บทที่ 168 จูบกลางที่สาธารณะ
บทที่ 168 จูบกลางที่สาธารณะ
เซี่ยชิงหยวนต้องการจะปฏิเสธ “แต่เมื่อคืนพวกเราเพิ่งทำกันไปเอง…”
เธออยากพูดว่าปล่อยเธอไปสักครั้งเถอะ…
แต่ถึงอย่างนั้น เสิ่นอี้โจวก็เอ่ยขึ้นว่า “แต่คุณกำลังจะไปมณฑลทางใต้ อีกทั้งผมจะไม่ได้เจอคุณนานกว่าหนึ่งสัปดาห์ ดังนั้นคุณน่าจะชดเชยให้ผมมากกว่าเดิมในสองสามวันนี้ไม่ใช่เหรอ หืม?”
เซี่ยชิงหยวนพูดไม่ออก “…”
เธอจิ้มใบหน้าของเขาเบา ๆ “ก็ถือซะว่าให้คุณพักผ่อนก่อนไง แล้วฉันจะชดเชยให้เมื่อกลับมา”
เสิ่นอี้โจวจุ๊บนิ้วเธอเบา ๆ “ค่อยพักตอนที่คุณไปมณฑลทางใต้แล้วกัน”
เซี่ยชิงหยวนทำตัวงี่เง่าใส่ทันที “ฉันไม่สน ฉันต้องการพักผ่อน”
เสิ่นอี้โจวยิ้ม “ได้สิ งั้นคุณพักผ่อนเถอะ”
เซี่ยชิงหยวนตบขาตัวเองดังฉาด “งั้นปล่อยฉันสักทีสิ”
เสิ่นอี้โจว “คุณก็พักอยู่เฉย ๆ ไง ผมจะทำทุกอย่างเอง”
เซี่ยชิงหยวน “!”
เขาแนบหูของเธอแล้วพูดว่า “แม่กับอี้หลินอยู่ห้องข้าง ๆ ระวังเสียงด้วยล่ะ”
เซี่ยชิงหยวน “!!”
เธอไม่พูดอะไรอีกและหยิกเขาตรงเอวทันที
เสิ่นอี้โจวอดทนต่อความเจ็บปวดและวางเธอลงบนเตียง นิ้วเรียวของเขากำกระดุม “ซนอีกแล้วนะ คุณต้องโดนทำโทษ”
เขายืนมาอยู่ข้างเตียงช้า ๆ พลางก้มมองภรรยา
ทุกครั้งที่เสิ่นอี้โจวมองเธอเช่นนี้ เซี่ยชิงหยวนรู้สึกเสียวสันหลังวาบ
ราวกับตัวเองเป็นเนื้อหมูตุ๋น ซึ่งดูน่าอร่อยมาก
เสิ่นอี้โจวคุกเข่าบนเตียงและวางมือไว้ข้างตัวเธอ “จากนี้ไป เราจะแข่งกับเวลา”
เซี่ยชิงหยวน “!!!”
…
สองวันต่อมา เซี่ยชิงหยวนกับอาเซียงก็ออกเดินทาง
การซื้อตั๋วรถไฟไปยังมณฑลทางใต้จากที่นี่เป็นเรื่องยาก และการหาตู้นอนก็ยากยิ่งกว่า
แต่เสิ่นอี้โจวกลับสามารถหาตั๋วของตู้นอนมาได้สองใบโดยไม่รู้ว่าเขาทำด้วยวิธีไหน อีกทั้งที่นั่งทั้งสองยังอยู่โซนเดียวกัน คือคนหนึ่งนอนชั้นบน ส่วนตั๋วอีกใบอยู่เตียงนอนชั้นล่าง
เซี่ยชิงหยวนรู้ได้ในทันทีว่าเสิ่นอี้โจวมีวิธีการของตัวเอง
ในฐานะเลขาธิการทั่วไปของศาลากลาง การหาตั๋วตู้นอนสองใบสำหรับสองคนไม่ใช่เรื่องที่ยากเกินไป
เดิมที จากเมืองเตียนเฉิงไปยังมณฑลทางใต้ ต้องนั่งรถไฟไปที่เมืองหลวงของมณฑลก่อน
แต่เมื่อปีที่แล้วมีการสร้างสถานีรถไฟแห่งใหม่ในเมืองเตียนเฉิง
แม้ว่าจะเป็นสถานีขนาดเล็ก แต่มันกลับมีรถไฟตรงไปยังเมืองหลวงของมณฑลทางใต้ทุกวัน โดยใช้เวลามากกว่าสามสิบชั่วโมงในการเดินทาง
และเมืองกว่างโจว ซึ่งเป็นเมืองเอกของมณฑลทางใต้คือสถานที่ที่เซี่ยชิงหยวนกำลังจะไป
เมืองกว่างโจวอยู่ใกล้กับฮ่องกงมาก และเป็นเมืองแนวหน้าในการปฏิรูปและการเปิดประเทศ เมืองกว่างโจวจึงได้รับอิทธิพลจากต่างประเทศมากที่สุดแล้วในเวลานี้
ตลาดค้าส่งเสื้อผ้าในเมืองกว่างโจวในปัจจุบันควบคุมสินค้ามากกว่า 50% ของประเทศ และผู้คนจากทั่วทุกมณฑลของจีนมาที่นี่เพื่อซื้อสินค้า
กล่าวได้ว่าตราบเท่าที่คุณต้องการ คุณก็สามารถเพลิดเพลินกับสินค้ามือหนึ่งได้ที่นี่เป็นที่แรก
ยิ่งกว่านั้น เสื้อผ้าของที่นี่ยังมีราคาถูกและผู้คนจะสามารถทำเงินได้มากมายจากการขายต่อ
ฉะนั้น สิ่งที่คุณขาดแคลนตอนนี้ก็คือ สายตาที่เข้าใจเทรนด์แฟชั่น
…
หลังจากครุ่นคิดเรื่องนี้ ในที่สุดเซี่ยชิงหยวนก็นำเงินสองพันหยวนออกมาและเดินทางไปกับอาเซียง
เธอฝากเงินไว้ที่ที่ทำการไปรษณีย์ เปลี่ยนเป็นธนาณัติ แล้วเหน็บไว้ในซับใน
ตอนนี้เป็นฤดูร้อนและอากาศก็ร้อนอบอ้าวมาก
หากมันไม่ได้ห่อด้วยกระดาษไขอีกชั้น เซี่ยชิงหยวนก็คงอดไม่ได้ที่จะหยิบมันออกมาดูบ่อย ๆ เพื่อดูว่าธนาณัติของเธอเปียกโชกไปด้วยเหงื่อหรือไม่
เสิ่นอี้โจว หลินตงซิ่ว เสิ่นอี้หลินและอาจ้วงต่างมาส่งพวกเธอ
อาเซียงกับอาจ้วงคุยกันเรื่องงานบ้านอย่างสุดท้าย ขณะที่เซี่ยชิงหยวนฟังคำสั่งของหลินตงซิ่ว
เสิ่นอี้โจวยืนมองพวกเขาอยู่ข้าง ๆ อย่างอ่อนโยน
เมื่อเธอกำลังจะขึ้นรถไฟในที่สุด เซี่ยชิงหยวนก็เอ่ยถามว่า “คุณไม่มีอะไรจะบอกฉันเลยเหรอคะ?”
เสิ่นอี้โจวลูบผมเธอและพูดว่า “สิ่งที่จะทำหรือพูดกับคุณ ผมได้ทำมันตลอดสองสามวันที่ผ่านมาแล้ว”
เมื่อได้ยินแบบนั้น เซี่ยชิงหยวนพลันหน้าแดงก่ำ
ความอาลัยอาวรณ์ในการจากลาของเธอแต่เดิมก็เจือจางไปมากเช่นกัน
เธอส่งยิ้มให้เขา แล้วตอบกลับไป “งั้นฉันไปล่ะ”
เสิ่นอี้โจวยิ้มและพยักหน้า เขาจับมือเธอไว้แต่ไม่ยอมปล่อย
เซี่ยชิงหยวน “ฉันจะไปจริง ๆ แล้วนะ?”
เสิ่นอี้โจว “อืม”
เซี่ยชิงหยวน “งั้นคุณก็ปล่อยมือสิ”
ทันใดนั้น เซี่ยชิงหยวนก็ได้ยินเสียงหวูดดังเตือนให้ทุกคนรีบขึ้นรถไฟ เธอจึงต้องการปล่อยมือชายหนุ่มอย่างรวดเร็ว
แต่เสิ่นอี้โจวกลับรั้งเธอไว้และดึงเข้าสู่อ้อมแขนของเขาด้วยแรงเดียวอย่างคล่องแคล่ว
จากนั้นเขาก็จับแก้มบางและจูบเธอ
เมื่อผู้คนที่อยู่ด้านข้างเห็นฉากนี้ ต่างพากันเบิกตากว้าง
อาจ้วงรีบเอามือปิดตาของเสิ่นอี้หลิน แต่เขาจ้องมองอย่างว่างเปล่า
อาเซียงหน้าแดงเอามือปิดตาอาจ้วงแล้วหันหน้าหนีไม่กล้ามอง
พี่เขยกล้าหาญจริง ๆ!
แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ นี่มันโรแมนติกเกินไปแล้ว!
ในอนาคตเธอต้องหาผู้ชายที่กล้าจูบเธอในที่สาธารณะแบบนี้บ้าง!
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ อาเซียงอดไม่ได้ที่จะหน้าแดงขึ้นอีก
เซี่ยชิงหยวนตกใจกับการกระทำที่กะทันหันของเสิ่นอี้โจวอย่างมาก ดวงตาของเธอเบิกกว้างมองเขาอยู่ครู่หนึ่ง
จนกระทั่งเสิ่นอี้โจวยิ้ม “คนโง่ หลับตาซะ”
ในขณะที่กล่าว ปลายนิ้วเย็นของเขาก็ปิดดวงตาของเธอ ปิดกั้นการมองเห็นของหญิงสาวไว้
จากการถูกปิดตาด้วยนิ้วของเสิ่นอี้โจว เธอจึงเห็นเพียงแสงแดดที่ลอดเข้ามา คิ้วและดวงตาของเขาอยู่หลังแสง ดังนั้นเธอจึงมองเห็นไม่ชัดเจนเท่าไหร่นัก
เธอรู้สึกเพียงว่าจูบนี้อ่อนโยนมาก
ขนตาของเซี่ยชิงหยวนสั่นระริก สะกิดที่นิ้วของเสิ่นอี้โจวราวกับขนนกที่สัมผัสกับปลายนิ้วของเขา ทำให้รู้สึกคันยุบยิบในหัวใจ เขาอยากจะกอดเธอไว้อย่างนี้จนนิรันดร์
ผู้โดยสารที่ผ่านไปมาซึ่งมองเห็นฉากนี้ ต่างตกใจกับการจูบระหว่างชายหนุ่มรูปงามและหญิงสาวผู้งดงามคู่นี้จริงๆ
ภายในสถานีเล็ก ๆ ที่พลุกพล่านแห่งนี้ กลายเป็นทิวทัศน์ที่สวยงามไปโดยปริยาย
บางทีอาจเป็นเพราะอิทธิพลของพวกเขา คู่รักหนุ่มสาวบางคนที่กำลังจะแยกจากกันก็กล้าที่จะโอบกอดสั้น ๆ
จนกระทั่งเสียงหวูดรถไฟดังขึ้นอีกครั้ง เสิ่นอี้โจวก็ปล่อยเธอไป
เสิ่นอี้โจวดึงตัวเธอกลับไปยังขบวนรถไฟที่คนทั้งสองต้องขึ้น
เมื่ออาเซียงรู้สึกตัว เธอก็รีบตามไปทันที
เสิ่นอี้โจวส่งเซี่ยชิงหยวนขึ้นรถไฟ จูบเธอที่หน้าผากแรง ๆ อีกครั้ง และพูดด้วยเสียงเบา “ผมจะรอให้คุณกลับมา”
จากนั้นเขาก็ลงจากรถไฟภายใต้เสียงเร่งเร้าของนายท่า
หัวใจของเซี่ยชิงหยวนยังคงเต้นไม่หยุด
แก้มของเธอแดงระเรื่อ ริมฝีปากของเธอเผยอออกและกำลังหอบ ราวกับว่าตอนนี้เธอยังไม่หายจากอาการตกใจ
เสิ่นอี้โจวลงจากรถไฟไปแล้ว เขาวิ่งไปที่หน้าต่างของเซี่ยชิงหยวนและโบกมือไหว ๆ ให้เธอ
จนกระทั่งอาเซียงสะกิดเซี่ยชิงหยวนและบอกให้เธอมองออกไปนอกหน้าต่าง เธอจึงกลับมามีสติ
เมื่อเห็นเซี่ยชิงหยวนมองมายังเขา เสิ่นอี้โจวก็วาดมือขึ้น ปลายนิ้วทั้งสองข้างแตะบนศีรษะเล็กน้อย โค้งเป็นรูปหัวใจ
เมื่อเห็นสิ่งนี้ ใบหน้าของเซี่ยชิงหยวนก็ยิ่งแดงเถือก
หัวใจเธอแทบจะหลุดออกมานอกหน้าอกอยู่แล้ว!
เธอกลัวมากจึงรีบปิดหน้าอก
พฤติกรรมของเสิ่นอี้โจวทำให้เพื่อนร่วมชาติหญิงทุกคนทั้งในและนอกรถไฟต่างพากันหน้าแดงด้วยความเขินอาย
ผู้ชายคนนี้น่ารักเกินไปแล้ว!
ประเด็นคือผู้ชายคนนี้ก็หน้าตาดีด้วยเช่นกัน
ใบหน้าของเขาเคร่งขรึม แต่เมื่อเขามองมาที่เซี่ยชิงหยวน สีหน้าของเขาดูอ่อนโยนอย่างมาก
ราวกับหัวใจและดวงตาของเขามีเพียงเธอเท่านั้น
แต่เมื่อตระหนักว่าเสิ่นอี้โจวมีเจ้าของหัวใจแล้ว หัวใจที่กำลังตื่นเต้นของพวกผู้หญิงก็แตกสลายในทันที
เมื่อรถไฟเริ่มวิ่ง ร่างของเสิ่นอี้โจวก็ค่อย ๆ ถอยห่างออกไป และในที่สุดก็เลือนเป็นจุดเล็ก ๆ และหายไปจนลับสายตา
ความโศกเศร้าแต่เดิมของเซี่ยชิงหยวน เพราะการจากกันถูกกระตุ้นอีกครั้ง
อาเซียงยิ้มและเกลี้ยกล่อมเธอ “พี่เซี่ย เมื่อกี้พี่ยอดเยี่ยมมากเลยค่ะ”
มีดวงตามากมายที่จับตามองเธอและเสิ่นอี้โจวเมื่อครู่นี้!
“ยังมีคนที่เลียนแบบพวกพี่ด้วย แต่พวกเขาไม่กล้าเท่าพวกพี่เลย!”
คำพูดของอาเซียงดึงเซี่ยชิงหยวนกลับมามีสติอีกครั้ง
เธอแสร้งทำเป็นโกรธและจ้องมองเด็กสาว “พี่จะตายด้วยความอายอยู่แล้ว เธอหยุดพูดไปเลย”
อาเซียงยิ้มและพูดว่า “ก็ได้ค่ะ ฉันจะไม่พูดอะไรอีกแล้วพี่สาวที่แสนดีของฉัน!”
หญิงสาวพูดจบก็หัวเราะอีก
เมื่อทั้งสองคนเงียบลง อาเซียงก็ถามว่า “พี่เซี่ย กว่างโจวเป็นสถานที่แบบไหนเหรอคะ?”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เซี่ยชิงหยวนก็ครุ่นคิด “กว่างโจวเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาน่ะ”
เมื่อชาติที่แล้ว เธอเดินทางไปหลายที่ แต่สถานที่ที่เธอใช้เวลานานที่สุดก็คือกว่างโจว
เมืองนี้มีทั้งความสุขและความเศร้าโศกมากเกินไปสำหรับเธอ