ตอนที่ 26 เธอไม่ยอมก้มหัวใครทั้งนั้น
เพราะมีงานงานอดิเรกที่คล้ายคลึงกัน มู่เถาเยากับถังถังจึงคุยกันตั้งแต่บ่ายจรดค่ำ แต่ถึงอย่างน้้นพวกเธอก็ยังมีเรื่องให้พูดคุยกันอีกมาก
ตามที่คาดไว้ ถังถังเกิดในตระกูลถังที่มีชื่อเสียงเรื่องพิษตระกูลนั้นจริงๆ มุมมองของถังถังเกี่ยวกับพิษทำให้เธอรู้สึกตื่นตาตื่นใจอยู่เสมอ
ถ้าไม่ใช่เพราะพวกเธอสองคนยังมีธุระที่ต้องทำ พวกเธอคงได้คุยกันยาวตลอดทั้งคืน
“เสี่ยวเยาเยา ชาของเธอดีมากจริงๆ ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในหมู่บ้านของเธอเองก็ดีมากด้วย หากเธอยินดีเรียกฉันว่าพี่สาว ฉันจะโฆษณาผลิตภัณฑ์ในหมู่บ้านเธอให้ฟรีเลย!”
“พี่สาว” มู่เถาเยาเรียกโดยไม่ลังเลแม้แต่วินาทีเดียว
“ฮ่าๆๆ …โอเค เรียกอย่างกับเอาน้ำมาสาด ฉันขอเช็กกำหนดการก่อนแล้วกัน แล้วจะจัดเวลาออกมาให้เธอโดยเร็วที่สุด”
“อืม ไม่ต้องรีบก็ได้ค่ะ ไว้ค่อยโฆษณาทีเดียวหลังจากผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของเราผ่านการทดสอบแล้ว”
“เสี่ยวเยาเยา ฉันเชื่อใจเธอ และด้วยความสามารถของเธอ เธอจะไม่มีวันผลิตสินค้าที่มีข้อบกพร่องออกมาอย่างแน่นอน”
“อืม” แหงอยู่แล้วสิ!
ถังถังสวมหน้ากาก สวมหมวก ฯลฯ และหลังจากติดอาวุธครบมือแล้ว เธอก็หันไปพูดกับมู่เถาเยาว่า “ไปกันเถอะ พี่สาวแจกันจะส่งน้องสาวตาแก่ตัวน้อยกลับบ้าน ฮ่าๆๆ …”
“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวฉันนั่งแท็กซี่กลับได้”
“ได้ไง! จะให้ฉันปล่อยเด็กสาวตัวน้อยกลับบ้านมืดๆ ค่ำๆ เพียงลำพังได้ยังไง แบบนั้นฉันไม่วางใจหรอกนะ”
มู่เถาเยาคว้าถ้วยชาใบเล็กที่วางอยู่บนโต๊ะมาแล้วกำไว้บนฝ่ามือของเธอ ออกแรงบีบเล็กน้อย และเมื่อเธอคลายมือออกอีกครั้ง ถ้วยชาก็หายไปและเหลือแต่กองฝุ่นผง
“เธอๆๆ …” ถังถังเบิกตากว้าง ดวงตาลูกพีชทรงเสน่ห์ของหญิงสาวแทบไม่เชื่อสิ่งที่เห็น
“อืม ฉันมีกำลังภายในค่ะ”
“ว้าว! เสี่ยวเยาเยา ฉันเคยคิดมาก่อนว่าเธอเกิดมาเพื่อเป็นหมอและเพื่อปรุงยาพิษเท่านั้น! แต่ไม่คิดเลยว่ากำลังภายในของเธอจะลึกล้ำขนาดนี้! น่าทึ่งมาก!” ทรงพลังยิ่งกว่าพ่อของเธอที่มีพรสวรรค์ด้านวรยุทธเสียอีก!
ตระกูลถังเองก็มีคนที่เลือกเดินบนเส้นทางของการฝึกวรยุทธด้วยเหมือนกัน แต่พวกเขาเชี่ยวชาญด้านยาพิษมากกว่า
เป็นเพราะคุณพ่อและคุณปู่ของเธอต่างก็มีพรสวรรค์ในด้านยาพิษปานกลาง ปู่ทวดของเธอจึงต้องการให้เธอ เหลนสาวผู้มีความสามารถในด้านพิษสูงสุดเหนือพ่อและปู่รับช่วงต่อตระกูลถัง
ตระกูลถังมักจะส่งต่อตำแหน่งผู้นำตระกูลให้กับใครก็ตามที่มีความสามารถมากที่สุด
มู่เถาเยามองไปที่ถังถังและพยักหน้าอย่างจริงจัง “ใช่ ฉันน่าทึ่งมาก!”
ตระกูลซย่าโหวของอาจารย์เล็ก เป็นตระกูลที่นั่งตำแหน่งประมุขนิกายอันดับหนึ่งในโลกศิลปะการต่อสู้โบราณมาช้านาน ไม่ต้องคิดก็พอจะจินตนาการถึงความทรงพลังของมันได้ ยิ่งผนวกรวมเข้ากับทักษะยุทธที่ผลักให้เธอก้าวขึ้นเป็นอันดับหนึ่งในใต้หล้าในชาติที่แล้ว ทักษะยุทธชุดใหม่ที่ผสานทั้งสองทักษะเข้าด้วยกันที่เธอสร้างขึ้นจึงมีความอัศจรรย์ล้ำลึก ทำให้เธอในชาติภพนี้ก้าวขึ้นไปอยู่บนจุดสูงสุดตั้งแต่วัยเยาว์ได้อย่างง่ายดาย
ในด้านทักษะวรยุทธ เธอไม่ยอมก้มหัวให้ใครทั้งนั้นนอกจากตัวเอง
แถมร่างกายนี้ยังใช้งานได้ดีกว่าชาติที่แล้วของเธอเป็นร้อยเท่า!
ทุกครั้งที่มู่เถาเยาทะลวงระดับ เธอก็อดไม่ได้ที่จะสงสัยเกี่ยวกับต้นกำเนิดของร่างนี้ หรือเธอเกิดมาเพื่อฝึกยุทธจริงๆ !
หากจัดอันดับความรู้ทั้งหมดที่เธอมี ทักษะยุทธครองอันดับที่หนึ่งได้อย่างชนะขาดไม่ต้องสงสัย ความรู้ในด้านยาพิษเป็นอันดับสอง และทักษะทางการแพทย์เป็นอันดับสาม…
“ฮ่าๆๆ…” ถังถังหัวเราะจนตัวสั่น เธออดไม่ได้ที่จะถูแก้มซาลาเปาเนื้อของมู่เถาเยาอย่างเอ็นดู
“เสี่ยวเยาเยา ทำไมเธอถึงน่ารักขนาดนี้นะ!”
มู่เถาเยาปัดมือของเธอลง “อย่าหยิกแก้มฉัน”
“ฮ่าๆ …นุ่มดีจัง!”
มู่เถาเยาหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาและเสิร์ชหาราคาตลาดของถ้วยชาในห้องชงชาพิเศษที่เธอเพิ่งเปลี่ยนมันเป็นเศษผงไป จากนั้นก็สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อชำระเงิน
“ฉันจะกลับแล้ว”
“เฮ้ๆๆ รอฉันด้วยสิ” ถังถังรีบหยิบกระเป๋าแล้ววิ่งตามไป
“เสี่ยวเยาเยา หรือไม่ขอฉันติดตามเธอแทนได้ไหม”
“คุณอยากเรียนแพทย์เหรอ”
“เอ่อ…งั้นก็ช่างมันเถอะ” เป็นนักแสดงก็ดี ทำไมเมื่อกี้นี้ถึงคิดสั้นกันนะ!
ทั้งสองคนเดินออกไปข้างนอก มู่เถาเยาเรียกรถคันหนึ่งแล้วขึ้นไปนั่ง
“ฉันขอตัวก่อน อีกไม่กี่วันคุณจะได้รับผลิตภัณฑ์ต่างๆ จากหมู่บ้านเถาหยวนของฉัน”
“อืม รอฉันหาเวลาว่างได้แล้วจะไปหา หรือถ้าเธอว่างก็แวะมาคุยกันที่กองถ่ายได้ ยิ่งเข้ามาอยู่ในวงการบันเทิงด้วยกันเลยก็ยิ่งดี!”
มู่เถาเยาโบกมือลาเธอ ปิดประตูรถแท็กซี่และออกไป หลังจากกลับถึงบ้าน เธอก็ได้รับสายวิดีโอคอลจากอาจารย์ใหญ่
“เยาเยา เอ็งลงจากภูเขามาได้หนึ่งสัปดาห์แล้ว ชินกับชีวิตตรงโน้นหรือยัง”
หยวนเหยี่ยกังวลมากว่าลูกศิษย์ตัวน้อยผู้เฉยชาต่อโลกของเขาจะเข้ากับคนอื่นๆ ที่ด้านล่างภูเขาไม่ได้ กังวลว่าเธอจะปรับตัวเข้ากับชีวิตเป็นกลุ่มในมหาวิทยาลัยไม่ได้ กังวลว่า…สรุปคือเขากังวลทุกเรื่อง!
“อาจารย์ใหญ่ หนูสบายดีค่ะ เพื่อนร่วมชั้นปีก็อบอุ่นและเป็นกันเองมาก”
“ถ้าอย่างนั้นก็ดีแล้ว อาจารย์อาเล็กของเอ็งบอกกับข้าว่าเอ็งไปมหา’ลัยแค่สองวันก็ขอลาหยุดไปสามวัน ข้าเลยคิดว่าเอ็งอาจไม่ชอบชีวิตในมหา’ลัย”
หยวนเหยี่ยไม่ได้ถามเธอว่าทำไมถึงขอลาหยุด ลูกศิษย์ตัวน้อยของเขาทั้งว่าง่ายและเชื่อฟัง เหตุผลที่ขอลาจะต้องมีอะไรสักอย่างแน่ๆ !
“อาจารย์ใหญ่ อาจารย์เล็ก อาจารย์แม่เล็ก ไม่ต้องเป็นห่วงหนูนะคะ แต่ทุกคนที่อยู่ทางนั้นห้ามเข้าไปในส่วนลึกของป่าดึกดำบรรพ์โดยไม่มีหนูเด็ดขาด! ถ้าอาจารย์ใหญ่ขาดสมุนไพรตัวไหน แค่ขอให้ชาวบ้านไปเก็บมันรอบๆ ป่าก็พอ หรือถ้าไม่มีจริงๆ และยังไม่รีบใช้รอหนูกลับไปก่อนแล้วหนูจะไปเก็บมาให้”
มีสมุนไพรมากมายในป่าส่วนนอกซึ่งสามารถใช้รักษาโรคทั่วไปได้
“เสี่ยวเยาเยาวางใจเถอะ เราผู้เฒ่าสองคนจะไม่เข้าไปในส่วนลึกของป่าตามอำเภอใจแน่นอน เอ็งอยู่ทางโน้นก็ดูแลตัวเองให้ดี ถ้ามีใครรังแกเอ็งให้บอกอาจารย์ แล้วอาจารย์จะรีบไปจัดการให้”
“อื้ม อาจารย์ใหญ่คะ อาจารย์รู้จักดอกไม้สองชีวิตไหมคะ” ใกล้ๆ กับแหล่งเติบโตของดอกไม้สองชีวิตจะมีหญ้าจื่อหยางขึ้นแซมอยู่ด้วย
หญ้าจื่อหยางหาได้ไม่ยาก สามารถพบได้ในป่าดึกดำบรรพ์ด้านหลังหมู่บ้านเถาหยวนซาน ถ้าไม่ใช่เพราะดอกไม้สองชีวิต หญ้าจื่อหยางที่ทั้งจืดชืด กินไม่ได้ คงเป็นเพียงสมุนไพรทั่วไปที่ขึ้นอยู่ริมทางรอให้ไก่มาคุ้ยเขี่ย น่าเสียดายที่ตอนนั้นเธอเห็นบ่อยแต่ไม่เคยเด็ดเก็บไว้เลย
“รู้สิรู้ แต่อาจารย์ไม่เคยเห็นมันมาก่อนหรอกนะ ได้ยินว่ามันเป็นสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์สำหรับการล้างพิษ เคยได้ยินอาจารย์ปู่เล่าให้ฟังว่าบรรพบุรุษเราเคยมีมันอยู่ต้นหนึ่ง แต่ภายหลังนำไปใช้เพื่อช่วยชีวิตบรรพบุรุษของตระกูลถัง”
“ตระกูลถังแห่งเมืองเซียงเฉิงน่ะเหรอคะ”
“ใช่ บรรพบุรุษของตระกูลถังเป็นเพื่อนสนิทกับอาจารย์ปู่ของเอ็ง”
“เอ่อ…” ช่างบังเอิญอะไรเช่นนี้! เธอเพิ่งพบกับคนตระกูลถังมา!
“เยาเยา เอ็งอยากได้ดอกไม้สองชีวิตเหรอ”
“อาจารย์ใหญ่คะ จู่ๆ หนูก็นึกขึ้นได้ว่าการไหลออกของพลังชีวิตของตี้อู๋เปียน สามารถระงับได้ด้วยการใช้ดอกไม้สองชีวิตและหญ้าจื่อหยางเป็นตัวเสริม ประกอบกับทักษะหุยหยาง หนูคาดเดาคร่าวๆ ว่าเขาสามารถมีชีวิตอยู่ได้อีกอย่างน้อยสิบปี ปัญหาคือดอกไม้สองชีวิตเองก็หาได้ไม่ง่ายเลย”
“…อู๋เปียน เป็นเด็กน้อยที่น่าสงสาร”
มู่เถาเยาก็รู้สึกเช่นเดียวกัน
ในฐานะ ‘เจ้าชาย’ ชะตาชีวิตของตี้อู๋เปียนนั้นไม่ค่อยดีจริงๆ
“อาจารย์ใหญ่ หญ้าพิษชีวิตกับดอกไม้สองชีวิตล้วนไม่จำเป็นต้องรีบหาพร้อมกันเสียเดี๋ยวนี้ แค่ภายในเวลาห้าปีหาดอกไม้สองชีวิตให้เจอ และภายในเวลาสิบปีหาหญ้าพิษชีวิตให้เจอก็พอ หรือแม้ว่าเราจะหามันไม่เจอ หนูก็อาจจะคิดหาวิธีอื่นได้แล้วหลังจากนี้”
“อืม เยาเยาทำให้ดีที่สุดก็พอ เอ็งยังเด็กนัก สิ่งใดที่ควรออกไปสัมผัสก็ไปเล่นสนุกให้เต็มที่ อย่าได้เอาแต่ตั้งหน้าตั้งตาเรียนและทำงาน”
“ค่ะ อาจารย์ใหญ่ อาจารย์มีความสัมพันธ์ที่ดีกับบรรพบุรุษของตระกูลถังหรือเปล่าคะ”
“เยาเยาคิดจะทำอะไรเหรอ อาจารย์ปู่ของเอ็งมีบุญคุณช่วยชีวิตบรรพบุรุษตระกูลถัง ถ้ามันไม่ใช่คำขอร้องที่มากเกินไป ล้วนสามารถเอ่ยขอได้”
“หนูขอเลือดหนึ่งหยดมาทำการวิจัยได้ไหมคะ”
“ได้ งั้นเดี๋ยวอาจารย์จะไปที่ตระกูลถังในเมืองเซียงเฉิงเพื่อไปขอเข้าพบบรรพบุรุษตระกูลถังแล้วขอเลือดมาให้เอ็ง”
“อาจารย์ใหญ่คะ หนูหาเวลาไปเองดีกว่าค่ะ” เหตุผลหลักคือเธออยากสนทนาเรื่องพิษกับบรรพบุรุษของตระกูลถังด้วย
ถังถังสามารถให้ข้อมูลเชิงลึกใหม่ๆ แก่เธอได้ บางทีบรรพบุรุษของตระกูลถังอาจทำให้เธอทะลวงผ่านคอขวดได้
ตอนนี้เธอกำลังศึกษาวิธีการใช้พิษต้านพิษเพื่อป้องกันโรคระบาด
ในชาติที่แล้ว มีโรคระบาดร้ายแรงในแผ่นดินจงโจวและผู้คนหลายหมื่นคนได้เสียชีวิตลง
ในเวลานั้น เธอในฐานะทั้งจักรพรรดินีและหมอเทวดา มุ่งหน้าไปยังเมืองที่เกิดโรคระบาดด้วยความกระวนกระวายใจโดยไม่คำนึงถึงสภาพร่างกายที่ทรุดโทรมของตัวเอง และในที่สุดเธอก็ควบคุมโรคระบาดได้ แต่อาจารย์ที่เปรียบเสมือนดั่งมารดาของเธอก็ได้เสียชีวิตลงเพื่อเธอ
“ก็ดี ถ้าเอ็งมีเวลาควรออกไปเดินดูรอบๆ มากกว่านี้ เหนือฟ้ายังมีฟ้าเหนือโลกหน้ายังมีปุถุชน”
ลูกศิษย์ตัวน้อยมีความสามารถสูงส่ง แต่อายุยังน้อยเกินไป ออกไปพบเจอกับบุคคลชั้นนำที่มีชื่อเสียงในแวดวงต่างๆ จะทำให้เธอก้าวต่อไปข้างหน้าได้ง่ายขึ้น
“อืม อาจารย์ทั้งสองคน อาจารย์แม่ ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว ทุกคนรีบเข้านอนพักผ่อนนะคะ”
“เอ็งก็เช่นกัน อย่านอนดึกล่ะ!”
“…ค่ะ”
เธออายุเพียงสิบแปดปี ยังเด็กมาก และมีกำลังภายในที่ลึกล้ำ ทำให้การอดนอนแค่สองสามวันไม่นับเป็นอะไรมาก และเธอก็สามารถฟื้นตัวได้ทันทีหลังจากหลับไปหนึ่งตื่น
อย่างไรก็ตาม หากไม่มีธุระอะไรเธอก็ไม่คิดจะอดนอน นอนหลับไม่ดีเหรอ!
เพียงแต่ว่าวันนี้เธอยังมีงานช่วยแก้ปัญหาอีกเล็กน้อยบนแพลตฟอร์มที่ยังไม่ได้ทำ เงินปึกน้อยๆ เหล่านั้นกำลังรอให้เธอไปเก็บเข้ากระเป๋าอยู่นะ!
นอนหลับดีก็จริง แต่การหาเงินเล็กๆ น้อยๆ ก็ฟินเช่นกัน!