บทที่ 159 แขกคนสำคัญ
บทที่ 159 แขกคนสำคัญ
เมื่อได้ยินคำพูดของจิงซิวหรง คนอื่น ๆ ก็รู้สาเหตุที่เขาเปลี่ยนท่าทีไปอย่างกะทันหัน มันต้องเป็นเพราะเด็กสาวที่ชื่อถังซวงแน่
เมิ่งผิงผู้เป็นภรรยาของจิงซิวหรงก็อดไม่ได้ที่จะถามว่า “ซิวหรง สาวน้อยที่ชื่อถังซวงยอดเยี่ยมขนาดนั้นเลยหรือ?”
“ใช่ เธอเก่งมาก ๆ”
เขาไม่ได้พูดว่าเธอสวยแค่ไหน แต่บอกออกไปถึงเรื่องยาแก้อักเสบที่แจกจ่ายออกยังสถานที่ต่าง ๆ “เธอคงจะรู้ว่ายาแก้อักเสบชนิดพิเศษที่ได้รับการพัฒนาเมื่อเร็ว ๆ นี้ได้ผลตอบรับดีมาก”
“ใช่ ฉันก็รู้มาว่าผลลัพธ์ของมันดีมาก”
แม้แต่เมิ่งผิงและอวี๋มินก็รู้เรื่องนี้
จิงซิวหรงหัวเราะแล้วพูดต่อว่า “ยาแก้อักเสบพิเศษนี้พัฒนาโดยถังซวง แล้วทีนี้จะเรียกว่าเธอว่ายอดเยี่ยมมากได้หรือยัง?”
“อะไรนะ…”
หลังจากได้ยินแล้ว คนอื่น ๆ ถึงกับตกใจ
จิงเจ้อหรงพูดต่อด้วยรอยยิ้ม “ซวงเอ๋อร์เป็นคนมีความสามารถ ที่ครั้งนี้เธอรีบมาที่เมืองหลวงเพื่อมาดูอาการของเจ๋อหยวน และก็รักษาอาการบาดเจ็บของเขาได้”
“โอ้ โม่เจ๋อหยวนหายป่วยได้รวดเร็วถึงขนาดนี้เพราะถังซวงนี่เอง”
คุณจิงก็อยากรู้เรื่องของเด็กสาวคนนี้เช่นกัน เด็กสาวตัวน้อยที่มีทักษะการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม นับว่าไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้แล้ว คุณจิงก็พูดกับลูกชายคนเล็กของเขาว่า “อาเจ้อ หลังจากนี้ลูกต้องพยายามให้หนักขึ้นหน่อยนะ”
การที่จะมีลูกสาวที่เก่งกาจแบบนี้ เฮ่อหลานผู้เป็นแม่จะต้องไม่ธรรมดา และเขาเชื่อในสายตาของลูกชายคนเล็กเสมอ ถึงเวลาแล้วที่ลูกชายคนนี้จะวิ่งไล่ตามความสุขเสียที และตระกูลจิงก็จะมีความสุขตามไปด้วย
จิงเจ้อหรงพยักหน้าอย่างจริงจังก่อนจะพูดว่า “ผมจะพยายามครับ”
ส่วนพี่สะใภ้ทั้งสองคนไม่พูดอะไร หากมีลูกสาวอย่างถังซวงเพียงคนเดียวก็สบายไปทั้งชาติ ทั้งสองจึงไม่มีอะไรจะโต้แย้งว่าทำไมจิงเจ้อหรงถึงชอบเธอนัก
วันรุ่งขึ้น จิงเจ้อหรงมารับถังซวงตั้งแต่เช้าตรู่
โม่เจ๋อหยวนที่อยู่กับถังซวงตลอดเวลา และเมื่อเห็นว่าจิงเจ้อหรงมาแล้ว เขาจึงไปส่งเธอขึ้นรถ “ซวงเอ๋อร์ เดินทางดี ๆ นะ”
“อืม”
ถังซวงยิ้มพร้อมกับโบกมือลา ก่อนจะตามจิงเจ้อหรงไปที่บ้านตระกูลจิง
“ซวงเอ๋อร์ ครอบครัวของลุงสบาย ๆ เธอไม่ต้องเกร็งหรอก”
หลังจากได้ยินแล้ว ถังซวงตอบกลับสบาย ๆ ว่า “ฉันไม่ได้กังวลค่ะ”
จิงเจ้อหรง “…”
เขามองท่าทีของถังซวงและเห็นว่าสาวน้อยคนนี้สงบนิ่งมาก ไม่มีความกังวลใจอะไรเลย จึงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา “ก็ดีแล้ว แต่… ครอบครัวฉันมีคนมากพอสมควร หวังว่าเธอคงจะไม่ว่าอะไรนะ” ตอนท้ายเขารู้สึกอายเล็กน้อย เพราะวันนี้ถังซวงจะเข้าไปเยี่ยมที่บ้าน แม้แต่พี่ชายใหญ่และพี่รองของเขายังทำตัวเป็นระเบียบเรียบร้อยและเฝ้ารอสาวน้อยคนนี้
เมื่อทั้งสองมาถึง ถังซวงลงจากรถและเห็นวัยรุ่นสองคนอายุประมาณยี่สิบยืนรออยู่หน้าประตู
“คุณลุงกลับมาแล้ว”
ขณะที่พูดอย่างนั้น ทั้งสองมองถังซวงอย่างอยากรู้อยากเห็น พวกเขาได้ยินว่าสาวน้อยคนนี้จะมาเป็นน้องสาวของพวกเขาในอนาคต และดูว่าเธอจะสวยจริง ๆ ตามคำบอกกล่าว
เมื่อเห็นท่าทางของหลานชายทั้งสองคน จิงเจ้อหรงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะแล้วแนะนำ “นี่คือถังซวง”
จากนั้นเขาหันกลับมาหาถังซวงแล้วบอกว่า “ถังซวง นี่คือจิงเหวินหยวน หลานชายคนโตของลุง แล้วนั่นคือจิงเหวินรุ่ย หลานชายคนเล็กของลุง”
“สวัสดี”
“สวัสดี”
จิงเหวินหยวนและจิงเหวินรุ่ยรีบเข้ามาทักทายอย่างรวดเร็วพร้อมให้การต้อนรับ
ทันทีที่ถังซวงเดินผ่านประตู เธอก็เห็นว่ามีคนรออยู่บริเวณลานบ้าน คนที่ยืนอยู่ด้านหน้าสุดคือคู่สามีภรรยาสูงวัย เส้นผมหงอกขาว และด้านหลังเป็นคู่รักวัยกลางคนสองคู่ ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นผู้ชายที่เธอดูคุ้นเคยเล็กน้อย เหมือนว่าเคยพบที่ไหนสักแห่ง
เมื่อเห็นว่ามีผู้คนมากมาย ถังซวงอดไม่ได้ที่จะเกร็ง
แม้จิงเจ้อหรงจะยังไม่แนะนำ แต่เธอก็พอจะเดาได้ว่าคนสูงวัยสองคนคือคุณจิง และคุณนายจิง พร้อมกับพี่ชายทั้งสองคน และพี่สะใภ้ของจิงเจ้อหรง เธอไม่คาดคิดมาก่อนว่าคนจากตระกูลจิงทั้งหมดจะออกมายืนต้อนรับเธออย่างนี้ “สวัสดีค่ะคุณปู่ คุณย่า”
คุณนายจิงมองถังซวงที่มากับลูกชายคนเล็กอย่างรวดเร็ว และเธอก็สัมผัสได้ทันทีว่าเด็กสาวคนนี้สวย ใจดี และดูร่าเริง ไม่ว่าจะมองยังไงก็รู้สึกชื่นชอบ “อา… หนูคือถังซวงใช่ไหม เข้ามาก่อน เข้ามาด้านในก่อนสิ” ทุกคนพาถังซวงเข้าบ้าน
หลังจากที่นั่งลงแล้ว คุณนายจิงจับมือถังซวงไว้แน่น
“ถังซวง ฉันเป็นแม่ของอาเจ้อ นี่คือพ่อของเขา แล้วนั่นคือพี่ชายคนโตและภรรยา ส่วนอีกคนคือพี่ชายรองและภรรยา”
เมื่อจิงซิวหรงถูกแนะนำให้รู้จัก เขายิ้มให้ถังซวงพร้อมพูดว่า “ถังซวง เราพบกันอีกครั้งแล้ว จำฉันได้ไหม?”
“อ้อ จำได้ค่ะ เราเพิ่งพบกัน”
จิงซิวหรงหัวเราะเมื่อได้ยิน “ใช่ ฉันเสียใจที่ก่อนหน้านี้เราไม่ได้คุยกันมากนัก แต่ไม่คิดว่าโอกาสจะมาถึงเร็วขนาดนี้”
ถังซวงไม่คาดคิดว่าคนที่เธอได้พบที่บ้านของเจียงหงเหลียงวันนั้นคือพี่ชายรองของจิงเจ้อหรง เวลานี้เธอรู้สึกประหลาดใจ “ลุงจิงเอ้อ ในที่สุดวันนี้เราก็ได้คุยกันแล้วนะคะ”
“ฮ่า ๆ ใช่ ๆ”
จิงซิวหรงต้องการถามถังซวงเกี่ยวกับยาพอดี นับว่าวันนี้เป็นโอกาสที่ดี
ส่วนเมิ่งผิงที่ยืนด้านข้างอดไม่ได้ที่จะเหยียดมือออกไปหยิกเขา นี่เขาไม่เห็นหรือไงว่าแววตาของหญิงชราจับจ้องมา จุดประสงค์ของทุกคนในวันนี้คือสร้างความประทับใจให้กับถังซวง ไม่ใช่เพื่อพูดคุยไร้สาระ
แต่สาวน้อยคนนี้นับว่าโดดเด่นจริง ๆ ไม่ต้องพูดถึงความสามารถของเธอ แต่ดูจากท่าทางโดยรวมแล้วท่วงท่าของเธอก็ดีกว่าผู้หญิงจากตระกูลใหญ่หลาย ๆ ครอบครัวในเมืองหลวงแล้ว ดูไม่เหมือนหญิงสาวที่มาจากชนบทเลยสักนิด
ส่วนอวี๋มินที่นั่งอยู่ด้านข้าง เธอมองถังซวงด้วยความอยากรู้อยากเห็น แล้วยังลอบพยักหน้าอยู่ในใจ เด็กสาวคนนี้นับว่ายอดเยี่ยมมากจริง ๆ เช่นนี้แม่ของเธอก็คงจะไม่ต่างกัน ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมน้องเขยของตนถึงได้ตกหลุมรักแม่ของอีกฝ่าย
เช่นเดียวกับจิงซิวหรง คุณจิงก็ไม่แตกต่าง เขาสนใจยาที่ถังซวงพัฒนาขึ้นและยังถามคำถามมากมาย
ถังซวงตอบทีละคนว่าเธอกำลังพัฒนายาตัวอื่นอยู่ด้วย
ใบหน้าของจิงซิวหรงยิ่งตื่นเต้นและประหลาดใจ
“ถังซวง เธอพัฒนายาตัวใหม่แล้วหรือ? น่าประทับใจจริง ๆ”
ถังซวงโบกมืออย่างรวดเร็วแล้วตอบว่า “ยังค่ะ มันยังอยู่ระหว่างการค้นคว้า”
“แค่เท่านี้ก็ยอดเยี่ยมแล้ว”
จิงซิวหรงชื่นชมก่อนจะมองไปที่ลูกชายของตนเอง ทันใดเขารู้สึกว่าน้องคนนี้ไม่มีน้ำยาซะจริง!
เมื่อเห็นว่าถังซวงและคุณจิงพูดคุยกันไม่หยุด คุณนายจิงรีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนาทันที จากนั้นก็มอบของขวัญที่เตรียมไว้ให้กับถังซวงก่อนจะพูดว่า “เราไม่รู้ว่าเธอชอบอะไรบ้าง เราเลยเตรียมของพวกนี้ไว้ให้ หวังว่าเธอจะชอบมันนะจ๊ะ”
ถังซวงรับมันไว้อย่างสุภาพ “ขอบคุณค่ะคุณย่า”
“เรียกคุณย่าอย่างเดียวดูห่างเหินเกินไป เธอควรเรียกฉันว่าคุณย่าจิงน่าจะดีกว่า” ความจริงแล้วเธอต้องการให้ถังซวงเรียกเธอว่าย่าโดยตรง แต่เธอกลัวว่าจะสร้างความหวาดกลัวให้กับเด็กน้อยคนนี้แทน
หลังจากได้ยินแล้ว ถังซวงกล่าวว่า ‘คุณย่าจิง’ ออกไปอย่างสุภาพพร้อมกับยื่นของขวัญที่เธอเตรียมไว้ออกมา
“คุณปู่จิง คุณย่าจิง สิ่งนี้เหมาะสำหรับคนสูงวัยเพื่อฟื้นฟูร่างกาย ควรกินมันก่อนนอนในทุกคืนนะคะ”
คุณจิงและคุณนายจิงรับมันไว้แต่โดยดี
ตอนนี้ถังซวงพัฒนายาแก้อักเสบชนิดพิเศษได้แล้ว และยาที่เธอมอบให้จะต้องมีประโยชน์อย่างแน่นอน
หลังจากนั้นอวี๋มินและเมิ่งผิงก็มอบของขวัญให้กับถังซวง และถังซวงก็มอบของขวัญคืนกลับให้ทุกคน หลังจากทุกคนพูดคุยกันเล็กน้อยแล้ว คุณนายจิงก็พาทุกคนไปที่ห้องอาหาร