสม!
เดินหนีเป็นวิธีที่ดีที่สุด!
แม่ทัพใหญ่ต้าฮั่นโบกสะบัดแส้
ข้าราชบริพารนับร้อย พระบรมวงศานุวงศ์ยืนเรียงตามลำดับ
ตามเสียงโห่ร้องชัยโย ฮ่องเต้หย่งไท่เดินเข้ามาในตำหนักจินหลวน ข้าราชบริพารนับร้อยต่างแสดงความยินดี
การรวมตัวของเหล่าท่านอ๋องในทุกห้าปี การเฉลิมฉลองในราชสำนักที่ยิ่งใหญ่ในวันที่หนึ่ง เดือนหนึ่ง หย่งไท่ปีที่สิบเอ็ดมีความรื่นเริง ความอลังการและความมั่งคั่งยิ่งกว่าปีก่อน
เหล่าท่านอ๋องจากทุกสารทิศไม่เพียงแต่ถวายคำอวยพร อีกทั้งยังถวายของขวัญปีใหม่ที่มูลค่าไม่น้อย
พระคลังของฮ่องเต้มีรายได้เข้ามาอีกครั้ง
ทุกคนต่างยิ้มแย้มแจ่มใสในเวลานี้
ปีใหม่กับบรรยากาศใหม่ แม้ภายในใจจะไม่มีความสุขอย่างไร บนใบหน้าก็ยังคงมีรอยยิ้ม
เดิมทีคิดว่าวันนี้เป็นวันมงคล ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุนองเลือด
ในตำหนักจินหลวน เซียวอี้ถือไซเหล็กแทงเข้าไปที่ท้องของนายท่านรองตระกูลเถา
นายท่านรองตระกูลเถามองเซียวอี้ด้วยความตกตะลึง ก่อนจะมองไซเหล็กที่แทงเข้าท้อง
“เจ้า…เจ้า”
เหตุใดจึงฆ่าเขา
พวกเขาเคยมีความแค้นกันหรือ
เซียวอี้ยิ้มอย่างชั่วร้าย โน้มตัวเข้าใกล้หูของนายท่านรองตระกูลเถา
“วันนี้ยืมหัวของท่านมาใช้เสียหน่อยนะ”
“เหตุใดเจ้าจึง…”
“เหตุใดจึงฆ่าท่านหรือ เพราะว่าท่านแซ่เถาไงล่ะ”
อ้าก…
บนตำหนักจินหลวน เสียงกรีดร้องด้วยความตกใจดังขึ้น
“ฆ่าคนแล้ว!”
โฮ!
เหล่าข้าราชบริพารต่างกระจัดกระจาย
ดวงตาของท่านอ๋องตงผิงกระตุกไม่หยุด เมื่อมองไป “ลูกทรพี! เจ้าบังอาจฆ่าคนต่อหน้าผู้อื่นหรือ”
เหล่าขุนนางหลุดจากความตกตะลึงในทันที
“อะไรนะ บุตรของท่านอ๋องตงผิงฆ่าคนหรือ”
“หลานของท่านโหวผิงอู่ สืออุนฆ่านายท่านรองตระกูลเถา! สืออุนจะก่อกบฏหรือ”
“ข้าว่าท่านอ๋องตงผิงต่างหากที่จะก่อกบฏ!”
ท่านอ๋องตงผิงตื่นตระหนก “ข้าขับไล่ลูกทรพีออกจากวงศ์ตระกูลแล้ว สิ่งที่เขาทำล้วนไม่เกี่ยวข้องกับข้า ฝ่าบาททรงพิจารณา!”
ฮ่องเต้หย่งไท่เดินลงบันไดอย่างรวดเร็ว
เวลานี้ แม่ทัพใหญ่ต้าฮั่นพุ่งตัวเข้ามาในตำหนักจินหลวนเพื่อควบคุมสถานการณ์ พร้อมทั้งจังกุมเซียวอี้เอาไว้
เซียวอี้ยอมจำนน ไม่มีการขัดขืนแต่อย่างใด
อาวุธสังหารคือไซเหล็กเล่มนั้น มันตกอยู่บนพื้นและเต็มไปด้วยเลือด
เลือดของนายท่านรองตระกูลเถาไหลนองเต็มพื้น ก่อนจะหมดสติไป
“ข้าจะให้เจ้าชดใช้ด้วยชีวิต!” ท่านผู้เฒ่าตระกูลเถาผู้เป็นบิดาของเถาฮองเฮาพุ่งตัวออกมาตะโกนด้วยความโกรธ
เซียวอี้ฆ่าบุตรชายของเขา ความแค้นนี้ก่อเกิดขึ้นแล้ว
ไม่ฆ่าเซียวอี้ ตระกูลเถาไม่ยอมเลิกราเด็ดขาด
มีคนก้าวไปข้างหน้าเพื่อสัมผัสลมหายใจของนายท่านรองตระกูลเถา เขาส่ายหัว “ทูลฝ่าบาท ใต้เท้าเถาตายแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”
ท่านผู้เฒ่าตระกูลเถาตะโกนด้วยความโกรธ พลันร้องไห้
“ฝ่าบาททรงให้ความเป็นธรรมแก่กระหม่อนด้วยพ่ะย่ะค่ะ! เซียวอี้ฆ่าบุตรชายของข้าต่อหน้าทุกคน หากฝ่าบาททรงไม่อาจตัดสินอย่างเป็นกลางได้ กระหม่อมไม่มีวันยอมเด็ดขาด”
ท่านผู้เฒ่าตระกูลเถาจมอยู่กับความโกรธ พูดจาไม่ทันคิด บังอาจลั่นวาจาที่เป็นการข่มขู่ฮ่องเต้ออกมา
สายตาของฮ่องเต้หย่งไท่กวาดมองท่านผู้เฒ่าตระกูลเถาอย่างเย็นชา
ท่านผู้เฒ่าตระกูลเถาจมอยู่ในความเศร้าโศกจากการสูญเสียบุตรชาย ไม่รู้ตัวแม้แต่น้อย
นายท่านใหญ่ตระกูลเถาสังเกตอารมณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปของฮ่องเต้ ออกเสียงเกลี้ยกล่อม
“ท่านพ่อระงับความโกรธ! ข้าเชื่อว่าฝ่าบาทจะทรงทวงความยุติธรรมแก่ตระกูลเถา ท่านอ๋องตงผิง บุตรชายท่านฆ่าน้องรองของข้า ท่านจะอธิบายอย่างไร”
ท่านอ๋องตงผิงปวดหัวอย่างมาก
เวลานี้ เขาเสียใจอย่างมากที่ตอนนั้นไม่ได้ประหารเซียวอี้
เขาตะโกนราวกับกลัวคนไม่ได้ยิน
“ข้าตัดความสัมพันธ์กับลูกทรพีนี้แล้ว ข้าไม่รู้เรื่องของเขาแม้แต่น้อย อีกทั้งไม่มีทางถาม จะฆ่าจะแกงล้วนแล้วแต่ฝ่าบาทจะทรงตัดสิน”
ทุกคนต่างมองไปที่ฮ่องเต้หย่งไท่ รอคอยการตัดสินของเขา
ฮ่องเต้หย่งไท่ถามขันทีที่อยู่ข้างกาย “ใต้เท้าเถาตายแล้วจริงหรือ”
ซุนปังเหนียน ซุนกงกงก้าวไปข้างหน้าเพื่อพิสูจน์ด้วยตนเอง จากนั้นพยักหน้า
“ทูลฝ่าบาท ใต้เท้าเถาตายแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
อ้อ!
สีหน้าของฮ่องเต้หย่งไท่ไม่มีการเปลี่ยนแปลง
ราวกับการฆ่าคนต่อหน้าเขาในตำหนักจินหลวนเป็นเรื่องปกติอย่างมาก
เขากวาดตามองคนตระกูลเถา
คนตระกูลเถาส่วนใหญ่ต่างล้อมรอบท่านผู้เฒ่าตระกูลเถา
รวมทั้งสุนับรับใช้ของตระกูลเถาด้วย
คนเหล่านี้ไม่เกรงกลัวแม้แต่น้อย ไม่กลัวผู้อื่นรู้ว่าพวกเขาเป็นสุนับรับใช้ของตระกูลเถา
ฮ่องเต้หย่งไท่ยิ้มเย้ยหยันภายในใจ
เขาหันไปมองทางเซียวอี้
เซียวอี้ถูกมัดเอาไว้จนไม่สามารถที่จะมีการเคลื่อนไหวใดได้อีก
ฮ่องเต้หย่งไท่ถามเขา “เหตุใดเจ้าจึงฆ่าใต้เท้าเถา”
เซียวอี้มองไปที่ร่างของนายท่านรองตระกูลเถา ยิ้มอย่างเย้ยหยัน “เขาด่าข้า!”
เอ๊ะ!
เพียงเพราะสาเหตุนี้?
ทุกคนต่างวิจารณ์
เซียวอี้ผู้นี้ไม่เห็นกฎบ้านกฎเมืองอยู่ในสายตา บังอาจฆ่าคนในตำหนักจินหลวน สมควรประหารยิ่งนัก
อย่างไรเขาก็ถูกท่านอ๋องตงผิงขับไล่ออกจากวงศ์ตระกูล ไม่ถือเป็นพระบรมวงศานุวงศ์ ประหารก็ประหาร
“ฝ่าบาทโปรดรับสั่งประหารเซียวอี้ด้วยพ่ะย่ะค่ะ!”
“ไม่เคยพบเห็นการฆ่าคนในตำหนักจินหลวนมาก่อน การกระทำที่โหดร้ายเพียงนี้ ไม่ประหารไม่อาจระงับความโกรธของผู้คนได้”
“ไม่เพียงแต่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน แต่เป็นเรื่องที่น่ากลัวอย่างยิ่ง ไม่เห็นกฎหมายบ้านเมืองอยู่ในสายตา”
“ฆ่าคนย่อมต้องชดใช้ด้วยชีวิต มันเป็นความเหมาะสมและถูกต้อง ฝ่าบาทโปรดรับสั่งประหารเซียวอี้ด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ”
ทุกคนต่างเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง
การกระทำของเซียวอี้โหดร้ายอย่างมากเสียจริง
หากไม่ลงโทษอย่างรุนแรง ย่อมเท่ากับปล่อยให้มีแบบอย่างที่เลวร้ายอย่างมาก ผู้มาทีหลังอาจเลียนแบบ อย่างนั้นคงไม่ได้การ
ฮ่องเต้หย่งไท่ยกมือหยุดยั้งการถกเถียงของเหล่าข้าราชบริพาร
เขาถามเซียวอี้ “เพียงเพราะใต้เท้าเถาด่าเจ้า เจ้าจึงฆ่าเขาอย่างนั้นหรือ”
เซียวอี้เหมือนดั่งคนบ้าคลั่ง บ้าคลั่งจนไม่กลัวตาย “ฆ่าไม่ได้หรือ”
สีหน้าของฮ่องเต้หย่งไท่ดำทะมึน “ที่นี่คือตำหนักจินหลวน เป็นสถานที่สำคัญของราชสำนัก อีกทั้งวันนี้เป็นวันที่หนึ่งเดือนหนึ่ง วันแรกปีใหม่ซึ่งเป็นวันมงคลอันยิ่งใหญ่ เจ้าฆ่าคนต่อหน้าผู้อื่น เจ้ารู้ผิดหรือไม่”
“กระหม่อมผิดอันใดหรือพ่ะย่ะค่ะ”
“บังอาจ!” ซุนปังเหนียนออกเสียงตำหนิ “ดูหมิ่นฝ่าบาทต้องโทษประหาร”
ฮ่องเต้หย่งไท่ส่งสายตา ห้ามปรามซุนปังเหนียน
เขาถามต่อ “ผู้ใดสั่งให้เจ้าฆ่าใต้เท้าเถา”
“ไม่มีผู้ใดสั่ง!” เซียวอี้พูดอย่างหนักแน่น
ท่านอ๋องตงผิงกลัวจนหัวใจแทบจะหลุดออกมา
เขากลัวลูกทรพีอย่างเซียวอี้จะทำให้เขาเดือดร้อน กลัวว่าอีกฝ่ายจะสร้างเรื่องว่าเขาเป็นผู้บงการ
เด็กคนนี้ทำเรื่องแบบนี้ได้จริง
หลายปีนี้ ท่านอ๋องตงผิงไม่เคยเข้าใจในสิ่งที่เซียวอี้ทำ
คนผู้นี้ราวกับเสียสติ เขาลอบฆ่ามารดารองและพี่ชายของตนเอง จากนั้นฆ่าคนในตำหนักจินหลวนต่อหน้าผู้คน อีกทั้งคนที่ฆ่ายังเป็นขุนนางในราชสำนักผู้เป็นพี่ชายของเถาฮองเฮา
โชคดีที่เซียวอี้ไม่ได้กัดไปทั่ว
ท่านอ๋องตงผิงแอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก
เพียงแต่เขาโล่งอกเร็วเกินไป
ได้ยินเพียงฮ่องเต้หย่งไท่ตรัสถาม “ท่านอ๋องตงผิงบกการเจ้าใช่หรือไม่”
เมื่อท่านอ๋องตงผิงได้ยิน เขาคุกเข่าลงด้วยความตกใจ
“ฝ่าบาทรงเป็นธรรม ให้ความกล้าหาญแก่ข้าอีกร้อยครั้ง ข้าก็ไม้กล้าบงการผู้ใดลอบสังหารขุนนางในราชสำนักพ่ะย่ะค่ะ”
เซียวอี้ยิ้มเย้ยหยัน พูดย้ำอีกครั้ง “ไม่มีผู้ใดบงการ! แต่เพราะกระหม่อมไม่ชอบใต้เท้าเถา ดังนั้นจึงฆ่าเขา”
สีหน้าของฮ่องเต้หย่งไท่เย็นชา “ท่านโหวผิงอู่ สืออุนผิงสั่งให้เจ้าฆ่าใต้เท้าเถาใช่หรือไม่”
เซียวอี้ส่ายหน้า ยังคงเป็นคำตอบเดิม “ไม่มีผู้ใดสั่ง!”
ฮ่องเต้หย่งไท่ไม่พอใจอย่างมาก “ส่งตัวเขาให้องครักษ์จินอู้ สอบสวนอย่างเข้มงวด ใต้เท้าเถาถูกฆ่าตายย่อมต้องสืบให้กระจ่าง”
“พ่ะย่ะค่ะ!”
แม่ทัพใหญ่ต้าฮั่นนำตัวเซียวอี้ออกไป
ฮ่องเต้หย่งไท่มองแผ่นหลังของเขา จนกระทั่งอีกฝ่ายหายลับไปจึงเบนสายตากลับมา
จากนั้นจึงเริ่มปลอบประโลมท่านผู้เฒ่าตระกูลเถา สัญญาว่าจะให้ความเป็นธรรมแก่ตระกูลเถา
เซียวอี้ฆ่าคน ท่านอ๋องตงผิงที่อยู่ในเหตุการณ์จึงตกเป็นเป้าวิจารณ์
ผู้ใดให้เขาเป็นบิดาของเซียวอี้กันล่ะ
ถึงแม้เขาจะเน้นย้ำซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าเขาขับไล่เซียวอี้ออกจากวงศ์ตระกูล ตัดขาดความสัมพันธ์ระหว่างบิดากับบุตรแล้ว แต่ไม่มีผู้ใดสนใจ
ความสัมพันธ์ทางสายเลือด ไม่อาจตัดขาดได้เพียงเพราะคำว่า “ขับไล่ออกจากวงศ์ตระกูล”
เซียวอี้ฆ่าคน เรื่องนี้ไม่ธรรมดา
ขุนนางในราชสำนักต่างมีความสามารถในการทำเรื่อง่ายให้กลายเป็นเรื่องยาก ทำเรื่องยากให้กลายเป็นเรื่องวุ่นวาย
ฆ่าคนต่อหน้าผู้อื่นในตำหนักจินหลวน เรื่องนี้จะเป็นเรื่องธรรมดาได้อย่างไร
เบื้องหลังย่อมต้องมีจุดประสงค์ที่ไม่อาจเปิดเผยได้
ท่านอ๋องตงผิงในฐานะบิดาของเซียวอี้ย่อมตกเป็นผู้ต้องสงสัยคนแรก
ท่านผู้เฒ่าตระกูลเถาโกรธจัด พูดกับเขา “เซียวอี้ฆ่าบุตรชายของข้า ท่านอ๋องต้องให้คำอธิบาย”
ภายในใจของท่านอ๋องตงผิงมีคำด่าเป็นร้อยคำ ไม่รู้ควรพูดหรือไม่
เขาแค้น!
เขาเสียใจ!
เสียใจที่ไม่ได้กดเซียวอี้ให้จมน้ำตายเมื่อกำเนิดออกมา
ลูกทรพีจงใจฆ่าคนทั้งตระกูลให้ตาย
แน่นอน ท่านอ๋องตงผิงก็ไม่ใช่คนที่จะถูกรังแกได้ง่าย
เขาไม่เกรงกลัวแม้แต่น้อยเมื่อเผชิญหน้ากับท่านผู้เฒ่าตระกูลเถา
“อธิบาย? อธิบายอันใด ข้าต้องถามนายท่านมากกว่า ตระกูลเถาของพวกท่านมีเจตนาอันใด ทั้งที่รู้ว่าเซียวอี้มีความคิดไม่ปกติ แต่ยังจงใจท้าทายเขา เขาเสียสติไปตั้งนานแล้ว กล้าฆ่าแม้แต่มารดารองและพี่ชาย คำพูดเดียวก็สามารถยั่วยุให้เขาฆ่าคนได้ พวกท่านทั้งที่รู้เรื่องนี้ดี แต่ยังไม่ยอมเงียบปาก สุดท้ายนายท่านรองตระกูลเถาก็ถูกเขาฆ่า บอกได้เพียงว่ากรรมตามสนอง!”
“ท่านพูดเหลวไหล!”
“ท่านต่างหากที่พูดเหลวไหล!” ท่านอ๋องตงผิงไม่ยอมแม้แต่น้อย
“พวกเจ้าเงียบเสีย! เหตุใดเซียวอี้จึงฆ่าคน เขาได้รับการยั่วยุจริงหรือไม่ ข้าจะสืบให้กระจ่าง ให้ความเป็นธรรมแก่พวกท่าน”
ฮ่องเต้หย่งไท่ตรัสขึ้นเพื่อไกล่เกลี่ยการโต้เถียงของตระกูลเถาและท่านอ๋องตงผิง
ตระกูลเถาไม่ยอม!
ท่านอ๋องตงผิงยิ่งไม่ยอม!
เซียวอี้ฆ่าคน เดิมทีก็เป็นเพียงเรื่องไม่คาดคิด เป็นความหายนะที่ไม่มีวี่แววมาก่อน
เขาก็ไม่อยากให้กำเนิดบุตรชายที่บ้าคลั่งเช่นนี้ออกมา
แต่เมื่อกำเนิดออกมาแล้ว อีกทั้งยังเติบใหญ่ขึ้นมาแล้ว นายท่านรองตระกูลเถาก็ถูกฆ่าแล้ว ยังจะทำสิ่งใดได้อีก
หวังเพียงแต่องครักษ์จินอู้จะมีความสามารถในการเค้นถามความจริง
แน่นอน ภายในใจของท่านอ๋องตงผิงก็แอบสงสัยท่านโหวผิงอู่ สืออุนอยู่เช่นเดียวกัน
สืออุนมีใจทะเยอทะยาน ไม่แน่ว่าเขาอาจจะเป็นคนยุยงเซียวอี้ก็ได้
ท่านอ๋องตงผิงกัดฟัน แทบอยากจะยกดาบฟันท่านโหวผิงอู่ สืออุนเสีย
…
ข่าวที่นายท่านรองตระกูลเถาถูกฆ่าตายต่อหน้าผู้คนถูกส่งไปถึงวังหลัง
เถาฮองเฮาที่กำลังรับรองภริยาของข้าราชบริพารทำแก้วตก เศษแก้วกระจายเต็มพื้น
กี่ปีแล้ว…
นับแต่สมรสกับฮ่องเต้หย่งไท่ เถาฮองเฮาก็ไม่เคยเสียกิริยาต่อหน้าผู้อื่นเลย
เหล่าภริยาของข้าราชบริพารต่างมองหน้ากัน
เกิดเรื่องใดขึ้น
เหตุใดสีหน้าของเถาฮองเฮาจึงแย่เพียงนั้น
องค์หญิงเฉิงหยางให้คนสนิทไปสืบข่าวทันที
เถาฮองเฮาควบคุมอารมณ์ “ข้ารู้สึกไม่สบายนัก ขอตัวกลัวบไปพักผ่อนที่ตำหนักเสียก่อน ทุกท่านตามสบาย”
หลังจากพูดจบ เถาฮองเฮาก็ผลุดลุกขึ้นเดินจากไปอย่างรวดเร็ว
ภายในตำหนักใหญ่ ทุกคนต่างส่งเสียงซุบซิบ
ในไม่ช้าก็มีขันทีเดินเข้ามา ประกาศรับสั่งของฝ่าบาท ให้เหล่าภริยาของข้าราชบริพารทั้งหลายออกจากพระราชวังทันที
การเฉลิมฉลองในวันนี้จบสิ้นลงแล้ว
เหล่าภริยาของข้าราชบริพารต่างโล่งใจ ในเวลาเดียวกัน ความสงสัยภายในใจยิ่งมากขึ้น
เรื่องใดมีความรุนแรงถึงเพียงนี้
…
เถาฮองเฮาไม่สนใจการห้ามปราม เสด็จไปยังตำหนักจินหลวนอย่างรีบร้อน ก่อนจะพบกับร่างของนายท่านรองตระกูลเถา
เลือดไหลนองเต็มพื้น!
นางโกรธมาก เศร้าโศกมาก…
เมื่อเผชิญหน้ากับฮ่องเต้หย่งไท่ นางก็ร้องไห้ออกมาด้วยความเจ็บปวด
“พี่ชายของหม่อมฉันตายอย่างไม่รู้สาเหตุ ฝ่าบาททรงให้ความเป็นธรรมด้วยเพคะ”
ฮ่องเต้หย่งไท่โอบนาง “ฮองเฮาวางใจ เรื่องนี้ข้าให้องครักษ์จินอู้เว่ยสืบสวนแล้ว ย่อมต้องสืบให้กระจ่าง”
“เซียวอี้ล่ะเพคะ ฆ่าคนย่อมต้องชดใช้ด้วยชีวิต ฝ่าบาททรงประหารเขาเถิดเพคะ!”
“อย่ารีบร้อนที่จะประหารเขา รอสืบเรื่องนี้ให้กระจ่างก่อนค่อยลงโทษเขาก็ยังไม่สาย!”
เถาฮองเฮามองฮ่องเต้หย่งไท่ “หม่อมฉันเชื่อฟังฝ่าบาทเพคะ!”
“วางใจ! องครักษ์จินอู้ย่อมจะสืบเรื่องนี้ให้กระจ่าง!”
ทันที่ที่เถาฮองเฮาเสด็จกลับตำหนักเว่ยยาง นางก็เขวี้ยงเครื่องลายครามทั้งห้องทิ้ง
“ฮองเฮาทรงระงับความโกรธ! ความโกรธทำลายตับ ฮองเฮาทรงระวังพระวรกายพ่ะย่ะค่ะ”
เหมยเส้าเจี้ยนเกลี้ยกล่อมอยู่ด้านข้าง
เถาฮองเฮาหอบหายใจ กัดฟันพูด “เซียวอี้ต้องตาย! ต้องตาย!”