สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย – บทที่ 378 นายช่างสร้างบ้านคนหนึ่ง จะกล้าลงมือทำเรื่องนี้ได้อย่างไร

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

บทที่ 378 นายช่างสร้างบ้านคนหนึ่ง จะกล้าลงมือทำเรื่องนี้ได้อย่างไร?

บทที่ 378 นายช่างสร้างบ้านคนหนึ่ง จะกล้าลงมือทำเรื่องนี้ได้อย่างไร?

ในห้องตำรา นักการหวังรายงานให้มู่ซือวี่ฟังว่าฮูหยินเฉินไปที่ใด

“อันดับแรก นางไปพบพี่สาวน้องสาวที่รู้จักกันสองสามคน แล้วไปซื้อเป็ดย่างสองตัว จากนั้นจึงกลับมาที่ศาลาว่าการ”

“พบผู้อื่นอีกหรือไม่?”

“ไม่พบขอรับ”

“เช่นนั้นท่านไปหามาว่า ‘พี่สาวน้องสาว’ เหล่านี้มีปัญหาอะไร” มู่ซืออวี่กล่าว “ขอแค่เพียงพวกเขาเคยติดต่อกัน จะต้องตรวจสอบให้ถี่ถ้วน เฉินหู่ออกไปไม่ได้ เพียงแค่จับตาดูฮูหยินเฉินเอาไว้คงไม่ยากเย็นกระมัง”

“ขอรับ”

เวินเหวินซงเดินเข้ามา

“สามีภรรยาสองคนนั้นมีความเคลื่อนไหวอะไรหรือไม่?”

“พวกเขาย่อมไม่ยอมรับชะตากรรมแต่โดยดี ต้องคิดจะทำอะไรสักอย่างแน่ ทว่าจากที่เราคอยจับตาดูแล้ว เฉินหู่เคลื่อนไหวไม่ได้ ถึงแม้พวกเขาคิดจะทำการใดก็มิอาจง่ายดายปานนั้น”

“หากฮูหยินเป็นบุรุษ ย่อมไม่พ่ายแพ้ใต้เท้าของพวกเราแน่นอน” เวินเหวินซงกล่าวชมอย่างจริงใจ

“ข้าไม่ได้ชาญฉลาดเท่าเขา” มู่ซืออวี่กล่าว “จริงสิ ทางเมืองเตียนอวี้เป็นอย่างไรบ้าง?”

“ยังไม่มีข่าวคราว ทว่า นี่นับเป็นข่าวดีเช่นกัน” เวินเหวินซงตอบ “สถานการณ์ทางด้านนั้นเลวร้ายลงอย่างรวดเร็ว แต่ละวันมีคนมากมายล้มตาย ตอนนี้ไม่มีข่าวคราว นั่นหมายความว่าไม่เลวร้ายไปยิ่งกว่าเดิมแล้ว”

วันต่อมา มีผู้คนมากมายปรากฏตัวหน้าประตูศาลาว่าการ

“พวกเจ้าทำอะไร?” นักการหวังนำคนรุดมา

เหล่าชาวบ้านคุกเข่าลง

“ท่านเจ้าหน้าที่ พวกเราทำผิดไปแล้ว ได้โปรดทำโทษเพียงพวกเราเถิด อย่าได้กล่าวโทษนายช่างเฉินเลย”

“ใช่แล้ว นายช่างเฉินมีเจตนาดี พวกเราปลอมแปลงตัวตนเพื่อเอาชีวิตรอด ท่านเจ้าหน้าที่ ได้โปรดเห็นแก่พวกเราด้วยเถิด ช่วยเหลือทางรอดให้พวกเราสักทางเถอะ!”

“อย่าได้ตำหนินายช่างเฉินเลย หากจะโทษก็โทษพวกเรา ท่านเจ้าหน้าที่ ท่านจับพวกเราเข้าคุกเถอะ! พวกเราไร้ทางเลือก ในเมื่อท่านไม่เหลือทางรอดให้พวกเรา พวกเราก็จะไม่มีชีวิตอยู่แล้วเช่นกัน”

มู่ซืออวี่รีบรุดมาหลังจากได้ยินข่าว

เมื่อนางเห็นคนคุกเข่าอยู่บนพื้น นางจึงเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ “ในเมื่อพวกเขาเอ่ยเช่นนี้ เช่นนั้นก็จับพวกเขาเข้าคุก”

ทุกคน “…”

คนที่ผ่านไปผ่านมา เมื่อได้ยินเช่นนี้ก็ล้วนตะลึงงัน

เศรษฐกิจของเมืองฮู่เป่ยพัฒนาอย่างรวดเร็ว ตอนนี้จึงมีเหล่าพ่อค้าวาณิชเข้าออกมากมาย กองคาราวานหนึ่งผ่านมาพอดี พวกเขาย่อมไม่รู้ว่าอุปนิสัยของมู่ซืออวี่เป็นเช่นไร เมื่อได้ยินดังนั้น พวกเขาจึงทึกทักว่านางเป็นหญิงชั่วร้ายใช้บารมีกดขี่ข่มเหงผู้อื่นทันที

“คนร้องขอความเมตตามากมายเพียงนี้ จะต้องมีลับลมคมในเป็นแน่ ฮูหยินนายอำเภอท่านนี้เป็นขุนนางที่ยิ่งใหญ่เสียจริง! นึกไม่ถึงว่าจะไม่สนใจคำอ้อนวอนร้องขอของชาวบ้านแม้แต่น้อย”

“นั่นสิ เมืองฮู่เป่ยแห่งนี้ช่างเป็นสถานที่โสมมเสียจริง ภายหน้าพวกเราไม่ต้องมาแล้ว อัปมงคล!”

ไม่รู้เสียงผู้ใดตะโกนขึ้นมาอีกครา “ฮูหยินระงับความโกรธ ฮูหยินไว้ชีวิตข้าเถอะ!”

ทันใดนั้นเอง ชาวบ้านที่ตะลึงงันอยู่ก็ตะโกนตามกันขึ้นมา “ฮูหยินระงับความโกรธ ฮูหยินไว้ชีวิตข้าเถอะ!”

พวกชาวบ้านต่างโขกศีรษะไม่หยุด โขกลงแต่ละครั้งล้วนกระทบพื้นทุกครั้งจนเกิดเสียงดังตึงตัง

เมื่อเห็นฉากนี้ ทุกคนล้วนปวดใจ ทว่าสายตาของมู่ซืออวี่กลับมีเพียงความขบขัน ไม่ปรากฏความใจอ่อนแม้แต่น้อย

“เหตุใดพวกเจ้าจึงขอความเมตตา?” มู่ซืออวี่เอ่ยถาม “พอได้แล้ว พวกเจ้าพูดหลายคนเพียงนี้ข้าฟังไม่เข้าใจ เช่นนั้นเจ้าพูดมา เมื่อครู่นี้เสียงของเจ้าดังที่สุดแล้ว”

นางชี้ไปยังคนผู้หนึ่ง

คนผู้นั้นลุกขึ้นกล่าวด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตน “พวกเราปลอมแปลงตัวตนแล้วไปทำงานในนามผู้อื่น”

“อืม ปลอมแปลงตัวตนทำงานแทนผู้อื่นเป็นเรื่องใหญ่จริง ๆ แรกเริ่มเดิมทีข้าก็เขียนเงื่อนไขการรับสมัครไปแล้ว พวกเจ้าคงทราบทุกคน พวกเจ้าทำงานภายใต้ชื่อของผู้อื่น ย่อมหมายความว่าไม่ตรงเงื่อนไข อะไรที่เรียกว่าไม่ตรงตามเงื่อนไข นั่นหมายความว่าสุขภาพของพวกเจ้าไม่แข็งแรง”

“ครั้งนี้แผนงานลานหรรษาเป็นงานใหญ่ ใช้วัสดุและแรงงานคนจำนวนมหาศาล หากพวกเจ้าไม่ระมัดระวังให้ดี ย่อมบาดเจ็บได้อย่างง่ายดาย แม้แต่คนที่มีร่างกายแข็งแรงทั่วไปก็ไม่อาจทำในระยะยาว พวกเจ้าคงรู้กระมัง”

“รู้ขอรับ…”

“พวกเจ้ารู้ แต่ก็ยังติดสินบนผู้อื่น ทำงานแทนผู้อื่น หากเกิดอะไรขึ้นกับพวกเจ้า ผู้ใดจะแบกรับหนี้ชีวิตนี้ ข้า? ศาลาว่าการ? หรือว่าตัวพวกเจ้าเอง?”

ทุกคนเงียบไป

เหล่าพ่อค้าวาณิชที่ผ่านมาพลันได้ยินหนทางบางอย่างเช่นกัน

ลานหรรษาโด่งดังเป็นอย่างมาก เป็นที่กล่าวถึงไปทุกหนทุกแห่ง สำหรับเหล่าพ่อค้าวาณิชแล้ว การรู้ข่าวในแวดวงการค้าเป็นเรื่องสำคัญมาก แน่นอนว่าพวกเขาย่อมรู้เรื่องนี้

ตอนนั้นนายอำเภอใช้แผนงานนี้ชดเชยภาษี เหล่าผู้ทำการค้ารู้สึกว่าใต้เท้าลู่ช่างรู้จักยืดหยุ่นและครุ่นคิดเพื่อชาวบ้าน เป็นขุนนางที่ดีผู้หนึ่ง

บัดนี้เมื่อฟังคำอธิบายของมู่ซืออวี่แล้ว เหล่าผู้ทำการค้าจึงรู้ว่าตนช่างตื้นเขิน เกรงว่าเรื่องนี้จะมีความนัยซ่อนอยู่

“ยังมีอีกเรื่อง…” มู่ซืออวี่มองคนตรงหน้านางด้วยรอยยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม “พวกเจ้าเป็นกลุ่มคนที่ปลอมแปลงตัวตนจริง ๆ หรือ?”

“แน่นอน…”

“จริงหรือ?”

“ใช่ พวกเราก็คือ…”

“พวกเจ้าเข้ามาแทรกแซงยามนี้ เพื่อไม่ให้ข้ากล่าวโทษเฉินหู่หรือ?”

“ใช่” หัวหน้าของชายบึกบึนกลุ่มนี้เอ่ยขึ้น “นายช่างเฉินยอมรับปากพวกเราเพราะเขาทนการร้องขอของพวกเราไม่ได้”

“เมื่อคืนนี้ข้าจัดเตรียมให้เหล่านักการไปเคาะประตูตามรายชื่อทีละคนแล้ว อีกทั้งยังจัดหางานใหม่ให้พวกเขา ตอนนี้พวกเขาคงปรับตัวกับงานใหม่อยู่ ย่อมไม่มีเวลามาเยือนถึงหน้าประตูศาลาว่าการ และเอ่ยคำพูดแปลก ๆ เหล่านี้กับข้า” มู่ซืออวี่เอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

“พวกเจ้าบอกว่าพวกเจ้าเป็นกลุ่มคนที่ปลอมแปลงตัวตนมา ดังนั้นข้าย่อมต้องไต่สวนพวกเจ้า นักการ จับพวกเขาทุกคนเอาไว้ ไต่สวนทีละคน ดูซิว่าพวกเขาเป็นใครกันแน่”

ทุกคนรีบลุกขึ้นจากพื้น ทำท่าจะหลบหนีไป

เหล่านักการเตรียมพร้อมอยู่นานแล้ว จึงจับคนเหล่านี้ไว้ได้อย่างทันท่วงที

“นี่มันเกิดอะไรขึ้น?” สีหน้าของผู้คนที่ผ่านไปมาล้วนสับสน

มู่ซืออวี่เอ่ยกับทุกคนว่า “ทุกคนไม่ต้องตื่นตระหนก คนเหล่านี้ไม่ใช่เหล่าคนที่ปลอมแปลงตัวตนแม้แต่น้อย แต่มีคนให้มาสร้างความวุ่นวายให้ศาลาว่าการของเรา”

“ข้ารู้ว่ามีคนไม่ตรงตามเงื่อนไขและไม่อาจทำงานหนักที่เหน็ดเหนื่อยเกินไปได้ ข้าจึงจัดหางานใหม่ให้พวกเขาภายในชั่วข้ามคืน พวกเขาย่อมซาบซึ้งต่อศาลาว่าการมาก จะมาที่นี้เพื่อสร้างปัญหาได้อย่างไร ที่มาของคนเหล่านี้ยังไม่ชัดเจน จุดประสงค์ของพวกเขายังไม่กระจ่าง พวกเราย่อมต้องตรวจสอบให้ชัดเจนอย่างแน่นอน”

“ที่แท้เป็นอย่างนี้นี่เอง”

“ฮูหยินเป็นคนใจบุญสุนทานผู้หนึ่ง ย่อมไม่จับคนตามอำเภอใจเป็นแน่”

เหล่าพ่อค้าแม่ค้าในกองคาราวานทราบว่าตนเข้าใจฮูหยินนายอำเภอผิดไปแล้ว พวกเขาแต่ละคนจึงเปลี่ยนความคิด

เวินเหวินซงเดินเข้ามาแล้วกล่าวว่า “เฉินหู่ผู้นี้ให้คนมาคุกคามท่าน ทว่าเขาคำนวณจิตใจของคนผิดไป คนที่ปลอมแปลงตัวตนเข้ามาทำงานต่างมอบเงินให้ผู้ที่ลงทะเบียนแทน พวกเขาซื่อสัตย์กับเฉินหู่ แต่ก็มีไม่มาก หากไม่ถูกบังคับ ผู้ใดจะยินยอมมอบผลประโยชน์ให้ผู้อื่น ฮูหยินเพียงแค่ต้องจัดเตรียมงานเพื่อลดภาษีให้พวกเขา พวกเขาย่อมต้องอยู่ข้างท่านอย่างแน่นอน”

“ผู้คนตายเพื่อเงิน นกตายเพื่ออาหาร เมื่อเป็นเรื่องผลประโยชน์ของตน แม้แต่เทพเซียนยังนึกถึงตนเองเป็นอันดับแรก เฉินหู่ไม่ได้อยากช่วยพวกเขาจริง ๆ พวกเขาย่อมรู้ว่าจะต้องเลือกอย่างไร”

“หากฮูหยินไม่ได้ค้นพบอุบายของเฉินหู่และภรรยาล่วงหน้า วันนี้คงไม่ราบรื่นมากนัก” เวินเหวินซงกล่าว “เรื่องของศาลาว่าการ ฮูหยินได้โปรดช่วยข้าน้อยออกความคิดอีกแรงเป็นอย่างไร?”

“ฝันไปเถอะ” มู่ซืออวี่กล่าว

“แล้วฮูหยินจะจัดการกับเฉินหู่อย่างไรขอรับ?” เวินเหวินซงเอ่ยถาม

“ไม่ว่าเฉินหู่จะมีคนคอยบงการหรือไม่ ข้าก็ต้องตรวจสอบออกมา มิเช่นนั้น แค่นายช่างสร้างบ้านคนหนึ่ง จะกล้าลงมือทำเรื่องนี้ได้อย่างไร?” มู่ซืออวี่กล่าว

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

Status: Ongoing
ใครกล้าทำร้ายวายร้ายตัวน้อยทั้งสอง ภรรยาตัวร้ายอย่างข้าไม่ปล่อยไว้แน่

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท