บทที่ 232 นำทาง
บทที่ 232 นำทาง
ทั้งซ่างสยงเยี่ยและหลานชายวางแผนที่จะอยู่ต่ออีกสักวันก่อนจะเดินทางกลับ
เช่นนั้นในวันที่สอง โม่เจ๋อหยวนและถังซวงจึงพาพวกเขาทั้งสองเดินรอบหมู่บ้านเถาฮวา และหลังจากทานมื้อกลางวันเสร็จ ทั้งหมดก็ออกไปซื้อของในบริเวณใกล้เคียง
“ที่นี่สวยจริง ๆ ครับ”
ซ่างสยงเยี่ยสูดลมหายใจเข้าลึก เพราะอากาศที่นี่สดชื่นมาก แม้สภาพแวดล้อมจะค่อนข้างทุรกันดารเล็กน้อย แต่บรรยากาศก็นับว่าดีมากจริง ๆ เหมาะมากหากได้อาศัยอยู่ในสถานที่เช่นนี้หลังเกษียณอายุการทำงาน
“ถ้ามีโอกาสผมอยากจะมาอยู่ที่นี่จริง ๆ หวังว่าสักวันผมจะซื้อที่ดินตรงนี้ได้ แล้วให้ใครสักคนมาออกแบบตึกสไตล์ตะวันตกเล็ก ๆ ที่นี่ให้”
ส่วนซ่างหมิงซวี่ไม่คิดว่าที่นี่จะพิเศษอะไรนัก เขาจึงเงียบตลอดการสนทนา
ถังซวงและโม่เจ๋อหยวนยิ้มแล้วพูดว่า “อย่างนั้นก็ดีนะคะ”
“ฮ่า ๆ … ผมก็คิดว่ามันดีเหมือนกันครับ” ซ่างสยงเยี่ยหัวเราะ แต่เมื่อเห็นว่าหลานชายเริ่มจะทนไม่ไหว เขาก็อดไม่ได้ที่จะพูดว่า “เดี๋ยวฉันจะเดินเล่นต่ออีกสักหน่อย พวกเธอกลับไปก่อนได้เลย”
ถังซวงรู้สึกกังวล
“คุณชายซ่างคะ เดี๋ยวฉันเดินไปด้วย แล้วค่อยกลับพร้อมกันดีกว่าค่ะ”
เมื่อเห็นท่าทางกังวลของถังซวง ซ่างสยงเยี่ยอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ “ที่นี่ไม่ได้ไกลจากบ้านของคุณถังเลย ไม่ต้องห่วงนะครับ กลับไปก่อนเถอะ ผมขอไปโรงงานเย็บปักสักหน่อย”
เขาโบกมือให้กับทุกคนพร้อมพูดขึ้นว่า “ไปเถอะครับ รีบกลับไปก่อน ผมแก่ขนาดนี้แล้วไม่หลงทางง่าย ๆ หรอก”
เมื่อได้ยินสิ่งที่ซ่างสยงเยี่ยพูด ถังซวงก็ไม่ได้พูดอะไรอีก เธอกับโม่เจ๋อหยวนจึงพาซ่างหมิงซวี่กลับมาที่บ้าน
ทั้งสามกลับมาถึงบ้าน หลี่จงอี้กำลังดื่มชาอยู่ในห้องนั่งเล่น เมื่อเห็นซ่างสยงเยี่ยยังไม่กลับมา เขาอดไม่ได้ที่จะถามขึ้น
“สยงเยี่ยอยู่ไหนล่ะ? ทำไมเขาไม่กลับมาด้วย?”
ซ่างหมิงซวี่ยิ้มแล้วตอบกลับว่า “คุณลุงยังอยากเดินเล่นอยู่น่ะครับ พวกเราเลยกลับมาก่อน เขาบอกว่าเขาจะเดินเล่นแถวนี้ อีกเดี๋ยวก็กลับ”
“อย่างนั้นหรือ ไปเดินกันมาคงจะเหนื่อยแย่ นั่งพักก่อนเถอะ ฉันเพิ่งชงชาเสร็จ มาดื่มกันก่อนสิ”
ซ่างหมิงซวี่กระหายน้ำมาก เวลานี้เขานั่งลงพร้อมรินชาให้ตัวเอง
ทว่าโม่เจ๋อหยวนนึกถึงงานค้นคว้าที่ทำค้างไว้ เขาจึงไม่ได้นั่งกับทุกคน
“คุณปู่หลี่ครับ ผมขอตัวกลับไปที่ห้องก่อนนะครับ พอดีมีงานต้องทำ”
ถังซวงรู้ดีว่าโม่เจ๋อหยวนเป็นคนขยัน นอกจากงานค้นคว้าของเขาแล้ว โรงงานเครื่องจักรก็เป็นสิ่งที่เขากำลังค้นคว้าด้วยเช่นกัน
โม่เจ๋อหยวนจะไปที่โรงงานเครื่องจักรทุกครั้งที่มีเวลา ไม่ว่าจะฝนตกหรือแดดออกก็ตาม
“พี่โม่คะ ฉันขอไปด้วย”
โม่เจ๋อหยวนพยักหน้าทันทีเมื่อได้ยินอย่างนั้น “อืม ซวงเอ๋อร์ ฉันมีเรื่องอยากคุยกับเธอพอดี”
เขารู้สึกว่าทุกครั้งที่ได้คุยกับถังซวง เขามักจะมีแรงบันดาลใจใหม่ ๆ เกิดขึ้นเสมอ เลยรู้สึกว่าอยากจะคุยกับเธอตลอดเวลา
หลังโม่เจ๋อหยวนและถังซวงออกไปแล้ว ซ่างหมิงซวี่ก็ไม่อยากจะนั่งอยู่ทีนี่ต่อ แต่มันคงไม่ดีนักหากเขาจะลุกขึ้นในทันที เขาจึงนั่งอยู่กับหลี่จงอี้อีกสักพัก
เมื่อเวลาผ่านไปสักระยะ เขายืนขึ้นแล้วพูดว่า “คุณปู่หลี่ครับ เดี๋ยวผมขอตัวไปหาคุณลุงก่อนนะครับ”
“อ้อ เชิญตามสบาย”
เมื่อได้ยินอย่างนั้น ซ่างหมิงซวี่ลุกขึ้นพร้อมออกจากบ้านไป
แต่เมื่อเขาไปที่นั่น เขากลับไม่เห็นซ่างสยงเยี่ย “คุณลุง… คุณลุงครับ…”
ซ่างหมิงซวี่ตะโกนเรียกอยู่สองครั้ง แต่ไม่มีเสียงตอบรับ เขาขมวดคิ้วพร้อมกับมองไปรอบ ๆ และวางแผนว่าจะเดินไปดูทางอื่น บางทีลุงของเขาอาจจะเดินไปไกล
“คุณลุง… คุณลุงครับ…”
หลังจากเดินไปมาอยู่หลายที่ ซ่างหมิงซวี่ก็ยังไม่พบซ่างสยงเยี่ย
เวลานี้มีผู้หญิงคนหนึ่งวิ่งมา เธอมองซ่างหมิงซวี่ด้วยความเขินอายก่อนจะพูดว่า “คุณ… สวัสดีค่ะ คุณคือหลานชายของคุณชายซ่างใช่ไหมคะ”
หลังได้ยินแล้ว ซ่างหมิงซวี่มองผู้หญิงคนนั้นแล้วถามกลับ “ครับ คุณเห็นลุงของผมหรือ?”
แม้ผู้หญิงตรงหน้าจะไม่สวย แต่เมื่อได้ยินสิ่งที่เธอพูด ดูเหมือนว่าเธอจะพบกับลุงของเขา แม้ซ่างหมิงซวี่จะไม่เต็มใจ แต่เขาก็ต้องยอมคุยกับเธอ
ผู้หญิงคนนี้ชื่อว่าจางหยานอัน ลูกสาวของคงมานจู เธอลอบมองซ่างหมิงซวี่ที่หน้าตาหล่อเหลาและสวมเสื้อผ้าหรูหราตรงหน้า
ทว่าหัวใจพลันเต้นแรงขึ้นอย่างควบคุมไม่ได้ แม้เธอจะไม่รู้เรื่องการแต่งกายนัก แต่เธอก็สัมผัสได้ว่าผู้ชายตรงหน้านี้ใส่เสื้อผ้าราคาแพง แสดงว่าครอบครัวของเขาต้องร่ำรวยมากแน่
อีกทั้งเธอยังได้ยินว่าลุงของเขาร่วมลงทุนกับธุรกิจโรงงานเย็บปักเถาฮวาด้วย ถ้าลุงของเขาร่ำรวยขนาดนี้ เขาเองก็ต้องรวยมาก
เมื่อไตร่ตรองดูแล้ว จางหยานอันยิ่งรู้สึกสนใจซ่างหมิงซวี่เพิ่มขึ้น
แต่ซ่างหมิงซวี่ที่เห็นจางหยานอันมองมาอย่างนี้ ก็อดขมวดคิ้วสงสัยไม่ได้
ทว่าเวลานี้เขายังต้องการรู้ว่าลุงของตนไปไหน ชายหนุ่มจึงเอ่ยถามด้วยความอดทนว่า “ขอโทษนะครับ คุณเห็นลุงของผมไหม?”
หลังกล่าวจบ จางหยานอันก็หลุดจากภวังค์ เธอพยักหน้ารับอย่างรวดเร็วแล้วพูดขึ้น
“คุณชายซ่างคะ คุณลุงของคุณอยู่ที่โรงงานเย็บปัก ตอนนี้เขาอยากพบแม่ของถังซวง เขาให้ฉันมาตามเฮ่อหลานไปพบเขาที่โรงงานเย็บปักน่ะค่ะ”
หลังได้ยินอย่างนั้นแล้ว ซ่างหมิงซวี่อดไม่ได้ที่จะตบหน้าผากตัวเอง เขาลืมนึกถึงโรงงานเย็บปักไปเสียสนิท แต่ตอนที่เขาออกมาจากบ้าน เฮ่อหลานก็ไม่ได้อยู่ที่บ้านเหมือนกัน
“คุณเฮ่อไม่ได้อยู่บ้าน เดี๋ยวผมลองไปดูที่อื่น”
จางหยานอันเห็นอย่างนั้นก็รีบพูด “แต่ตอนฉันมาที่นี่ ฉันได้ยินมาว่าแม่ของถังซวงกำลังกลับมา แต่ระยะทางมันก็ค่อนข้างไกลเลยใช้เวลานานน่ะค่ะ เธอน่าจะเพิ่งถึงบ้าน”
หลังได้ยินอย่างนั้น ซ่างหมิงซวี่เลิกคิ้วขึ้นพร้อมกับพูดว่า “อย่างนั้นผมจะไปตามคุณเฮ่อเอง”
“ค่ะ รบกวนด้วย แล้วฉันจะรอกลับไปพร้อมคุณ”
ซ่างหมิงซวี่พลันปฏิเสธทันที “ไม่เป็นไรครับ ผมรู้ว่าโรงงานเย็บปักไปทางไหน ไม่จำเป็นต้องรบกวนคุณหรอกครับ”
จางหยานอันรีบพูดว่า “ให้ฉันพาไปเถอะค่ะ คุณชายซ่างอยู่ที่ด้านหลังของโรงงานเย็บปัก ถ้าคุณไปที่นั่นคนเดียว คงหาเขาไม่เจอแน่”
“แต่คุณเฮ่อก็คุ้นเคยกับหมู่บ้านเถาฮวาดี เธอพาผมไปเจอลุงได้แน่ครับ”
ซ่างหมิงซวี่ไม่ชอบสายตาของจางหยานอันที่มองมายังเขา จึงพยายามกระจัดเธอออกไป
เมื่อจางหยานอันได้ยินซ่างหมิงซวี่ปฏิเสธ เธอไม่ได้พูดอะไรอีก แต่หลังจากชายหนุ่มเดินห่างออกไป เธอก็ยังไม่ไปไหนและยืนอยู่ที่เดิม
ทันทีที่ซ่างหมิงซวี่กลับมาถึง เขาก็พบว่าเฮ่อหลานอยู่ที่บ้าน
“คุณเฮ่อครับ ลุงของผมกำลังตามหาคุณที่โรงงานเย็บปักน่ะครับ”
หลังได้ยินอย่างนั้นแล้ว เฮ่อหลานพูดขึ้นด้วยความสงสัย “จริงด้วย ฉันก็เพิ่งกลับจากโรงงานเย็บปัก แต่ไม่เจอคุณชายซ่างเลย”
“เห็นบอกว่าอยู่ด้านหลังโรงงานเย็บปักน่ะครับ”
ทว่าเฮ่อหลานไม่ได้สงสัยอะไร เธอลุกขึ้นพร้อมกับพูดว่า “ค่ะ เดี๋ยวฉันจะไปที่นั่น มีเรื่องต้องคุยกับลุงของคุณพอดีเลย”
ทั้งซ่างสยงเยี่ยและหลานชายของเขาจะเดินทางกลับในวันพรุ่งนี้ เธอเลยต้องการคุยกับพวกเขาให้เรียบร้อย
“ผมไปด้วยครับ”
หลังเฮ่อหลานและซ่างหมิงซวี่ออกมา จางหยานอันยังรออยู่ที่เดิม เมื่อเห็นทั้งสอง เธอยิ้มกว้างพร้อมกับพูดว่า “เดี๋ยวฉันพาไปเองค่ะ”
ทว่าเฮ่อหลานขมวดคิ้วพร้อมกับมองจางหยานอันอย่างแคลงใจ “เธอไม่จำเป็นต้องพาพวกเราไปหรอก เราไปเองได้จ้ะ”
“ไม่ได้ค่ะ เพราะฉันสัญญากับคุณชายซ่างว่าจะพาพวกคุณไปที่นั่น ฉันต้องทำตามที่รับปากให้เสร็จค่ะ”
หลังพูดจบ เธอก็เดินนำไปทันที
เมื่อเห็นอย่างนั้นแล้ว ทั้งเฮ่อหลานและซ่างหมิงซวี่ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเดินตามหญิงสาวไป