กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี – บทที่ 152 ภาวะไตพร่องไม่ใช่เรื่องใหญ่

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

บทที่ 152 ภาวะไตพร่องไม่ใช่เรื่องใหญ่

บทที่ 152 ภาวะไตพร่องไม่ใช่เรื่องใหญ่

เสิ่นอี้โจวคิดคำตอบในใจเอาไว้แล้ว แต่มันค่อนข้างพูดยาก

เขาเงยหน้าขึ้นมองเธอโดยไม่หลบสายตา

จากนั้นชายหนุ่มก็กล่าวว่า “ผมรู้ว่าตัวเองเป็นคนโง่ที่ทำแบบนี้ และผมไม่สามารถคาดหวังการให้อภัยจากคุณได้ ทุกอย่างมันเป็นเพราะตอนนั้น เพราะร่างกายของผม…”

ขณะที่เสิ่นอี้โจวกำลังพูด จู่ ๆ ดวงตาของเซี่ยชิงหยวนซึ่งกำลังมองเขาก็เบิกกว้างอย่างตกใจ

จากนั้นเธอก็รีบหันไปหยิบทิชชู่สองสามแผ่นจากบนโต๊ะอย่างรวดเร็ว และตบหน้าเขา ก่อนจะใช้กระดาษทิชชู่ปิดรูจมูกของเขาและพูดด้วยน้ำเสียงลนลาน

“อย่าขยับนะ!”

ขณะที่กล่าวออกมา เธอจับให้เขาเงยหน้าขึ้นไว้นิ่ง ๆ

ของเหลวอุ่นกำลังไหลออกมาจากภายในโพรงจมูก เสิ่นอี้โจวจึงตระหนักว่าเขามีเลือดกำเดาไหล

เซี่ยชิงหยวนช่วยเขายืนขึ้นด้วยใบหน้ากังวล “คุณเป็นอะไรไป ทำไมคุณถึงกลายเป็นแบบนี้?”

ดูเหมือนว่านี่ไม่ใช่เลือดกำเดาธรรมดา เลือดมันออกเยอะมากกว่าปกติ

กระดาษทิชชู่ในมือเปียกชุ่มด้วยเลือดอย่างรวดเร็ว และกลายเป็นสีแดงฉานทั้งหมด

นิ้วของเซี่ยชิงหยวนก็แดงเช่นกัน

เธอหันไปมองหาผ้าเช็ดหน้าในตู้เสื้อผ้าอีกหน

เธอหลั่งน้ำตาด้วยความตื่นตระหนก แต่กลับไม่ได้สนใจจะเช็ดมันเลยสักนิด

เธออดไม่ได้ที่จะนึกถึงเหตุการณ์ในชาติก่อนของเธอ รุ่งเช้าวันที่เสิ่นอี้โจวเดินทางจากไป วันที่เสิ่นอี้หลินและผู้คนเห็นเขาจากไป

เธอคิดถึงความเป็นไปได้นับพันในใจ กระทั่งสงสัยว่าเป็นเพราะปัญหาที่กระเพาะของเขาหรือไม่ที่ทำให้เลือดออก

แต่ความคิดนี้น่ากลัวเกินไปจนเธอไม่กล้าคิดต่อ

เธอใช้ผ้าเช็ดหน้าปิดจมูกของเสิ่นอี้โจว เสียงของเธอสั่นเครือ

“คุณเป็นอะไรไหมคะ?”

ทันใดนั้น ฝ่ามือใหญ่อันอบอุ่นก็แตะหลังมือเธอ

ดวงตาที่อ่อนโยนของเสิ่นอี้โจวปรากฏขึ้นตรงหน้า มันเหมือนมีพลังในการปลอบประโลมจิตใจของผู้คน

เขาส่งยิ้มให้เธอ “ไม่เป็นไร ผมอาจจะกังวลมากเกินไปก็ได้”

หรือบางทีอาจเป็นเพราะยาน้ำแกงของหลินตงซิ่วที่ทำให้ร่างกายของเขาสูบฉีดจนผิดปกติแบบนี้

เซี่ยชิงหยวนเกือบจะร้องไห้ออกมา “คนกังวลที่ไหนเขาเป็นแบบนี้กันบ้างเล่า?”

เสิ่นอี้โจวต้องรู้สึกไม่สบายที่ไหนสักแห่งและไม่ได้บอกเธอ

“หรือคุณปวดท้องอีกแล้ว?”

เสิ่นอี้โจวยังคงไม่ปล่อยมือเธอ “ไม่ ตอนนี้ผมจะบอกคุณทุกอย่างที่คุณอยากรู้ ผมสัญญาว่าจะไม่ปิดบังคุณอีก”

เซี่ยชิงหยวนสะอื้นและพูดว่า “อย่าเพิ่งพูดถึงเรื่องอื่นตอนนี้เลย เราไปโรงพยาบาลกันเร็ว ๆ เถอะ!”

เลือดกำเดาของเสิ่นอี้โจวไหลไม่หยุด ดังนั้นเธอจึงต้องการพาเขาไปโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด

เธอออกไปโทรหาเสี่ยวหลิว โดยขอให้อีกฝ่ายขับรถมารับเสิ่นอี้โจวไปโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว

เมื่อเสี่ยวหลิวมาถึง หลินตงซิ่วก็กำลังตื่นตระหนก

เธอเปิดประตูห้องนอนออกมาและก็ได้เห็นเสิ่นอี้โจวเงยหน้าขึ้น เขามีเลือดไหลที่จมูก

เมื่อเห็นแบบนี้ หลินตงซิ่วแทบจะเข่าอ่อน

เซี่ยชิงหยวนกล่าวว่า “คุณแม่คะ หนูจะไปโรงพยาบาลกับอี้โจวก่อน แม่อยู่กับอี้หลินรออยู่ที่บ้านนะคะ”

หลินตงซิ่วไม่อาจนิ่งเฉยได้ ดังนั้นเธอจึงโพล่งขึ้นมาว่าเธอต้องการไปด้วย

เสิ่นอี้โจวหยุดแม่ของเขาไว้ “แม่ ไม่เป็นไร ไม่ต้องห่วง”

เสิ่นอี้หลินขยี้ตาและลุกขึ้นจากเตียง

เมื่อเห็นจมูกของเสิ่นอี้โจวและมือที่เปื้อนเลือดของเซี่ยชิงหยวน เด็กชายรีบเอามือปิดปากแน่นด้วยความตกใจ

เขาหนีไปซุกตัวอยู่ใต้ผ้านวมและไม่กล้าออกมา

นี่มันน่ากลัวมากจริง ๆ!

เสิ่นอี้โจวกับเซี่ยชิงหยวนเดินทางไปโรงพยาบาลด้วยกัน

ทว่าเมื่อไปถึง เลือดก็เกือบจะหยุดไหลแล้ว

คุณหมอยังตกใจเมื่อเห็นผ้าเช็ดหน้าที่เปื้อนเลือด พยาบาลถูกเรียกมาเพื่อเจาะเลือดของเสิ่นอี้โจวทันที แต่ชยหนุ่มคาดเดาสาเหตุของอาการตัวเองได้แล้ว เขากำหมัดด้วยมือข้างหนึ่งเพื่อซ่อนความอายเอาไว้ “คุณหมอครับ บางทีมันอาจจะไม่จำเป็นก็ได้”

เซี่ยชิงหยวนกับเสิ่นอี้โจวนั่งรอผลอยู่ในห้องปฐมพยาบาล ทั้งสองคนไม่พูดอะไร

“ผมขอโทษ”

“ฉันขอโทษ”

คนทั้งสองพูดพร้อมกันแล้วก็หยุดพูด

จากคำพูดของเสิ่นอี้โจวเมื่อครู่นี้ เซี่ยชิงหยวนจึงรู้สาเหตุที่อีกฝ่ายเลือดกำเดาไหลแล้ว

สีหน้าของคุณหมอตกตะลึงมาก ในขณะที่เสิ่นอี้โจวยังคงนิ่งเงียบ

คุณหมอยังคงตรวจสอบเสิ่นอี้โจวซ้ำอีกรอบ

คุณหมอลังเลที่จะพูด แต่ท้ายที่สุดก็อดไม่ได้ที่จะเกลี้ยกล่อม “พวกคุณยังหนุ่มยังสาว อย่าฟังวิธีรักษาพื้นบ้านเหล่านี้เลย ไม่อย่างนั้นพวกคุณจะเดือดร้อนนะ”

เขาหยุดกล่าวชั่วครู่ ชำเลืองมองไปทางเซี่ยชิงหยวนแล้วหันกลับมามองหน้าของเสิ่นอี้โจว “ถ้าไม่ได้ผลจริง ๆ คุณสามารถไปที่แผนกเวชศาสตร์เจริญพันธ์ุของโรงพยาบาลเราเพื่อขอคำปรึกษาเรื่องนี้ได้ ตอนนี้ทัศนคติของทุกคนค่อย ๆ พัฒนาไปในทางที่ดีขึ้นแล้ว ภาวะไตพร่องไม่ใช่ปัญหาใหญ่แต่ก็อย่าประมาท และคุณไม่ควรจะหมดกำลังใจนะ”

คุณหมอตบบ่าเสิ่นอี้โจวด้วยความเห็นอกเห็นใจมาก “พ่อหนุ่ม อย่าเพิ่งหมดหวังล่ะ”

ใบหน้าของเสิ่นอี้โจวมืดมนจนเกือบจะเหมือนหยดหมึก

เซี่ยชิงหยวนทำได้เพียงแค่พยักหน้า “เราเข้าใจแล้วค่ะ ขอบคุณค่ะคุณหมอ”

คุณหมอคนนี้ดูอายุมากแล้ว รูปร่างอวบแต่มีจิตใจดี

คุณหมอคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดกับเซี่ยชิงหยวน “คุณในฐานะภรรยาเองก็ควรจะใส่ใจเขาให้มากเช่นกันนะครับ อีกทั้งความรักทางใจเองก็สำคัญเหมือนกัน”

หลังจากพูดจบ คุณหมอก็จากไปโดยไม่พูดอะไรอีก

ถ้าคุณหมอรู้ว่าเสิ่นอี้โจวคือเลขาธิการทั่วไปของศาลากลาง เขาคงเสียใจที่พูดอย่างตรงไปตรงมาแบบนี้

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ หญิงสาวก็รู้สึกละอายใจเหลือเกิน

เธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเสิ่นอี้โจวจะขอให้หลินตงซิ่วทำซุปบำรุงกำลังให้เพราะคำพูดของเธอ

เมื่อมองย้อนกลับไปเธอรู้สึกเสียใจจริง ๆ

ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ คืนนี้อาจจะไม่มีเลือดกำเดาไหลก็ได้

เสิ่นอี้โจวจับมือเธอและปล่อยให้หญิงสาวพิงไหล่ของเขา

เขาจูบศีรษะของเธอและพูดว่า “มันจบแล้ว ผมคือคนที่ควรพูดขอโทษ คุณไม่จำเป็นต้องขอโทษผมเลย”

คำพูดของเขาในตอนนี้ทำให้สีหน้าของเซี่ยชิงหยวนเปลี่ยนไปอีกครั้ง แลดูเคร่งขรึม

ท่าทีของเซี่ยชิงหยวนยังคงไม่ผ่อนคลายลงหากคืนนี้เรื่องของฉู่ซิงอวี่และหลิงเยี่ยยังไม่กระจ่าง

แต่เธอพอจะยืนยันได้บ้างแล้วว่าเรื่องราวก่อนหน้านี้เป็นเพียงจินตนาการของเธอเอง และเขายังคงมีความสำคัญในหัวใจของเธอ

หญิงสาวแหงนหน้ามองเพดานของห้องตรวจและไตร่ตรองคำพูดของเขา

เสิ่นอี้โจวกล่าวว่า “ตอนกลับหมู่บ้านซีสุ่ยในตอนนั้น ผมพบว่าตัวเองไอเป็นเลือดและเมื่อรวมกับก่อนหน้าที่ผมรู้สึกปวดท้องบ่อย ๆ ผมก็เลยคิดว่าตัวเองต้องเป็นโรคร้ายแรงบางอย่าง ผมอยากจะบอกคุณ แต่คุณก็คงร้องไห้เพราะไม่รู้ว่าจะทำยังไงถ้ารู้เข้า”

ปัญหาเรื่องกระเพาะของเขาเริ่มเร็วกว่าเมื่อชาติที่แล้วหลายปีทีเดียว

ตอนที่เขาเกิดใหม่และเซี่ยชิงหยวนยังคงโกรธจนกระโดดลงแม่น้ำเนื่องจากต้องการหย่าร้าง เขาจึงพูดกับตัวเองว่า ‘ลืมมันไปเถอะ ปล่อยเธอไป’

จากนั้นเขาก็พูดต่อ “ดังนั้นผมจึงเกิดความคิดโง่ ๆ ว่าถ้าผมหาคนดี ๆ ที่รักคุณได้มาก่อนที่ผมจะจากไป คุณจะได้ไม่ต้องลำบากไปตลอดชีวิต”

“หลังจากนั้น เมื่อกลับมาที่เมืองเตียนเฉิง ผมจึงได้จัดแจงให้คนรู้จักช่วยแนะนำชายหนุ่มที่มากสามารถมาให้ ซึ่งก็คือฉู่ซิงอวี่กับหลิงเยี่ย”

เขาหยุดชั่วคราว “แต่ผมกลับรู้สึกว่าตัวเองทำผิดพลาดในภายหลัง ผมพบว่าตัวเองไม่ได้เป็นคนใจกว้างอย่างที่คิด ผมไม่อาจเฝ้ามองคุณไปรักคนอื่นต่อหน้าต่อตาตัวเองได้”

“ตอนนี้ผมจึงคิดได้แล้วว่าผมจะขออยู่กับคุณไปตลอดชีวิต”

“ไม่ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร อย่างน้อยในชีวิตนี้ของผม ผมอยากอยู่กับคุณ”

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

Status: Ongoing
หลังจากหย่าร้างกับอดีตสามีมาสิบปี เชี่ยชิงหยวนก็ได้ประสบอุบัติตุจนเสียชีวิต และเธอก็ได้ย้อนไปตอนที่เธออายุ 21 ปี …ลับมาครั้งนี้เธอจะไม่ยอมหย่ากับเสิ่นอี้โจวดีตสามีของเธออีกเด็ดขาด!หลังจากหย่าร้างกับอดีตสามีมาสิบปี เชี่ยชิงหยวนก็ได้ช่วยเด็กชายคนหนึ่งเอาไว้จนประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิตปีแล้วปีเล่าผ่านไป เสิ่นอี้โจวดีตสามีของเธอก็มักจะมายี่ยมหลุมศพของเธอประจำ เธอในร่างวิญญาณออกปากไล่เขาทุกครั้งต่อีกฝ่ายกลับไม่ได้ยิน เขาจำไม่ได้เลยหรืออย่างไร ว่าเธอทำอะไรกับเขาไว้บ้าง แต่แล้วเธอก็ได้ย้อนกลับมาใน ในวันที่เธออายุ 21 ปี แลยังไม่ได้หย่าขาดกับเสิ่นอี้โจว ในเมื่อเธอได้โอกาสอีกครั้งนี้ เธอจะไม่ยอมหย่าเด็ดขาด ครั้งนี้เธอจะสร้างครอบครัวที่อบอุ่นกับเสิ่นอื้โจวได้จงได้

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท