สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย – บทที่ 326 สาขาย่อยเกิดเรื่องแล้ว

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

บทที่ 326 สาขาย่อยเกิดเรื่องแล้ว

บทที่ 326 สาขาย่อยเกิดเรื่องแล้ว

ณ เมืองซูโจว

มู่ซืออวี่มองตู้เสื้อผ้าทางซ้าย จากนั้นจึงมองตู้เสื้อผ้าที่อยู่อีกฝั่งของร้าน

“เป็นอย่างไร สับสนของเลียนแบบกับของจริงล่ะสิ” เจิ้งซูอวี้เอ่ยอยู่ข้าง ๆ “ครั้งแรกที่ข้าเห็นของชิ้นนี้ ข้าเองก็ประหลาดใจเช่นกัน”

“นอกจากตู้เสื้อผ้าแล้ว ยังมีสินค้าเลียนแบบอย่างอื่นอีกหรือไม่?”

“ยังมีอีกไม่น้อยเลย” เจิ้งซูอวี้กล่าว “ข้าได้ยินคนพูดว่า สินค้าเลียนแบบเหล่านี้ค่อนข้างเป็นที่นิยม ทันทีที่ออกมาก็ขายเกลี้ยงทันที เขาเพิ่มเงินถึงได้ตู้ใบนี้มาจากอีกคน”

“ผู้ใดออกแบบ?”

“เจี่ยงจงน่ะสิ”

“ให้เจี่ยงจงนำภาพแบบของเขามาให้ข้า”

เจี่ยงจงกำลังทำสินค้าชิ้นใหม่อยู่ในลานบ้าน เมื่อได้ยินว่านางอยากได้ภาพแบบ เขาจึงนำมาให้ด้วยตนเอง

เมื่อเขาเห็นสินค้าสองชิ้นที่หน้าตาเหมือนกันราวกับแกะ เจี่ยงจงก็เอ่ยขึ้นว่า “มีที่ใดทำได้ไม่ดีหรือไม่ขอรับ?”

“ตู้เสื้อผ้าสองหลังนี้ เจ้าคิดว่าหลังไหนดีกว่า?” มู่ซืออวี่ถาม

เจี่ยงจงเคาะบนบานประตู เดินไปรอบ ๆ หนึ่งครั้ง สุดท้ายจึงพบว่ามีบางอย่างผิดปกติ

“หลังนี้ไม่ใช่ที่ข้าทำ ถึงแม้สีของไม้ดู ๆ ไปแล้วจะต่างกันไม่มาก แต่ไม่ใช่ไม้ชนิดเดียวกัน ตู้เสื้อผ้าในร้านเราป้องกันแมลง อีกทั้งยังมีกลิ่นหอมจาง ๆ แต่ตู้เสื้อผ้าทางซ้ายไม่มี นอกจากนี้สินค้าร้านของเราในมุมลับจะมีลวดลายเฉพาะของร้านเราสลักอยู่ตามที่อาจารย์บอกเอาไว้ แต่หลังทางซ้ายไม่มีขอรับ”

“เจ้าคิดว่าคุณภาพของสินค้าเลียนแบบนี้เป็นอย่างไร?”

“นอกจากเป็นไม้ธรรมดาทั่วไปแล้ว อย่างอื่นพอใช้ได้ขอรับ ข้ารู้สึกว่าคนที่ทำสินค้าชุดนี้ออกมานั้นพอมีพรสวรรค์อยู่บ้างจริง ๆ” เจี่ยงจงตอบตามจริง

“ซูอวี้ หากคนของท่านสามารถหาสินค้าชุดนี้ออกมาได้ คิดว่าคงสามารถหาคนที่หลอกลวงเราได้เช่นกัน เรื่องนี้ต้องรบกวนท่านแล้ว” มู่ซืออวี่เอ่ยขึ้น “พวกเราต้องลากคนผู้นี้ออกมาให้ได้”

เรื่องการตามหาคนทำสินค้าลอกเลียนแบบถูกส่งมอบให้เจิ้งซูอวี้ มู่ซืออวี่จึงไม่ไปยุ่งกับเรื่องนี้อีก

ประการแรกคือ นางไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเมืองซูโจวมากนัก เจิ้งซูอวี้ใช้ชีวิตอยู่ที่นี่มาพักหนึ่งแล้วย่อมมีเส้นสาย สามารถตรวจสอบได้ง่ายกว่า

ประการที่สองคือ ในเมื่อเจิ้งซูอวี้เป็นผู้รับผิดชอบดูแลสาขานี้ มู่ซืออวี่ก็ไม่อยากเข้าไปก้าวก่ายให้มาก นางมาที่นี่เพื่อออกแบบเรือนย่อยของจวนจงอ๋อง ไม่ใช่เพื่อมาแบ่งอำนาจของเจิ้งซูอวี้หรือทำให้อีกฝ่ายทำงานลำบาก

เดิมทีนึกว่าเรื่องสินค้าลอกเลียนแบบจะตรวจสอบออกมาได้ง่าย ๆ แต่เจิ้งซูอวี้กลับมาบอกนางว่าคนเหล่านั้นไม่ขายอีกแล้ว คิดจะตามเถาไปหาแตง กลับพบว่าเถานั้นถูกถอนรากถอนโคนไปแล้ว ร่องรอยแม้เพียงเล็กน้อยก็ไม่เหลือไว้

ยามบ่าย มู่ซืออวี่กำลังตรวจสมุดบัญชีของร้านสาขาย่อย เมื่อได้ยินเสียงเอะอะโวยวายจากด้านนอกจึงออกไปดู

มีบางอย่างลอยมาทางศีรษะนาง

ทว่าจื่อซูเอามือมาบังไว้ทันที

สิ่งที่ลอยมาเป็นกล่องไม้กล่องหนึ่ง หากกล่องไม้นั่นกระทบศีรษะนาง วันนี้เห็นทีว่าจะเสียโฉมแล้ว

ทั้งร้านตกอยู่ในความวุ่นวาย อีกทั้งคนก่อปัญหายังทุบทำลายข้าวของภายในร้านไม่หยุด

คนงานในร้านกำลังสู้อยู่กับคนก่อปัญหา

“แจ้งทางการ” มู่ซืออวี่หันไปสั่งจื่อเยวี่ยน

จื่อเยวี่ยนยังไม่ได้เดินออกไปสักก้าว ตอนนี้เองคนของทางการก็มาปิดล้อมสถานที่ไว้

“นำตัวไปให้หมด” หัวหน้านักการออกคำสั่ง

เจ้าหน้าที่ทางการหลายคนเข้ามารุมล้อมมู่ซืออวี่และลูกน้องทันที

เหลือแค่จะลงไม้ลงมือกับพวกเขาเท่านั้น แต่เซี่ยคุนมาถึงพอดี ในมือของเขาถือป้ายอันหนึ่งเอาไว้ “นี่เป็นคนในครอบครัวของนายอำเภอลู่เมืองฮู่เป่ย นางเป็นฮูหยินครอบครัวขุนนาง พวกเจ้าคิดจะทำอะไร?”

“มีคนร้องเรียนมาว่าเรือนกรุ่นฝันขายสินค้าลอกเลียนแบบ ฮูหยินท่านนี้เป็นเถ้าแก่เนี้ยของเรือนกรุ่นฝันใช่หรือไม่ หากว่าใช่ ไม่ว่านางจะเป็นคนครอบครัวขุนนางหรือไม่ เช่นนั้นก็ต้องตามพวกเราไปสักเที่ยว” นักการเอ่ย

“ข้าเป็นเจ้านายของที่นี่ หากอยากจับก็จับข้า” เจิ้งซูอวี้เดินเข้ามาจากข้างนอก

“ท่านเจ้าหน้าที่ทางการ คนเหล่านี้ทุบข้าวของที่ร้าน พวกเขาไม่ควรอธิบายสักหน่อยหรือ?” มู่ซืออวี่เอ่ยขึ้น

นักการมองงูเจ้าถิ่นที่ทุบข้าวของในร้านแล้วเอ่ยว่า “พวกเขาทุบข้าวของในร้าน เพราะพวกเจ้าขายสินค้าเลียนแบบให้พวกเขา นี่เป็นการระบายโทสะ ไม่ใช่ความแค้นส่วนตน พวกข้าไม่สนใจ”

มู่ซืออวี่มองคนของเรือนกรุ่นฝันถูกคนเหล่านั้นนำตัวไปอย่างตะลึงงัน ทว่างูเจ้าถิ่นเหล่านั้นกลับไม่โดนอะไรแม้แต่น้อย

งูเจ้าถิ่นเหล่านั้นเกิดความฮึกเหิมขึ้นมา คิดจะย้ายข้าวของในร้านออกไป ทว่าเมื่อเห็นเซี่ยคุนเตะคนหนึ่งลอยออกไป พวกเขาจึงรู้ว่าตนเตะแผ่นเหล็กเข้าให้แล้ว สุดท้ายก็วิ่งล้มลุกคลุกคลานอุตลุดหนีไป

“พี่ใหญ่เซี่ย ก่อนหน้านี้มีของเลียนแบบโผล่ออกมา เมื่อพวกเราคิดจะตรวจสอบ กลับหาร่องรอยไม่พบ จากนั้นก็มีคนมากล่าวหาว่าเราขายสินค้าลอกเลียนแบบ เจ้าหน้าที่ทางการพวกนี้ก็จงใจลำเอียง ผู้ใดมีสายตาเฉียบแหลมย่อมมองออกว่ามันไม่ยุติธรรม”

“นายอำเภอที่นี่ไม่ใช่ขุนนางใสสะอาดอะไร อย่างไรก็ตาม นอกจากประจบประแจงแล้ว นิสัยของคนผู้นี้เป็นคนสงบเสงี่ยมระแวดระวัง ข้ามีตราของลู่อี้อยู่ในมือ บางทีอาจต่อรองเงื่อนไขกับเขาได้”

ระหว่างที่เซี่ยคุนไปศาลาว่าการเพื่อต่อรอง มู่ซืออวี่ก็ไม่ได้นิ่งเฉยเช่นกัน นางให้สาวใช้สองคนไปสอบถามข่าวมา

ขอทานคนหนึ่งตามนางมาด้วย

“จื่อซู ให้เหรียญเขาสักหน่อยเถอะ” มู่ซืออวี่เห็นขอทานคนนั้นตามนางมา จึงบอกให้จื่อซูนำเงินให้เขา

ทันทีที่จื่อซูนำเหรียญออกมา ขอทานผู้นั้นพลันเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม “ขอบคุณฮูหยินที่ใจดี ในเมื่อฮูหยินจิตใจดีมอบลูกท้อให้ข้าน้อย ข้าน้อยก็จะมอบลูกลี้ให้ท่าน ข้าจะบอกเรื่องที่ฮูหยินอยากรู้”

“เจ้ารู้อะไร?” จื่อเยวี่ยนขวางทานขอทานไว้ จื่อซูเองก็ขวางอยู่อีกทางหนึ่ง

ขอทานผู้นั้นกล่าวยิ้ม ๆ “ข้าแค่ช่วยมาส่งคำพูด”

มู่ซืออวี่ฟัง ‘ข่าว’ จากขอทานอย่างนิ่งสงบ

เมื่อได้ยินสิ่งที่เขาบอกแล้ว จึงให้จื่อซูนำห้าตำลึงเงินให้เขา

“หากข่าวของเจ้าเป็นความจริง อีกสองวันกลับมาหาข้า ข้าจะตบรางวัลเพิ่ม หากเจ้ามีข่าวอื่นอีก ข้าก็จะซื้อด้วยราคานี้” มู่ซืออวี่กล่าว

“ฮูหยินใจกว้างยิ่งนัก เช่นนั้นนับจากนี้ไปข้าต้องทำการค้ากับฮูหยินอย่างแน่นอนแล้ว”

ครั้นพวกนางกลับมา มู่ซืออวี่ก็นำข่าวที่ได้มาถ่ายทอดให้เซี่ยคุนฟัง

เมื่อฟังมู่ซืออวี่กล่าวจบ เซี่ยคุนก็คลับคล้ายคลับคลาจะรู้แล้วว่าคนผู้นั้นเป็นใคร

วันนี้เขาไปศาลาว่าการ คนผู้นั้นกลับมาหามู่ซืออวี่โดยไม่ได้มาหาเขา อย่างนี้ก็ดีเช่นกัน หากภายหน้ามีข่าวคราว จะได้ส่งต่อไปยังมู่ซืออวี่โดยตรง ไม่จำเป็นต้องวนไปมาเพื่อหาเขาอีก

เพียงแต่ฮูหยินลู่ผู้ที่ฉลาดหลักแหลมมาโดยตลอด กลับไม่พบว่ามีบางอย่างผิดปกติในตัวขอทานผู้นั้น

หรือว่านางแสร้งไม่ถามออกมา ในเมื่อนางไม่บอกความจริง เขาก็ไม่จำเป็นต้องบอกสิ่งที่นางไม่ควรรู้

“พี่ใหญ่เซี่ย ท่านพบกับนายอำเภอแล้ว เขาว่าอย่างไร?” มู่ซืออวี่ถาม

“เขากล่าวว่ามีคนร้องเรียนมา เขาจึงส่งคนไปจับกุมตามกระบวนการ” เซี่ยคุนตอบ “เขาไม่ยอมรับว่าสินค้าเหล่านั้นเป็นสินค้าเลียนแบบ เขาให้พวกเราหาหลักฐานมา หากไม่มีหลักฐาน เช่นนั้นก็ไม่มีทางปล่อยคนออกมา”

“นายอำเภอคนนี้ถูกคนติดสินบนมาหรือไร การตรวจสอบเป็นหน้าที่ของทางการ นึกไม่ถึงว่าเขาจะให้เราหาหลักฐานด้วยตนเอง จะให้ซูอวี้รออยู่ในคุกนานถึงเพียงนั้นไม่ได้” มู่ซืออวี่กล่าว “ดูเหมือนว่าคงทำได้เพียงลองเดิมพันดูแล้ว”

“เจ้าจะทำอะไร?” เซี่ยคุนถาม “ข้าใช้เงินเล็กน้อยจัดการแล้ว เจ้าหน้าที่ทางการเหล่านั้นเห็นเงินแล้วตาโตกันหมด อย่างน้อยสองสามวันนี้คงไม่เกิดอะไรขึ้น เจ้าอย่าบุ่มบ่ามไป ในเมื่อตอนนี้มีข่าวแล้ว ข้าจะไปหามาว่าผู้ใดบงการเรื่องนี้”

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

Status: Ongoing
ใครกล้าทำร้ายวายร้ายตัวน้อยทั้งสอง ภรรยาตัวร้ายอย่างข้าไม่ปล่อยไว้แน่

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท