ตอนที่ 139 จินซานที่แปลว่าภูเขาเงินภูเขาทอง
ตอนที่ 139 จินซานที่แปลว่าภูเขาเงินภูเขาทอง
หลินเซี่ยได้ยินคำพูดของเจียงอวี่เฟย ก็มองหล่อนด้วยความประหลาดใจ “เธอว่าไงนะ?”
เจียงอวี่เฟยทำหน้าจริงจัง “ฉันคิดว่าเราควรแนะนำพี่สาวหวังคนนี้ให้พ่อฉันรู้จัก เผื่อต่างฝ่ายต่างจะได้สนับสนุนซึ่งกันและกัน พ่อฉันกลายเป็นพ่อม่ายตั้งแต่อายุยี่สิบแปดจนถึงตอนนี้ พอนึกแล้วก็อดเศร้าใจไม่ได้ ตอนนี้ฉันโตจนแยกออกไปอยู่ในวิทยาลัยได้แล้ว ถึงเวลาที่ฉันจะต้องปล่อยให้เขาหาภรรยาใหม่เสียที”
หลินเซี่ยเตือนหล่อน “ไม่ดีมั้ง… ปีนี้พี่สาวหวังเพิ่งจะอายุสามสิบ อาจจะไม่เหมาะสมกับเขาก็ได้”
รองผู้อำนวยการโรงงานเจียง พ่อของเจียงอวี่เฟยน่าจะอายุเกินสี่สิบแล้วในปีนี้
โชคยังดีที่ลูกสาวของเขาเป็นคนใจกว้างมากพอ
“หล่อนอายุสามสิบ พ่อฉันก็อายุมากกว่าหล่อนแค่สิบสองปี ไม่ห่างกันมากเท่าไหร่หรอก”
เจียงอวี่เฟยมองเธออย่างจริงจังแล้วพูดว่า “ทีเธอยังอายุน้อยกว่าเฉินเจียเหอตั้งเกือบสิบปี พวกเธอสองคนก็ดูจะเข้ากันได้ดีไม่ใช่เหรอ? อายุไม่ใช่ประเด็นสำคัญหรอก”
หลินเซี่ยแก้ไขอย่างจริงจัง “ฉันอายุน้อยกว่าเขาแค่เก้าปีเอง”
“เก้าปีกับสิบกว่าปีต่างกันแค่ไหนเชียว?”
เจียงอวี่เฟยพูดต่อ “ในฐานะผู้ชายอายุสี่สิบ เธอไม่เห็นเหรอว่าพ่อของฉันเป็นผู้ใหญ่ที่มีเสน่ห์ขนาดไหน? นอกจากนี้พี่สาวหวังก็ดูเป็นคนหัวโบราณดีออก ควรหาคนที่อายุมากกว่ามาเป็นคู่ชีวิตนั่นแหละถูกแล้ว”
หลินเซี่ยเห็นด้วยกับคำพูดของเจียงอวี่เฟยเพียงครึ่งหนึ่งเท่านั้น
รองผู้อำนวยการโรงงานเจียงแก่แล้วแต่ยังดูดีมากก็จริง แต่เมื่อพูดถึงความมั่นคงในชีวิต เธอกลับรู้สึกไม่เห็นด้วยเท่าใด
รองผู้อำนวยการเจียงมีบุคลิกที่ประหม่าและขาดความมั่นใจ ชาติก่อนถึงถูกคนชั่วใส่ร้ายโดยไม่รู้ตัว
“ไว้คราวหลังช่วยพาฉันไปที่อาคารพักอาศัยหน่อยสิ ฉันจะถือโอกาสพบปะพูดคุยทำความรู้จักกับพี่สาวคนนั้นให้ดี ฉันเห็นว่าหล่อนค่อนข้างกังวลมากในการหาสามีใหม่ ถ้าดูแล้วเหมาะสม ฉันจะจับคู่หล่อนกับพ่อเอง”
“อวี่เฟย ฉันว่าตอนนี้เธออย่ารีบร้อนหาแม่เลี้ยงเลย ให้ความสำคัญกับหน้าที่การงานของพ่อเธอให้มากขึ้นดีกว่า หลิวจื้อหมิงไม่ใช่คนดี แถมตอนนี้เขาก็ดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าฝ่ายผลิต บอกพ่อเธอให้ระวัง ๆ เขาไว้หน่อย ระวังจะโดนหมอนั่นออกอุบายเล่นไม่ซื่อ”
เจียงอวี่เฟยตอบกลับ “หลังจากที่เธอเตือนฉันครั้งที่แล้ว ฉันก็เอาเรื่องนี้ไปเล่าให้พ่อฟัง เขาแก้ต่างว่าหลิวจื้อหมิงดูไม่มีพิษมีภัยอะไรเลย อาจเพราะยังเด็กเลยไม่กล้าทำอะไรทุจริตเมื่ออยู่ภายใต้สายตาเขา”บราวนี่ออนไลน์
หลินเซี่ยนับเวลาคร่าว ๆ พบว่ายังเหลือเวลาอีกครึ่งปีจนกระทั่งรองผู้อำนวยการโรงงานเจียงถูกไล่ออก
เจียงอวี่เฟยไม่ได้จริงจังกับเรื่องนี้เท่าใด อาจเป็นเพราะหล่อนไม่เข้าใจเรื่องราวภายในโรงงานเครื่องจักร
เมื่อได้ยินแบบนี้ เธอรู้ทันทีว่ารองผู้อำนวยการเจียงประเมินศัตรูต่ำเกินไป
รอให้มีโอกาสเจอกับรองผู้อำนวยการโรงงานเจียงเสียก่อน เธอต้องหารือเรื่องนี้กับเขาอย่างจริงจัง
ในชาตินี้ เห็นแก่ความเป็นเพื่อนกับเจียงอวี่เฟย เธอไม่สามารถปล่อยให้รองผู้อำนวยการเจียงรับผิดโดยมิชอบได้
“เธอมีลูกสาวแค่คนเดียวเหรอ? ยังมีลูกคนอื่นอีกไหม?” เจียงอวี่เฟยถามหลินเซี่ย
หลินเซี่ยส่ายหน้า “ไม่แล้ว”
เจียงอวี่เฟยพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ “แค่นี้หล่อนก็มีชัยไปกว่าครึ่งแล้ว ถ้าสองฝ่ายได้ดองกันจริง ๆ ฉันก็จะมีน้องสาวเพิ่มขึ้นมาอีกคน แต่ถ้าหล่อนมีลูกติดเป็นผู้ชาย ฉันน่าจะต้องคิดให้รอบคอบหน่อย”
หู่จือที่เดินตามหลินเซี่ยเงียบ ๆ อย่างเชื่อฟังมาตลอดทางพลันเงยหน้าขึ้นมองเจียงอวี่เฟยหลังจากได้ยินคำพูดของหล่อน และถามอย่างสงสัย “น้าคนสวยฮะ ทำไมถึงต้องคิดให้รอบคอบถ้าแม่เสี่ยวฮวามีลูกชายล่ะ?”
เจียงอวี่เฟยกำลังจะตอบกลับว่าเด็กผู้ชายโตแล้วต้องแต่งภรรยา เปลืองทรัพย์สินของครอบครัว…
แต่เมื่อสัมผัสกับสายตาคมดุจมีดของหลินเซี่ย หล่อนก็รีบเปลี่ยนคำพูดทันที “ก็ไม่เชิงหรอก เด็กผู้ชายก็ดีเหมือนกัน พวกเขาแข็งแรงและมีความเป็นผู้นำสูง สามารถปกป้องพี่สาวอย่างฉันได้”
หลินเซี่ยพูดตัดบท “ไว้ค่อยคุยกันทีหลัง อย่าเพิ่งพูดถึงเรื่องนี้ต่อหน้าเด็กเลย”
หู่จือเห็นตรอกถนนโฮ่วช่าง จึงตะโกนด้วยความตื่นเต้นว่า “ใกล้ถึงบ้านคุณยายแล้ว”
เขาปล่อยมือจากหลินเซี่ยและกำลังจะวิ่งไปข้างหน้า หลินเซี่ยพูดกับเขาว่า
“จริงสิ นอกจากคุณยายและน้าของลูกแล้ว คุณลุงเองก็อยู่ที่นี่เหมือนกัน อย่าลืมไปเคาะประตูก่อนนะ”
“ครับ” หู่จือตอบรับแล้ววิ่งออกไปอย่างมีความสุข
หลังจากที่หู่จือเข้าไปในบ้านแล้ว หลิวกุ้ยอิงก็ออกมายืนอยู่ที่ประตูพร้อมกับชะเง้อมองไปรอบ ๆ เมื่อเห็นว่าหลินเซี่ยกลับมากับผู้หญิงคนหนึ่ง ก็รีบเข้าไปทักทายทันที
“เซี่ยเซี่ย ลูกมาพอดี พวกเราเพิ่งแวะไปหาลูกกันมา แต่เห็นว่าเธอไม่ได้อยู่ในร้าน เราเพิ่งห่อเกี๊ยวกันเสร็จ พี่ชายของลูกบอกว่าเขาจะเอาไปส่งให้เย็นนี้”
“สาวน้อยคนนี้คือเพื่อนของลูกเหรอ?”
หลินเซี่ยพยักหน้า “ใช่ค่ะ นี่เพื่อนของหนูเอง ชื่ออวี่เฟย”
“เข้ามาก่อนเร็วเข้า”
หลิวกุ้ยอิงพูดด้วยรอยยิ้มว่า “วันนี้พี่ชายของลูกพาเราสองคนออกไปทำความคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมของที่นี่ และไปตลาดซื้อวัตถุดิบกลับมาทำอาหารกันด้วย ข้าวของในเมืองราคาค่อนข้างถูก แทบไม่ต่างจากตลาดในบ้านเกิดเรามากนัก”
“พี่ชายไปไหนเหรอคะ?” หลินเซี่ยเหลือบมองเข้าไปในบ้าน ก่อนจะถามเพราะไม่ได้ยินเสียงของหลินจินซาน
“เขาบอกว่าจะออกไปหาซื้อถังน้ำมันใบใหญ่”
หลิวกุ้ยอิงเพิ่งพูดจบก็พาหู่จือเข้าไปในห้องครัวเพื่อทำเกี๊ยวต่อ หลินเซี่ยขอให้เจียงอวี่เฟยเข้าไปนั่งในบ้าน ส่วนเธอจะเข้าไปสมทบกับคนอื่น ๆ เผื่อในครัวต้องการความช่วยเหลือ
หลินเซี่ยเดินไปที่ห้องครัว เจียงอวี่เฟยซึ่งเป็นแขกจึงเขินอายเกินกว่าจะเข้าไปนั่งรอในบ้านของคนอื่น ดังนั้นหล่อนจึงเดินเล่นไปรอบ ๆ ลานบ้าน
ทันใดนั้นเอง หลินจินซานก็กลิ้งถังน้ำมันขนาดใหญ่เข้ามา
เขากำลังจะเรียกให้หลินเยี่ยนออกมาช่วยแบกถังน้ำมัน แต่แล้วก็ต้องตกตะลึงเมื่อเห็นเด็กสาวที่มีรูปร่างสะอดสะองเหมือนเทพธิดาน้อย ทั้งสวยทั้งสง่ายืนอยู่ในสนาม สายตาเขาเหมือนถูกแช่แข็งค้างอยู่ตรงนั้น
หัวใจพลันเต้นแรงขึ้นมาทันที
ทันทีที่เขาปล่อยมือ ถังน้ำมันก็กลิ้งลงไปตามพื้นลาด ส่งเสียงดังต่อเนื่องไปหลายเมตร
หลินจินซานมองไปที่สาวสวยซึ่งยืนอยู่ในสนาม และเกิดความรู้สึกบางอย่าง… ราวกับว่าเขากำลังมีความรัก
หลินเซี่ยได้ยินเสียงโครมครามจึงเดินออกมาจากห้องครัว มองไปทางหลินจินซานที่ยังคงตื่นตะลึง “พี่ชาย มองอะไรอยู่?”
“เอ่อ… มะ… ไม่มีอะไร”
ใบหน้าของเขาแดงก่ำ รีบก้มหน้าลงกลิ้งถังน้ำมันตามเดิมจนมันส่งเสียงดังเมื่อตัววัตถุกระทบพื้นในสนาม
“พี่ชาย ทำไมถึงหน้าแดงแบบล่ะ?” หลินเซี่ยเดินเข้าไปหา มองเขาด้วยสายตาล้อเลียนอย่างจงใจ
“แดงตรงไหน?”
หลินจินซานเหลือบมองหญิงสาวที่ยืนอยู่ด้านหลังหลินเซี่ยอีกครั้ง รู้สึกเหมือนหัวใจของเขาแทบจะกระโดดออกมาจากอก
โลกนี้มีผู้หญิงสวยขนาดนี้ด้วยเหรอเนี่ย?
สาว ๆ ในเมืองไห่เฉิงสวยกว่าสาว ๆ ในเมืองเชินเฉิงเป็นร้อยเท่า
เขาอยากถามหลินเซี่ยเหลือเกินว่าหล่อนเป็นใคร แต่เขินอายเกินกว่าจะปริปาก
หลินเซี่ยมองดูสีหน้าท่าทางของเขาด้วยความรังเกียจ “ดูพี่ทำหน้าตาเข้าสิ”
วันนั้นเขาเห็นผู้หญิงแต่งหน้าจัดเดินสวนกันในตรอกก็ตะลึงลานจนมองเหลียวหลัง วันนี้พอเห็นเจียงอวี่เฟยก็เขินจนหน้าแดงอีก
ทำตัวเป็นผู้ชายราคาถูกที่ไร้ภูมิต้านทานเมื่อเจอสาวสวยไปได้
หลินเซี่ยไปยืนอยู่ต่อหน้าเจียงอวี่เฟยด้วยความกระอักกระอ่วน พยายามยืนขวางสายตาที่จับจ้องมองไปทางหล่อนอย่างไม่ปิดบังของหลินจินซาน แนะนำกับเจียงอวี่เฟย “นั่นพี่ชายฉันเอง”
เธอไม่อยากยอมรับจริง ๆ ว่าผู้ชายคนนี้เป็นพี่ชายของตัวเอง!
“สวัสดีค่ะ” เจียงอวี่เฟยโผล่หน้ามาจากด้านหลังหลินเซี่ย โบกมือให้เขา และทักทายเขาอย่างสุภาพด้วยรอยยิ้ม
เมื่อเจียงอวี่เฟยคลี่ยิ้ม หลินจินซานก็รู้สึกราวกับหัวใจของเขาที่แทบหลุดออกจากอกกำลังจะหลอมละลาย
เขาเกาหัวแกรกและรีบแนะนำตัวเองว่า “สวัสดีครับ ผมชื่อหลินจินซาน จินซานที่แปลว่าภูเขาเงินภูเขาทอง”
เจียงอวี่เฟยยิ้ม “ชื่อเป็นมงคลจริง ๆ เลยนะคะ”
หล่อนยิ้มอีกแล้ว หลินจินซานจึงเยี่ยมหน้าออกไปด้านข้างเพื่อให้พ้นจากมุมมองที่หลินเซี่ยปิดกั้น ซึ่งส่งผลต่อการสื่อสารระหว่างเขากับเทพธิดา เขามองไปที่เจียงอวี่เฟยและอธิบายด้วยรอยยิ้ม “ย่าของผมเป็นคนตั้งให้ ท่านโปรดปรานเงินมาก หวังว่าโตขึ้นผมจะนำภูเขาทองมาสู่บ้านของเรา”
“อ๋อ อย่างนี้นี่เอง”
หลินจินซานมองเจียงอวี่เฟยพลางยิ้ม ‘อย่างเอียงอาย’ ต้องการพูดคุยกับหล่อนต่อ หลินเซี่ยทนไม่ไหวอีกต่อไป จึงเบือนหน้าหนีจากเขาแล้วถามเขาว่า “พี่ชาย ซื้อถังน้ำมันมาจากไหนเหรอ?”
“ร้านขายน้ำมันน่ะสิ”
หลินจินซานกลิ้งถังน้ำมันไปข้างหน้า มองดูมันพลางถามอย่างสับสน “เราจะทำเตาเคลื่อนที่จากเจ้าถังนี่ยังไง?”
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
คุณพี่ชายไหวไหมคะ เห็นสาวสวยเป็นไม่ได้เลยนะคะ
ไหหม่า(海馬)