บทที่ 113 เข้าร่วมงานแต่งงาน
บทที่ 113 เข้าร่วมงานแต่งงาน
หลังจากที่ถังซวงและโม่เจ๋อหยวนกลับมาแล้ว เฮ่อหลานก็ได้เตรียมอาหารเย็นเสร็จเรียบร้อย “พวกเธอออกไปทำอะไรมา ทำไมถึงเพิ่งกลับ?”
หลังจากคิดเรื่องนี้แล้ว ถังซวงก็เล่าสิ่งที่ทั้งสองได้ยินให้แม่ได้ฟัง
“แม่คะ สือจีสูคนนี้นอกจากจะแก่แล้วยังหื่นกามอีกด้วย ครั้งนี้เขาให้ใครก็ไม่รู้มาเป็นแม่สื่อ หนูว่าต้องมีเบื้องลึกเบื้องหลังอะไรแน่” จากการสอบถามเรื่องสือจีสู เขาชอบเด็กสาวสวย ๆ มาก แม้ว่าเขาจะแต่งงานไปแล้ว แต่ก็ยังมองหาสาวน้อยมาเป็นภรรยาเพิ่ม แต่ว่าทำไมจู่ ๆ ถึงให้แม่สื่อมาจับคู่ให้แม่ของเธอล่ะ ดังนั้นเธอจึงรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติแน่
ใบหน้าของเฮ่อหลานโกรธเกรี้ยวมากหลังจากได้ยินสิ่งที่ลูกสาวคนโตพูด
“แม่ไม่รู้จักสือจีสูคนนี้เลย ทำไมเขาถึงปล่อยให้แม่สื่อมาที่นี่ ยิ่งไปกว่านั้น เขายังทำเรื่องเลวร้ายมากขนาดนี้ แต่ยังเป็นรองหัวหน้าหมู่บ้านได้ยังไงกัน คนแบบนี้ได้เป็นผู้นำหมู่บ้านได้ยังไง?”
ถังเซวี่ยที่อยู่ด้านข้างเองก็โกรธเช่นกัน
“มันมากเกินไปแล้ว มีคนแบบนี้อยู่บนโลกด้วยหรือเนี่ย แม่สื่อคนนั้นก็ไม่ใช่คนดี คนแบบนี้ยังกล้าเป็นแม่สื่อให้อีก ต้องเสียสติไปแล้วแน่ ๆ”
เมื่อเห็นการแสดงออกที่ไม่พอใจของเฮ่อหลานและถังเซวี่ย ถังซวงก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ “ไม่ใช่ทุกคนที่จะดีเหมือนหัวหน้าหมู่บ้านตระกูลหลิวของเราสักหน่อย อย่าโกรธคนแบบนี้เลย มันไม่คุ้มค่าหรอก เรารีบกินข้าวกันเถอะ ฉันหิวแล้ว”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เฮ่อหลานก็รีบพูดว่า “ใช่แล้ว รีบกินเถอะ ลูกกับเสี่ยวโม่เดินกันมาตลอดบ่าย คงหิวแย่แล้ว”
หลังจากที่พวกเขาทานอาหารเสร็จ ถังซวงกับโม่เจ๋อหยวนก็ออกไปข้างนอกอีกครั้ง
“พี่โม่ ฉันว่าจะหาคนมาซักถามเกี่ยวกับเรื่องนี้เดี๋ยวนี้เลย ชักช้าคงไม่ได้การ”
โม่เจ๋อหยวนพยักหน้าเห็นด้วยและพูดว่า “ตกลง ฉันจะไปหาคนมาสอบถามเพิ่มด้วยเหมือนกัน”
ก่อนที่พวกเขาจะออกไป พวกเขาบอกถังเซวี่ยให้เธออยู่กับเฮ่อหลาน
กว่าทั้งสองจะกลับมาเป็นเวลาสามทุ่มกว่า
สีหน้าของถังซวงไม่ค่อยดีนัก เพราะเธอค้นพบบางสิ่งซึ่งทำให้เธอรู้สึกแย่มาก
ส่วนโม่เจ๋อหยวนเองก็ดูไม่ดีเช่นกัน
ทั้งสองมองหน้ากันและถามพร้อมกันว่า “เจออะไรหรือเปล่า?” หลังจากนั้นทั้งคู่ก็ตกตะลึง และไม่นานสีหน้าของพวกเขาก็เรียบเฉย
ถังซวงเป็นคนเริ่มก่อน และกล่าวว่า “ฉันเจอบางอย่าง มีเด็กสาวหลายคนที่ถูกสือจีสูทำร้าย และมีสองคนที่ฆ่าตัวตาย แต่ไม่มีใครสงสัยสาเหตุในการฆ่าตัวตายของสองคนนั้นเลย”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ โม่เจ๋อหยวนก็อดไม่ได้ที่จะสาปแช่ง “สัตว์เดรัจฉานจริง ๆ”
โม่เจ๋อหยวนสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ และพูดในสิ่งที่เขาเจอ “ฉันเจอว่าสือจีสูยักยอกเงินจำนวนมาก ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นเงินที่หามาได้อย่างยากลำบากของพวกชาวนา และตำแหน่งของเขาในฐานะรองหัวหน้าหมู่บ้านค่อนข้างไม่ยุติธรรม ในตอนแรกชาวบ้านเลือกคนอื่น แต่จู่ ๆ คนคนนั้นก็เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ เขาจึงได้เป็นรองหัวหน้าหมู่บ้าน”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ถังซวงก็อดไม่ได้ที่จะมองไปที่โม่เจ๋อหยวน
“คนคนนั้นเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุจริง ๆ หรือ? หรือมันเป็นแผนของสือจีสู?”
โม่เจ๋อหยวนส่ายหัว “ฉันไม่รู้เหมือนกัน เรื่องนี้มันก็นานมากแล้ว และเราไม่มีเวลามากพอที่จะตรวจสอบ เลยไม่ได้พบอะไรเพิ่มอีก”
“ดูเหมือนว่ามีบางอย่างผิดปกติกับสือจีสูจริง ๆ แต่ตอนนี้มันก็ดึกมากแล้ว เราพักกันก่อนเถอะ พรุ่งนี้เราต้องไปร่วมงานแต่งด้วย”
โม่เจ๋อหยวนพยักหน้าตอบรับ “อืม”
เช้าวันรุ่งขึ้น เฮ่อหลานพาถังซวง ถังเซวี่ยและโม่เจ๋อหยวนไปที่บ้านของป้าหวง
ป้าหวงมีความสุขมากที่ได้พบพวกเขา
“อาหลาน เธอมาแล้ว”
ขณะที่พูด เธอมองไปที่โม่เจ๋อหยวนอย่างสงสัยอีกครั้ง และอดไม่ได้ที่จะชมเชย “ชายหนุ่มรูปงาม เธอต้องเป็นเสี่ยวโม่แน่เลย ฉันได้ยินอาหลานพูดถึงเธอบ่อย ๆ”
โม่เจ๋อหยวนทักทายด้วยรอยยิ้ม
“สวัสดีครับคุณยายหวง”
“สวัสดีจ้ะ”
ป้าหวงก็รีบทักทายกลับ จากนั้นโบกมือให้หวงเฉียงที่อยู่ไม่ไกล และพูดว่า “อาเฉียง มานี่เร็ว”
หลังจากที่หวงเฉียงมาถึงแล้ว ป้าหวงก็แนะนำ “นี่คือสหายเสี่ยวโม่ ผู้คิดค้นรถเกี่ยวข้าวครบวงจรที่ใช้ในหมู่บ้านของเราน่ะ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หวงเฉียงก็มองเด็กหนุ่มด้วยดวงตาที่เป็นประกาย
“สวัสดีสหายโม่”
คนที่มีความสามารถมักได้รับความชื่นชม หวงเฉียงไม่ได้เรียกโม่เจ๋อหยวนว่าสหายเสี่ยวโม่เพียงเพราะเขายังเด็ก แต่คนอย่างโม่เจ๋อหยวนมาร่วมงานแต่งงานของเขาได้ ซึ่งเขาไม่เคยคิดมาก่อน เขารู้สึกเป็นเกียรติจริง ๆ จึงต้อนรับโม่เจ๋อหยวนอย่างอบอุ่น เชิญเข้ามาข้างในและให้เขานั่งลง
โม่เจ๋อหยวนก็ทักทายด้วยรอยยิ้ม “สวัสดี พี่อาเฉียง”
“สวัสดี ๆ”
เมื่อได้ยินโม่เจ๋อหยวนเรียกเขาว่า ‘พี่อาเฉียง’ หวงเฉียงก็เต็มไปด้วยความยินดี จากนั้นก็ออกไปต้อนรับคนอื่น ๆ ต่อ และออกไปรับเจ้าสาว
ทุกคนที่มางานแต่งงานได้เห็นฉากนี้แล้ว และหลายคนก็รู้จักโม่เจ๋อหยวน ดังนั้นพวกเขาจึงอดไม่ได้ที่จะพูดถึงเรื่องนี้
“คนที่คิดค้นรถเกี่ยวข้าวแบบครบวงจรรูปหล่อมากเลยนะ”
“ใช่ นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เห็นชายหนุ่มหน้าตาดีขนาดนี้ แต่ไม่ใช่แค่หน้าตาดีนะแต่ยังมีความสามารถอีกด้วย ประดิษฐ์รถเกี่ยวข้าวตั้งแต่อายุยังน้อย อนาคตของเขาจะสดใสขนาดไหนกันนะ”
ทุกคนต่างชื่นชมโม่เจ๋อหยวน และในขณะเดียวกันบางคนก็กระตือรือร้นอย่างมาก
“พ่อหนุ่มคนนี้มีคู่หรือยังนะ ถ้าไม่มี ฉันจะแนะนำลูกสาวคนโตของบ้านฉันให้เขารู้จักได้อยู่นะ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ทุกคนต่างก็หัวเราะ
“อย่าเลยป้าหวัง ถ้าเป็นลูกสาวคนโตของป้า เขาไม่ชอบเธออย่างแน่นอน”
ได้ยินอย่างนั้น ป้าหวังก็อารมณ์เสียทันที “ลูกสาวคนโตของฉันมันทำไม ทำไมเขาถึงจะไม่ชอบเธอ”
“ลูกสาวคนโตของป้าดูดีเหมือนถังซวงหรือเปล่าล่ะ? ถ้าไม่ แล้วทำไมถึงคิดว่าเขาจะชอบเธอได้ ดูสิ ชายหนุ่มคนนี้อยู่กับถังซวงตลอดเวลา แม้ว่าเขาจะเจอลูกสาวป้า เขาก็ยังชอบถังซวงอยู่ดี”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ รอบข้างก็เงียบเสียงทันที
ถังซวงในวันนี้ไม่ใช่สาวชนบทในอดีตอีกต่อไป ผิวของเธอขาวใส ใบหน้าบอบบาง ขาเรียวยาวสมส่วน และยังเฉลียวฉลาด สาว ๆ ในหมู่บ้านเทียบไม่ติดเลย
ข่งหม่านจูเองก็มาช่วยงานในวันนี้ หากมีเหตุการณ์ที่น่ายินดีในชนบท คนในหมู่บ้านจะมาช่วยอย่างแน่นอน เมื่อเธอได้ยินคำเหล่านี้ เธออดไม่ได้ที่จะพึมพำ “สวยแล้วมีประโยชน์อะไร? ตอนเด็ก ๆ เฮ่อหลานก็สวย แล้วเป็นยังไง? สุดท้ายก็ถูกผู้ชายทิ้ง”
…
เมื่อได้ยินเช่นนั้น รอบตัวก็เงียบเสียงอีกครั้ง
ป้าหวงเพิ่งออกมาและเห็นคนกลุ่มใหญ่ยืนอยู่ในสวนด้วยบรรยากาศน่าอึดอัด เธออดไม่ได้ที่จะพูดว่า “พวกเธอทำอะไรกัน เจ้าสาวกำลังมาแล้ว รีบเตรียมตัวให้พร้อมเร็ว”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ คนอื่น ๆ ก็กลับมายุ่งดังเดิม
หลังจากที่หวงเฉียงรับเจ้าสาวแล้ว ที่ลานบ้านก็ดูมีชีวิตชีวาขึ้นทันที บางส่วนขวางประตูไว้พอเป็นพิธีและบ้างก็ส่งเสียงโห่ร้อง และในที่สุดก็ปล่อยให้คู่บ่าวสาวเข้าไป
เมื่อมองงานแต่งงานที่มีชีวิตชีวา ถังซวงก็ยิ้มออกมาและพูดว่า “น่าสนใจจริง ๆ”
หลังจากที่คู่บ่าวสาวใหม่ทำความเคารพ งานเลี้ยงก็เริ่มขึ้น แม้ว่าจะมีอาหารประเภทเนื้อไม่มากนักแต่ก็มีอาหารจานใหญ่ ดังนั้นทุกคนจึงกินกันอย่างเอร็ดอร่อย
ด้านถังซวง และคนอื่น ๆ เองก็กินอย่างรวดเร็ว และกำลังจะกลับหลังจากเสร็จพิธี
แต่หลังจากที่พวกเขาเดินออกไป พวกเขาก็พบกับพี่ชุยอีกครั้ง
“คุณน้องเฮ่อหลาน เธออยู่ที่นี่เอง”