“สบายดีพ่ะย่ะค่ะ ตอนนี้ยังไม่กระทบมาถึงข้า”
หานเจวี๋ยกล่าวตอบ ความห่วงใยของจักรพรดิสวรรค์ทำให้เขารู้สึกอบอุ่นใจ
จักรพรรดิสวรรค์ถามด้วยความฉงน “เจ้าหลบซ่อนอยู่ที่ใดกันแน่ ยมโลกวุ่นวายถึงเพียงนี้ โกลาหลมายาวนานขนาดนี้ ไม่ส่งกระทบต่อเจ้าเลยหรือ”
หานเจวี๋ยเอ่ยว่า “ข้าซ่อนอยู่ในหลืบเล็กๆ มุมหนึ่ง พวกเขาไม่พบข้าก็เป็นเรื่องปกติ”
“เอาเถอะ เจ้าระวังหน่อยแล้วกัน วิญญาณพยาบาทแห่งแดนชำระบาปเก้าขุมออกจากยมโลก ต่อจากนี้เมืองนรกต้องกวาดล้างยมโลกเป็นแน่ เพื่อรวมอำนาจให้มั่นคง”
“วางใจเถอะพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท”
หานเจวี๋ยตอบรับ
เขาไม่ได้อยู่ในยมโลกแล้ว
หานเจวี๋ยสอบถาม “สถานการณ์ของเฮ่าเอ๋อร์เป็นอย่างไรบ้างพ่ะย่ะค่ะ สืบกระจ่างหรือยังว่าในร่างเขามีวิญญาณอีกดวงอยู่หรือไม่”
จักรพรรดิสวรรค์ให้คำตอบ “ไม่พบเลย รอจนมหาเคราะห์สิ้นสุดลง เราจะพาเขาไปพบบรรพชนเต๋า”
“รอให้มหาเคราะห์สิ้นสุดลงหรือ นานเกินไป ไม่เกรงว่าจะเกิดปัญหาแทรกซ้อนหรือพ่ะย่ะค่ะ”
“หลังจากมหาเคราะห์ไร้ขอบเขตเปิดฉากขึ้น บรรพชนเต๋าก็หายไปเลย คงเกรงว่าจะมีคนไปขอความช่วยเหลือจากเขากระมัง”
“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้”
เห็นทีว่าเรื่องนี้ก็คงต้องพึ่งข้าอยู่ดี
หานเจวี๋ยคิดเงียบๆ
เฮ่าเอ๋อร์ อาจารย์ต้องช่วยเจ้าให้ได้ เรื่องที่เจ้าเฮ่าเทียนที่สมควรตายจะมากวาดล้างสำนักซ่อนเร้นของข้าจะต้องไม่เกิดขึ้น!
หานเจวี๋ยพูดคุยกับจักรพรรดิสวรรค์อีกสองสามประโยค หลังจากจบการสนทนาผ่านกระแสจิต หานเจวี๋ยก็เริ่มฝึกบำเพ็ญต่อ
นับจากนั้นเป็นต้นมา หานเจวี๋ยก็จะตรวจหาผู้แข็งแกร่งในละแวกใกล้เคียงทุกปี ป้องกันไม่ให้มีวิญญาณพยาบาททรงพลังเข้ามาใกล้
ยี่สิบปีผ่านไป หานเจวี๋ยไม่พบศัตรูที่ทรงพลังเลย
ดูเหมือนแดนชำระบาปเก้าขุมจะว่างเปล่าแล้วจริงๆ!
โอกาสทะลวงขั้นมาเยือนหานเจวี๋ยแล้ว
ทะลวงหนึ่งขั้นในระยะเวลาสองร้อยกว่าปี ความเร็วระดับนี้ไม่นับว่าเร็วเกินไป แต่ก็ไม่นับว่าช้าเกินไปเช่นกัน
แน่นอน นี่เป็นสถานการณ์ของหานเจวี๋ยคนเดียวเท่านั้น ความเร็วระดับนี้หากเกิดขึ้นกับจักรพรรดิเซียนคนอื่น นับว่ารวดเร็วดั่งโบยบิน
หานเจวี๋ยไล่อู้เต้าเจี้ยนออกไปนอกถ้ำ จากนั้นเขาจึงเริ่มทะลวงขั้น
ในไม่ช้า ทุกคนในเกาะล้วนรับรู้ถึงอำนาจกดดันอย่างหนึ่ง แม้แต่อาคมควบคุมในถ้ำเทวาฟ้าประทานก็ต้านเอาไว้ไม่อยู่
จินกังนู่ลอบตระหนก กลิ่นอายช่างน่าหวาดหวั่นนัก
การะทะลวงขั้นของหานเจวี๋ยสร้างความปิติยินดีให้พวกเขาได้เสมอ
ถึงอย่างไรตอนนี้พวกเขาก็อยู่ในแดนชำระบาปเก้าขุม ยิ่งหานเจวี๋ยแข็งแกร่งขึ้นมากเท่าไร พวกเขาก็ยิ่งปลอดภัยมากขึ้นเท่านั้น
….
สามปีผ่านไป
หานเจวี๋ยทะลวงขั้นสำเร็จแล้ว!
จักรพรรดิเซียนแปดวัฏ!
ราวกับทะลวงลำไผ่ ไม่มีอุปสรรคเลยสักนิด
สิ่งแรกที่หานเจวี๋ยทำคือเรียกจอค่าสถานะออกมาตรวจสอบ
[ชื่อ: หานเจวี๋ย]
[อายุขัย: 4352/1,600,999,999,999,999]
[เผ่าพันธุ์: เซียนมนุษย์ (กายดาราอนธการ)]
[ตบะ: จักรพรรดิเซียนวัฏจักรแปดวัฏ]
[วิชายุทธ์: มหามรรควัฏจักรอนธการ วิชาชุบร่างวัฏจักรดารา]
[มหามรรค: มหามรรคเวียนว่ายตายเกิด มหามรรคแห่งกรรม]
….
อายุขัยหนึ่งพันหกร้อยล้านล้านปี!
ยังคงต้องใช้คำนั้น!
เยี่ยม!
อายุขัยที่สูญเสียไปก่อนหน้านี้ล้วนได้คืนมาทั้งหมด!
หานเจวี๋ยรู้สึกพอใจยิ่งนัก เขาเริ่มควบรวมตบะ
วิญญาณของเขาบรรลุระดับสมบูรณ์แบบแล้ว ยากจะจินตนาการได้ว่าระดับจักรพรรดิเซียนเก้าวัฏจะยกระดับวิญญาณเขาให้ก้าวหน้าไปอีกขั้นอย่างไร
เวลาผ่านพ้นไปอีกหนึ่งปี
ตบะของหานเจวี๋ยเสถียรอย่างสมบูรณ์ เขาหยิบหนังสือแห่งความโชคร้ายออกมาเริ่มสาปแช่ง เตรียมจัดสรรอายุขัยสองพันล้านปีให้จักรพรรดิปีศาจและบรรพชนพุทธมรรคาสวรรค์
สุดท้ายสิ่งได้กลับมาคือจิตมารของจักรพรรดิปีศาจและบรรพชนพุทธมรรคาสวรรค์ที่ทวีความรุนแรงขึ้นเท่านั้น เรื่องนี้ทำให้หานเจวี๋ยรู้สึกหดหู่อยู่บ้าง
หนังสือแห่งความโชคร้ายพลังยังด้อยเกินไป
หานเจวี๋ยรักษาตัวพลางเริ่มใช้ระบบวิวัฒนาการ
‘ในแดนชำระบาปเก้าขุมมีผู้ทรงพลังที่สามารถมองทะลุอาณาเขตเต๋าของข้าได้หรือไม่’
[จำเป็นต้องหักอายุขัยหนึ่งร้อยล้านปี จะดำเนินการต่อหรือไม่]
ดำเนินการต่อ!
[ไม่มี]
ร้อยล้านปีแลกมาได้เพียงสองคำ ทว่าหานเจวี๋ยกลับไม่รู้สึกเสียเปรียบเลย
สงบแล้ว!
ฝึกบำเพ็ญต่อได้!
หานเจวี๋ยไม่ได้วิวัฒนาการหาผู้มีชัยในฉากสุดท้ายของมหาเคราะห์ในครั้งนี้อีก ถึงอย่างไรเฮ่าเทียนก็ยังไม่แยกจากหลงเฮ่า ทำให้หานเจวี๋ยลอบเล่นงานเฮ่าเทียนไม่ได้ ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ภาพรวมน่าจะไม่เปลี่ยนไป จะสิ้นเปลืองอายุขัยไปไยเล่า
หานเจวี๋ยเริ่มยกระดับพลังวิเศษมรรคกระบี่รวมถึงพลังวิเศษท่าร่างของตน เงาเทพมหาวิวัฒน์
เวลาผ่านพ้นไปอีกหนึ่งปี
หานเจวี๋ยเพิ่มพลังของตนจนถึงขีดจำกัด ไม่สามารถเพิ่มต่อไปได้อีก เขาจึงเริ่มใช้แบบจำลองการทดสอบ
จักรพรรดิเซียนล้วนมิใช่คู่ต่อสู้ของเขา ทั้งหมดถูกเขาสังหารในเสี้ยววินาที
เขาเบนเป้าหมายไปที่ระดับเทพ เขาก็แยกไม่ออกเช่นกันว่าใครบ้างที่เป็นระดับเทพ สู้แล้วถึงจะรู้
จากนั้นเขาก็ถูกทุบตีอย่างทารุณ
คู่ต่อสู้ส่วนใหญ่สังหารเขาได้ในเสี้ยววินาที เขาทำได้เพียงพึ่งพาเงาเทพมหาวิวัฒน์และเมฆตีลังกาเพื่อถ่วงเวลาเท่านั้น
อย่างไรก็ตามมีคู่ต่อสู้ที่ไม่ทราบตบะบางส่วนที่มีฝีมือพอฟัดพอเหวี่ยงกับหานเจวี๋ยอยู่
กล่าวอีกนัยคือ หานเจวี๋ยสามารถเอาชนะผู้ทรงพลังระดับเทพที่อ่อนแอกว่าได้แล้ว
ไม่เลวเลย!
หานเจวี๋ยค่อนข้างพอใจ เช่นนี้ถึงจะสอดคล้องกับความก้าวหน้าของเขา
หลังจากทะลวงถึงระดับจักรพรรดิเซียนแปดวัฏ ความเร็วในการดูดซับแรงกรรมของกายดาราอนธการก็เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ระดับความเร็วที่ปราณอนธการแทรกซึมเข้าสู่บัวดำล้างโลกสามสิบหกวัฏจักรก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน
หวังว่าจะสามารถควบคุมบัวดำล้างโลกสามสิบหกวัฏจักรได้ก่อนถึงระดับจักรพรรดิเซียนเก้าวัฏ
ขอแค่ควบคุมได้เท่านั้น หากต้องการดูดซับแรงกรรมในบัวดำล้างโลกสามสิบหกวัฏจักรให้ได้อย่างสมบูรณ์ ก็ไม่รู้ว่าจะต้องใช้เวลาอีกนานแค่ไหน มองจากระดับความเร็วในปัจจุบันนี้ หมื่นปีก็ยังไม่แน่ว่าจะสำเร็จ
หานเจวี๋ยเริ่มฝึกบำเพ็ญ พร้อมกับตรวจดูจดหมายไปด้วย
[จี้เซียนเสินสหายของท่านเรียนรู้มหามรรคอักษรลับ พลังมรรคเพิ่มขึ้นฉับพลัน]
[ฟางเหลียงศิษย์หลานของท่านเรียนรู้มหามรรคอักษรลับ พลังมรรคเพิ่มขึ้นฉับพลัน]
[เต้าจื้อจุนสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากบรรพชนพุทธมรรคาสวรรค์ศัตรูคู่อาฆาตของท่าน ได้รับบาดเจ็บสาหัส]
[เจียงอี้สหายของท่านได้รับการชี้แนะจากผู้ทรงพลัง เรียนรู้พลังวิเศษหมื่นบรรพกาล]
[หวงจุนเทียนสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากผู้บำเพ็ญนิกายเจี๋ย] x17
[เซวียนฉิงจวินคู่บำเพ็ญเพียรของท่านออกจากแดนเซียน]
[ลี่เหยาสหายของท่านตระหนักรู้มรรคกระบี่ระหว่างการบำเพ็ญ ฝ่าด่านพันธนาการ ได้รับการยอมรับจากมรรคกระบี่ ความสามารถในการเข้าใจเพิ่มพูน]
[หลี่เต้าคงสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากบรรพชนพุทธมรรคาสวรรค์ศัตรูคู่อาฆาตของท่าน]
….
หานเจวี๋ยรู้สึกแปลกใจ ลี่เหยาได้รับการยอมรับจากมรรคกระบี่งั้นหรือ
อาศัยสิ่งใดกัน
คุณสมบัติของข้าด้อยกว่านางตรงที่ใด
ทำไมข้าไม่ได้บ้าง
หานเจวี๋ยรู้สึกหงุดหงิด หรือเป็นเพราะจิตแห่งมรรคกระบี่ของเขายังบริสุทธิ์ไม่พอ
มีความเป็นไปได้จริงๆ!
แม้คุณสมบัติเชิงมรรคกระบี่ของหานเจวี๋ยจะเลิศล้ำ แต่ก็ไม่เคยเรียกขานตนว่าเซียนกระบี่เลย อีกทั้งในใจของเขาก็ไม่มีความเคารพในมรรคกระบี่
เขาอ่านจดหมายต่อไป สหายมากมายต่างได้รับโชควาสนา
ได้ยินว่าท่ามกลางมหาเคราะห์ไร้ขอบเขต จะได้รับโอกาสวาสนาง่ายดายยิ่ง ความเร็วในบำเพ็ญก็เพิ่มขึ้น การสังหารฆ่าฟันในมหาเคราะห์ทิ้งมรดกและสมบัติล้ำค่าไว้ไม่น้อยเลย เมื่อสังหารศัตรูจะได้รับโชคชะตาอันยิ่งใหญ่ โชคชะตาอันยิ่งใหญ่จะมีส่วนช่วยเพิ่มความเร็วในการบำเพ็ญ นี่คือเหตุผลที่แม้จะรู้ถึงความน่ากลัวของมหาเคราะห์ไร้ขอบเขตดี แต่คนมากมายก็ยังกระโจนเข้าใส่
อันตรายและวาสนามักมาคู่กัน!
[ตรวจสอบพบว่าจักรพรรดิปีศาจต้องการเข้าฝันท่าน ยอมรับหรือไม่]
จักรพรรดิปีศาจหรือ
เป็นบ้าอะไร
ไม่ถูกสิ!
ค่าความเกลียดชังระดับหกดาวถึงขั้นไม่ตายไม่เลิกรา อีกฝ่ายคิดจะหาโอกาสมาตามตัวเขาแน่!
หานเจวี๋ยเลือกปฏิเสธ
ผ่านไปครู่หนึ่ง
[ตรวจสอบพบว่าจักรพรรดิปีศาจต้องการเข้าฝันท่าน จะยอมรับหรือไม่]
ปฏิเสธ!
จากนั้นทั้งวัน แจ้งเตือนแบบนี้ก็เด้งขึ้นมาอีกยี่สิบสามครั้ง หานเจวี๋ยเลือกปฏิเสธไปทุกครั้ง
จักรพรรดิปีศาจที่อยู่ห่างออกไปในวังปีศาจโมโหแทบตายแล้ว
‘สำแดงพลังวิเศษสำเร็จแล้วชัดๆ ทำไมเขาถึงปัดป้องได้ตลอด เขาใช้วิธีการใดในการปฏิเสธเรากันแน่ หรือว่ามีจักรพรรดิสวรรค์คอยช่วยเหลืออยู่ข้างกาย ไม่น่าจะใช่ คนผู้นี้ไม่มีทางอยู่ที่วังสวรรค์ แต่กลับทำนายไม่ได้เลยว่าเขาอยู่ที่ไหนกันแน่’
จักรพรรดิปีศาจขมวดคิ้วแน่น ในใจรู้สึกโมโหสุดขีด
เขาไม่มีทางลืมหานเจวี๋ยลง เนื่องจากหานเจวี๋ยทำให้ภรรยาของเขาสิ้นชีพอย่างน่าอนาถ
เพียงแต่ครั้งนี้ เขามิได้คิดจะสังหารหานเจวี๋ย แต่คิดจะใช้ประโยชน์จากหานเจวี๋ยเล่นงานวังสวรรค์ พลางสืบสาวไปหาเจ้าแดนต้องห้ามอันธการ
เขามีลางสังหรณ์อย่างหนึ่งว่าเจ้าแดนต้องห้ามอันธการจะมาจากวังสวรรค์!
จนปัญญาที่หานเจวี๋ยไม่เปิดโอกาสให้เขาเลย!
……………………………………