Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน – ตอนที่ 513 เปลี่ยนไปแล้ว

ตอนที่ 513 เปลี่ยนไปแล้ว

ตก​เย็น​

หลิน​เยวียน​กลับ​ถึงบ้าน​

เขา​ได้​เสียง​ของ​พี่สาว​ดัง​มาแต่ไกล​ “หลาน​ห​ลิง​อ๋อง​ของ​เรา​เก่ง​สุด​ๆ เสียงแหบ​ยัง​ร้อง​ได้ขนาด​นั้น​…”

หลิน​เหยา​ “พี่​คะ​ หนู​ดู​รายการ​แล้ว​”

หลิน​เซวียน​ “แกล้ง​ๆ ทำเป็น​ยัง​ไม่ได้​ดู​ ได้​โปรด​ฟังฉัน​ แต่​ทอด​มอง​เขา​สูงสุด​ตา​…อ่า​ไม่ได้​ เพี้ยน​แล้ว​”

“โฮ่งๆ !”

หนาน​จี๋เห่า​มาทาง​หลิน​เยวียน​

หลิน​เซวียน​หันไป​มอง​ “น้องชาย​กลับมา​แล้ว​ อยาก​ฟังพี่​ร้องเพลง​ไหม​…”

หลิน​เยวียน​เดิน​ขึ้นไป​ข้างบน​

หนาน​จี๋แกว่ง​หาง​

หลิน​เซวียน​เบ้​ปาก​ พูดเจื้อยแจ้ว​ให้​น้องสาว​ฟังต่อไป​

ชั้นบน​

หลิน​เยวียน​อยู่​ใน​ห้องนอน​ เขา​เปิด​ก๊อกน้ำ​และ​ทดสอบ​อุณหภูมิ​ของ​น้ำ​ ไม่มีปัญหา​ เครื่องทำน้ำอุ่น​ได้รับ​การซ่อมแซม​แล้ว​ใน​วันนี้​

“มาอาบน้ำ​”

หลิน​เยวียน​มอง​ไป​ยัง​หนาน​จี๋​

เมื่อคืน​วาน​หนาน​จี๋อาบน้ำ​ยัง​ไม่ล้าง​เจล​อาบน้ำ​ออก​ ทั้งตัว​เต็มไปด้วย​ฟอง​

แต่กลับ​ถูก​หลิน​เยวียน​เป่า​จน​แห้ง​ทั้งอย่างนั้น​

หนาน​จี๋ลังเล​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ก่อน​จะนอนลง​แต่​โดยดี​

ล​เมื่อ​อาบน้ำ​เสร็จ​ หลิน​เยวียน​เป่า​แห้ง​ให้​หนาน​จี๋อีกครั้ง​ จากนั้น​จึงนอนเล่น​โทรศัพท์​บน​เตียง​

ล​สิ่งสำคัญ​คือ​เขา​ต้อง​อ่าน​ความคิดเห็น​บน​โลก​ออนไลน์​หลังจาก​การแข่งขัน​ใน​รอบ​นี้​

นี่​กลายเป็น​วิธี​การพักผ่อน​ของ​หลิน​เยวียน​ไป​แล้ว​

ไม่ทัน​ไร​

หลิน​เยวียน​ก็​บังเอิญ​ไป​เห็น​หัวข้อ​หนึ่ง​

เป็น​หัวข้อ​สนทนา​ซึ่ง [ตงสยงเจี้ยง]​ เป็น​ผู้​โพสต์​ มีชื่อว่า​

‘หลาน​ห​ลิง​อ๋อง​ไม่พูดไม่จา​แล้ว​ แต่​ไม่ใช่เพราะ​เสียงแหบ​ แต่​เพราะ​มีคน​บีบ​คอ​เขา​อยู่​’

เริ่มต้น​ด้วย​ความคิดเห็น​ของ​ตง​สยงเจี้ยง​เอง​

‘เป็นเรื่อง​น่าเศร้า​เล็กน้อย​ที่​ใน​หลาย​รอบ​ที่ผ่านมา​ หลาน​ห​ลิง​อ๋อง​พูด​น้อยลง​เรื่อยๆ​ แถมยัง​ไม่แสดงความคิดเห็น​ต่อ​การแสดง​ของ​นักร้อง​คนอื่นๆ​ เดิมที​ฉัน​คิด​เพียง​ว่า​เขา​คง​ลืม​ หรือไม่​ทีมงาน​รายการ​ก็​ไม่ใส่ฟุต​เท​จที่​เขา​พูด​ลง​ไป​ จนกระทั่ง​ได้​ฟังเพลง​ที่​เขา​ร้อง​ใน​วันนี้​ ถึงได้​รู้​ว่า​ที่จริง​แล้ว​เขา​แค่​เหนื่อย​แล้ว​’

‘ดู​เนื้อเพลง​ไม่สนใจ​สิ’

‘ภายนอก​เป็น​เพ​ลงรัก​ แต่​แท้จริง​แล้ว​สิ่งที่​ร้อง​ออกมา​คือ​คำพูด​ที่อยู่​ใน​ใจ’

‘ถูก​หรือ​ผิด​ อย่า​ได้คิด​เช่นนั้น​เสมอไป​ ใช่หรือไม่​ อย่า​บอ​กว่า​ฉัน​ไม่เสียดาย​ แตกสลาย​ก็​แตกสลาย​ สมบูรณ์แบบ​คง​เป็นไปไม่ได้​ ปลดปล่อย​ตัวเอง​ ฉัน​ถึงโบยบิน​ได้​ไกล​…’

‘ใช่แล้ว​’

‘ถ้อยคำ​ด่าทอ​มีมากเกินไป​ ทุกครั้งที่​เขา​เอ่ยปาก​พูด​ ล้วน​นำมาซึ่ง​ประเด็น​โต้เถียง​ มีบางคน​เช่น​จ้าว​อิ๋ง​เก้อ​และ​เอ๋อ​ลั่ว​อี​ (ซึ่งล่าถอย​ไป​แล้ว​) ที่​เข้าใจ​และ​ยอมรับ​คำวิจารณ์​​ และ​มีบางคน​เช่น​นักร้อง​อย่าง​หยวน​ซี(ซึ่งน่าจะเป็น​เทพี​แห่ง​การ​ล้างแค้น​) และ​แฟนคลับ​ที่​ระเบิด​โทสะ​ กลุ่ม​นั้น​พูด​ไป​สอง​ไพ​เบี้ย​ นิ่ง​เสีย​ตำลึง​ทอง​อย่าง​แท้จริง​ เพราะฉะนั้น​หลังจาก​วิพากษ์วิจารณ์​ทีม​ที่สาม​จบ​ หลาน​ห​ลิง​อ๋อง​ก็​ไม่เคย​เอ่ยถึง​นักร้อง​คนอื่น​อีก​ เพราะ​เขา​ถูก​คำ​ตำหนิติเตียน​บีบ​คอ​อยู่​ คน​ที่​กล้า​พูดความจริง​บน​โลก​นี้​ได้​หาย​ไป​อีก​หนึ่ง​คน​แล้ว​’

‘…’

การ​วิเคราะห์​นี้​ได้รับ​การ​ยอมรับ​อย่าง​กว้างขวาง​

‘เหมือนกับ​ที่​บอก​ไว้​ใน​เนื้อเพลง​ หลาน​ห​ลิง​อ๋อง​แสวง​หาความ​สมบูรณ์แบบ​ ดังนั้น​เขา​จึงชี้ถึงความ​บกพร่อง​ที่​เขา​เห็น​ แต่​น่าเสียดาย​ที่​ไม่มีใคร​ชอบ​ฟัง’

‘มีคน​หมกมุ่น​อยู่​กับ​สิ่งที่​ถูก​และ​ผิด​ ย่อม​มีคน​คิด​ว่า​เขา​จริงจัง​เกินไป​’

‘ทุกคน​ชอบ​คนจริง​ แต่​ตัวเอง​กลับ​ไม่อยาก​เป็น​แบบ​นั้น​’

‘ราชา​หน้ากาก​นักร้อง​ก็​คือ​วงการ​บันเทิง​ วงการ​บันเทิง​ไม่ชอบ​อะไร​แบบนี้​ เขา​เล่น​แบบนี้​ไม่มีเพื่อนเล่น​ด้วย​หรอก​ แต่​ฉัน​ชอบ​คน​แบบ​หลาน​ห​ลิง​อ๋อง​’

‘ก้น​นั่ง​อยู่​ตรงไหน​ สมอง​ก็​สั่งการ​ตามนั้น​’

‘พวกเรา​ไม่ได้​มีส่วน​เกี่ยวข้อง​ทาง​ผลประโยชน์​ คิด​ว่า​หลาน​ห​ลิง​อ๋อง​เก่ง​มาก​ แฟนคลับ​ของ​นักร้อง​เหล่านั้น​กลับ​ทน​ไม่ได้ที่​คนอื่น​วิจารณ์​ไอดอล​ของ​พวกเขา​แค่​ประโยค​เดียว​ ต่อให้​สิ่งที่​คน​เขา​พูด​จะมีเหตุผล​แล้ว​ยังไง​ ที่จริง​คน​ที่​โมโห​กระฟัดกระเฟียด​ส่วนมาก​คือ​แฟนคลับ​ คน​ผ่าน​ไป​ผ่าน​มาต่อให้​ไม่ชอบ​หลาน​ห​ลิง​อ๋อง​ อย่าง​น้อย​ก็​ไม่ได้​ใช้คำพูด​รุนแรง​’

‘…’

นอกจากนี้​ยังมี​อีก​หลาย​คน​ไม่เห็นด้วย​

‘ก็​แค่​เพ​ลงรัก​ เอา​อะไร​มามีความหมายแฝง​มาก​ขนาด​นั้น​ มีเหตุผล​ที่​เขา​เงียบ​ เพราะ​เขา​กลัว​ไงล่ะ​’

‘แรงกดดัน​จาก​ความเห็น​ของ​ประชาชน​มีมหาศาล​ เขา​สวมหน้ากาก​อยู่​จะไม่สนใจ​ก็ได้​ แต่​พอ​ถอด​หน้ากาก​ล่ะ​?’

‘รอบ​หน้า​ก็​ถอด​หน้ากาก​แล้ว​ เขา​ต้อง​รู้จัก​สะสมคุณ​งามความ​ให้​ตัวเอง​บ้าง​ ไม่งั้น​เมื่อไหร่​ที่​ตัวตน​เปิดเผย​ สิ่งที่​รอ​เขา​อยู่​คือ​หายนะ​แบบ​ไหน​คง​ไม่ต้อง​ให้​บอก​ล่ะ​มั้ง’

‘ตอนนี้​สาย​ไป​แล้ว​ เขา​ล่วง​เกินคน​มามาก​ ต่อให้​มานึก​กลัว​คง​ไม่ได้​ พอ​ถึงตอนนั้น​น่าจะ​โดน​ทุบ​ตาย​’

‘หลังจาก​ถอด​หน้ากาก​ ทหาร​นับ​พัน​ตั้ง​ทัพ​รอ​เขา​อยู่​’

‘…’

ความขัดแย้ง​ยัง​ไม่ยุติ​ลง​

‘หลาน​ห​ลิง​อ๋อง​ถอด​หน้ากาก​เมื่อไหร่​ผม​จัดการ​เขา​แน่​ ผม​เป็น​แฟนคลับ​ของ​เอ๋อ​ลั่ว​อี​’

‘อย่า​มาตี​เนียน​เป็น​แฟนคลับ​เอ๋อ​ลั่ว​อี​หน่อย​เลย​ กด​เข้าไป​ใน​แอ​ค​ของ​คุณ​มีแต่​หัวข้อ​เกี่ยวกับ​หยวน​ซี’

‘ไอดอล​ของ​พวกคุณ​ยัง​ไม่ทัน​พูด​อะไร​ พวกคุณ​เดือดร้อน​แทน​ซะแล้ว​’

‘เรา​เดือดร้อน​มานาน​แล้ว​ หลาน​ห​ลิง​อ๋อง​ล่ะ​เดือดร้อน​ไหม​ เขา​กลัว​จน​ปิดปากเงียบ​ไป​แล้ว​’

‘…’

การ​ถกเถียง​ไม่ยุติ​ลง​สักที​

หลิน​เยวียน​ส่ายหน้า​ วางโทรศัพท์​ลง​ จู่ๆ ก็​หมด​ความสนใจ​ที่จะ​ท่อง​โลก​ออนไลน์​ต่อ​

อย่างไรก็ตาม​ โพสต์​นี้​ย้ำ​เตือน​หลิน​เยวียน​

ระยะนี้​ตน​ไม่ได้​วิพากษ์วิจารณ์​นักร้อง​คนอื่น​จริงๆ​ เขา​ทำ​ไป​เช่นนั้น​ตาม​สัญชาตญาณ​ ​แต่กลับ​ไม่รู้​เลย​ว่า​ทำไม​ระยะนี้​ถึงทำ​เช่นนั้น​…

เพราะ​ไม่มีอะไร​จะพูด​หรือ​?

ไม่เลย​

เพียงแต่​ตน​ตระหนัก​ได้​ว่า​ ไม่จำเป็นต้อง​พูด​ให้​มากความ​ดีกว่า​

เพราะ​กลัว​ถูก​คน​ที่​เกลียด​ตามมา​ถล่ม​หลัง​ถอด​หน้ากาก​หรือ​?

ก็​ไม่ใช่

หลิน​เยวียน​ไม่เคย​กลัว​กองทัพ​ชาว​เน็ต​เหล่านั้น​เลย​

เพียงแต่​จู่ๆ หลิน​เยวียน​ก็​นึกถึง​แฟน​ๆ ซึ่งอุตส่าห์​เดินทาง​มาไกล​ เพียง​เพื่อ​ตะโกน​บอก​เขา​ว่า​ ‘สู้ๆ นะ​’ ที่​หน้า​ประตู​ศูนย์​ดนตรี​กลาง​ใน​วันนั้น​

พวกเขา​ยอม​เปิดศึก​กับ​ผู้คน​บน​โลก​ออนไลน์​เพื่อ​เขา​

จวบจน​ปัจจุบันนี้​ยัง​ไม่มีวี่แวว​ว่า​จะสงบ​ลง​เลย​

ถ้าหาก​ตน​ไม่พูด​

หลังจากนี้​ทุกคน​จะได้​ไม่ต้อง​ทะเลาะ​กัน​อีก​

ความจริง​เป็น​เช่นนั้น​แน่นอน​

เนื่องจาก​ช่วงนี้​ตน​ไม่ได้​พูด​อะไร​ที่​กลายเป็น​ประเด็น​ถกเถียง​ได้​ คอมเมนต์​กระสุน​บน​หน้าจอ​จึงปรองดอง​กัน​มากขึ้น​

ผู้คน​ทะเลาะ​กัน​บาง​ครั้งคราว​

แต่​อย่าง​น้อย​ความเคลื่อนไหว​ก็​น้อยลง​มาก​

จน​หาย​ไป​อย่าง​สิ้นเชิง​ใน​ภายหลัง​

เพราะฉะนั้น​…

เขา​ต้อง​เรียนรู้​ที่จะ​ไม่สนใจ​บ้าง​

ที่แท้​ตน​ก็​นับว่า​เป็น​คนรัก​สงบ​ เมื่อ​คิด​เช่นนี้​ หลิน​เยวียน​จึงคิด​ว่า​เขา​ปล่อยวาง​ได้​แล้ว​

ทว่า​ไม่กี่​วัน​ต่อจากนั้น​ จู่ๆ เขา​ก็​รู้สึก​หมด​เรี่ยว​หมดแรง​ ถึงขั้น​หดหู่​ขึ้น​มาโดย​ไม่มีเหตุผล​

เขา​ไม่อยาก​ซ้อม​ร้องเพลง​ และ​ไม่อยาก​พูด​กับ​ใคร​

คน​ที่​บ้าน​ไม่รู้​ด้วยซ้ำ​ว่า​หลิน​เยวียน​เสียงแหบ​

ถึงอย่างไร​เขา​เป็น​คน​พูดน้อย​แต่​ทุนเดิม​ ต่อให้​ไม่พูดไม่จา​ทั้งวัน​ก็​ไม่มีใคร​รู้สึก​แปลกใจ​

กลับเป็น​น้องสาว​ซึ่งสังเกตเห็น​ว่า​หลิน​เยวียน​อารมณ์ไม่ดี​ เธอ​จึงว่าง่าย​กว่า​เดิม​มาก​ ระหว่าง​กิน​อาหาร​ เธอ​ยัง​แอบ​กิน​ผัก​ใบ​เขียว​ไป​ไม่น้อย​

แม่จะทำอาหาร​จาน​ผัก​ปริมาณ​กำลัง​พอดี​ทุกวัน​ นับว่า​เป็น​ภารกิจ​ ประจำวัน​ซึ่งมอบหมาย​ให้​หลิน​เยวียน​และ​หลิน​เหยา​

ต้อง​กิน​ให้​หมด​ภายใน​หนึ่ง​วัน​

ถ้าหาก​ไม่มีหนาน​จี๋คอย​ลอบ​ช่วยเหลือ​ หลิน​เยวียน​และ​หลิน​เหยา​คง​รับมือ​ไม่ไหว​

เป็น​เช่นนี้​

จน​ผ่าน​ไป​หลาย​วัน​

ในที่สุด​เสียง​ของ​หลิน​เยวียน​ก็​ดีขึ้น​มาก​ จน​ไม่ส่งผลกระทบ​ต่อ​การแข่งขัน​แล้ว​ และ​บรรยากาศ​ใน​การแข่งขัน​รอบ​รองชนะเลิศ​ค่อยๆ​ แผ่​เข้า​ปกคลุม​

บน​อินเทอร์เน็ต​

ประเด็น​ถกเถียง​เกี่ยวกับ​ราชา​หน้ากาก​นักร้อง​เพิ่มมากขึ้น​เรื่อยๆ​ จน​เกือบ​แตะ​ถึงจุดสูงสุด​นับตั้งแต่​มีการแข่งขัน​มา!

ขณะเดียวกัน​

ใน​การ​จัดอันดับ​ความนิยม​ของ​นักร้อง​ใน​ราชา​หน้ากาก​นักร้อง​ ปัจจุบันนี้​เหลือ​นักร้อง​เพียง​หก​คน​เท่านั้น​

สี่อันดับ​แรก​คือ​ราชา​ราชินี​เพลง​

อันดับ​ที่​ห้า​คือ​นาง​เงือก​

ส่วน​หลาน​ห​ลิง​อ๋อง​อยู่​ใน​อันดับ​ต่ำสุด​

เดิมที​นี่​ไม่ใช่เรื่อง​น่าแปลกใจ​

ทุกคน​ถูกอกถูกใจ​ราชา​ราชินี​เพลง​มากกว่า​

ทว่า​สิ่งที่​น่าแปลก​คือ​…

ความนิยม​ของ​หลาน​ห​ลิง​อ๋อง​นั้น​ แม้แต่​กับ​นาง​เงือก​ก็​ยัง​นับว่า​ห่างไกล​กัน​มาก​

หลิน​เยวียน​คิด​ว่า​นี่​เป็น​เพียง​ปรากฏการณ์​ปกติ​

จนกระทั่ง​ขณะ​กำลังจะ​ออกจาก​บ้าน​และ​มุ่งหน้า​ไป​ยัง​เวที​การแข่งขัน​ เขา​ได้ยิน​พี่สาว​บ่นว่า​

แฟนคลับ​ของ​นักร้อง​พวก​นี้​น่าเกลียด​มาก​ จงใจโหวต​ให้​นักร้อง​ห้า​อันดับ​แรก​ แต่​ไม่โหวต​ให้​หลาน​ห​ลิง​อ๋อง​ เดิมที​ความนิยม​ของ​หลาน​ห​ลิง​อ๋อง​อยู่​อันดับ​ห้า​ แต่​เขา​ถูก​ดัน​ลง​ไป​อันดับ​หก​ ดัน​ลง​ไป​อันดับ​หก​ยัง​ไม่เท่าไหร่​ ทำไม​ต้อง​ปั่น​โหวต​ให้​ห้า​อันดับ​แรก​ จน​สถิติ​ของ​หลาน​ห​ลิง​อ๋อง​แย่​ขนาด​นี้​!”

ใน​บางครั้ง​

ต้นไม้​อยาก​สงบ​ แต่​พายุ​กลับ​ไม่ยอม​หยุด​

หลิน​เยวียน​ไม่ได้​พูดจา​ จนกระทั่ง​ขึ้นรถ​ของ​กู้​ตง​ตรง​ไป​ยัง​สนาม​แข่งขัน​

กู้​ตง​ซึ่งสวมหน้ากาก​อนามัย​ปกปิด​ใบหน้า​กล่าว​ “วันนี้​เข้า​ประตู​หลัก​ ทีมงาน​รายการ​จะเริ่ม​ถ่ายทำ​ตั้งแต่​ลง​จาก​รถ​ค่ะ​”

หลิน​เยวียน​ตอบ​ “อื้ม”​ ก่อน​จะหลับตา​ลง​เพื่อ​ทำสมาธิ​

ยี่สิบ​นาที​ผ่าน​ไป​

รถ​ก็​มาถึง

หลิน​เยวียน​มองผ่าน​หน้าต่าง​รถ​ออก​ไป​ข้างนอก​ ผู้คน​เสียงดัง​จ้อกแจ้ก​จอแจ​ ต่าง​คน​ต่าง​ป้าย​สนับสนุน​

มีแฟนคลับ​ของ​มหา​ราชา​

มีแฟนคลับ​ของ​หงส์​ขาว​

มีแฟนคลับ​ของ​เทพี​แห่ง​การ​ล้างแค้น​

มีแฟนคลับ​ของ​นาง​เงือก​

มีแฟนคลับ​ของ​เอล์ฟ​

และ​แน่นอน​ว่า​มีแฟนคลับ​ของ​หลิน​เยวียน​

อย่างไรก็ตาม​ เมื่อ​ดู​เผินๆ​ กลุ่ม​ผู้สนับสนุน​ของ​หลาน​ห​ลิง​อ๋อง​นั้น​มีบางตา​ที่สุด​ กลุ่ม​ผู้สนับสนุน​ของ​นัก​ร้อ​ งคนอื่นๆ​ นั้น​มีมากกว่า​ของ​หลิน​เยวียน​หลายเท่า​

หลิน​เยวียน​กล่าวว่า​ “ผม​ล่วง​เกินคน​ไว้​มาก​”

กู้​ตง​เบ้​ปาก​ “หมายถึง​จำนวน​แฟนคลับ​เหรอ​คะ​? งั้น​ตัวแทน​หลิน​คง​ไม่รู้​ ว่า​แฟนคลับ​ของ​คุณ​มีไม่น้อย​ คุณ​เห็น​ว่า​แฟนคลับ​ของ​นักร้อง​คนอื่น​มีเยอะ​ เพราะ​คน​กลุ่ม​นี้​ส่วนมาก​จะถูก​นักร้อง​หรือ​บริษัท​จัดเตรียม​ไว้​ล่วงหน้า​ ผู้บริหารระดับสูง​ของ​บริษัท​รู้​ว่า​พวกเขา​จะเข้าร่วม​การแข่งขัน​ ที่​ทำ​แบบนี้​ก็​เพื่อ​สร้าง​ภาพลักษณ์​ให้​นักร้อง​ ไม่เหมือนกับ​บริษัท​เรา​ที่​ไม่รู้​เลย​ว่า​ตัวแทน​หลิน​เข้าร่วม​การแข่งขัน​ ไม่งั้น​อย่าง​น้อย​บริษัท​จะช่วย​ควบคุม​พวก​ความคิดเห็น​ใน​เน็ต​ได้​ค่ะ​ และ​จัดหา​กลุ่ม​ผู้สนับสนุน​ให้ได้​มากกว่า​ด้วย​…”

“อ้อ​”

หลิน​เยวียน​ไม่ออกความเห็น​

ในขณะนั้น​

ไกล​ออก​ไป​ รถ​หรู​คัน​ยาว​ปรากฏ​ขึ้น​ เคลื่อน​มาอย่าง​รวดเร็ว​จน​เกือบ​ดริฟต์​ จากนั้น​เทพี​แห่ง​การ​ล้างแค้น​เดินลง​จาก​รถ​โดย​มีบอ​ดี​การ์ด​คอย​คุ้มกัน​

“เทพี​แห่ง​การ​ล้างแค้น​!”

“เทพี​แห่ง​การ​ล้างแค้น​!”

“เทพี​แห่ง​การ​ล้างแค้น​!”

เทพี​แห่ง​การ​ล้างแค้น​หยุด​โบกมือ​ ผู้สนับสนุน​ของ​เธอ​ตะโกน​ร้องเรียก​อย่าง​บ้าคลั่ง​

ถ้าหาก​ไม่มีบอ​ดี​การ์ด​คอย​กีดกัน​ไว้​ พวกเขา​คง​บุกเข้าไป​ใน​ห้อง​ส่งแล้ว​

อย่างไรก็ตาม​ เสียง​เหล่านี้​นับว่า​มีพลัง​มหาศาล​

กลุ่ม​ผู้สนับสนุน​หลาน​ห​ลิง​อ๋อง​ซึ่งอยู่​ด้าน​ข้าง​ถูก​เบียด​ออก​ไป​ด้าน​ข้าง​ ใน​นั้น​มีคน​ถูก​ฝูงชน​เบียด​จน​ล้ม​ลง​

หลิน​เยวียน​สีหน้า​เปลี่ยน​ทันใด​ ความโกรธเคือง​ปรากฏ​ใน​แววตา​

เมื่อ​เห็น​ว่า​อีก​ฝ่าย​มีเพื่อน​เข้ามา​พยุง​ได้​ทันเวลา​ก่อน​จะล้มคะมำ​ลง​ หลิน​เยวียน​จึงเบาใจ​ขึ้น​

เด็กผู้หญิง​ซึ่งใน​มือถือ​ป้าย​สนับสนุน​ถูก​เบียด​จน​ป้าย​หลุด​จาก​มือ​โดยไม่ตั้งใจ​ แต่​ปรากฏ​ว่า​ป้าย​ถูก​แฟนคลับ​ของ​นักร้อง​คนอื่นๆ​ เหยียบ​ซ้ำ

เด็กหญิง​คน​นั้น​ตื่นตระหนก​จน​ทำ​อะไร​ไม่ถูก​

เมื่อ​คน​กลุ่ม​นี้​ผ่าน​ไป​ แฟนคลับ​ของ​หลาน​ห​ลิง​อ๋อง​จึงรีบ​วิ่ง​มา และ​เก็บ​ป้าย​สนับสนุน​ขึ้น​มาเช็ด​รอยเท้า​และ​คราบ​ฝุ่น​

“โชคดี​ที่​ไม่เป็นไร​”

กู้​ตง​ซึ่งอยู่​ใน​ตำแหน่ง​คนขับ​ก็​เห็น​เหตุการณ์​นี้​เช่นกัน​

เธอ​เกือบ​รีบ​ออก​ไป​ช่วย​แล้ว​ ถ้าเกิด​เหตุการณ์​เหยียบ​กัน​คง​เลวร้าย​มาก​ “คน​พวก​นี้​เห็น​คนดัง​แล้ว​ไม่คิด​ชีวิต​กัน​เลย​ เมื่อกี้​คน​คน​นั้น​น่าจะ​บาดเจ็บ​ ตัวแทน​หลิน​เดี๋ยว​คุณ​ เอ๊ะ​…”

กู้​ตง​หันกลับ​ไป​ จึงพบ​ว่า​หลิน​เยวียนลง​จาก​รถ​แล้ว​ ขณะนี้​กำลังจะ​เข้า​ประตู​ไป​ภายใต้​การ​ดูแล​ของ​บอ​ดี​การ์ด​

ทว่า​หลิน​เยวียน​ไม่ได้​เข้าไป​ด้าน​ในทันที​

เขา​ยืน​อยู่​ใน​บริเวณ​ทางเข้า​ใน​ตำแหน่ง​ที่​คนอื่น​มองไม่เห็น​ ทันใดนั้น​ก็​หันกลับ​ไป​มอง​กลุ่ม​ผู้สนับสนุน​ของ​ตน​

เด็กผู้หญิง​ซึ่งทำ​ป้าย​หลุดมือ​เมื่อ​ครู่​กำลัง​พยายาม​เช็ด​ป้าย​ซึ่งเห็นได้ชัด​ว่า​ถูก​เช็ด​จน​สะอาด​ น้ำตา​หยด​เผาะ​ๆ

“ทำไม​ไม่เข้าไป​ด้านใน​ล่ะ​”

หงส์​ขาว​ก็​ปรากฏตัว​จาก​ที่ไหน​สัก​แห่ง​ ท่าทาง​ราวกับ​กำลัง​กลัว​กลุ่ม​ผู้สนับสนุน​บุก​เข้ามา​ “บริษัท​ชอบ​ทำ​เรื่อง​เว่อร์​ๆ แบบนี้​อยู่​เรื่อย​ วันนี้​คุณ​…”

“สนใจ​”

จู่ๆ หลิน​เยวียน​ก็​เอ่ย​สามคำ​นี้​อออก​มา ก่อน​จะเดิน​ไปหา​ถงถงซึ่งอยู่​ไกล​ออก​ไป​ ทิ้ง​ไว้​เพียง​แผ่น​หลัง​ให้​กับ​หงส์​ขาว​

หงส์​ขาว​ตกตะลึง​อยู่​นาน​กว่า​จะตั้งสติ​ได้​…

หลาน​ห​ลิง​อ๋อง​กำลัง​ตอบคำถาม​ของ​เธอ​เมื่อ​สัปดาห์​ก่อน​

เพียงแต่​คำตอบ​ของ​คำถาม​นี้​…

เหมือน​จะเปลี่ยนไป​แล้ว​?

Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน

Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน

Status: Ongoing

‘เขา’ ทะลุมิติมายังจักรวาลคู่ขนานซึ่งมีชื่อว่า ‘บลูสตาร์’

ดินแดนซึ่งอบอวลไปด้วยกลิ่นอายของศิลปะวัฒนธรรม ศาสตร์ทุกแขนงซึ่งเกี่ยวข้องกับศิลปะ

ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ ดนตรี จิตรกรรม วรรณกรรม หรือการเขียนพู่กันก็ล้วนเฟื่องฟูอย่างยิ่ง

ร่างที่เขามาสิงอยู่คือ ‘หลินเยวียน’ นักศึกษาปีสองที่กำลังจะเดบิวต์

แต่โชคชะตากลับเล่นตลกให้หลินเยวียนป่วยเป็นโรคที่รักษาไม่หาย ทำให้ร้องเพลงไม่ได้ และมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน

ครอบครัวก็หมดเงินไปกับค่ารักษาจนอยู่ในภาวะการเงินขัดสน

เป็นเหตุให้หลินเยวียนตัดสินใจจบชีวิตของตัวเองเพื่อไม่ให้เป็นภาระของครอบครัวต่อไป

แต่ ‘เขา’ ไม่คิดจะปลิดชีพตัวเองเหมือนหลินเยวียน

ถึงแม้ร่างนี้จะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน แต่ก็ยังพอเหลือเวลาให้ทำอะไรอยู่บ้าง

และแม้จะเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของตัวเองไม่ได้ ก็ยังพอจะเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของครอบครัวได้

เขาจะเขียนเพลง เขียนหนังสือ ถ่ายทอดความรู้ หารายได้ให้ครอบครัว!

ทันใดนั้น…

[กำลังตรวจเลือด…กำลังตรวจยีน…กำลังตรวจม่านตา…

ระดับความเข้ากันได้ร้อยละ 99.36…ตรงตามมาตรฐาน…

เลือกจากฐานข้อมูล…โลกในระบบสุริยจักรวาล…ระบบกำลังเชื่อมต่อ…]

[ดาวน์โหลดสำเร็จ เชื่อมต่อระบบศิลปะเสร็จสมบูรณ์!]

[สวัสดีโฮสต์ ยินดีสำหรับการเชื่อมต่อกับระบบศิลปะ

ระบบของเราจะช่วยเหลืออย่างเต็มที่เพื่อให้ท่านได้เป็นศิลปินของบลูสตาร์!]

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท