บทที่ 793 โลกอริยะไตรวิสุทธิ์
หลังจากยกระดับอาณาเขตเต๋าสำเร็จ เหล่าศิษย์หลายล้านที่อยู่ในเขตเซียนร้อยคีรีตื่นเต้นยิ่ง ยินดีกันถ้วนหน้า
“ไม่คิดเลยว่าพลังวิญญาณในอาณาเขตเต๋าของพวกเราจะยังเพิ่มขึ้นได้อีก!”
“ข้ารู้สึกว่าต่อให้เป็นมนุษย์ธรรมดามาอยู่ที่นี่หนึ่งวันก็สำเร็จเป็นเซียนได้”
“ตื่นเต้นเกินเหตุไปแล้ว แต่ก็ไม่แตกต่างกันเท่าไร”
“เจ้าสำนักเก่งกาจจริงๆ คาดว่าอาณาเขตเต๋าของอริยะก็คงไม่มีพลังวิญญาณเข้มข้นเหมือนของพวกเรา”
“ไร้สาระ แล้วสถานที่ของพวกเรามิใช่อาณาเขตเต๋าของอริยะหรือ”
“ข้าเคยไปเยือนฟ้าบุพกาลมาก่อน ไม่เคยเห็นพลังวิญญาณที่ไหนเทียบกับเขตเซียนร้อยคีรีได้เลย”
บนเขาเพียรบำเพ็ญเซียน ไก่คุกรัตติกาล ราชามังกรสามหัวรวมถึงเหล่าศิษย์สืบทอดก็กำลังพูดคุยกันอยู่เช่นกัน
พวกเขาเข้าใจสภาพความเป็นจริงมากกว่า
นี่แปลว่าหานเจวี๋ยทะลวงขั้นได้อีกแล้ว
ไก่คุกรัตติกาลกล่าวอย่างสะท้อนใจ “ตบะของนายท่านสูงถึงระดับใดแล้ว ยังสามารถทะลวงขั้นได้อีก ก่อนหน้านี้ก็สังหารอริยะมหามรรคได้ ต่อให้พวกเราทุ่มชีวิตฝึกบำเพ็ญก็ไล่ตามไม่ทันจริงๆ”
สุนัขสวรรค์ฮุ่นตุ้นพยักหน้ารับอย่างแข็งขัน
เจ้าใหญ่เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “นี่ไม่ใช่เรื่องดีหรอกหรือ นายรุ่งเรืองบริวารย่อมรุ่งโรจน์ ต่อให้พวกเราเทียบกับนายท่านไม่ได้ แต่ด้วยตบะของพวกเราหากอยู่ในแดนเซียน ก็นับว่าร้ายกาจอยู่ในชั้นแนวหน้าเช่นกัน”
ศิษย์สืบทอดที่เหลือต่างยิ้มออกมา
สวินฉางอันอดนึกถึงบรรดาศิษย์สืบทอดเหล่านั้นที่ออกไปหาประสบการณ์ด้านนอกไม่ได้
จู่ๆ เขาก็รู้สึกขบขัน
พวกเจ้าสิ้นเปลืองความคิดจิตใจออกพเนจร รอจนพวกเจ้ากลับมา อาจจะยังคงถูกพวกเราแซงหน้าอยู่ดี
ทุกครั้งที่ได้ยินโจวฝานและพวกเจียงอี้คุยโอ้อวดในหมื่นโลกาฉายชัด พวกเขาต่างก็รู้สึกอิจฉานัก อย่างไรก็ตามพวกเขากระจ่างในจุดนี้ดี
เจ้าพวกนี้เลือกพูดแต่เรื่องดีๆ ประสบการณ์ทุกข์ยากลำบากต้องมีมากกว่าแน่นอน!
หานปาเอ่ยกระตุ้น “อย่ามัวแต่พูดไร้สาระ รีบฝึกบำเพ็ญเข้าเถิด ถ้าไม่ใช่เพราะต้องรอพวกเจ้า ตอนนี้ข้ากับท่านไก่อาจจะพิสูจน์มรรคสำเร็จอริยะไปแล้วก็ได้!”
คนที่เหลือพากันกลอกตาใส่เขา ช่างขี้โม้จริงๆ
อย่างไรก็ตามพวกเขาล้วนสงบลงอย่างรวดเร็ว ตั้งใจฝึกบำเพ็ญ
พวกเขาสมควรพยายามให้มากขึ้นจริงๆ!
อีกด้านหนึ่ง
หานเจวี๋ยเริ่มตรวจดูจดหมาย ไม่ได้ตรวจดูจดหมายเสียนาน ไม่ทราบเช่นกันว่าระยะนี้แวดวงสหายเป็นอย่างไรบ้าง
[อี๋เทียนสหายของท่านเรียนรู้พลังวิเศษมหามรรค พลังมรรคเพิ่มขึ้นฉับพลัน]
[หวงจุนเทียนสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากมิ่ง ได้รับบาดเจ็บสาหัส]
[หลี่เต้าคงสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากผู้ทรงพลังลึกลับ]
[สือตู๋เต้าสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากผู้ทรงพลังลึกลับ]
[หานทั่วบุตรชายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากมารปีศาจลึกลับ] x987432
[ฉู่ซื่อเหรินศิษย์หลานของท่านสรรค์สร้างบัญญัติธรรมสามพันวิถีขึ้น พลังมรรคเพิ่มขึ้นฉับพลัน]
[เต้าจื้อจุนศิษย์ของท่านเผชิญกับการโจมตีจากเผ่าจอมเวท] x8204322
[จ้าวเซวียนหยวนศิษย์ของท่าน…]
….
ระยะนี้โอกาสวาสนาลดน้อยลง การต่อสู้เพิ่มมากขึ้น
สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่ารูปการณ์ของฟ้าบุพกาลในระยะนี้เริ่มวุ่นวายแล้ว
ปั่นป่วนวุ่นวายขึ้นมาเป็นครั้งคราวก็เป็นเรื่องปกติ เช่นนั้นถึงจะสงบสุขไปได้ตลอด
หานเจวี๋ยสบายใจยิ่ง ไม่ว่าจะวุ่นวายอย่างไร ล้วนแล้วแต่ไม่คุกคามมาถึงตัวเขา
เขาไล่อ่านลงไปเรื่อยๆ ไม่มีจดหมายที่ควรค่าให้เขาหยุดสนใจได้เลยสักฉบับ
เมื่อใกล้จะมาถึงตอนท้าย มีจดหมายฉบับหนึ่งที่สามารถดึงดูดเขาได้
[หวงจุนเทียนสหายของท่านดูดซับดวงชะตาผู้กำหนดชะตาเคราะห์ ได้รับเสี้ยวอำนาจศักดิ์สิทธิ์ชะตามหามรรค]
อำนาจศักดิ์สิทธิ์ชะตามหามรรคสามารถดูดซับได้หรือ
หานเจวี๋ยขมวดคิ้ว
ไม่สิ น่าจะเกี่ยวข้องกับสื่อหยวนหงเหมิงที่อยู่ในร่างหวงจุนเทียน สื่อหยวนหงเหมิงเกือบจะสำเร็จเป็นเทพมารอนธการแล้ว เรียกได้ว่าลึกล้ำเกินหยั่ง
มองจากสถานการณ์ก่อนหน้านี้ก็ทราบแล้ว อำนาจศักดิ์สิทธิ์ชะตามหามรรคคือกฎระเบียบสูงสุดของฟ้าบุพกาล และเป็นรากฐาน
เมื่อฟ้าบุพกาลมีอันตราย อำนาจศักดิ์สิทธิ์ชะตามหามรรคจะสัมผัสได้
ซึ่งก็แปลว่าหากทำลายอำนาจศักดิ์สิทธิ์ชะตามหามรรค ฟ้าบุพกาลก็จะล่มสลายเช่นนั้นหรือ
หานเจวี๋ยถามในใจ ‘ถ้าฟ้าบุพกาลล่มสลาย อาณาเขตเต๋าจะได้รับผลกระทบหรือไม่’
[ไม่ได้รับผลกระทบ อาณาเขตเต๋าแยกตัวเป็นเอกเทศ]
แม้แต่อายุขัยก็ไม่โดนหัก เห็นทีว่าระบบจะมั่นใจเต็มที่
เช่นนี้หานเจวี๋ยถึงได้เบาใจลง
ไม่แปลกเลยที่ตอนวิวัฒนาการอนาคตก่อนหน้านี้ ตัวตนที่ต้องสงสัยว่าจะเป็นตัวเขาถึงต้องการทำลายล้างฟ้าบุพกาล สร้างอนธการขึ้น
อาจเป็นไปได้ว่าในวันใดวันหนึ่ง ฟ้าบุพกาลจะสร้างความเดือดเนื้อร้อนใจให้แก่หานเจวี๋ย เขาจึงคิดจะสร้างมหาจักรวาลอนธการที่อยู่ภายใต้การปกครองของตนขึ้น
ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้
แต่ไหนแต่ไรมาหานเจวี๋ยไม่ใช่คนมีคุณธรรมสูงส่งเลิศล้ำ ที่ต้องดิ้นรนเอาตัวรอดในตอนนี้ก็เพียงเพราะเขาอ่อนแอเกินไป
หลังอ่านจดหมายเสร็จ หานเจวี๋ยก็ฝึกบำเพ็ญต่อ
ในช่วงเวลาเช่นนี้ จะต้องฝึกบำเพ็ญอย่างต่อเนื่อง
….
ห้าหมื่นปีผ่านไปในชั่วพริบตา
หานเจวี๋ยลืมตาขึ้น เตรียมจะไปยังชั้นฟ้าที่สามสิบสาม จอมอริยะเสวียนตูเรียกตัวเขาอีกครั้ง
ขณะที่เขากำลังจะลุกขึ้นนั้นเอง
[หยางเช่อเกิดความเกลียดชังในตัวท่าน ระดับความเกลียดชังในขณะนี้คือ 2 ดาว]
ล้อเล่นอะไรกัน
หานเจวี๋ยพลันตระหนก เรียกจอค่าความสัมพันธ์ออกมาตรวจสอบดู ก่อนจะหารูปประจำตัวของหยางเช่อพบอย่างรวดเร็ว
[หยางเช่อ: ระดับอริยะมรรคาสวรรค์ระยะต้น มหาจักรพรรดิไร้ขอบเขต ศิษย์นิกายเจี๋ย เนื่องจากเจ้านิกายเทียนเจวี๋ยเยินยอชื่นชมท่านเกินไปจึงเกิดความไม่พอใจในตัวท่าน ระดับความเกลียดชังในขณะนี้คือ 2 ดาว]
ทำเอาผู้เฒ่าตกใจหมด!
หานเจวี๋ยไม่สบอารมณ์อยู่ในใจ ไม่น่าเชื่อเลยว่าตนจะถูกอริยะมรรคาสวรรค์ทำให้ตกใจ เขาเคลื่อนย้ายเข้าไปในตำหนักเอกภพทันที
เมื่อเห็นหานเจวี๋ยปรากฏตัวขึ้น จอมอริยะเสวียนตูก็ถ่ายทอดเสียงหาอริยะรายอื่นทันที
เทพสูงสุดหนานจี๋ เจ้านิกายเทียนเจวี๋ย มหาจักรพรรดิเซียว เทพสูงสุดอู๋ฝ่า ฉิวซีไหล ฟางเหลียง จิ้นเสิน ผานซิน สวีตู้เต้า ซูฉี หลี่ไท่กู่ บรรพชนพุทธเบิกนภา จั้งกูซิง หลงเฮ่า จี้เซียนเสิน บรรพชนพุทธเทวัญและหยางเช่อล้วนมาถึงกันพร้อมหน้า
หานเจวี๋ยมองเห็นหยางเช่อแล้ว สีหน้าจองหอง วางมาดบุตรแห่งสวรรค์อย่างยิ่ง
หยางเช่อคารวะหานเจวี๋ย แนะนำตัวเล็กน้อย ฉากหน้ายังคงไว้หน้าหานเจวี๋ยอยู่
หานเจวี๋ยมองอริยะมรรคาสวรรค์ทั้งหมด แวดวงอริยะมรรคาสวรรค์แข็งแกร่งขึ้นถึงเพียงนี้โดยที่ไม่ทันรู้ตัว จะมีอริยะหน้าใหม่ไม่พอใจในตัวหานเจวี๋ยบ้างก็เป็นเรื่องปกติ
หานเจวี๋ยคร้านจะเอาความกับหยางเช่อ
ช่วยไม่ได้ ในสายตาของเขาอริยะนั้นไม่ต่างไปจากมดปลวกเลย โยนหยางเช่อเข้าไปในคุกสวรรค์อนธการ จะเสียเวลาเขาเปล่าๆ
จอมอริยะเสวียนตูมองไปทางหลี่ไท่กู่ เอ่ยขึ้นว่า “เจ้าพูดก่อนเถอะ”
หลี่ไท่กู่พยักหน้ารับ เมื่อสายตาของอริยะทั้งหมดมองมาที่ตัวเขา เขาถึงเอ่ยขึ้นว่า “ฟ้าบุพกาลเกิดเรื่องแล้ว!”
หานเจวี๋ยแทบจะกลอกตาเลยทีเดียว
เทพสูงสุดอู๋ฝ่าระเบิดโทสะ ตวาดใส่ “มัวอมพะนำอะไร! พูดมาตรงๆ!”
จอมอริยะเสวียนตูก็เผยสีหน้าไม่พอใจเช่นกัน
หลี่ไท่กู่ยิ้ม กล่าวไปว่า “ไตรวิสุทธิ์ในอดีตหวนรวมตัวอีกครั้ง เดิมทีเจ้านิกายทงเทียนหนีออกจากแดนบรรพกาล ถูกมิ่งไล่ล่าสังหาร ต่อมาเหล่าจื่อออกโรงช่วยเหลือ หลังจากนั้นเทพสูงสุดหยวนสื่อก็ประกาศรวมตัวไตรวิสุทธิ์ บุกเบิกโลกอริยะไตรวิสุทธิ์ ให้ผู้บำเพ็ญสำนักเต๋าทั้งหมดต่างเข้าไปหลบซ่อนจากมหาเคราะห์ไร้ขอบเขตและเข้าร่วมในโลกอริยะไตรวิสุทธิ์ได้ ช่วงก่อนหน้านี้ มิ่งโจมตีโลกอริยะไตรวิสุทธิ์ ทว่าพ่ายแพ้จนต้องถอยทัพ เหล่าจื่อสังหารมิ่งห้ารายภายในกระบี่เดียว สะเทือนฟ้าบุพกาล!
“ไตรวิสุทธิ์คืออริยะรุ่นแรกแห่งมรรคาสวรรค์ หนึ่งลมหายใจของปฐมเทพผานกู่กลายเป็นไตรวิสุทธิ์ อีกทั้งพวกเขาเป็นศิษย์สืบทอดของบรรพชนเต๋า ในฟ้าบุพกาลศิษย์สำนักเต๋าอยู่ที่ใดมากที่สุดเล่า ย่อมเป็นในมรรคาสวรรค์ของพวกเรา โลกอริยะไตรวิสุทธิ์ต้องการดึงคนไปจากมรรคาสวรรค์!”
ยิ่งพูดหลี่ไท่กู่ก็ยิ่งตื่นเต้นขึ้นมา ไร้ซึ่งความสุขุมของอริยะ ดูไม่คล้ายอริยะแห่งนิกายเหรินอย่างยิ่ง
นิกายเหรินถูกก่อตั้งขึ้นโดยเหล่าจื่อ
เมื่อเหล่าอริยชนได้ยินต่างมีสีหน้าแตกตื่น
บรรดาอริยะหน้าใหม่ขมวดคิ้วเช่นเดียวกัน หากเป็นในอดีต พวกเขาอาจจะแปรพรรคไปเข้าร่วมกับโลกอริยะไตรวิสุทธิ์ แต่ตอนนี้ต่างไปจากในอดีต พวกเขาเป็นอริยะแล้ว กลายเป็นผู้นำของมรรคาสวรรค์ การกระทำของโลกอริยะไตรวิสุทธิ์ถือเป็นความผิดในสายตาของพวกเขา
เทพสูงสุดอู๋ฝ่ามองไปทางจอมอริยะเสวียนตู เอ่ยถาม “อาจารย์ของเจ้ามิใช่ว่าปล่อยวางแล้วหรอกหรือ เจ้าไม่ทราบเรื่องนี้เลยหรือไร”
จอมอริยะเสวียนตูตอบว่า “ข้าไม่ทราบเรื่องจริงๆ หลังจากมรรคาสวรรค์ตัดขาดบ่วงกรรมกับแดนเทพหวนปัจฉิม ข้ารักษาการติดต่อกับอาจารย์มาตลอดจริงๆ ทว่าข้อมูลเหล่านั้นที่ข้าได้รับล้วนมาจากร่างจำลองของท่านอาจารย์ แต่ไหนแต่ไรมาข้าไม่เคยเดาใจท่านอาจารย์ออกเลย”
………………………………………………………………