ตอนที่ 111 ตายอย่างสมเหตุสมผล
ท่านผู้เฒ่าตระกูลเถาตายแล้ว!
หัวของเขาถูกตัดลงมา ส่งเข้าไปในพระราชวัง
มันคือความจงรักภักดีของตระกูลเถา อีกทั้งยังเป็นคำอธิบายของตระกูลเถาต่อคนทั้งแผ่นดิน
ฮ่องเต้หย่งไท่ถอนหายใจ “ท่านผู้เฒ่าจงรักภักดีต่อแผ่นดิน ข้าดีใจยิ่งนัก! ฝังเขาอย่างสมศักดิ์ศรี!”
เถาฮองเฮาร้องไห้อย่างหนัก
นางมองหัวของบิดา ก่อนจะมองไปยังฮ่องเต้หย่งไท่
เขาโหดเหี้ยมเช่นนี้ได้อย่างไร!
เดิมทีนางคิดว่าเขาจะปล่อยตระกูลเถาไป แต่เขากลับบีบเค้นให้บิดาผู้ให้กำเนิดของนางตาย
คนหนึ่งคือสามี คนหนึ่งคือบิดา หัวใจของนางเจ็บปวดจนไม่อาจหายใจได้!
ฮ่องเต้หย่งไท่เดินมาข้างตัวของเถาฮองเฮา โน้มตัวเล็กน้อย “ฮองเฮาอย่าได้เศร้าโศก!”
เถาฮองเฮาก้มหน้ากัดฟันแน่น ตัวของนางสั่นเทา
นางไม่กล้าเปิดปาก
นางกลัวว่าเมื่อนางเปิดปาก นางจะก่นด่าสาปแช่ง นางจะซักถามเสียงแข็ง
เมื่อเป็นเช่นนั้น การเสียสละของท่านพ่อจะสูญเปล่า
นางทำได้เพียงกัดฟันแน่น สะอื้นด้วยความเศร้า
ไหล่ทั้งสองข้างของนางสั่นเทา แสดงออกถึงความไร้หนทาง ทำให้คนสงสาร
ฮ่องเต้หย่งไท่กอดนางเอาไว้อย่างอ่อนโยนเหมือนเคย
แต่เถาฮองเฮากลับตัวแข็งทื่อ ไม่เหมือนเมื่อก่อน
นางพยายามข่มตัวเองเอาไว้ ร้องไห้เสียงเบา
นางซุกหน้าไว้ในอ้อมกอดของฮ่องเต้หย่งไท่ กัดริมฝีปากแน่น
นางหลับตาลง กลัวว่าดวงตาจะเปิดเผยความแค้นในใจของนาง
นางพิงเขา พยายามผ่อนคลายร่างกาย ยังคงคิดว่าอีกฝ่ายเป็นสวรรค์ของนางเหมือนเมื่อก่อน
ฮ่องเต้หย่งไท่ตบไหล่ของนางเบาๆ ปากพึมพำบทเพลง ราวกับเป็นชายที่ไร้เดียงสา
ราวกับย้อนเวลากลับไปยังช่วงหนุ่มสาว
เถาฮองเฮาผงะไป
นางอยู่กับเขามานานเพียงนี้ เป็นครั้งแรกที่ได้ยินเขาพึมพำบทเพลง
“ฝ่าบาททรงขับกล่อมบทเพลงได้ด้วยหรือเพคะ”
ฮ่องเต้หย่งไท่ยิ้ม “ข้าขับกล่อมไม่ได้ เพียงแค่พึมพำได้เพลงสองเพลง ฮองเฮาคิดว่าไพเราะหรือไม่”
เถาฮองเฮาพยักหน้า “ไพเราะเพคะ!”
“ฮองเฮาอยากรู้ชื่อของเพลงนี้หรือไม่” ฮ่องเต้หย่งไท่ถามอย่างสนใจ
เถาฮองเฮาลังเลเล็กน้อย “อยากรู้เพคะ! เพลงนี้มีชื่อหรือ”
“ย่อมต้องมีชื่อ เพลงนี้ชื่อลาจาก”
เถาฮองเฮาเบิกตาโต
ฮ่องเต้หย่งไท่พูดอย่างจริงจัง “ท่านผู้เฒ่าตระกูลเถาจงรักภักดีต่อแผ่นดิน ยอมสละแม้กระทั่งชีวิต ข้าส่งเขาแสดงน้ำใจ”
เถาฮองเฮาก้มหน้าหลับตา
เหตุใดบนแผ่นดินจึงมีคนที่ไร้ยางอายเพียงนี้!
นางจะพูดสิ่งใดได้อีก
นางพูดสิ่งใดไม่ได้ทั้งนั้น
ไม่เพียงพูดไม่ได้ แม้แต่ความรู้สึกที่แท้จริงยังไม่อาจแสดงออกมา
นางเอ่ยอย่างหวาดกลัว “ขอบพระทัยฝ่าบาท!”
“ฮองเฮาไม่ต้องเกรงใจ! ท่านผู้เฒ่าตระกูลเถาตายเพื่อแผ่นดินต้าเว่ย ข้าจะจดจำความดีความชอบของเขาไปตลอดชีวิต”
เถาฮองเฮาตะโกนอย่างบ้าคลั่งภายในใจ
ยังไม่ยอมปล่อยตระกูลเถาไปหรือ
ท่านพ่อตายแล้ว ตระกูลเถาไม่มีเสาหลักแล้ว
ตระกูลเถาในเวลานี้ไม่เป็นภัยต่อฮ่องเต้ด้วยซ้ำ
นางยิ้มเยาะเย้ยตนเอง ผละออกจากอ้อมกอดของฮ่องเต้
นางเดินหน้าไม่กี่ก้าว ประคองหัวของท่านผู้เฒ่าตระกูลเถาขึ้นมา ภายในใจเจ็บปวดจนอยากจะทำลายโลกใบนี้
นางกำลังร้องไห้!
ร้องไห้อย่างไร้เสียง!
ชีวิตช่างยากลำบาก!
นางไม่พูดแม้แต่ประโยคเดียว หากแต่ประคองหัวของท่านผู้เฒ่าตระกูลเถาออกจากตำหนักซิงชิ่ง
ซุนปังเหนียนอยากจะรั้ง แต่ถูกฮ่องเต้หย่งไท่ห้ามเอาไว้
นางเดินไปทางตำหนักเว่ยยางทีละก้าว
ระหว่างทาง ทุกคนในวังต่างหลบหลีก
น่ากลัวเหลือเกิน!
นายท่านใหญ่ตระกูลเถาเดินตามอยู่ด้านหลังของเถาฮองเฮา สีหน้าเศร้าโศกและเจ็บปวด
เขาไม่กล้าพูดแม้แต่ประโยคเดียว ทำได้เพียงเดินตามเข้าไปในตำหนักเว่ยยางอย่างเงียบๆ
หัวถูกใส่เอาไว้ในกล่องไม้
ใช้วิธีป้องกันการเน่าสลาย รักษาท่าทางสงบก่อนที่ท่านผู้เฒ่าตระกูลเถาจะจากไปอย่างสมบูรณ์!
ราวกับเขาเพียงแค่หลับไป
“ฮองเฮา!” ในที่สุดนายท่านใหญ่ตระกูลเถาก็เอ่ยปาก
แต่ไม่คาดคิดว่าเสียงเรียกนี้ราวกับเป็นการดึงจิตที่หลุดลอยไปของเถาฮองเฮาให้กลับมา
นางหันควับกลับมา ฝ่ามือของนางกระทบลงบนใบหน้าของนายท่านใหญ่ตระกูลเถา
เล็บยาวข่วนใบหน้าของนายท่านใหญ่ตระกูลเถาจนเป็นแผล
นายท่านใหญ่ตระกูลเถาร้องโอดครวญทีหนึ่ง
เขาไม่ได้หลบหลีก หากแต่อดทนเอาไว้
ฝ่ามือนี้ เขาสมควรได้รับ
เถาฮองเฮาซักถามเสียงดุ “ผู้ใดเป็นคนลงมือ”
ผู้ใดตัดหัวของท่านพ่อ
“ฝีมือของท่านใช่หรือไม่”
“ท่านพูด!”
นายท่านใหญ่ตระกูลเถาส่ายหน้าอย่างช้าๆ “ไม่ใช่ข้า! ข้าลงมือไม่ได้ เป็นฝีมือของพ่อบ้านใหญ่ในจวน”
“เขาสมควรตาย!” ดวงตาของเถาฮองเฮาเต็มไปด้วยความแค้น
นายท่านใหญ่ตระกูลเถาพูด “พ่อบ้านใหญ่ตายแล้ว! หลังจากตัดหัวท่านพ่อ เขาก็ปลิดชีพตนเอง”
เถาฮองเฮาหัวเราะเสียงเย็น “เขาคิดว่าตายแล้วจะทดแทนได้หรือ ข้าจะประหารเก้าชั่วโคตรของเขา”
นายท่านใหญ่ตระกูลเถาพูดเสียงต่ำ “คนในตระกูลของเขาล้วนตายแล้ว! ก่อนลงมือ เขาคาดการณ์ทุกอย่างไว้แล้ว”
เพียะ!
อีกฝ่ายฟาดมือกระทบลงบนใบหน้าของนายท่านใหญ่ตระกูลเถาอย่างแรง
นายท่านใหญ่ตระกูลเถาลูบมุมปาก มุมปากแตกแล้ว
เขาเลียมุมปาก กลิ่นคาวเลือดที่คุ้นเคยทำให้คนสะอิดสะเอียน
ราวกับนึกถึงตอนที่บิดาถูกตัดหัว เขาถึงกับอาเจียน!
เขารู้สึกอึดอัดไปทั่วทั้งร่างกาย สีหน้าเจ็บปวด
เถาฮองเฮาไม่ได้หยุดลงเพียงเท่านี้
นางยกตั่งขึ้น ทุ่มไปบนตัวของนายท่านใหญ่ตระกูลเถาอย่างบ้าคลั่ง!
“ท่านสมควรตาย! เหตุใดคนที่ตายจึงไม่ใช่ท่าน เหตุใด”
“เหตุใดท่านยังมีหน้ามีชีวิตอยู่ เหตุใดท่านจึงกล้าส่งหัวของท่านพ่อเข้าวังมาด้วยตนเอง ท่านกำลังทิ่มแทงใจของข้า”
“ท่านไปตายเสีย!”
“ข้าอยากตายนานแล้ว!” นายท่านใหญ่ตระกูลเถาหมอบอยู่บนพื้น ตะโกนด้วยความโกรธ “ข้าอยากตายแทนท่านพ่อ แต่การตายของข้าไม่มีค่าอันใด ตระกูลเถา คนทั่วแผ่นดินรู้จักแต่ท่านผู้เฒ่า ข้าอยากตายแทนท่านผู้เฒ่า แต่คนบนแผ่นดินไม่ยอมรับ! ท่านให้ข้าทำอย่างไร ท่านบอกมา สถานการณ์เช่นนี้ท่านจะให้ข้าทำอย่างไร”
นายท่านใหญ่ตระกูลเถาร้องไห้หนักจนไม่อาจควบคุมตัวเองได้!
“ข้าแค้นที่ตนเองไม่มีน้ำหนักพอในสายตาของราชสำนักและคนทั่วทั้งแผ่นดิน หากข้ามีผลงาน มีชื่อเสียง ข้าย่อมตายแทนท่านพ่อได้ แต่ข้าไร้ประโยชน์! ท่านเจ็บปวด ข้าเจ็บปวดกว่าท่านสิบเท่า ร้อยเท่า ข้าเห็นท่านพ่อดื่มยาพิษปลิดชีพตนเองต่อหน้า เห็นพ่อบ้านใหญ่ตัดหัวของท่านพ่อต่อหน้า ข้าควรทำอย่างไร ท่านบอกข้า ข้าทำอย่างไรได้”
นายท่านใหญ่ตระกูลเถาทุบตีพื้นดิน พลางร้องไห้พลางพูด
เถาฮองเฮาผงะ หลั่งน้ำตาอย่างเงียบๆ !
เหมาเส้าเจี้ยนร้องไห้อยู่ด้านข้าง
“เหนียงเหนียงลำบากเหลือเกิน! แผ่นดินนี้อยู่ยากเหลือเกิน!”
ไม่!
ไม่ใช่อย่างนี้!
ไม่ใช่แผ่นดินนี้ที่อยู่ยาก หากแต่ฮ่องเต้โหดเหี้ยมเกินไป
เถาฮองเฮาหลับตาลง ไม่อาจคิดต่อไปได้
นางกลัวตนเองจะเสียสติ
ผ่านไปเป็นเวลานาน…
เถาฮองเฮาถอนหายใจ นางซับน้ำตาพูดกับนายท่านใหญ่ตระกูลเถา “พาท่านพ่อกลับไป ฝังอย่างสมเกียรติ!”
นายท่านใหญ่ตระกูลเถาหยุดร้องไห้พลันมองนาง แค่นี้หรือ
เถาฮองเฮายิ้มเย็นยะเยือก “ออกไป! พาท่านพ่อกลับไปด้วย ระยะนี้ท่านอย่าเข้าวัง ข้าไม่อยากพบท่านชั่วคราว”
นายท่านใหญ่ตระกูลเถาลุกขึ้นจากพื้น พูดอย่างจริงจัง “ข้าจะฝังท่านพ่ออย่างสมศักดิ์ศรี! หากท่านอยาก…”
“ออกไป!”
เสียงที่ตอบเขามีเพียงคำว่าออกไป
นายท่านใหญ่ตระกูลเถามีสีหน้าอับอาย อุ้มกล่องไม้ออกจากตำหนักเว่ยยางโดยไม่พูดสิ่งใดอีก
โครมๆๆ …
เถาฮองเฮาโยนทุกอย่างตรงหน้าทิ้ง
นางอยากจะทำลายทุกสิ่ง ประหารทุกคนอย่างบ้าคลั่ง
หัวใจของนาง เจ็บปวดอย่างมาก!
เจ็บปวดจนไม่อาจหายใจได้
นางกุมหน้าอก ควบคุมตนเองไม่ได้จนไม่รู้ว่าตนเองล้มลงกับพื้นได้อย่างไร
“เหนียงเหนียง เหนียงเหนียงทรงเป็นอันใดพ่ะย่ะค่ะ”
“เชิญหมอหลวงเร็ว!”
เถาฮองเฮาล้มป่วยแล้ว!
ป่วยหนักจนไม่อาจลุกขึ้นได้ สีหน้าซีดเซียว
องค์ชายสอง องค์ชายสาม องค์หญิงติ้งเถารวมทั้งเยียนอวิ๋นฉีที่แต่งเข้าราชวงศ์ต่างเดินทางเข้ามาเยี่ยมในพระราชวัง
ฮ่องเต้หย่งไท่ก็เสด็จมายังตำหนักเว่ยยาง
เขานั่งอยู่ข้างเตียง จับมือของเถาฮองเฮาไว้แน่น “ฮองเฮาอย่ากลัว ข้าอยู่ตรงนี้ ข้าจะรับสั่งให้หมอหลวงรักษาเจ้าให้หาย มิฉะนั้นข้าจะประหารพวกเขา”
หมอหลวงกลุ่มหนึ่งคุกเข่าอยู่บนพื้นด้วยตัวสั่นเทา
เถาฮองเฮาลืมตาขึ้นเล็กน้อย “ขอบพระทัยฝ่าบาท! ร่างกายของหม่อมฉันไม่สำคัญ ฝ่าบาททรงงานต่อเถิดเพคะ”
“ฮองเฮาไม่เป็นอันใดจริงหรือ ข้าเห็นสีหน้าของเจ้าซีดเซียวอย่างมาก”
เถาฮองเฮายิ้มเยาะเย้ยตนเอง “หม่อมฉันแค่เหนื่อยเกินไป อยากพักผ่อน”
“เจ้าพักผ่อนให้ดี อยากพักผ่อนนานแค่ไหนก็ได้”
ฮ่องเต้หย่งไท่มาอย่างรีบร้อน จากไปก็รีบร้อน เขาอยู่ในตำหนักเว่ยยางไม่ถึงหนึ่งก้านธูปก็พาคนจากไป
องค์ชายสองเซียวเฉิงเหวินไล่หมอหลวงออกไป ให้หมอหลวงไปรอในตำหนักด้านข้าง
ก่อนจะไล่เยียนอวิ๋นฉี ให้นางไม่ต้องเฝ้าอยู่ในตำหนัก
เยียนอวิ๋นฉีดูสถานการณ์ในตำหนักบรรทม พวกเขาแม่ลูกมีเรื่องจะพูดกันอย่างเห็นได้ชัด นางไม่เหมาะกับการอยู่ต่อจริงๆ
ดังนั้น นางจึงขอทูลลากับเถาฮองเฮา พาคนออกจากวังกลับจวน
เมื่อคนที่ไม่เกี่ยวข้องล้วนไปหมดแล้ว องค์หญิงติ้งเถาร้องไห้โฮออกมา
นางพลางร้องไห้พลางพูด “เสด็จแม่อย่าทรงเป็นอันใดนะเพคะ! เหตุใดเสด็จพ่อจึงไม่อยู่กับเสด็จแม่ ใจร้ายเหลือเกิน”
“ติ้งเถา ระวังคำพูด!” องค์ชายสามเซียวเฉิงอี้เอ่ยปากตักเตือน
ติ้งเถาร้องไห้จนตาแดง เอ่ยถาม “ข้าพูดผิดหรือ เสด็จแม่ทรงป่วย อีกทั้งยังหนักหนาเช่นนี้ เสด็จพ่อไม่ควรอยู่กับเสด็จแม่ให้มากหรือ”
“เสด็จพ่อมีงานมากมาย จะอยู่ในตำหนักเว่ยยางนานได้อย่างไร”
องค์ชายสามเซียวเฉิงอี้พูดอย่างสมเหตุสมผล
เมื่อเห็นพี่น้องสองคนกำลังจะทะเลาะกัน องค์ชายสองเซียวเฉิงเหวินตวาด “หุบปากเสียเถิด! พูดน้อยลงคงไม่ตาย!”
องค์หญิงติ้งเถาบ่นเสียงเบา “พี่สองพูดจาไม่น่าฟังเอาเสียเลย”
องค์ชายสองเซียวเฉิงเหวินก้มหน้ายิ้ม “ฟังคำเยินยออยู่ทุกวัน ติ้งเถาเจ้ายังฟังไม่พอหรือ แม้แต่ความจริงเจ้ายังทนฟังไม่ได้หรือ”
องค์หญิงติ้งเถาขุ่นเคือง ส่งเสียงไม่พอใจ “พี่สองให้พี่สะใภ้สั่งสอนน้องสี่ของนางดีกว่าจะมาสั่งสอนข้า”
องค์ชายสองเซียวเฉิงเหวินหัวเราะ “ถูกเอาเปรียบจากเยียนอวิ๋นเกอ เจ้าไม่พอใจใช่หรือไม่”
องค์หญิงติ้งเถาหันหน้าหลีกหนีสายตาขององค์ชายสอง
องค์ชายสองเซียวเฉิงเหวินนั่งลงข้างเตียง ห่มผ้าให้เถาฮองเฮา
เขาพูดเสียงเบา “เสด็จแม่ เรื่องมาถึงเวลานี้ คนที่มีชีวิตอยู่ทำได้เพียงมองไปด้านหน้า ท่านต้องปล่อยวาง!”
เถาฮองเฮาลืมตา “เจ้าจะให้ข้าปล่อยวางอย่างไร”
องค์ชายสองเซียวเฉิงเหวินพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งสงบ “การตายของท่านตา อย่างน้อยก็รักษาตระกูลเถาเอาไว้ได้ ตระกูลเถายังคงมั่งคั่ง เมื่อเรื่องนี้จบลง เสด็จพ่อย่อมต้องชดเชยให้เสด็จแม่ ชดเชยให้ตระกูลเถา”
เถาฮองเฮายิ้มเย้ยหยัน “เจ้าจะบอกว่าท่านตาของเจ้าตายอย่างสมเหตุสมผลอย่างนั้นหรือ”
องค์ชายสองเซียวเฉิงเหวินถามกลับ “ไม่ใช่หรือ เสด็จแม่เสียใจกับการตายของท่านตา ข้าเข้าใจได้ แต่เวลานี้ตระกูลเถาไม่มีเสาหลักเนื่องจากการตายของท่านตา หากเสด็จแม่ยังนอนต่อไป ใจคนคงจะสลายไปจริงๆ เสียแล้ว!
เมื่อใจคนสลายไป ความพยายามหลายปีนี้จะไม่สูญเปล่าหรือ เมื่อถึงเวลานั้น น้องสามจะสืบทอดราชบัลลังก์อย่างไร เสด็จแม่ พระองค์ต้องเข้มแข็งขึ้นมา อย่ามัวแต่เสียใจ พระองค์ยังต้องสนใจสถานการณ์ใหญ่ มันเป็นหน้าที่ของเสด็จแม่!”