“สองหมื่นห้า”
“สามหมื่น”
“สี่หมื่น”
“……”
“หนึ่งแสนห้า”
“……”
ซือหม่าโยวเย่ว์มองดูพวกเขาเสนอราคากันจากชั้นบน เพราะทุกคนล้วนรู้ดีว่านี่คือสิ่งที่เธอนำมาประมูล ดังนั้นเธอจึงทำได้เพียงแค่ชมดูเท่านั้น มิอาจเข้าร่วมประมูลด้วยได้
ทันใดนั้นซือหม่าโยวเย่ว์เหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ เธอจึงกดปุ่มเรียกพนักงาน จากนั้นก็มีสาวใช้เข้ามาหาในทันที
“นายท่าน มีสิ่งใดให้ข้ารับใช้ท่านหรือเจ้าคะ”
“ข้าอยากพบผู้จัดการของพวกเจ้าหน่อยน่ะ เดี๋ยวนี้เลย”
“ท่านโปรดรอสักครู่นะเจ้าคะ”
สาวใช้ถอยออกไป เพียงไม่นานผู้จัดการคนหนึ่งก็เข้ามาหา
“นายท่านมีเรื่องอันใดหรือไม่ขอรับ” ผู้จัดการถามอย่างเคารพ
“อืม ข้าอยากเพิ่มเงื่อนไขข้อหนึ่งสำหรับสิ่งของประมูลของข้า…”
ที่ชั้นล่าง เมื่อยาวิเศษเม็ดแรกไปถึงราคาสามแสนแล้วจึงหยุดลง ในขณะที่ทุกคนคิดว่าถึงเวลาประกาศราคาแล้วนั้นเอง เว่ยจือฉีก็ส่งเสียงออกมาในทันใด “สามแสนสามหมื่น”
“สามแสนสามหมื่น ยังมีคนให้เพิ่มอีกหรือไม่เจ้าคะ” จวินหลานถาม
“สามแสนห้า” ไป๋อวิ๋นฉีตะโกนมาจากภายในห้องส่วนตัวของกลุ่มทหารรับจ้างนกนางนวล
“สามแสนแปด”
“สี่แสน” ซีเย่ว์ซีเสนอราคา
“สี่แสนสอง” เว่ยจือฉีเสนอราคาอีก
“สี่แสนห้า” ไป๋อวิ๋นฉีตามมา
“สี่แสนหก” กลุ่มทหารรับจ้างโอหังชอบเป็นอริกับพวกไป๋อวิ๋นฉียิ่งนัก
“สี่แสนเจ็ด” ไป๋อวิ๋นฉีพูด
“สี่แสนแปด” ฉินหว่านตามมาติดๆ
“สี่แสนเก้า” เสียงของไป๋อวิ๋นฉีแฝงความลำบากใจเอาไว้อยู่บ้าง ในสายตาของคนนอกก็ดูเหมือนว่าเขาถึงขีดจำกัดแล้ว
ภายในห้องส่วนตัว ไป๋หยวนฉุนและซุนหรานหร่านมองบุตรชายของตนอย่างประหลาดใจ สี่แสนกว่าสำหรับกลุ่มทหารรับจ้างอย่างพวกเขาก็ถือเป็นเงินจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว แต่ถ้าหากเปลี่ยนแปลงลักษณะทางกายภาพของบุตรชายตนได้จนทำให้พรสวรรค์ของเขาเพิ่มมากขึ้นได้จริง พวกเขาก็จะยอมจ่าย
ต่อมาเหลือเพียงแค่ฉินหว่านกับไป๋อวิ๋นฉีสองคนเท่านั้นที่เสนอราคา ยาวิเศษเม็ดหนึ่งราคาสี่แสนกว่า คนอื่นๆ จึงพากันเบนเป้าหมายไปยังสามเม็ดที่เหลือแทนแล้ว หากตามไปกับคนไม่ฉลาดทั้งสองคนนี้ก็เท่ากับขุดหลุมฝังตัวเองน่ะสิ
“ห้าแสน” ฉินหว่านเสนอราคา
“ห้าแส… ช่างเถิด เจ้าร้ายกาจนัก ข้ายกให้เจ้าก็ได้” ไป๋อวิ๋นฉีพูดอย่างลำบากใจเป็นที่สุด
“ห้าแสน ยังมีราคาสูงกว่านี้อีกหรือไม่เจ้าคะ” จวินหลานถาม “ถ้าหากไม่มีแล้ว ห้าแสนครั้งที่หนึ่ง ห้าแสนครั้งที่สอง ห้าแสนครั้งที่สาม ยาวิเศษร้อยโคจรเม็ดแรกตกเป็นของคุณหนูฉินนะเจ้าคะ ยินดีกับท่านด้วยที่ได้ครอบครองสิ่งล้ำค่านี้เจ้าค่ะ”
สาวใช้คนหนึ่งเข้ามาแล้วหยิบขวดหยกออกมาใส่ยาวิเศษร้อยโคจรเม็ดหนึ่งลงไป ก่อนจะเข้าไปแลกเปลี่ยนกับเงินภายในห้องส่วนตัว
ถึงแม้ว่าฉินหมิง บิดาของฉินหว่านจะเจ็บปวดอยู่บ้าง ห้าแสนเชียวนะ แลกเปลี่ยนกับยาวิเศษเม็ดเดียว แต่เมื่อคิดๆ ดูแล้ว ถ้าหากกินลงไปแล้วกลายเป็นผู้มีพรสวรรค์ได้จริง ในใจก็พอรับได้อยู่บ้าง
ฉินหว่านมองดูยาวิเศษนั้นแล้วนัยน์ตาก็เปล่งประกาย อดที่จะหยิบเอายาวิเศษนั้นออกมาดูแล้วดูอีกมิได้
“ท่านพ่อ ข้ากินตอนนี้เลยได้หรือไม่เจ้าคะ”
“อย่ารีบร้อนไปเลย ตอนนี้ยังอยู่นอกบ้าน รอกลับไปก่อนแล้วค่อยกินก็ยังไม่สายหรอกนะ” ฉินหมิงเอ่ยสกัดเอาไว้
“ก็ได้เจ้าค่ะ” ฉินหว่านวางยาวิเศษลงแล้วดูการแย่งชิงในรอบที่สอง
ซือหม่าโยวเย่ว์คิดไม่ถึงว่ายาวิเศษเม็ดแรกจะตกไปอยู่ในมือของฉินหว่าน แต่เมื่อนึกถึงว่าพวกนางต้องจ่ายไปถึงห้าแสนตำลึงทอง ก็ยังดีใจอยู่ไม่น้อย
เริ่มต้นประมูลยาวิเศษร้อยโคจรเม็ดที่สอง ราคาก็ยังคงพุ่งสูงขึ้น ทุกครั้งที่เริ่มซาลงไป เว่ยจือฉีและไป๋อวิ๋นฉีก็จะเรียกราคาอยู่ครู่หนึ่ง เพื่อกระตุ้นให้ผู้อื่นเสนอราคาบ้าง
ในที่สุดก็ประมูลเม็ดนี้ไปได้ในราคาห้าแสนห้าหมื่น
หลังจากเม็ดที่สองถูกประมูลออกไปแล้ว จวินหลานก็ได้ยินว่าด้านหลังมีคนเรียกตน จึงชะลอการประมูลสองเม็ดหลังเอาไว้ก่อน แล้วยิ้มให้ทุกคนอย่างขอโทษขอโพย นางมาตรงหน้าเวทีแล้วฟังผู้จัดการพูดเสียงเบาสองสามประโยค ก่อนจะมองไปยังห้องส่วนตัวหมายเลขสามแวบหนึ่ง
ในขณะที่นางกลับไปยังเวทีประมูลอีกครั้งหนึ่งนั้นก็กลับไปมีท่าทีทรงเสน่ห์เช่นเมื่อครู่ดังเดิม แล้วพูดว่า “เมื่อครู่ผู้จัดการบอกว่าเจ้าของยาวิเศษร้อยโคจรได้เสนอเงื่อนไขเพิ่มเติมว่าจะประมูลขายยาวิเศษสองเม็ดที่เหลือพร้อมกันเลยเจ้าค่ะ”
“ปัง…”
ข่าวที่ได้ยินทำให้ผู้คนเบื้องล่างตื่นตระหนกกันพอสมควร เดิมทียังคิดว่ามีโอกาสอีกสองครั้ง แต่ตอนนี้กลับเหลือเพียงแค่ครั้งเดียวแล้ว ถ้าหากคราวนี้ยังประมูลไม่ได้อีก เช่นนั้นก็หมายความว่าตนพลาดยาวิเศษร้อยโคจรไปแล้ว
“คนผู้นี้ช่างใจร้ายเสียจริง!” ผู้คนไม่น้อยก่นด่ากันอยู่ในห้องส่วนตัว
“พวกเราไม่มีกฎห้ามไม่ให้เปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการประมูลในระหว่างทำการประมูล ดังนั้นเงื่อนไขของนายท่านก็มิได้ฝ่าฝืนกฎแต่อย่างใด ตอนนี้พวกเราจึงจะประมูลยาวิเศษร้อยโคจรสองเม็ดที่เหลือไปพร้อมกันเลยนะเจ้าคะ ราคาขั้นต่ำสี่หมื่น เริ่มต้นเสนอราคาได้เลยเจ้าค่ะ”
ทั่วทั้งโรงประมูลเงียบงันไปหลายวินาที จากนั้นจึงเริ่มต้นเสนอราคากันอย่างบ้าคลั่งโดยไม่จำเป็นต้องให้พวกเว่ยจือฉีคอยล่อหลอกอีก ราคาก็พุ่งสูงไปถึงหนึ่งล้านแล้ว
“หนึ่งล้านห้าหมื่น” ซีเย่ว์ซีตะโกนอย่างเจ็บปวดอยู่บ้าง
เดิมทีนางก็ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะต้องจ่ายเงินล้านกว่าเพื่อซื้อยาวิเศษร้อยโคจร ตอนแรกคิดว่าจะจ่ายเงินไม่กี่แสนเพื่อซื้อสักเม็ด ตอนนี้ต้องจ่ายเงินเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว ช่างทำให้คน…หงุดหงิดนัก!
ซือหม่าโยวเย่ว์เห็นผู้คนเบื้องล่างเสนอราคากันอย่างเจ็บปวด จึงยิ่งราดน้ำมันลงบนกองเพลิง “ทุกท่านอย่าได้คิดว่าข้ากำลังหลอกลวงทุกท่านเลย ยาวิเศษร้อยโคจรนี้กินสองเม็ดจะดีที่สุด เม็ดเดียวมิอาจขจัดสิ่งแปลกปลอมในร่างกายได้หมด มากกว่าสองเม็ดก็ไร้ผลเช่นกัน ดังนั้นสองเม็ดจึงเป็นจำนวนที่เหมาะสมที่สุด เปลี่ยนแปลงลักษณะทางกายภาพได้สมบูรณ์แบบที่สุด ข้าทำเช่นนี้ก็เพื่อประโยชน์ของผู้ที่ประมูลไปได้เท่านั้น”
เมื่อได้ฟังวาจาของซือหม่าโยวเย่ว์ ความหดหู่ในใจของผู้คนเหล่านั้นจึงถูกขจัดทิ้งไป แล้วเริ่มต้นเสนอราคากันต่อ
ขอเพียงแค่เป็นคนที่มีกำลังมากพอ ย่อมต้องอยากก้าวเข้ามาร่วมด้วยทั้งสิ้น
ในที่สุดยาวิเศษสองเม็ดนี้ก็ถูกประมูลไปโดยสมาคมนักหลอมยาในราคาหนึ่งล้านแปดแสน
ซีเย่ว์ซีเห็นยาวิเศษร้อยโคจรหลุดมือไปก็หงุดหงิดไม่น้อย นางย่อมคิดไม่ถึงว่าสุดท้ายแล้วจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น ดังนั้นจึงมิได้พกตำลึงทองมามากมายถึงเพียงนั้น จึงต้องมองดูสมาคมนักหลอมยาประมูลไปต่อหน้าต่อตา
“องค์หญิงอย่าทรงพิโรธไปเลยนะเพคะ ถึงไม่มีสองเม็ดนั้นแล้ว แต่ในมือของคุณหนูฉินก็มีอยู่เม็ดหนึ่งแล้วมิใช่หรือเพคะ พอถึงตอนนั้นพวกเราก็ให้พวกเขาถวายยาวิเศษเม็ดนั้นมาให้ พระองค์ก็ยกระดับพรสวรรค์ของพระองค์ได้เช่นกันนี่เพคะ” ผู้ติดตามเอ่ยแนะนำ
“แต่เพียงเม็ดเดียวผลลัพธ์ก็ยังไม่ดีที่สุดอยู่ดี ข้าต้องการสองเม็ด!” ซีเย่ว์ซีหน้าตาบูดบึ้ง
“พวกเรามิอาจแตะต้องสมาคมนักหลอมยาได้ แต่ก็ยังมีเม็ดอื่นอยู่อีกเม็ดมิใช่หรือเจ้าคะ พอถึงตอนนั้นพวกเราย่อมต้องมีวิธีรวบรวมยาวิเศษร้อยโคจรสองเม็ดมาถวายองค์หญิงได้อย่างแน่นอนเจ้าค่ะ!”
“เช่นนี้แหละดีที่สุดแล้ว!” ซีเย่ว์ซีได้ฟังวาจานี้ สีหน้าจึงค่อยคลายลงเล็กน้อย
ซือหม่าโยวเย่ว์เบิกบานใจอยู่ในห้องส่วนตัว เม็ดหนึ่งห้าแสน อีกเม็ดห้าแสนห้า ส่วนที่เหลืออีกสองเม็ดได้ราคาหนึ่งล้านแปดแสน รวมกันแล้วได้มากถึงสองล้านแปดแสนห้าหมื่น บวกกับอีกหกหมื่นห้าของยาวิเศษน้ำแข็งยะเยือก วันนี้เธอทำเงินได้ทั้งสิ้นถึงสองล้านเก้าแสนหนึ่งหมื่นห้าพันเลยทีเดียว หักไม่กี่หมื่นสำหรับค่านายหน้าและที่ซื้อของไปออก เธอก็ยังเหลืออยู่อีกถึงสองล้านกว่า
“รวยแล้ว รวยแล้ว!” เธอยิ้มจนตาหยีเหลือเท่าเส้นด้าย จนถูกเจ้าคำรามน้อยดูแคลนรอบหนึ่ง
กระแสของยาวิเศษร้อยโคจรยังไม่ทันหายไป สิ่งของประมูลชิ้นสุดท้ายของคืนนี้ก็ถูกยกขึ้นมา
บนถาดมีเพียงแค่ตำราเล่มหนึ่งนอนนิ่งอยู่ แต่กลับดึงดูดบรรยากาศทั่วทั้งลานประมูลเอาไว้เฉกเช่นเดียวกับเมื่อครู่
จวินหลานหยิบตำราทักษะวิญญาณขึ้นมาให้ทุกคนดู หลังจากนั้นจึงวางกลับลงไปแล้วพูดว่า “นี่คือสิ่งของประมูลชิ้นสุดท้ายของพวกเราในคืนนี้ ทักษะวิญญาณธาตุน้ำแข็งระดับสีดำขั้นสูง เป็นที่รู้กันโดยทั่วไปว่าธาตุลม หิมะ และน้ำแข็งนั้นเรียกได้ว่าเป็นธาตุที่พบเห็นได้ยาก ทักษะวิญญาณนี้ก็มีอยู่น้อยนิดเช่นกัน และทักษะวิญญาณธาตุน้ำแข็งเล่มนี้เป็นระดับสีดำขั้นสูง เป็นทักษะวิญญาณที่ทุกคนถวิลหาแม้ยามหลับ ราคาขั้นต่ำสามหมื่น เริ่มต้นเสนอราคาได้เจ้าค่ะ”
ซือหม่าโยวเย่ว์ได้ฟังวาจาของจวินหลานแล้วก็หรี่ตาทั้งสองลงพลางเอ่ยพึมพำว่า “ทักษะวิญญาณธาตุน้ำแข็ง ดูเหมือนว่าตอนนี้พวกเราจะขาดแคลนสิ่งนี้นี่แหละ”
…………………………………