ตอนที่ 144 ตะลึงหรือไม่ แปลกใจหรือไม่
เซียวซวิ้นคิดว่าเขากำลังจะได้สืบทอดตำแหน่ง ดังนั้นเขาจึงยิ้มได้แม้ในขณะหลับ
พี่น้องคนอื่นล้วนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา
ตำแหน่งจะเป็นของผู้ใดได้หากไม่ใช่เขา
ลับหลัง มีพี่น้องบางคนแสดงความยินดีต่อหน้าเขาแล้ว
แม้แต่พี่ชายคนโตอย่างเซียวกั้วยังพูดกับเขา “ยินดีด้วย!”
“พี่ใหญ่โกรธหรือไม่ ท่านเป็นบุตรชายคนโต แต่ท่านพ่อกลับไม่ยกตำแหน่งให้ท่าน…”
“น้องสองไม่จำเป็นต้องพูด” เซียวกั้วพูดขัดเขา “หลายปีก่อน ข้าก็รู้แล้วว่าข้าไม่มีวาสนาต่อตำแหน่งนี้ ขอเพียงเมื่อน้องสองได้สืบทอดตำแหน่ง เจ้าจะปฏิบัติต่อพี่น้องทุกคนอย่างดี”
เซียวซวิ้นกล่าวอย่างเคร่งขรึม “พี่ใหญ่ไม่ต้องกังวล พวกเราทุกคนเป็นพี่น้องกัน พี่น้องร่วมใจย่อมฝ่าฟันอุปสรรคได้”
“ดี!”
เซียวกั้วหันหลังพลันหลุบตาต่ำลง ภายในดวงตาประกายคมกริบ
ฮึ!
เซียวซวิ้นดีใจเร็วเกินไปหรือไม่
แม้แต่ท่านพ่อยังถูกน้องชาย เซียวอี้ควบคุมอยู่ในกำมือ เพียงแค่เซียวซวิ้นย่อมไม่เป็นปัญหา
ตำแหน่งนั้นย่อมต้องเป็นของตนเอง
เวลานี้ เซียวกั้วเกิดความเชื่อมั่นต่อน้องชาย เซียวอี้อย่างไม่เคยมีมาก่อน
…
ฮ่องเต้หย่งไท่ไม่สนว่าผู้ใดจะได้สืบทอดตำแหน่งของจวนท่านอ๋องจงผิง
ไม่ว่าผู้ใดสืบทอดตำแหน่ง เขาก็ไม่สามารถหนีจากเงื้อมมือของตนได้
แต่…
ฮ่องเต้หย่งไท่จำเป็นต้องให้ความสำคัญกับความเห็นของท่านโหวผิงอู่ สืออุน
เขาพูดกับคนข้างกาย “ท่านโหวผิงอู่ สืออุนเป็นพี่ชายของภรรยาคนแรกของท่านอ๋องตงผิง แต่ทั้งสองไม่ได้ติดต่อกันมาหลายปีแล้ว”
ซุนปังเหนียน ซุนกงกงโน้มตัวทูล “นับแต่ของภรรยาคนแรกของท่านอ๋องตงผิงเสียชีวิต ท่านโหวผิงอู่ก็ขาดการติดต่อกับจวนท่านอ๋องตงผิงไป จนกระทั่งหลายปีต่อมา นายน้อยอี้วิ่งไปขอความช่วยเหลือท่านโหวผิงอู่”
ฮ่องเต้หย่งไท่พยักหน้า “มองออกว่าท่านโหวผิงอู่ สืออุนมีความไม่พอใจอย่างมากต่อท่านอ๋องตงผิง มิฉะนั้นไม่มีทางถวายฎีกาปลดบรรดาศักดิ์ ส่วนผู้ใดสืบทอดตำแหน่ง หากข้าจำไม่ได้ ภรรยาคนแรกของท่านอ๋องตงผิงมีบุตรชายสองคน นอกจากเซียวอี้แล้ว อีกคน…”
“เซียวกั้วผู้เป็นบุตรชาคนโตก็กำเนิดจากภรรยาคนแรก” ซุนปังเหนียนเอ่ยเสริมเสียงเบา
ฮ่องเต้หย่งไท่เคาะโต๊ะแผ่วเบา ไม่พูดสิ่งใด
ซุนปังเหนียนก็ไม่อาจคาดเดาความคิดของฮ่องเต้ เขาจึงไม่กล้าเอ่ยปาก
…
เหล่าข้าราชบริพารก็มีความเห็นเกี่ยวกับผู้ที่จะสืบทอดตำแหน่ง
บางคนสนับสนุนให้เซียวกั้วผู้เป็นบุตรชายคนโตสืบทอด บางคนสนับสนุนเซียวซวิ้นบุตรชายคนรองสืบทอด
แต่ก็มีบางคนสนับสนุนให้เลือกบุตรชายจากอนุภรรยาสืบทอด เหตุผลคือง่ายต่อการควบคุม
คำพูดเหล่านี้ช่างบ้าคลั่ง
ภรรยาเอกกับอนุภรรยามีความแตกต่างกัน จะมั่วได้อย่างไร
หากตำแหน่งให้บุตรจากอนุภรรยามาสืบทอด แม้ว่าตำแหน่งนั้นจะไม่มีอำนาจที่แท้จริง แต่มันจะฝ่าฝืนกฎ อีกทังยังเป็นตัวอย่างที่เลวร้ายให้กับคนในแผ่นดิน
ขุนนางที่สามารถยืนอยู่ในราชสำนัก ส่วนใหญ่ล้วนเป็นบุตรชายจากภรรยาเอกในตระกูล
ทางขุนนางฝ่ายทหารอาจยังมีบุตรชายจากอนุภรรยาบ้าง แต่ก็เป็นแค่ส่วนน้อย
ขุนนางเหล่านี้ต่อต้านบุตรจากอนุภรรยาตามสัญชาตญาณ
ยืนกรานให้แยกแยะอย่างชัดเจน
ราชวงศ์อาจสลับเอกรอง ให้บุตรจากอนุภรรยาสืบทอดบรรดาศักดิ์ได้
แต่ตระกูลใหญ่และเหล่าท่านอ๋องทำไม่ได้
มีบุตรจากภรรยาเอกย่อมต้องแต่งตั้งบุตรผู้นั้น หากไม่มีย่อมต้องรับเลี้ยง
ส่วนบุตรจากอนุภรรยาถอยห่างไป
เรื่องใหญ่เพียงนี้ บุตรจากอนุภรรยาอย่าได้ออกมาขายหน้า ทำให้คนรังเกียจ
บุตรจากอนุภรรยาคิดจะแย่งชิงอำนาจการสืบทอดของตระกูลกับบุตรจากภรรยาเอก ช่างเป็นเรื่องที่น่าขันสิ้นดี
แม้แต่ขุนนางที่เสนอให้บุตรจากอนุภรรยาสืบทอดบรรดาศักดิ์ก็ได้รับการดูถูกและเหยียดหยามจากบรรดาขุนนาง
น่ารังเกียจยิ่งนัก!
ไม่อาจทำงานร่วมด้วยได้
ฮ่องเต้หย่งไท่ก็เอนเอียงไปทางให้บุตรจากภรรยาเอกสืบทอดตำแหน่ง เพื่อป้องกันการนินทาจากผู้คน
อย่างไรเหล่าท่านอ๋องก็ไม่อาจก่อความวุ่นวายขึ้นอีก เพราะพวกเขาต่างกลายเป็นเสือที่ถูกถอดเขี้ยว แม้จะดูสง่างาม แต่ก็ไร้อำนาจที่แท้จริง
ตำแหน่งอ๋องของจวนท่านอ๋องตงผิงจะให้ผู้ใดมาสืบทอด ท่านอ๋องตงผิงย่อมมีการตัดสินใจ
ฉวยโอกาสที่ยังไม่ถูกปลดและกักขังอย่างเป็นทางการ ท่านอ๋องตงผิงบังอาจถวายฎีกา ขอมอบตำแหน่งให้เซียวซวิ้นผู้เป็นบุตรชายคนรองสืบทอด
ภายใต้สถานการณ์ทั่วไป ฮ่องเต้ย่อมพยักหน้าตกลง
ให้เกียรติกันบ้าง!
ปลดบรรดาศักดิ์และกักขังแล้ว คำขอสุดท้ายก็ทำให้เขาสมปรารถนาเสีย
แต่ฮ่องเต้ก็ต้องคำนึงถึงเกียรติของท่านโหวผิงอู่ สืออุน
บรรดาขุนนางก็ต้องคำนึงถึงความเห็นของท่านโหวผิงอู่ สืออุน
ไม่ให้เกียรติท่านอ๋องตงผิงได้ แต่ไม่ให้เกียรติท่านโหวผิงอู่ สืออุนไม่ได้
ท่านอ๋องตงผิง ขออภัยด้วย!
ผู้ใดให้เกียรติของท่านต่ำต้อยกว่าท่านโหวผิงอู่ สืออุน ผู้ใดให้พี่ชายของภรรยารองของท่านไม่มีความสามารถเท่าท่านโหวผิงอู่ สืออุน วาจามีประโยชน์ไม่เท่าท่านโหวผิงอู่ สืออุน
ฮ่องเต้และขุนนางต่างตัดสินใจให้เซียวกั้วผู้เป็นบุตรชายคนโตสืบทอดตำแหน่ง
ทุกคนมีมติร่วมกัน ไม่มีผู้ใดคัดค้าน
หากมีผู้ใดคัดค้าน โต้แย้งกลับไป
…
พระราชโองการถูกส่งไปยังจวนท่านอ๋องตงผิง แต่ยังไม่ได้ประกาศ
พระชายาฉินตัวสั่นด้วยความตื่นเต้น ดวงตาของนางเปล่งประกาย
เซียวซวิ้นสงวนท่าที เขาต้องเก็บอาการเอาไว้ ห้ามหัวเราะ ห้ามหัวเราะอย่างเด็ดขาด
สถานการณ์ที่จริงจังเพียงนี้
อีกทั้งหลังประกาศพระราชโองการ ท่านพ่อและท่านแม่ก็ต้องถูกขังเอาไว้ ไม่ได้รับอิสรภาพ
หากเผยรอยยิ้มออกมาในเวลานี้ ระวังโดนกล่าวหาว่าอกตัญญู
ดังนั้นเขาไม่เพียงต้องสงวนท่าที ยังต้องแสดงถึงความเสียใจ
อำลาท่านพ่อและท่านแม่ด้วยความเศร้าโศก
ท่านอ๋องตงผิงแสดงสีหน้าหมดอาลัยตายอยาก ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง
ไม่เต็มใจยิ่งนัก!
ผู้ใดที่เป็นท่านอ๋องได้จะยอมสละตำแหน่ง อีกทั้งยังต้องถูกจองจำ
ชีวิตช่างน่าอนาถ สู้ข้ามแม่น้ำหลบเข้าไปในป่าเป็นผู้นำชนเผ่าในเวลานั้นเสียดีกว่า
เซียวกั้วเกร็งไปทั้งตัว สีหน้าของเขาจริงจัง มือทั้งสองข้างกำมือแน่น
พระราชโองการจะเขียนชื่อผู้ใด
จะเป็นชื่อของเขาหรือไม่
น้องชาย เซียวอี้ทำเรื่องนี้สำเร็จหรือไม่ เวลานี้เขาอยู่ที่ใด อยู่ในเมืองหลวงหรือไม่
เซียวกั้วอารมณ์แปรปรวน เลือดลมไหลขึ้นหัว ดวงตาแดงก่ำ
ขันทีที่ประกาศพระราชโองการคือติงฉางซื่อ ติงกงกงผู้เป็นคนคุ้นเคยของเยียนอวิ๋นเกอ
ตอนนั้น ติงกงกงนำท่านหญิงจู้หยางเข้าเมืองหลวง กลับไปทูลรายงานความคืบหน้าในพระราชวังก็หายไประยะหนึ่ง
ช่วงนี้ เขาเริ่มปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง
เมื่อโต๊ะบูชาจัดตั้งสมบูรณ์ ติงกงกงจิบชาหนึ่งคำแล้วจึงคลี่พระราชโองการออกมาประกาศ
คนในจวนท่านอ๋องตงผิงคุกเข่าน้อมรับพระราชโองการ
ตั้งแต่ดีใจจนโกรธเคืองต้องใช้เวลานานเพียงใด
สำหรับพระชายาฉินแล้ว ต้องการเวลาเพียงหนึ่งลมหายใจ
เซียวกั้ว?
ผู้ที่สืบทอดเป็นเซียวกั้ว ไม่ใช่เซียวซวิ้นอย่างนั้นหรือ
เป็นไปได้อย่างไร
นางฟังผิดอย่างแน่นอน มีปัญหาเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
นางจับมือของท่านอ๋องตงผิงเอาไว้ ดวงตาเบิกโต
นางฟังผิดใช่หรือไม่
ท่านอ๋องจงผิงก็ทำหน้าฉงน
เขาเหมือนจะได้ยินชื่อของเซียวกั้ว
เมื่อติงกงกงประกาศพระราชโองการเสร็จสิ้น คนทั้งจวนยังคงคุกเข่าอยู่บนพื้นไม่ขยับ
ติงกงกงกระแอมไอเสียงเบา “ท่านอ๋อง รีบรับพระราชโองการ!”
ท่านอ๋องตงผิงรับพระราชโองการ พลันลุกขึ้นยืนด้วยขาที่สั่นเทา
เขาต้องเนื้อหาในพระราชโองการ เซียวกั้วจริงด้วย
“ไม่ได้เขียนชื่อผิดหรือ” เขาถามออกมาตามสัญชาตญาณ
ติงกงกงได้ยินจึงหัวเราะออกมา “ท่านอ๋องพูดเล่นหรือ นี่คือพระราชโองการ ด้านบนมีตราราชลัญจกรหยก มีตราประทับของฮ่องเต้ จะผิดได้อย่างไร คำพูดนี้ ท่านอ๋องอย่าได้เอ่ยออกมาอีก”
ท่านอ๋องตงผิงฉงนอย่างมาก “เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้”
“ท่านอ๋องไม่พอใจต่อพระราชโองการหรือ” ติงกงกงยิ้มมีนัย
ท่านอ๋องตงผิงส่ายหน้าระรัว “ควรจะเป็นซวิ้นเอ๋อร์ เหตุใดจึงกลายเป็นเซียวกั้ว ข้าถวายฎีกาขอให้แต่งตั้งซวิ้นเอ๋อร์ ไม่ควรผิดพลาด!”
ติงกงกงพูดด้วยรอยยิ้ม “บางทีฝ่าบาทและขุนนางทุกท่านอาจคิดว่านายน้อยเซียวซวิ้นไม่เหมาะสมที่จะสืบทอดตำแหน่ง เซียวกั้วผู้เป็นบุตรชายคนโตสืบทอดจึงจะสมเหตุสมผล”
“นี่ๆ…”
ท่านอ๋องตงผิงทำหน้าฉงน เขาหันกลับไปมองพระชายาฉิน ใบหน้าแสดงออกถึงการร้องขอชีวติ
ไม่ใช่ความผิดของเขา!
เขาถวายฎีกาขอให้แต่งตั้งเซียวซวิ้นแล้ว แต่ฮ่องเต้ทรงไม่ยอม!
สีหน้าของพระชายาฉินดำทะมึน หากสายตาฆ่าคนได้ ท่านอ๋องตงผิงคงถูกนางฆ่าตายนับพันครั้งแล้ว
ส่วนเซียวกั้วคงถูกนางฆ่าตายนับหมื่นครั้ง
เซียวซวิ้นยังคุกเข่าอยู่บนพื้นอย่างไม่ทันตั้งตัว
ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความผงะ ความตกตะลึง ความเหลือเชื่อ…
ลับหลัง เขากำลังเฉลิมฉลองในการสืบทอดตำแหน่งของตนเองแล้ว ถึงแม้จะเป็นตำแหน่งที่ไร้อำนาจ แต่มันก็ยังเป็นตำแหน่งท่านอ๋อง
แต่เวลานี้กลับบอกเขาว่ามีผู้อื่นมาสืบทอดแทน ตำแหน่งท่านอ๋องไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเขา
เกียรติของเขา อนาคตของเขา ล้วนหายไปแล้ว
เขาไม่กล้ามองสายตาของผู้อื่น เกรงว่าทุกคนกำลังหัวเราะเยาะเขา
เซียวซวิ้นที่ได้รับความรักแต่เด็ก ไม่เคยต้องทนต่อความอับอายเช่นนี้มาก่อน เขาอยากจะหนีไปจากตรงนี้ หลบหลีกสายตาของทุกคน
เพราะเหตุใด
คนจำนวนมากต่างตั้งคำถาม
เซียวกั้วที่ไม่โดดเด่นจะเอาชนะเซียวซวิ้น สืบทอดตำแหน่งได้อย่างไร
เรื่องนี้แปลกประหลาดเกินไป
เวลานี้ทุกคนต่างลืมไปหนึ่งเรื่อง เซียวกั้วมีท่านลุงที่มีความสามารถ ซึ่งก็คือท่านโหวผิงอู่ สืออุน
นอกจากนี้เขายังมีลูกพี่ลูกน้องอย่างหลิงฉางจื้อ
เมื่อเทียบกับตระกูลของพระชายาฉิน ไม่ว่าจะเป็นท่านโหวผิงอู่ สืออุน หรือตระกูลหลิงล้วนดีกว่าตระกูลฉินอย่างมาก
ติงกงกงทำลายบรรยากาศที่เงียบสงัด
“ท่านอ๋อง ฝ่าบาททรงให้เวลาสามวัน สามวันหลังจากนี้ ท่านต้องเก็บสัมภาระไปพักที่อื่น เมื่อถึงเวลานั้น จะมีขุนนางจากวัดจงเจิ้งจัดเตรียมที่พักของท่านอ๋องไว้ให้”
สีหน้าของท่านอ๋องตงผิงเปลี่ยนไป “ให้เวลาเพียงสามวันหรือ จะทันได้อย่างไร”
ติงกงกงพูดพลันยิ้มตาหยี “ไม่ทันก็ต้องย้าย ท่านอ๋องคิดจะขัดขืนพระราชโองการหรือ”
ขัดขืนพระราชโองการ?
หากท่านอ๋องตงผิงกล้าขัดขืนพระราชโองการก็คงไม่อยู่ในสถานการณ์เช่นนี้
“ข้ายังต้องกลับไปทูลรายงานในวังหลวง ขอตัว!”
“ผู้ใดก็ได้ ส่งติงกงกงออกจากจวน”
ไม่อาจทำให้ขันทีในวังหลวงขุ่นเคืองได้
มีพ่อบ้านถือเงินทองส่งติงกงกงและขณะออกจากจวนไป
…
“ข้าไม่เชื่อ!”
พระชายาฉินตะโกนด้วยความโกรธ
ทันทีที่ติงกงกงจากไป นางย่อมไร้ซึ่งความกลัว
ท่านอ๋องตงผิงเหมือนจะกลัวพระชายาฉินที่กำลังโกรธ เขาพูดอย่างระมัดระวัง “บนพระราชโองการเขียนอย่างชัดเจน เป็นชื่อของเจ้าใหญ่จริง เฮ้อ เรื่องจนถึงบัดนี้แล้ว ข้าเองก็เอาตัวไม่รอด เรื่องตำแหน่งก็เป็นไปตามนี้เถิด!”
“ข้าไม่ยอม!” พระชายาฉินตะโกนด้วยดวงตาที่แดงก่ำ “ตำแหน่งนี้เดิมทีก็เป็นของซวิ้นเอ๋อร์ เหตุใดจึงยกให้เจ้าใหญ่”
เวลานี้ นางฉีกกระดาษชั้นสุดท้ายทิ้งโดยไม่สนใจสิ่งใด
ท่านอ๋องตงผิงถอนหายใจ “เพียงแค่พระราชโองการฉบับนี้ เจ้าใหญ่ก็คือนายท่านของจวนอ๋องแห่งนี้ สืบทอดตำแหน่งอย่างสมเหตุสมผล เจ้าอย่าได้อาละวาดอีกเลย หากเจ้าไม่ยอม เจ้าก็เข้าวังไปเจรจากับฮ่องเต้ ข้าทำในเรื่องที่สมควรทำแล้ว บทสรุปนี้ข้าเองก็คาดไม่ถึง เรื่องเป็นเช่นนี้แล้ว นอกจากยอมรับ ยังจะทำอย่างไรได้”
พระชายาฉินร้องไห้ “ท่านอ๋องทำร้ายพวกข้าแม่ลูก! ท่านกำลังบีบเค้นให้พวกข้าตาย!”
นางกอดเซียวซวิ้นผู้เป็นบุตรชายสุดที่รักเอาไว้
“สู้ตายตั้งแต่ตอนนี้ จะได้ไม่ถูกผู้อื่นรังแกจนตายในวันหลัง!”