บทที่ 336 ท่านมาที่นี่ได้อย่างไร?
บทที่ 336 ท่านมาที่นี่ได้อย่างไร?
ลู่อี้จ้องมองนางด้วยสายตาร้อนแรง
มู่ซืออวี่พูดด้วยความหงุดหงิด “ท่านออกไปก่อน ข้าจะคุยกับท่านหลังจากที่อาบน้ำเสร็จ”
“ข้าจะอยู่เป็นเพื่อน” ลู่อี้นวดไหล่ให้นาง “ข้าแค่ผ่านมาทางนี้เท่านั้น พรุ่งนี้ข้าต้องออกเดินทางแต่เช้า”
“อ้อ” แม้ว่าจะพอเดาได้ แต่ก็ยังรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยที่ได้ยินเขาพูดเช่นนั้น
ลู่อี้ก้มหน้าลงจุมพิตหน้าผากของนาง “ขอโทษนะ”
“เหตุใดต้องขอโทษด้วย เช่นนั้นข้าไม่ต้องขอโทษด้วยหรือ เพราะเมื่อเทียบกับฮูหยินคนอื่น ๆ แล้ว ข้าอยู่ไม่สุขเกินไป หากข้าเป็นสตรีธรรมดา ข้าก็ควรอยู่บ้าน ดูแลสามีและลูก ๆ อย่างซื่อสัตย์เท่านั้น”
มู่ซืออวี่พูดพลางเอาแขนโอบรอบคอของเขา
จื่อซูกำลังเฝ้าประตูอยู่ เมื่อนางเห็นจื่อเยวี่ยนใกล้เข้ามา นางก็รีบก้าวไปขวาง
“เกิดอะไรขึ้น?” จื่อเยวี่ยนถาม “ข้าเอาเสื้อผ้ามาให้ฮูหยิน”
“ค่อยนำไปให้ทีหลัง” จื่อซูหน้าแดงก่ำ “นายท่านมา”
จื่อเยวี่ยนเข้าใจทันทีจึงถอยหลังกลับไป
“เช่นนั้นวันนี้พวกเราก็ไม่ต้องคอยรับใช้แล้ว” จื่อเยวี่ยนพูด “เจ้าอยากร่ำสุราหรือไม่? วันนี้ข้าเหนื่อยนัก ดื่มสุราสักจอกน่าจะช่วยคลายความเมื่อยล้าของข้าได้”
จื่อเยวี่ยนวางเสื้อผ้าไว้ที่ประตู แล้วถอยกลับไปพร้อมจื่อซูเงียบ ๆ
เช้าวันรุ่งขึ้น เมื่อมู่ซืออวี่ตื่น ลู่อี้ก็จากไปแล้ว
มีจดหมายที่เขาเขียนวางไว้บนโต๊ะ จดหมายเต็มไปด้วยคำแนะนำของเขา แต่ไม่ได้กล่าวถึงเหตุผลที่เขามาที่เมืองซูโจวในครั้งนี้
แต่แม้ว่าเขาจะไม่พูด นางก็รู้ว่างานครั้งนี้คงยากลำบากน่าดู
“ฮูหยิน ท่านอ๋องรับสั่งให้ท่านไปพบ” ผู้ติดตามของจงอ๋องมาเชิญมู่ซืออวี่เป็นกรณีพิเศษ
มู่ซืออวี่จึงไปจวนจงอ๋องด้วยความรู้สึกหวาดหวั่น
…
จงอ๋องย่อตัวลงหน้ากรงเหล็ก มองดูเสือร้ายสองตัวกำลังต่อสู้แย่งชิงเนื้อกันอยู่ในกรงราวกับกำลังรับชมละคร
“เจ้าไม่คิดว่าสัตว์พวกนี้น่าขันหรือ?” จงอ๋องพูดขึ้น “เมื่อวานพวกมันยังเป็นคู่ผัวตัวเมียกันอยู่ ทว่าวันนี้กลับกลายเป็นศัตรูกันเพื่อเนื้อชิ้นเดียว”
“ท่านอ๋อง ท่านเรียกข้ามาหรือ?” มู่ซืออวี่ไม่ตอบคำถามของจงอ๋อง แต่ถามตามตรงว่าเหตุใดนางจึงต้องมาอยู่ที่นี่
จงอ๋องยืนขึ้นแล้วมองมู่ซืออวี่ “ข้ามีเรื่องสำคัญที่ต้องให้เจ้าทำ”
“ท่านอ๋อง โปรดบอกมาเถิด”
“เจ้าต้องสร้างห้องลับให้ข้าใหม่” จงอ๋องพูด “หลังจากเสร็จสิ้น ข้าจะตบรางวัลใหญ่แก่เจ้าแน่นอน”
“ท่านอ๋องหมายถึงช่องลับหรือ? ความจริงแล้วการสร้างช่องลับนั้นง่ายมากเจ้าค่ะ”
สายตาของจงอ๋องเย็นชา เขาจ้องมองนางด้วยความเย้ยหยัน “เจ้าเป็นคนฉลาด ไม่จำเป็นต้องให้ข้าพูดมากไม่ใช่หรือ? ข้ากำลังพูดถึงห้องลับ ไม่ใช่ช่องลับ”
มู่ซืออวี่ขมวดคิ้ว ก่อนนิ่งเงียบไปครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ขออภัยเจ้าค่ะ ท่านอ๋อง ขออภัยที่ข้าไม่อาจให้สัญญากับท่านได้”
“ตราบใดที่เจ้าออกแบบมันให้ข้า ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องอื่น” จงอ๋องลดเสียงลง “นี่เป็นความอดทนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ข้าให้เจ้าได้ หากเจ้าไม่เข้าใจสถานการณ์ปัจจุบัน…”
“ข้าตกลงเจ้าค่ะ” มู่ซืออวี่กล่าว “หากท่านมีข้อกำหนดใด ๆ โปรดบอกข้าได้เลยเจ้าค่ะ แล้วอีกสองสามวันข้าจะมอบภาพแบบให้ท่านเจ้าค่ะ”
จวนของผู้มีอำนาจเกือบทุกหลังจะต้องมีห้องลับ จึงไม่น่าแปลกใจที่จงอ๋องต้องการสร้างห้องลับในเรือนอื่น แต่ห้องลับนั้นเป็นห้องที่ไม่อาจเปิดเผยให้ผู้อื่นรู้ได้ หากสร้างเสร็จแล้ว นายช่างเหล่านั้นก็อาจจะ…
นั่นเป็นเหตุผลที่นางไม่ต้องการตอบตกลงในตอนแรก
แต่เมื่อเห็นว่าจงอ๋องตัดสินใจแล้ว แม้ว่านางปฏิเสธก็ไม่มีประโยชน์ นางจึงต้องหาทางช่วยชีวิตนายช่างเหล่านั้น
มีทางเดียวที่จะช่วยชีวิตนายช่างไว้ได้ นั่นคือการสร้างห้องลับที่แม้แต่ผู้ก่อสร้างก็ไม่เข้าใจ เพื่อให้นายช่างปลอดภัย
หลังกลับจากเรือนอ๋องจง มู่ซืออวี่ก็ขังตัวเองไว้ในห้องเพื่อวาดภาพแบบ
เป็นเวลาสองวันติดแล้ว นางไม่ได้ออกจากประตูด้วยซ้ำ
จื่อซูที่ถือจานอยู่ยืดคอเข้าไปดูข้างในแล้วถอนหายใจ
“ฮูหยินของพวกเราจะอยู่ในนั้นอีกนานขนาดไหนกัน หากยังไม่ออกมาอีก เห็ดคงจะขึ้นตัวแล้ว” จื่อซูพูด
“ไม่น่ารับงานสร้างเรือนย่อยของจงอ๋องเพื่อเงินเพียงเล็กน้อยเช่นนี้เลย ต้องมากังวลกับการประลองไหวพริบ ไหนจะต้องเค้นความกล้าหาญเผชิญหน้ากับจงอ๋องที่ดุร้ายราวกับเสือ ฮูหยินของเราไม่ได้พักผ่อนมานานแล้ว อีกไม่นานคงหมดแรงแล้ว” จื่อเยวี่ยนกล่าว
“ฮูหยินยังอยู่ในนั้นอยู่อีกหรือ?” เหวินอี้ปรากฏตัวขึ้น
“เจ้าค่ะ คุณชายเหวิน ท่านมาที่นี่เพื่อพบฮูหยินหรือ?” จื่อเยวี่ยนกระตือรือร้นมากเมื่อเห็นเหวินอี้ ทำให้เหวินอี้ผู้เคยถูกทอดทิ้งรู้สึกปลื้มใจเล็กน้อย “รีบเข้าไปเกลี้ยกล่อมฮูหยินของเราให้ดีเถิดเจ้าค่ะ”
เหวินอี้ถูกผลักเข้าห้องตำราไป
เมื่อประตูปิดลง เขาก็รู้สึกหมดหนทาง แต่ก็ยังคงเดินไปหามู่ซืออวี่
“ภาพแบบของท่าน…” เหวินอี้มองภาพแบบห้องลับแบบง่ายที่มู่ซืออวี่วาดไว้ “นี่คืออะไร?”
เมื่อมู่ซืออวี่เห็นเหวินอี้ นางก็อธิบายการออกแบบของนางอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
ที่นี่ไม่มีคนนอก นางจึงไม่ได้ปิดบังเหวินอี้ “แม้ว่าภาพแบบนี้จะดูเรียบง่าย แต่มันไม่ง่ายเลยที่จะสร้างมันขึ้นมา รู้หรือเปล่าว่าเหตุใดจงอ๋องถึงต้องการห้องลับ ก็เพราะว่าห้องลับนั้นมีไว้สำหรับการหลบหนี จึงเทียบเท่ากับชีวิตที่สองของเขา หากออกแบบให้เป็นห้องลับธรรมดา หลังจากสร้างห้องลับเสร็จสมบูรณ์ ข้าก็เกรงว่านายช่างเหล่านั้นจะต้องตาย ข้าจึงต้องใช้ความคิดอย่างมาก ในการสร้างห้องลับที่ผู้อื่นไม่อาจเข้าถึงได้สำหรับเขา”
เหวินอี้รู้มาจากจงอ๋องว่ามู่ซืออวี่เป็นผู้รับผิดชอบในการสร้างห้องลับ สิ่งที่เขาไม่ได้บอกมู่ซืออวี่ก็คือ จงอ๋องคิดจะสร้างห้องลับ เพราะเรื่องตลกที่เขาเคยพูดเมื่อครั้งเยาว์วัยเท่านั้น
เมื่อเห็นเหวินอี้มีสีหน้างุนงง มู่ซืออวี่ก็โบกมือตรงหน้าเขาสองสามครั้ง “เจ้าเป็นอะไรไป?”
“ท่านไม่ต้องกังวล ข้าจะไม่ปล่อยให้เขาทำร้ายนายช่างผู้บริสุทธิ์” เหวินอี้กล่าว
“เจ้าจะทำอะไรได้?” มู่ซืออวี่กล่าว “จงอ๋องอารมณ์แปรปรวน ต่อให้จะเป็นสามีของข้าพูดไม่กี่คำ ถ้าเขาจะบ้าคลั่งขึ้นมาก็ไม่มีใครควบคุมเขาได้”
ในเมืองซูโจวแห่งนี้ยังไม่มีอันตราย ทว่าทางด้านเมืองฮู่เป่ยนั้น…
“ใต้เท้าเวิน กลุ่มโจรปรากฏตัวที่ภูเขาจิ่วหยางนอกเมือง พวกมันช่ำชองเรื่องปล้นสะดมคนที่สัญจรผ่านไปมา เมื่อพวกมันพบหญิงสาว พวกมันจะรีบจับตัวไปเป็นนางบำเรอขอรับ” ผู้ใต้บังคับบัญชารายงาน
เวินเหวินซงอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก “ในเมื่อมีกลุ่มโจร แน่นอนว่าเป็นการดีที่สุดที่จะกำจัด แต่ใต้เท้าของเราไม่ได้อยู่ที่นี่ ทั้งยังมีคนไม่มากนักด้วย”
“ท่านใต้เท้าไม่ได้อยู่ที่นี่ แต่พวกเรายังอยู่” นักการเกาเดินเข้ามา “ใต้เท้าเวินออกคำสั่งได้เลย ต้าหนิว เอ้อร์หนิวกับข้าจะออกไปพร้อมกับคนสองร้อยคน เราจะช่วยเหลือคนเหล่านั้นแล้วเข้าบุกรังโจร”
“นักการเกา อย่าได้หุนหันพลันแล่น” เวินเหวินซงกล่าว “ไม่เคยมีโจรในเขตเมืองฮู่เป่ยของเรามาก่อน โจรเหล่านั้นปรากฏตัวขึ้นอย่างลึกลับ พวกเราต้องไปสืบหาข้อมูลกันก่อน”
ต้าหนิวกล่าวว่า “สิ่งที่ใต้เท้าเวินพูดเป็นความจริง กลุ่มโจรเหล่านี้ปรากฏตัวขึ้นในชั่วข้ามคืน ไม่ว่าพวกเราต้องการจะกำจัดพวกมันหรือไม่ก็ตาม ควรไปสืบดูก่อนที่จะตัดสินใจขอรับ”
“ตกลง ข้าจะฟังพวกท่าน” นักการเกากล่าว
เวินเหวินซงส่งเจ้าหน้าที่สองคนที่เก่งเรื่องการสืบข่าวไปยังภูเขาที่โจรใช้เป็นที่กบดานอย่างเงียบเชียบ
ทว่าไม่มีข่าวจากสองคนนั้น ราวกับว่าหินจมทะเลที่หายไปตลอดกาล
ขณะที่ทุกคนปรึกษากันว่าจะส่งผู้ใดขึ้นไปสืบบนภูเขาอีก เจ้าหน้าที่ที่ไปสืบข่าวคนหนึ่งก็กลับมา
“พวกเขา… พวกเขาทุกคนเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของเจี่ยงถิงจือ”
ทุกคนเงียบไปทันที