ซือหม่าโยวเย่ว์ส่ายศีรษะแล้วเอ่ยว่า “ข้ายังคิดวิธีไม่ออกเลย ทำได้เพียงควบคุมพิษในร่างกายท่านปู่เอาไว้ระยะหนึ่งเท่านั้น”
“นานเท่าใดหรือ”
“สองวัน” ซือหม่าโยวเย่ว์พูด “พวกเราจะต้องคิดหาวิธีถอนพิษให้ได้ภายในสองวัน มิฉะนั้นหากเลยสองวันไปแล้วผลลัพธ์ก็จะเป็นเช่นเดียวกัน”
“เอาล่ะ เจ้าควบคุมพิษให้ท่านปู่ก่อนแล้วกัน” ซือหม่าโยวเล่อพูดอย่างกระวนกระวาย
“ถอดเสื้อนอกของท่านปู่ออกสิ” ซือหม่าโยวเย่ว์พยักหน้าไปทางสองคนนั้นแล้วเอ่ยขึ้น
เส่าหลิงเข้ามาพอดี เธอจึงออกคำสั่งว่า “ไปสั่งเสี่ยวเอ้อร์ให้ยกสุราขาวขึ้นมากาหนึ่ง พร้อมกับผ้าฝ้ายด้วย”
เส่าหลิงเห็นซือหม่าโยวเล่อกำลังถอดเสื้อผ้าซือหม่าเลี่ย ไม่รู้ว่าซือหม่าโยวเย่ว์กำลังจะทำอะไร แต่ก็ยังให้ทหารยามหน้าประตูไปทำตามที่ซือหม่าโยวเย่ว์สั่งในทันที
เพียงไม่นาน สุราขาวและผ้าฝ้ายผืนใหม่ก็ถูกยกเข้ามา ซือหม่าโยวเล่อก็ถอดเสื้อนอกของซือหม่าเลี่ยออกเรียบร้อยแล้วเช่นกัน
เส่าหลิงรับกาสุราขาวมาก่อนจะส่งสัญญาณให้ทหารยามผู้นั้นออกไปแล้วปิดประตู
“คุณชายห้า สุราขาวมาแล้วขอรับ” เส่าหลิงยกกาสุราเดินเข้าไป
ซือหม่าโยวเย่ว์รับเอาผ้าฝ้ายมาแล้วให้เส่าหลิงเปิดกาสุรา หลังจากนั้นจึงยกกาสุราเทใส่ผ้าฝ้าย เมื่อผ้าฝ้ายชุ่มสุราขาวจนทั่วแล้ว เธอจึงหยิบผ้าฝ้ายมาเช็ดทั่วร่างกายท่อนบนของซือหม่าเลี่ยรอบหนึ่ง
เธอเช็ดอยู่เช่นนี้สามรอบแล้วจึงโยนผ้าฝ้ายไปทางหนึ่ง ความคิดวูบไหวคราหนึ่ง หีบอันประณีตใบหนึ่งก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าทุกคน
เธอเปิดหีบออกแล้วหยิบเข็มเงินข้างในออกมาปักลงบนร่างของซือหม่าเลี่ยอย่างรวดเร็ว ตามด้วยเล่มที่สอง เล่มที่สาม…
พวกซือหม่าโยวเล่อมองดูซือหม่าโยวเย่ว์ปักเข็มเงินลงทั่วร่างซือหม่าเลี่ย แต่ละคนต่างสงสัยไม่น้อย ไม่รู้ว่าเข็มเหล่านี้มีประโยชน์เช่นไร
ผ่านไปครึ่งชั่วโมง ซือหม่าโยวเย่ว์ก็มีเหงื่อชุ่มเต็มหน้าผาก เมื่อปักเข็มเล่มสุดท้ายลงไปเรียบร้อยแล้วเธอจึงผ่อนลมหายใจออกทางปาก
“น้องห้า เสร็จแล้วหรือ” ซือหม่าโยวหรานสัมผัสความผ่อนคลายของซือหม่าโยวเย่ว์ได้จึงเอ่ยปากถาม
ซือหม่าโยวเย่ว์ใช้แขนเสื้อเช็ดเหงื่อบนหน้าผากแล้วเอ่ยว่า ”อืม ตอนนี้ควบคุมเอาไว้ได้ชั่วคราวแล้วล่ะ”
ทุกย่างก้าวของซือหม่าโยวเย่ว์จะต้องระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง มิอาจให้เกิดข้อผิดพลาดขึ้นได้แม้แต่น้อย นี่ทำให้เธอกดดันเป็นอย่างยิ่ง ยังดีที่ฝังเข็มสำเร็จในท้ายที่สุด จึงควบคุมพิษเอาไว้ที่ทรวงอกของซือหม่าเลี่ยได้
“ไอทะมึนบนใบหน้าท่านปู่หายไปแล้ว!” ซือหม่าโยวเล่อมองใบหน้าซือหม่าเลี่ยพลางพูดขึ้นอย่างตื่นเต้นยินดี
ซือหม่าโยวหรานและเส่าหลิงมองตาม ก็พบว่าไอทะมึนบนใบหน้าเขาหายไป กลับมามีสีหน้าปกติแล้ว แต่ยังซีดเผือดอยู่เล็กน้อยเพราะอาการบาดเจ็บ
“น้องห้า เจ้าทำสิ่งนี้ได้อย่างไรกัน” ซือหม่าโยวหรานถาม
“ข้าใช้เข็มเงินผนึกจุดฝังเข็มของท่านปู่เอาไว้น่ะ”
“จุดฝังเข็มคือสิ่งใดหรือ” ซือหม่าโยวเล่อขมวดคิ้วถาม “ยังมีอีก น้องห้า เจ้ารู้วิชาแพทย์ตั้งแต่เมื่อใดกัน”
“ข้ารู้มาตลอดนั่นแหละ เพียงแต่ท่านไม่ทราบเท่านั้นเอง” ซือหม่าโยวเย่ว์พูด “ท่านปู่ยังขยับไม่ได้ชั่วคราว พวกท่านคอยดูแลเขาอยู่ที่นี่ก่อนนะ ข้าจะกลับห้องไปพักผ่อนสักหน่อย ลองดูว่าจะคิดวิธีอะไรออกมาได้หรือไม่
“อืม เจ้าไปพักผ่อนเถิด” ซือหม่าโยวเล่อพูด
ซือหม่าโยวเย่ว์เก็บเข็มเงินที่เหลือกลับเข้าไปในแหวนเก็บวัตถุ หลังจากนั้นจึงหมุนกายออกไป
ซือหม่าโยวหรานมองเงาหลังของเธอ นัยน์ตามีแววสงสัยวาบผ่าน
ซือหม่าโยวเย่ว์มาที่ห้องข้างๆ มิได้สนใจว่าก่อนหน้านี้จะเป็นของใคร แต่ตอนนี้กลายเป็นของเธอแล้ว เธอลงกลอนประตูจากด้านใน หลังจากนั้นจึงหายตัวเข้าไปในมณีวิญญาณ เธออยากลองดูสักหน่อยว่าที่นี่จะมีวิชาแพทย์ที่พอจะช่วยเหลือเธอได้อยู่บ้างหรือไม่ แต่คิดไม่ถึงว่าพอเธอเข้าไปแล้วจะพบกับหมัวซา
“หมัวซา ท่านมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรกัน ท่านมิได้อยู่ข้างๆ ต้นผลอสรพิษทองคำหรอกหรือ”
“ไอดำทะมึนบนทรวงอกของท่านปู่เจ้ามีรูปร่างหน้าตาเช่นไร” หมัวซาถามตรงๆ
ซือหม่าโยวเย่ว์รู้ว่าหมัวซาเข้าออกมณีวิญญาณได้อย่างอิสระ จึงทายถูกว่าเขาล่วงรู้เรื่องราวของโลกภายนอกได้ ดังนั้นจึงไม่ประหลาดใจที่เขารู้สถานการณ์ของซือหม่าเลี่ยเลย
เธอคิดไปคิดมาแล้วเอ่ยว่า “เหมือนรอยขาไก่ แต่มีหกนิ้วน่ะ” ซือหม่าโยวเย่ว์พูด
“หกนิ้วหรือ ที่แท้เป็นเช่นนี้เอง” หมัวซาพูดพึมพำ
ซือหม่าโยวเย่ว์เห็นปฏิกิริยาของหมัวซาจึงเอ่ยถามว่า “ท่านรู้หรือ”
“นั่นมิใช่พิษแต่อย่างใด เป็นไอมารต่างหากเล่า” หมัวซาพูด
“อะไรนะ ไอมารหรือ!” ซือหม่าโยวเย่ว์เบิกตากว้าง “ท่านมิได้บอกว่าคนของเผ่ามารอยู่ที่ภพมารกันหมดหรอกหรือ แล้วจะมีไอมารบนร่างท่านปู่ได้อย่างไรเล่า”
“ข้าจะไปรู้ได้อย่างไรกัน ข้ามิได้กลับไปตั้งหลายปีแล้วนะ” หมัวซาพูด “บนร่างท่านปู่เจ้ามีไอมารได้อย่างไร เจ้ารอเขาฟื้นขึ้นมาแล้วถามเขาก็สิ้นเรื่องแล้วนี่”
“ในเมื่อเป็นไอมาร ท่านมีวิธีช่วยเหลือท่านปู่ข้าหรือไม่เล่า” ซือหม่าโยวเย่ว์มองหมัวซาอย่างเปี่ยมความหวัง
หมัวซาไม่เคยเห็นซือหม่าโยวเย่ว์มองตนด้วยสายตาเช่นนี้มาก่อนเลย ก่อนหน้านี้ไม่ว่าจะเป็นข่มขู่เขา ขอบคุณเขา หรือเมินเฉยใส่เขา แววตาของเธอล้วนแฝงความห่างเหินจางๆ เอาไว้ทั้งสิ้น แต่ตอนนี้เขากลับมองเห็นความไว้เนื้อเชื่อใจสายหนึ่งในแววตาของเธอ สิ่งนี้ทำให้ในใจของเขาผู้ไม่เคยสัมผัสความไว้เนื้อเชื่อใจมาก่อนเกิดความรู้สึกแปลกประหลาดขึ้นมา
“เป็นอย่างไรบ้าง สรุปแล้วมีวิธีหรือไม่” ซือหม่าโยวเย่ว์เห็นหมัวซาไม่พูดไม่จาจึงเอ่ยกระตุ้น
หมัวซาเก็บงำความรู้สึกแปลกประหลาดในใจตนแล้วพูดว่า “วิธีน่ะมีอยู่หรอก ทั้งยังง่ายดายอย่างยิ่งอีกด้วย แต่หลังจากขจัดไอมารไปแล้วร่างกายของท่านปู่เจ้าอาจได้รับความเสียหายได้”
“เช่นนั้นจะทำอย่างไรดีเล่า” ซือหม่าโยวเย่ว์ถาม
“ขอเพียงแค่เจ้ามียาวิเศษยอดราชันสักเม็ดหนึ่งก็ไม่เป็นไรแล้วล่ะ” หมัวซาพูด
“ยาวิเศษยอดราชันหรือ นั่นมันยาวิเศษอันใด ขั้นใดหรือ” ซือหม่าโยวเย่ว์ถาม
“ยาวิเศษที่ช่วยให้คนฟื้นฟูร่างกาย ขั้นสี่” หมัวซาพูด
“ขั้นสี่หรือ!” ซือหม่าโยวเย่ว์ได้ฟังก็อึ้งไปเสียแล้ว ตอนนี้จะให้เธอไปหายาวิเศษยอดราชันขั้นสี่มาจากไหนเล่า “ถ้าหากไม่ได้จริงๆ เช่นนั้นก็ยื้อชีวิตท่านปู่เอาไว้ก่อนแล้วค่อยคิดหาวิธีฟื้นฟูพลังยุทธ์ในภายหลังก็ได้”
“ข้าดูเรียบร้อยแล้ว ภายในมณีวิญญาณมีเครื่องยาของยาวิเศษยอดราชันอยู่” หมัวซาพูด
ซือหม่าโยวเย่ว์เงยหน้าขึ้นมองเขาแล้วกะพริบตาปริบๆ “ใช่แล้ว ท่านหลอมยาได้นี่นา ท่านช่วยข้าหลอมยาวิเศษยอดราชันสักเม็ดหนึ่งดีหรือไม่”
“อยากให้ข้าลงมือก็ย่อมได้ แต่เจ้าต้องรับปากข้าเรื่องหนึ่งนะ” หมัวซาพูด
ซือหม่าโยวเย่ว์สะดุ้ง จากนั้นสีหน้าก็เข้มขึ้นแล้วเอ่ยว่า “ถ้าหากท่านช่วยท่านปู่ข้าได้ ข้ารับปากท่าน รอให้ถึงเวลาที่ข้าตัดสายสัมพันธ์แห่งพันธสัญญาได้ ข้าจะตัดสายสัมพันธ์แห่งพันธสัญญาให้”
หมัวซาคิดไม่ถึงว่าซือหม่าโยวเย่ว์จะล่วงรู้ความคิดของเขา จากนั้นจึงนึกถึงความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาทั้งสอง เธอจะรู้ก็มิใช่เรื่องแปลกเลย
แต่เขาก็มิได้รู้สึกไม่ดี ด้วยสถานะของเขาแล้ว จะผูกพันธะกับมนุษย์คนหนึ่งไปชั่วชีวิตได้อย่างไรกัน!
“ในเมื่อเจ้ารู้ เช่นนั้นก็ไม่ต้องให้ข้าพูดแล้ว ข้าหลอมยาวิเศษยอดราชันได้ แต่สุดท้ายยังต้องให้เจ้ามาใส่พลังวิญญาณเข้าไปด้วย มิฉะนั้นไม่ต้องใช้ไอมารหรอก แค่ยาวิเศษนั่นก็เอาชีวิตเขาได้แล้ว” หมัวซาพูด
“ข้ารู้ เช่นนั้นพวกเราจะเริ่มกันเมื่อไหร่ดี” ซือหม่าโยวเย่ว์ถาม
“รอให้เจ้าพักผ่อนเสร็จก่อนก็ได้” หมัวซาพูด “ข้าจะอาศัยจังหวะนี้เตรียมเครื่องยา”
“อืม” ซือหม่าโยวเย่ว์พยักหน้า มายังบริเวณที่ปลูกผลอสรพิษทองคำเอาไว้แล้วนั่งขัดสมาธิลง
ต้นผลอสรพิษทองคำนี้มีประโยชน์ในการฟื้นฟูวิญญาณ ทั้งยังช่วยให้เธอฟื้นฟูพลังจิตได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย
เมื่อเธอรู้สึกว่าตัวเองฟื้นฟูขึ้นมาพอสมควรแล้ว หมัวซาก็มาปรากฏขึ้นตรงหน้าเธอได้ทันเวลาพอดีแล้วพูดว่า “ข้าเตรียมเครื่องยาเสร็จเรียบร้อยแล้ว พวกเราเริ่มต้นกันได้เลย ยาวิเศษขั้นสี่นี้ต้องการพลังวิญญาณไม่น้อย เจ้าต้องเตรียมการให้ดี ยาวิเศษเหล่านี้เป็นยาวิเศษฟื้นฟูพลังวิญญาณที่ข้าเพิ่งหลอมขึ้นมา ในร่างกายเจ้ามีไอพลังมืดมิดอยู่ หลังจากกินเข้าไปแล้วย่อมไม่เกิดความผิดปกติ”
…………………