บทที่ 762 สุดยอดสมบัติ! สิบล้านปี!
หลังจากฟางเหลียงเอ่ยถาม เจ้านิกายเทียนเจวี๋ย ฉิวซีไหลและจั้งกูซิงก็จ้องมองจอมอริยะเสวียนตูเขม็ง ล้วนตื่นตัวอย่างยิ่ง
มหาเคราะห์มรรคายิ่งใหญ่เชียวนะ นั่นคือเงามืดที่ครอบคลุมไปทั่วทั้งฟ้าบุพกาล
ผู้บำเพ็ญทั้งหมดล้วนทราบว่ามันจะมาเยือนในอนาคต แต่ไม่ทราบว่ามันจะมาเยือนตอนไหน ไม่ทราบว่ามันจะมาในรูปแบบใด
หากมรรคาสวรรค์มีความหวังที่จะฝ่าพ้นมหาเคราะห์ไร้ขอบเขตไปได้ หลังจากมหาเคราะห์มรรคายิ่งใหญ่สิ้นสุดลง มรรคาสวรรค์ไหนเลยจะไม่กลายเป็นจุดศูนย์กลางของทั้งฟ้าบุพกาล
จอมอริยะเสวียนตูเอ่ยด้วยสีหน้าราบเรียบไร้อารมณ์ “ย่อมเป็นเรื่องเท็จ แต่เรื่องเท็จก็สามารถกลายเป็นความจริงได้ ข้าเพียงไม่ต้องการให้ผู้ใดนำเทพมารอนธการมากดหัวมรรคาสวรรค์ ทำให้มรรคาสวรรค์ถูกรุมโจมตี
“พวกเราจะเอาแต่พึ่งพาสหายเต๋าหานไม่ได้ นอกจากพลังแล้ว ยังมีอีกหลายวิธีที่สามารถคลี่คลายวิกฤตได้”
สี่อริยะเงียบงัน
ฟางเหลียงสบถในใจ ข้าก็ว่าแล้ว
สิบยอดปราชญ์บรรพกาลอันใดกัน ฟังดูเป็นเรื่องเป็นราวยิ่งนัก
จอมอริยะเสวียนตูเอ่ยต่อว่า “สำหรับตำนานสิบยอดปราชญ์บรรพกาล ข้าจะทยอยเล่าตำนานให้พวกท่านฟังทีละคน ทุกท่านโปรดจำไว้ให้มั่น”
สีหน้าของสี่อริยะแปรเปลี่ยนเป็นแปลกพิกล เจ้าถึงกับปั้นแต่งตำนานขึ้นมาเชียวหรือ
จอมอริยะเสวียนตูทำเป็นไม่เห็นสีหน้าของพวกเขา เริ่มเล่าเองเออเองขึ้นมา
ผ่านไปไม่ถึงห้าพันปี ตำนานสิบยอดปราชญ์บรรพกาลแพร่กระจายไปทั่วมรรคาสวรรค์ จากนั้นก็แพร่กระจายจากเส้นทางสวรรค์ฟ้าบุพกาลไปยังฟ้าบุพกาล
ตำนานสิบยอดปราชญ์บรรพกาลกล่าวถึงผู้อาวุโสทรงพลังสิบท่านที่เคยร่วมกันปราบหลัวโหวเทพมารบรรพกาลกลับชาติมาเกิดด้วยกันกับบรรพชนเต๋า ภายหลังทั้งหมดได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ก่อนมหาเคราะห์มรรคายิ่งใหญ่จะมาเยือน พวกเขาจะกลับชาติมาเกิด บากบั่นบำเพ็ญสู่มหามรรค พวกเขาจะเป็นวีรบุรุษผู้สังหารเทพมารอนธการ
บุตรแห่งสวรรค์มากมายที่ได้ยินข่าวลือนี้ล้วนตื่นเต้นขึ้นมา
เหล่าบุตรแห่งสวรรค์ล้วนเชื่อมั่นว่าชะตาของตนไม่ธรรมดา เมื่อมองย้อนกลับไปถึงพรสวรรค์ของตน ล้วนเกิดความเพ้อฝันอย่างหนึ่งขึ้น
ตนจะใช่ผู้ทรงพลังกลับชาติมาเกิดหรือไม่
ภายในมรรคาสวรรค์เกิดกระแสตามหาสิบยอดปราชญ์บรรพกาลขึ้น แต่หากต้องการจะให้แพร่กระจายไปทั่วทุกมุมของฟ้าบุพกาล ยังต้องใช้เวลาอีกยาวนาน
….
หมื่นกว่าปีต่อมา หานเจวี๋ยยังคงฝึกบำเพ็ญอยู่
[ระบบตรวจสอบพบว่าท่านมีอายุครบแปดแสนปีบริบูรณ์ ชีวิตก้าวหน้าไปอีกขั้น ท่านมีตัวเลือกดังต่อไปนี้]
[หนึ่ง ออกจากการปิดด่านทันที ประกาศศักดาของเทพมารอนธการ กระตุ้นให้เกิดมหาเคราะห์มรรคายิ่งใหญ่ จะได้รับโอกาสยกระดับอาณาเขตเต๋าหนึ่งครั้ง]
[สอง เก็บตัวบำเพ็ญ หลีกห่างข้อพิพาท จะได้รับชิ้นส่วนมหามรรคหนึ่งชิ้น ศิลาก่อวิญญาณหนึ่งก้อน ยอดสมบัติหนึ่งชิ้น]
แปดแสนปี!
แก่แล้วจริงๆ
หานเจวี๋ยหมางเมินหลุมพรางของระบบ เลือกตัวเลือกที่สองอย่างเงียบงัน
[ยินดีด้วยท่านได้รับสุดยอดสมบัติ…หนังสือยอดชะตา]
[หนังสือยอดชะตา: สุดยอดสมบัติ ยอดสมบัติที่แปรผันขึ้นมาจากโชคอันไร้ขีดจำกัด สามารถปรับเปลี่ยนอดีตและอนาคตของตนและผู้อื่นได้ เปลี่ยนแปลงทุกอย่างได้โดยตรง ไม่ถูกผูกมัดจากกฎเกณฑ์และการสอดส่อง แต่ไม่สามารถกำจัดการมีอยู่ของมหามรรคและกฎระเบียบได้ ทุกครั้งหลังที่ใช้สมบัติชิ้นนี้ จะถูกหักอายุขัยเป็นการแลกเปลี่ยน สมบัติชิ้นนี้จะหลับใหลไปชั่วระยะเวลาหนึ่ง เมื่อใช้บ่อยครั้งเข้า ช่วงเวลาที่หลับใหลจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า คำเตือนพิเศษ สมบัติชิ้นนี้ไม่สามารถยกระดับได้ ไม่สามารถตีตราเป็นเจ้าของได้]
ของเล่นอะไรกันนี่!
หานเจวี๋ยกะพริบตาปริบๆ
สุดยอดสมบัติ…
นี่คือการสุ่มได้ไอเท็มระดับสีม่วงหรือสีทองในตำนานเช่นนั้นหรือ
หานเจวี๋ยตรวจสอบข้อมูลของหนังสือยอดชะตาอย่างละเอียด ลมหายใจพลันถี่กระชั้นขึ้นมา
เปลี่ยนแปลงทุกอย่างได้โดยตรง!
บ้าคลั่งเกินไปแล้วกระมัง!
หานเจวี๋ยนำหนังสือยอดชะตาออกมา หนังสือปกขาวเล่มหนึ่งปรากฏขึ้นในมือเขา สัมผัสเรียบเนียน เย็นเฉียบยิ่งนัก
เมื่อเปิดหนังสือเล่มนี้ออก ด้านในเป็นหน้ากระดาษขาวโพลน ราบเรียบไร้ความพิเศษ
‘ของเล่นชิ้นนี้น่าจะใช้ยาก ไม่รู้ว่าข้าจะถูกหักอายุขัยเท่าไร อย่ามาขูดรีดข้าตรงๆ เลย’
หานเจวี๋ยขมดวคิ้วแน่น
[ระบบจะคอยช่วยเหลือท่านในการใช้สมบัติชิ้นนี้ สมบัติชิ้นนี้เป็นหนึ่งในยอดสมบัติสุดแข็งแกร่งที่มีอยู่ในระบบ เมื่อใช้งานสมบัติชิ้นนี้ ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างสูง]
เมื่อเห็นแจ้งเตือนนี้ หานเจวี๋ยรู้สึกโล่งใจไปเปลาะหนึ่ง
หนึ่งในยอดสมบัติสุดแข็งแกร่งอย่างนั้นหรือ
แค่หนึ่งในเช่นนั้นหรือ
เปลี่ยนแปลงทุกอย่างได้โดยตรง ในมุมมองของหานเจวี๋ยช่างดูยอดเยี่ยมนัก
ยังมีสิ่งใดที่สามารถต่อกรได้อีกหรือ
หานเจวี๋ยลองถามหยั่งเชิงอย่างระมัดระวัง ‘หากข้าต้องการทำให้ตัวเองกลายเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในฟ้าบุพกาล จะถูกหักอายุขัยเท่าไร’
[คำเตือน ท่านไม่สามารถแบกรับโชคชะตาอันยิ่งใหญ่ที่มาพร้อมการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ได้ จะดับสูญทันที]
ไม่ถูกแล้ว
ในเมื่อข้าแข็งแกร่งที่สุด แล้วจะดับสูญได้อย่างไร
[ในระหว่างที่ดำเนินการเปลี่ยนแปลง ท่านยังมิใช่ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดอย่างสมบูรณ์จึงดับสูญได้]
หานเจวี๋ยขมวดคิ้วแน่น
ที่แท้ก็ไร้ประโยชน์
ไร้ประโยชน์ยิ่งกว่าหนังสือแห่งความโชคร้ายเสียอีก!
จากคำอธิบายของระบบ หากหานเจวี๋ยต้องการกลายเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุด ร่างเดิมต้องมีโอกาสจะกลายเป็นสุดยอดผู้แข็งแกร่งอยู่แล้ว
หานเจวี๋ยพลันนึกถึงเรื่องที่ดวงจิตปฐมภพส่งอริยะมหามรรคมาตรวจสอบเทพมารอนธการที่มรรคาสวรรค์
ช้าก่อน!
ข้าจะสามารถสร้างตัวตนปลอมให้ตัวเอง ทำให้สรรพสิ่งไม่มีทางคิดอย่างเด็ดขาดว่าข้าคือเทพมารอนธการได้หรือไม่
หานเจวี๋ยใจเต้นแรงขึ้นมา
ความคิดนี้ยอดเยี่ยมนัก!
เป็นหลักประกันไว้ก่อนว่าตนจะปลอดภัย ค่อยใคร่ครวญอีกครั้งเมื่อแข็งแกร่งขึ้น
ถึงอย่างไรเทพมารอนธการก็เป็นศัตรูของทั่วทั้งฟ้าบุพกาล!
‘ข้าอยากให้สรรพสิ่งทั่วฟ้าบุพกาลคิดว่าข้าไร้พิษภัยอย่างแน่นอน!’
[คำเตือน ท่านไม่สามารถแบกรับโชคชะตาอันยิ่งใหญ่ที่มาพร้อมการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ได้ จะดับสูญทันที]
‘ข้าอยากให้จอมเทวาฟ้าบุพกาลเกิดความประทับใจต่อข้าในระดับเต็มขั้นดาว’
[คำเตือน ท่านไม่สามารถแบกรับโชคชะตาอันยิ่งใหญ่ที่มาพร้อมการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ได้ จะดับสูญทันที]
ก็ได้ๆ!
‘ข้าอยากให้สรรพสิ่งฟ้าบุพกาลคิดว่าข้าคือเทพมารฟ้าบุพกาลกลับชาติมาเกิด’
เทพมารฟ้าบุพกาลเป็นบรรทัดฐานต่ำสุดแล้ว คุณสมบัติที่ปรากฏออกไปของหานเจวี๋ยแข็งแกร่งเกินไป ถ้าบอกว่าคุณสมบัติของเขาต่ำกว่าเทพมารฟ้าบุพกาล ดูไม่เข้าท่าเกินไป ไม่สมเหตุสมผล
สิ่งมีชีวิตทั่วไปอาจจะไม่ใส่ใจจุดบอดนี้ แต่หานเจวี๋ยสัมผัสได้ว่าตัวตนระดับจอมเทวาฟ้าบุพกาล ต้องสังเกตเห็นจุดนี้แน่นอน จากนั้นจะตรวจสอบต่อ สุดท้ายก็ยิ่งทำให้เขาถูกเปิดโปงว่าเป็นเทพมารอนธการเร็วขึ้น
[จำเป็นต้องหักอายุขัยครึ่งหนึ่งของท่าน จะดำเนินการต่อหรือไม่]
ครึ่งหนึ่งหรือ?
หานเจวี๋ยเบิกตากว้าง เกือบปาหนังสือยอดชะตาลงพื้น
ไม่ใช่ของดีจริงๆ ด้วย!
แต่หานเจวี๋ยก็ไม่ได้โยนมันทิ้งไป
ขอเพียงเขาทะลวงขั้นได้ อายุขัยก็จะกลับคืนมา รักษาความลับเรื่องเทพมารอนธการไว้ก่อนแล้วค่อยว่ากันเถอะ
หานเจวี๋ยกัดฟัน เลือกดำเนินการต่อ
หนังสือยอดชะตาเปล่งแสงเจิดจ้าบาดตาออกมา หานเจวี๋ยรับรู้ได้ว่ามีแรงดึงดูดอันน่าหวาดกลัวอย่างหนึ่งดูดดึงตนอยู่
อายุขัยของเขา!
ไม่ทราบว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน เมื่อหานเจวี๋ยได้สติกลับมาอีกครั้ง ความเหนื่อยล้าอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนก็ท่วมท้นอยู่ในหัวใจ
เมื่อมองไปที่หนังสือยอดชะตาอีกครั้ง ดวงตาเขาฉายแววหวาดผวาเล็กน้อย
เจ้าของเล่นชิ้นนี้น่ากลัวเกินไปแล้ว
ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องอายุขัยเลย เอาแค่ความสามารถก็ทำให้คนเสพติดได้ง่ายดายยิ่ง
หานเจวี๋ยเรียกดูข้อมูลหนังสือยอดชะตาเพื่อตรวจสอบเวลาที่ถูกผนึกการใช้งาน
‘สิบล้านปีอย่างนั้นหรือ’
หานเจวี๋ยตะลึงงัน
เขาไม่รู้ว่าควรดีใจหรือผิดหวังดี
ที่ดีใจคืออย่างน้อยเขาก็ไม่มีทางเสพติดมัน ที่ผิดหวังคือระยะเวลาผนึกการใช้งานของยอดสมบัติชิ้นนี้นานเหลือเกิน
ทุกครั้งที่ใช้งาน ระยะเวลาผนึกการใช้งานจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า
หลังจากใช้งานครั้งที่สอง มิใช่ต้องรอถึงร้อยล้านปีหรือถึงขั้นที่นานกว่านั้นหรอกหรือ
หานเจวี๋ยเก็บหนังสือยอดชะตา กวาดจิตศักดิ์สิทธิ์ไปทั่วมรรคาสวรรค์
สรรพสิ่งยังไม่เปลี่ยนแปลงไป ทุกอย่างยังเป็นเช่นในอดีต
นี่เกิดความเปลี่ยนแปลงแล้วใช่หรือไม่
ทันใดนั้นหานเจวี๋ยนึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมา ‘จอมเทวาฟ้าบุพกาลมีสมบัติจำพวกนี้เช่นกันหรือไม่’
[ไม่สามารถวิวัฒนาการเกี่ยวกับสุดยอดสมบัติได้]
เขานึกถึงเสียงหนึ่งที่เคยได้ยินเมื่อนานมาแล้วขึ้นมาอีกครั้ง
หลุดพ้นจากอนิจจัง…
หากว่าทุกสิ่งสามารถเปลี่ยนแปลงได้ เช่นนั้นความจริงก็ไม่ต่างไปจากอนิจจัง
แล้วความจริงที่ไม่มีทางเปลี่ยนแปลงไปเป็นเช่นไรเล่า
หานเจวี๋ยปรับอารมณ์
จะปล่อยให้หนังสือยอดชะตาสร้างผลกระทบไม่ได้ สมบัติชิ้นนี้ดูคล้ายจะน่ากลัว แต่ความจริงต้องการตบะเป็นรากฐาน อายุขัยที่จ่ายออกไปเทียบกับหนังสือแห่งความโชคร้ายไม่ได้
ใช้หนังสือยอดชะตาสังหารศัตรู อาจจะไม่คุ้มค่าเท่าหนังสือแห่งความโชคร้าย และไม่สู้การลงมือด้วยตัวเอง
หากสมบัติชิ้นนี้ตกไปอยู่ในมือของสิ่งมีชีวิตอื่น หากว่าตบะอยู่ในสภาวะหยุดนิ่ง คาดว่าใช้งานแค่ไม่กี่ครั้งก็คงทำให้ผู้ใช้งานสิ้นชีพแล้ว
และอาจมีคนที่คิดเหมือนหานเจวี๋ยก่อนหน้า ต้องการเปลี่ยนตัวเองให้แข็งแกร่งขึ้นโดยตรง จากนั้นก็ดับสูญไปทันที
ถึงอย่างไรผู้บำเพ็ญคนอื่นๆ ก็ไม่มีระบบคอยแจ้งเตือน
………………………………………………………………