กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี – บทที่ 47 เขาอุ้มเธอ

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

บทที่ 47 เขาอุ้มเธอ

หลังจากการช็อกครั้งใหญ่ ความโศกเศร้าก็รุมเข้าเกาะกุมจิตใจของเซี่ยชิงหยวน จนทำให้เธอแทบหายใจไม่ออก

เธอจำได้ว่าเมื่อชาติก่อน ตนเองปฏิบัติต่อเสิ่นอี้โจวย่ำแย่เพียงใด เมื่อได้ยินเขาพูดว่า “ชิงหยวน นี่ไม่เกี่ยวข้องกับคุณ แต่เป็นความผิดปกติของร่างกายผมเอง”

เธอตะคอกใส่เขาอย่างกับคนเป็นโรคฮิสทีเรีย ซึ่งมันรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เธอแต่งงานกับเขามา

เธอร้องไห้ “เสิ่นอี้โจว ฉันเกลียดคุณ! คุณรู้ไหมว่าฉันต้องทนทุกข์ทรมานกับเรื่องนี้มามากแค่ไหน? ฉันต้องการหย่ากับคุณ!”

เสิ่นอี้โจวดูเจ็บปวดมาก ทว่าเขายังคงกอดเธอไว้แน่น ปล่อยให้เธอทุบตีและดุด่า โดนไม่โต้ตอบแม้แต่คำเดียว

กระทั่งตอนที่เขาได้ยินคนอื่นพูดถึงเรื่องลูกอีกครั้ง เขาก็จะเป็นฝ่ายพูดก่อนเสมอว่ามันเป็นปัญหาที่ตัวเขา

ชายหนุ่มเลือกที่จะแบกรับทุกอย่างไว้เงียบ ๆ คนเดียว

ตอนนั้นเขาจะต้องเสียใจมากแน่ ๆ

งานฝังศพของเสิ่นอี้โจวยังคงชัดเจนในความทรงจำของเธอ เซี่ยชิงหยวนกำหน้าอกแน่นโดยไม่รู้ตัว หัวใจของเธอปวดร้าวอย่างรุนแรงเสียจนแทบหายใจไม่ออก

ถ้านี่คือการลงโทษของพระเจ้าที่มอบให้แก่เธอ และหญิงสาวยินยอมที่จะแบกรับมัน

แต่ทำไมเรื่องราวถึงเกิดขึ้นหลังจากเธอตัดสินใจจะใช้ชีวิตอยู่กับเสิ่นอี้โจวแบบนี้?

แล้วตอนนี้เธอควรเผชิญหน้ากับเขายังไง?

เมื่อคุณหมอมองเซี่ยชิงหยวนที่มีน้ำตาไหลรินออกมา เขาก็รู้สึกเห็นอกเห็นใจอีกฝ่ายและสะท้อนใจ

คุณหมอยืนขึ้นและตบหลังเซี่ยชิงหยวน “อย่ากังวลไปเลย หมอเคยได้ยินมาว่ามีบางเคสรักษาได้สำเร็จอยู่นะ”

เซี่ยชิงหยวนไม่มีอารมณ์จะฟังหมออีกต่อไป เธอพยักหน้ารับ “ขอบคุณค่ะหมอ”

หลังจากพูดจบ เธอก็รับผลตรวจและเดินออกไป

เช่นเดียวกับเซี่ยชิงหยวน เจียงเพ่ยหลานก็เหม่อลอยและกลับไปที่สถาบันวิจัยพลางมีความคิดมากมายในหัว

แต่เมื่อเดินไปถึงอาณาเขตในสถาบันวิจัย เจียงเพ่ยหลานก็แยกกลับไปที่บ้านของเธอ ในขณะที่เซี่ยชิงหยวนมุ่งตรงไปที่อาคารสำนักงาน

ในใจของหญิงสาวมีความอัดอั้นมากมาย เธอคงไม่มีทางรู้สึกสบายใจได้หากเธอไม่คุยกับเขาให้ชัดเจน

เซี่ยชิงหยวนเดินเข้าไปในอาคารสำนักงานที่เสิ่นอี้โจวเคยพาเธอมาโดยอาศัยความทรงจำของชาติที่แล้ว เมื่อเห็นป้ายตัวอักษร ‘แผนกวิจัยธรณีวิทยา’ หญิงสาวก็ถอยกลับทันที

เธอจะถามอะไรเขาได้บ้าง?

มีเพียงแค่ฉันที่กลับมาเกิดใหม่ และจดจำเรื่องราวในอดีตที่เกิดขึ้นได้

แล้วเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนนี้ เสิ่นอี้โจวจะให้คำตอบอะไรแก่เธอได้บ้าง?

เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ เซี่ยชิงหยวนก็หยุดเดิน

เธอหันหลังกลับและกำลังจะจากไป

“พี่สะใภ้?” โจวหยางที่เดินออกมาจากห้องข้าง ๆ บังเอิญพบกับเซี่ยชิงหยวนพอดี

เขาเดินเข้าหาหญิงสาวอย่างรวดเร็ว “พี่สะใภ้กำลังมองหาพี่เสิ่นใช่ไหมครับ รีบเข้าไปเร็ว ๆ สิครับ”

ขณะที่พูด เขาก็พาเธอเข้าไปข้างใน

เมื่อเข้าไปภายในห้อง หญิงสาวก็เห็นห้องที่เหมือนกับห้องปฏิบัติการ ซึ่งมีเครื่องมือต่าง ๆ อยู่ในนั้นมากมาย เสิ่นอี้โจวสวมเสื้อคลุมสีขาวและกำลังเขียนบางอย่างอยู่ที่โต๊ะ

ขณะที่เธอกำลังจะเรียกหาเขา ผู้หญิงคนหนึ่งลุกขึ้นจากโต๊ะ เดินไปที่ทางด้านข้างของเสิ่นอี้โจวและพูดคุยกับเขา

ท่าทางของเสิ่นอี้โจวนั้นเย็นชาแต่สุภาพ ดวงตาของเขาจดจ่อและจริงจัง

ผู้หญิงคนนั้นยังเด็กมาก รูปร่างสูงเพรียว ผมดัดลอนดูทันสมัยมากในยุคนี้ และติดกิ๊บหนีบผมอันหนึ่งไว้ด้านหลังใบหูของเธอ

เธอไม่ได้สะสวยเป็นพิเศษ แต่กลับปรากฏแววกล้าหาญบริเวณคิ้วทั้งสอง ริมฝีปากแดงอวบอิ่ม ทั่วทั้งเรือนร่างของเธอดูมีความสง่างามเช่นสตรีพึงมี

พวกเขาไม่รู้เลยว่าคนทั้งสองกำลังคุยเรื่องอะไรกันอยู่ ผู้หญิงคนนั้นขยับเข้ามาใกล้อี้โจวมากขึ้น พลางชี้ไปยังกระดาษเบื้องหน้าชายหนุ่ม

ทั้งสองพูดตอบโต้กันไปมาพลางทำหน้าตาราวกับเข้าใจกันและกันโดยปริยาย

แต่ทันใดนั้นหญิงสาวคนนั้นก็ขมวดคิ้ว เอามือกุมขมับและกำลังจะล้มไปทางเสิ่นอี้โจว

ชายหนุ่มพยุงร่างของเธอไว้อย่างรวดเร็วและพูดขึ้น “ระวังด้วย”

ดวงตาของฉินซูอวี้พลันฉายแววแห่งความสุขออกมา จากนั้นเธอก็พยายามยืนให้มั่นคงโดยยังคงท่าทางอ่อนแอไว้ “ฉันไม่เป็นไรแล้วค่ะ”

เมื่อเห็นเธอยืนนิ่งได้ เสิ่นอี้โจวก็ปล่อยมือออกจากอีกฝ่ายทันที

เซี่ยชิงหยวนเห็นภาพทั้งหมดนี้เต็มสองตา

ทันใดนั้นหญิงสาวก็รู้สึกว่าเธอไม่ต้องการจะถามอะไรอีก

เธอถอยหลังไปสองก้าว หันหลังกลับและกำลังจะจากไป

“พี่สะใภ้!” โจวหยางเองก็เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดเช่นกัน เขากังวลมากว่าเซี่ยชิงหยวนจะเข้าใจผิด

ในขณะเดียวกัน เมื่อได้ยินเสียงร้องของโจวหยาง เสิ่นอี้โจวก็เงยหน้าขึ้นทันที สายตามองเห็นเพียงเซี่ยชิงหยวนที่กำลังจะจากไป

หัวใจของเขาเหมือนหล่นวูบไปอยู่ที่ตาตุ่ม เขารีบผลักฉินซูอวี้ที่ยืนอยู่ข้างหน้าออกไปและไล่ตามไปยังทิศทางที่เซี่ยชิงหยวนออกไปในทันที

ฉินซูอวี้เซจนเกือบล้มไปอีกฝั่งโดยการผลักของเสิ่นอี้โจว ดวงตาคู่งามของเธอเต็มไปด้วยความไม่พอใจ แต่ชายหนุ่มกลับเดินจากไปแล้ว

เมื่อครู่ดูเหมือนจะมีผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามา?

นอกจากนี้ เธอได้ยินโจวหยางเรียกผู้หญิงคนนั้นว่า “พี่สะใภ้”

หรือว่าผู้หญิงคนนั้นคือภรรยาที่มาจากชนบทของเสิ่นอี้โจว คนที่เขาแต่งงานด้วยหลังจากได้รับการติดต่อผ่านแม่สื่อที่ครอบครัวของเขาจัดหามาให้?

โจวหยางไม่สนใจฉินซูอวี้และรีบไล่ตามไป

เขาคว้าเสิ่นอี้โจวเอาไว้ “พี่เสิ่น พี่ยังต้องขึ้นไปรายงานผลวิจัยในที่ประชุมนะครับ!”

เขาได้ยินว่า วันนี้บุคคลระดับสูงจะมาเข้าร่วมด้วย ดังนั้นการประชุมสรุปนี้จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง

ทว่าตอนนี้เสิ่นอี้โจวมีเพียงเซี่ยชิงหยวนในสายตา ดังนั้นการประชุมสรุปผลนั้น ในสายตาของเขามันไม่มีค่าอะไรเลย!

และก็มีเสียงในใจบอกเขาว่า ถ้าไม่ตามเธอไปตอนนี้ เขาอาจจะเสียเธอไปตลอดกาล

ดังนั้นเขาจึงถอดเสื้อกาวน์สีขาวออกอย่างไม่ลังเลและส่งให้โจวหยาง “รายงานสรุปอยู่ที่โต๊ะของฉันในสำนักงาน นายเอามันขึ้นไปรายงานแทนฉันได้เลย”

หลังจากพูดจบ เขาก็วิ่งจากไปโดยไม่หันกลับมาอีก

โจวหยางมองเสื้อคลุมสีขาวในมือของเขา และอดไม่ได้ที่จะกระทืบเท้า “วันนี้เป็นโอกาสที่ดีแท้ ๆ แต่พี่เสิ่นกลับปล่อยมันไปในเวลาสำคัญที่สุดซะงั้น!”

เซี่ยชิงหยวนก้มหน้าและเดินไปที่ทางออกอย่างรวดเร็ว แต่เสิ่นอี้โจวก็เดินตามมาทันในเวลาไม่กี่อึดใจ

เขาจับแขนเธอและสังเกตใบหน้าของผู้เป็นภรรยา “ชิงหยวน มันไม่ใช่อย่างที่คุณคิด”

หญิงสาวยังคงไม่เงยหน้า เธอกลัวว่าเมื่อเห็นใบหน้าเขา น้ำตาของเธอจะไหลออกมาไม่หยุด

เธอพยายามอย่างหนักที่จะแกะมือของเขาออกพลางพูดเน้นเสียงว่า “คุณไล่ตามฉันเพื่ออะไร แค่ไปกับผู้หญิงคนนั้นซะ แล้วปล่อยฉันไป!”

เซี่ยชิงหยวนโกรธมากอย่างเห็นได้ชัด แล้วเสิ่นอี้โจวจะกลับไปได้ยังไง เขาจะปล่อยให้เธอไปทั้งแบบนี้ได้เหรอ?

เขาดึงเธอเข้ามาใกล้ด้วยแขนอันทรงพลัง “ผมจะไม่ปล่อยคุณไปเว้นแต่คุณจะฟังผมอธิบายก่อน”

ที่ที่พวกเขาสองคนยืนอยู่ตอนนี้คือประตูหน้าของอาคารสำนักงาน นอกจากคนเฝ้าประตูก็ยังมีพนักงานเดินไปมา ดังนั้นเมื่อเห็นการกระทำยื้อยุดกันแบบนี้ของพวกเขา ฝีเท้าของคนที่เดินผ่านไปมาพลันชะลอลง

เซี่ยชิงหยวนมองไปยังใบหน้าด้านข้างของเสิ่นอี้โจว แม้แต่ในเวลานี้เขาก็ยังสามารถรักษาใบหน้าที่สงบของเขาไว้ได้อีกเหรอ?

มันเป็นเพราะนี่คือเป็นธรรมชาติของเขา หรือว่าในใจของเขาไม่ได้สนใจเธอเลย?

เมื่อความคิดแบบนี้เกิดขึ้น ความรำคาญก็ค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นในใจ ความสำนึกผิดและคำขอโทษทั้งหมดที่เธอสั่งสมมากลายเป็นความคับแค้นใจและความโกรธในขณะนี้

ดังนั้นหญิงสาวจึงยกเท้าขึ้นและกระทืบหลังเท้าของอีกฝ่ายอย่างแรง ฉวยโอกาสจากตอนที่อีกฝ่ายกำลังเจ็บปวด เธอจึงหันหลังกลับและจากไป

เสิ่นอี้โจวกระโดดไปมาสองก้าวด้วยความเจ็บปวด ดวงตาของเขามืดมนลง จากนั้นจึงจับตัวเธอไว้ รวบขาทั้งสองขึ้น แล้วอุ้มเธอขึ้นบ่าก่อนจะเดินกลับไปที่บ้าน

ทันใดนั้นเซี่ยชิงหยวนที่ถูกอุ้มขึ้นบนบ่าของชายหนุ่ม ก็เอื้อมมือไปทุบหลังของเขา “คุณมันบ้า ปล่อยฉันนะ!”

การกระทำที่ฉับไวของเสิ่นอี้โจวทำให้คนที่อยู่แถวนั้นตกตะลึงในทันที

นี่มันเกิดอะไรขึ้น?

มันใช่ภาพที่พวกเขาควรเห็นเหรอ?

ไม่ ไม่ ไม่สิ นี่ยังเป็นเสิ่นอี้โจวผู้เย็นชาเหมือนภูเขาน้ำแข็งอยู่หรือเปล่า?

ฉินซูอวี้วิ่งไล่ตามมาถึงล็อบบี้ทันเวลา เธอจึงเห็นแผ่นหลังของเสิ่นอี้โจวที่กำลังเดินอุ้มเซี่ยชิงหยวนออกไป

เมื่อผู้คนเห็นเธอ พวกเขาก็พอจะนึกบางอย่างออก เพราะพวกเขาเคยได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับเธอและเสิ่นอี้โจว แต่พวกเขาไม่กล้าพูดอะไรเนื่องจากเธอมีพ่อที่เป็นผู้ว่าราชการจังหวัด

เขาผลักเธอออกจากตัวเขาอย่างไม่ไยดี แล้วรีบออกมาเพื่อการนี้?

ใบหน้าของฉินซูอวี้บิดเบี้ยวอยู่ชั่วครู่

เธอเพิ่งกลับมาจากต่างจังหวัดในวันนี้ หญิงสาวจึงยังไม่ได้ยินข่าวว่าเสิ่นอี้โจวพาภรรยาจากชนบทมาอยู่ด้วยกัน

ไหนทุกคนพูดกันว่าสามีภรรยาคู่นี้ไม่ลงรอยกันไง?

แต่ทำไมเมื่อครู่เสิ่นอี้โจวถึงประหม่าขนาดนั้น?

เธอสูดหายใจเข้าลึก ๆ พยายามสงบสติอารมณ์ แล้วมองไปยังทิศทางที่ชายหนุ่มจากไปด้วยความมุ่งมั่นจะเอาชนะ

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

Status: Ongoing
หลังจากหย่าร้างกับอดีตสามีมาสิบปี เชี่ยชิงหยวนก็ได้ประสบอุบัติตุจนเสียชีวิต และเธอก็ได้ย้อนไปตอนที่เธออายุ 21 ปี …ลับมาครั้งนี้เธอจะไม่ยอมหย่ากับเสิ่นอี้โจวดีตสามีของเธออีกเด็ดขาด!หลังจากหย่าร้างกับอดีตสามีมาสิบปี เชี่ยชิงหยวนก็ได้ช่วยเด็กชายคนหนึ่งเอาไว้จนประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิตปีแล้วปีเล่าผ่านไป เสิ่นอี้โจวดีตสามีของเธอก็มักจะมายี่ยมหลุมศพของเธอประจำ เธอในร่างวิญญาณออกปากไล่เขาทุกครั้งต่อีกฝ่ายกลับไม่ได้ยิน เขาจำไม่ได้เลยหรืออย่างไร ว่าเธอทำอะไรกับเขาไว้บ้าง แต่แล้วเธอก็ได้ย้อนกลับมาใน ในวันที่เธออายุ 21 ปี แลยังไม่ได้หย่าขาดกับเสิ่นอี้โจว ในเมื่อเธอได้โอกาสอีกครั้งนี้ เธอจะไม่ยอมหย่าเด็ดขาด ครั้งนี้เธอจะสร้างครอบครัวที่อบอุ่นกับเสิ่นอื้โจวได้จงได้

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท