บทที่ 610 ศึกอริยะ
พลังวิเศษของเหล่าอริยะพุ่งลงบนเกาะแทบจะในทันใด แสงทมิฬสายหนึ่งแผ่ขยายออกมาจากภายในเกาะอย่างรวดเร็ว พลังวิเศษทั้งหมดที่เข้าโจมตีทำลายล้างเกาะล้วนถูกกันออกไป
จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์อันธการตวัดมือ พลันมีสมบัติวิเศษนับไม่ถ้วนลอยออกมาจากความมืดมิด กวาดม้วนถาโถมเข้าใส่เหล่าอริยะราวกับพายุซัดโถม
ฉิวซีไหลนั่งขัดสมาธิบนแท่นบัวทอง แปลงกายเป็นพุทธรูปทองสูงหลายล้านจั้ง สองแขนหมุนเป็นวงกลม จากนั้นหมื่นหัตถาพลันปรากฏขึ้น ตวัดฝ่ามือออกไปรอบทิศทาง สายลมกระโชกที่เกิดจากพลังแห่งอริยะทำให้จักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้ายที่อยู่บนเกาะยากจะต้านรับไหว แม้จะมีพลังของจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์อันธการคุ้มครองอยู่ เขาก็ยังรู้สึกว่าตนอาจจะปลิดปลิวสลายไปได้ทุกเมื่อ
มหาจักรพรรดิเซียวกลายร่างเป็นร่างมาร เส้นผมยาวปลิวไสว มือกุมทวนยาวสีแดงเพลิง เคลื่อนเข้าสู่เกาะทันที ถือทวนมุ่งสังหารจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์อันธการ
เจ้านิกายเทียนเจวี๋ยเรียกกระบี่วิเศษสี่เล่มออกมา ก่อตัวเป็นค่ายกลกระบี่ ลอยสูงอยู่เหนือเกาะ
เทพสูงสุดหนานจี๋ปลดปล่อยพลังออกมาจากสองมือ ร่ายบทสวดอย่างต่อเนื่อง วงแสงสีทองแต่ละสายร่วงหล่นลงมาจากฟ้า สะกดข่มเกาะลอยฟ้า
เทพสูงสุดอู๋ฝ่าก็ลงมือเช่นกัน มือกุมกระบี่วิเศษ กวัดแกว่งสำแดงปราณกระบี่ออกมาอย่างต่อเนื่อง คิดจะทำลายแสงทมิฬที่คุ้มกันเกาะลอยฟ้า
แม่น้ำสายหนึ่งปรากฏขึ้นเหนือศีรษะฝูซีเทียน เงามนุษย์ที่ร้องคำรามอย่างโกรธเกรี้ยวลอยออกมาทีละร่างๆ โถมตัวเข้าใส่เกาะลอยฟ้าอย่างไม่นึกเกรงกลัว
หานเจวี๋ยสำแดงพลังวิเศษปราณกระบี่อันเลิศล้ำ ปราณกระบี่นับไม่ถ้วนร้อยเรียงเข้าด้วยกัน แผ่แสงกระบี่เจิดจ้าพร่างพราวออกมา โจมตีทำลายแสงทมิฬอย่างรุนแรง
“หืม?”
สายตาของจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์อันธการหันเหไปที่ร่างหานเจวี๋ย นึกสงสัยอยู่ในใจ
เป็นแค่อริยะมรรคาสวรรค์ชัดๆ เหตุใดถึงสามารถทำลายพลังเวทของเขาได้
หรือว่าเหตุผลที่อริยะกลุ่มนี้กล้ากลับมาอีกครั้ง เป็นเพราะคนผู้นี้
หลังจากทำลายแสงทมิฬได้ เกาะลอยฟ้าจึงเผยตัวออกมา เหล่าอริยะต่างสำแดงพลังวิเศษอย่างต่อเนื่อง
จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์อันธการสู้กับเหล่าอริยะด้วยตัวคนเดียว มือขวาสำแดงพลังวิเศษทำลายล้างเหล่าอริยะ มือซ้ายดึงแส้สายฟ้าเส้นหนึ่งออกมาจากความมืดมิด สะบัดฟาดใส่เหล่าอริยะ
เทพสูงสุดหนานจี๋ไม่ทันระวัง เป็นรายแรกที่ถูกโจมตี สังขารระเบิดกระจายทันที วิญญาณศักดิ์สิทธิ์ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นกัน โชคดีที่เขาเป็นอริยะมรรคาสวรรค์ จึงก่อสังขารขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ทุกขั้นตอนใช้เวลาเพียงชั่วพริบตาเดียว
มหาจักรพรรดิเซียวมีปราณมารพัวพันรอบกาย เข้าโจมตีจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์อันธการโดยตรง ทวนยาวพุ่งแทงออกไป เงาทวนนับหมื่นพันปรากฏขึ้น ทะลุผ่านร่างของจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์อันธการ พุ่งเข้าสู่ส่วนลึกของความมืดมิด ทอดตัวออกไปไกลจนไม่อาจทราบระยะทางได้
“เมื่อเทียบกับบรรพชนมารและหลัวผาน เจ้ายังห่างชั้นมากนัก!”
จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์อันธการเอ่ยเหยียดหยาม ยกมือชี้ไปทางมหาจักรพรรดิเซียว
ตูม!
มหาจักรพรรดิเซียวรู้สึกเพียงว่าตนถูกพลังอันไร้รูปลักษณ์พุ่งชน ร่างกายเสียการควบคุมล้มหงายหลัง หลุมดำหลุมหนึ่งปรากฏขึ้นด้านหลังเขา สูบกลืนเขา จากนั้นก็หดตัวลง
จอมอริยะเสวียนตูชูกระบี่ในมือขึ้น สัญลักษณ์หยินหยางด้านหลังลอยขึ้นมา แสงขาวดำหมุนวนเวียน รวมตัวกันเป็นลูกกลมๆ จากนั้นแยกออกเป็นสองร่างจำแลงลักษณ์ตามจอมอริยะเสวียนตู
“หนึ่งปราณจำแลงสามวิสุทธิ์!”
สีหน้าจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์อันธการแปรเปลี่ยน เขาพลันสะบัดแขนเสื้อ เคลื่อนย้ายจักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้ายออกไป
จักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้ายลอยออกห่างจากเกาะอย่างรวดเร็ว มองตัวเองที่ลอยออกห่างสนามรบของเหล่าอริยะออกไปเรื่อยๆ ด้วยแววตาตื่นตะลึง
ขณะเดียวกันนี้ ภายในคุกนรกอันธการ เชลยทั้งหมดที่ถูกคุมขังต่างรู้สึกตื่นตะลึงกับศึกแห่งอริยะที่กำลังฉายอยู่
ระดับความเร็วในการลงมือของอริยะว่องไวมากจริงๆ พลังวิเศษสารพัดชนิดสำแดงออกมาไม่ขาดสาย ทำให้หานทั่วและอี๋เทียนที่อยู่ในระดับเทพมองจนตาพร่าลายไปหมดแล้ว
แม้จะมีห้วงมิติคั่นอยู่ แต่พลังอริยะอันน่าหวาดผวานั้นก็ยังทำให้พวกเขาอกสั่นขวัญแขวน
“นี่น่ะหรืออริยะ”
“มองเห็นแล้วกระมัง อริยะแห่งนิกายของเรามาช่วยเหลือพวกเราแล้ว!”
“ฮ่าๆ อริยะแห่งนิกายเหรินของพวกข้าก็มาด้วยมิใช่หรือ”
“ฝูซีเทียนเป็นอริยะแห่งเผ่าปีศาจของพวกเรามิใช่หรือ จะเป็นอริยะแห่งเผ่ามนุษย์ไปได้อย่างไร!”
“ดูเหมือนพวกเราจะมีความหวังที่จะรอดออกไปได้แล้ว!”
เหล่าเชลยต่างตื่นเต้นขึ้นมา คุกนรกอันธการพลันเกิดเสียงเจี๊ยวจ๊าว
….
หานเจวี๋ยที่ทั่วร่างเต็มไปด้วยสมบัติวิเศษฝ่าพลังเวทป้องกันเกาะของจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์อันธการเข้าไป เขามุ่งหน้าเข้าหาจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์อันธการ อีกสองก้าวจะถึงตัวจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์อันธการ เขาฟันกระบี่เข้าใส่ทันที
จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์อันธการยกมือสกัดไว้ กำแพงป้องกันที่ก่อตัวขึ้นจากพลังเวทถูกฟัน ทลายลงอย่างง่ายดาย
มหาจักรพรรดิเซียวที่เพิ่งหลุดพ้นจากการพัวพันของหลุมดำมุ่งหน้าเข้ามาโจมตีอีกครั้ง พลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงร้อนรน “สหายเต๋าหาน ต้องพึ่งเจ้าแล้ว!”
เขากลายสภาพเป็นลำแสงสีดำสายหนึ่ง ส่วนหน้ากลายเป็นคมหอก พุ่งเข้าโจมตีอย่างรวดเร็วจนไม่อาจหยุดยั้งได้ จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์อันธการกระโจนหนีคราหนึ่ง สามารถหลบเลี่ยงไปอย่างสบายๆ
จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์อันธการชูสองแขนขึ้นสูง ไม่ทราบว่าปากสวดร่ายอันใดอยู่ มองเห็นเพียงว่าเหนือห้วงอวกาศของเกาะปรากฏเมฆดำทะมึนซัดปั่นป่วน สายฟ้าทมิฬนับไม่ถ้วนฟาดลงมา โจมตีใส่ร่างหานเจวี๋ยและมหาจักรพรรดิเซียว
หานเจวี๋ยถูกสะกดข่ม สองแขนป้องอยู่เหนือศีรษะ ท่าทางคล้ายจะสามารถต้านเอาไว้ได้
มหาจักรพรรดิเซียวย่ำแย่กว่า ถูกสายฟ้าทมิฬกดดันจนล้มลงบนพื้น สายฟ้ากลายเป็นโซ่ตรวน จองจำเขาเอาไว้
จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์อันธการยิ้มหยันแวบหนึ่ง
จอมอริยะเสวียนตู เทพสูงสุดหนานจี๋ ฉิวซีไหล เทพสูงสุดอู๋ฝ่าและฝูซีเทียนต่างพากันลงมือ
นี่คือศึกแห่งอริยะ ยากจะแบ่งแยกความแตกต่างได้ในระยะเวลาสั้นๆ แม้ว่าจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์อันธการจะสะกดข่มอริยะมรรคาสวรรค์ได้ แต่ก็ไม่สามารถสังหารอริยะได้ง่ายๆ
เหล่าอริยะเกิดความกดดันมหาศาลยิ่ง ไม่คิดว่าเมื่อหานเจวี๋ยเผชิญหน้ากับจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์อันธการก็ต้านไว้ไม่อยู่เช่นกัน
ตอนนี้พวกเขาทำได้เพียงสู้สุดชีวิตเท่านั้น
จอมอริยะเสวียนตูสำแดงหนึ่งปราณจำแลงสามวิสุทธิ์ ร่างแยกทั้งสองร่างต่างแข็งแกร่งอย่างยิ่ง เข้าโจมตีจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์อันธการซึ่งๆ หน้าอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์อันธการจะสำแดงพลังวิเศษใดๆ ออกมา ต่างถูกพวกเขาใช้กระบี่ฟันทำลาย
“นี่คือร่างจำลองของเหล่าจื่อ…”
ม่านตาจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์อันธการพลันหดตัว จากนั้นก็ถูกความบ้าคลั่งเข้าครอบงำ
“ฮึ่ม ต่อให้มีอริยะบรรพกาลค่อยช่วยเหลือ วันนี้พวกเจ้าก็ต้องตายอยู่ดี!”
จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์อันธการตวาดกร้าว พายุรุนแรงน่าหวาดผวาก่อตัวขึ้นรอบกาย รัดรึงทำลายร่างจำลองของเหล่าจื่อ
เขาหันไปมองจอมอริยะเสวียนตู ยืนอย่างโอหังภาคภูมิใจ จากนั้นเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “จอมอริยะเสวียนตู เจ้าแข็งแกร่งขึ้นกว่าแต่ก่อนนะ แต่ตอนแรกข้ายังไม่ได้เอาจริงเลย จากนี้จะให้พวกเจ้าได้เห็นพลังวิเศษมหาศาลของข้า ทางรอดของพวกเจ้ามีเพียงยอมสยบต่อข้าเท่านั้น!”
เขาหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง ความมืดมิดรอบด้านเริ่มปรากฏพลังอันน่าหวาดหวั่น หลั่งไหลเข้าสู่ร่างของจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์อันธการอย่างบ้าคลั่ง
มหาจักรพรรดิเซียวที่จำแลงเป็นทวนพุ่งเข้าโจมตี ผลคือถูกพลังแห่งความมืดสกัดขวางจนกระเด็นออกไป
เหล่าอริยะหน้าเปลี่ยนสี พวกเขาต่างสัมผัสได้ว่าพลังของจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์อันธการกำลังทะยานสูงขึ้น
และในเวลานี้เอง!
จู่ๆ หานเจวี๋ยก็ปรากฏตัวขึ้นด้านหลังจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์อันธการ มีร่างจำลองเทพมารสองตนอยู่เหนือยอดศีรษะของเขา ทั้งสองซัดฝ่ามือเข้าใส่ร่างจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์อันธการอย่างพร้อมเพรียง
เทพมารพันธนาการ!
เทพมารกีดกัน!
พลังของเทพมารทั้งสองสะกดตรึงจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์อันธการไว้ ครั้งนี้หานเจวี๋ยทุ่มพลังทั้งหมดออกมา
จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์อันธการเอ่ยด้วยความตระหนก “เป็นไปได้อย่างไร!”
พลังของเทพมารกีดกันปิดกั้นการเชื่อมโยงระหว่างตัวเขาและพลังแห่งความมืด บังคับหยุดยั้งความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นของเขาเอาไว้
เหนือศีรษะหานเจวี๋ยปรากฏร่างจำลองเทพมารขึ้นตนแล้วตนเล่า
เทพมารขุนพลสวรรค์!
เทพมารฤทธา!
เทพมารสงคราม!
เทพมารไร้พ่าย!
เทพมารโอฬาร!
ช้าก่อน!
ร่างจำลองเทพมารหลายสิบตนเพิ่งปราฏขึ้นไม่นานก็ถูกดูดดึงเข้าสู่ร่างของหานเจวี๋ย หานเจวี๋ยซัดฝ่ามือออกไป
โทสะเทพอนธการ!
ผสานรวมพลังของเทพมารเอาไว้มากมาย ผ่านการฝึกฝนจนเชี่ยวชาญ ก่อตัวเป็นพลังวิเศษสุดทรงพลัง!
หลังจากฝ่าด่านอริยะเสรีได้ จำนวนเทพมารที่หานเจวี๋ยสามารถผสานรวมได้ก็เพิ่มมากขึ้นมหาศาล เทพมารที่เขาผสานรวมล้วนเป็นร่างจำลองเทพมารที่มีกำลังร่างกายแกร่งกล้า
ฝ่ามือที่ซัดออกไป ทำลายล้างจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์อันธการในทันใด
[จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์อันธการเกิดความเกลียดชังในตัวท่าน ระดับความเกลียดชังในขณะนี้คือ 6 ดาว]
หานเจวี๋ยไม่สนใจแจ้งเตือนตรงหน้า โบกมืออีกครั้ง ฉวยโอกาสที่สังขารเขายังไม่ก่อตัวขึ้น ทำลายล้างวิญญาณของจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์อันธการ
“ไม่…”
จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์อันธการคำรามด้วยเสียงแหบโหย น้ำเสียงเปี่ยมไปด้วยความหวาดผวา
จักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้ายที่อยู่ไกลออกไปรับรู้ได้เพียงว่าพลังแห่งความมืดที่ห่อหุ้มตนอยู่สลายไปแล้ว จากนั้นก็ได้ยินเสียงของจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์อันธการ สีหน้าเขาพลันแปรเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง
“เป็นไปได้อย่างไร…เหล่าอริยะสังหารจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์อันธการได้อย่างนั้นหรือ”
…………………………………………………