ตอนที่ 94 ช่วยไว้หนึ่งชีวิต
ชีวิตทางฝั่งเมืองเย่ว์ตูนั้นนับว่าสงบแล้ว แต่ฝั่งหมู่บ้านเถาหยวนซานกลับเต็มไปด้วยความคึกคักและมีชีวิตชีวา
ประการแรก การขยายโรงงานต่างๆ ในหมู่บ้านเถาหยวนซานได้รับการอนุมัติในวาระที่ประชุมแล้วและการก่อสร้างจะเริ่มต้นขึ้นในไม่ช้านี้
ประการที่สอง หลังจากหารือกันชาวบ้านก็เห็นพ้องต้องกันว่าเย่ว์จือกวงควรจะสร้างบ้านของเขาในหมู่บ้านเถาหยวนซาน
ประการที่สาม เพราะกองถ่ายภาพยนตร์ของถังถังยกกองกันมาถ่ายทำหนังในป่าดึกดำบรรพ์เซียนโหยวด้านหลังหมู่บ้านเถาหยวนซาน ดังนั้นทีมงานของกองถ่ายทั้งหมดตั้งแต่บนจนถึงล่างจึงมากินนอนพักอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเถาหยวนซาน
นับเป็นการสร้างรายได้เข้าหมู่บ้านอีกทางหนึ่ง
ทุกครัวเรือนในหมู่บ้านเถาหยวนซานนั้นล้วนแต่เป็นวิลล่าขนาดเล็กที่ยังมีห้องว่างเหลืออยู่จำนวนมาก และการตกแต่งภายในเองก็เรียบหรูและดูดี
ทุกคนในทีมพอใจกับสภาพแวดล้อมที่เป็นอยู่นี้มาก!
ท้ายที่สุดที่นี่คือทางตอนใต้สุดของประเทศเหยียนหวง คือหมู่บ้านบนภูเขาที่ห่างไกลและทุรกันดาร!
ผู้กำกับหนังพีเรียดเรื่องนี้มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกและเขายังขึ้นชื่อเรื่องการคัดเลือกนักแสดงอีกด้วย!
ดังนั้นแม้ใครไม่พอใจอะไรก็ได้แต่เก็บไว้ในใจไม่กล้าปริปากบ่น ไม่อย่างนั้นผู้กำกับสามารถเปลี่ยนตัวแสดงได้ทุกเมื่อ!
ใครใช้ให้เขาเป็นทั้งผู้กำกับเป็นทั้งนายทุนกันล่ะ!
คำพูดของเขาคือ คุณมาที่นี่เพื่อทำงานไม่ใช่เพื่อเพลิดเพลิน มีแต่คนเท่านั้นที่ต้องปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อม ยังไม่เคยเห็นนักแสดงคนไหนเลือกฉากและสถานที่ทำงานมาก่อน!
รังเกียจเหรอ ได้ เก็บกระเป๋าและย้ายก้นออกไปไกลๆ คุณสามารถกลับไปนอนเพลินอยู่ที่บ้านได้อย่างสบายๆ !
ถังถังอาศัยจังหวะช่วงพักทำหน้านิ่งแล้วตีเนียนเข้าไปถามผู้กำกับว่า “ผู้กำกับหนิง คุณรู้จักสถานที่นี้ได้ยังไงเหรอคะ”
ผู้กำกับหนิงมองไปที่นางเอกคนสวยของเขาแล้วพูดว่า “ฉันเคยเข้ามาในป่านี้จากอีกฟากหนึ่ง”
“เอ๋ คุณมาทำอะไรในป่าดึกดำบรรพ์แบบนี้กัน”
“มาผจญภัย ไม่ได้เหรอ”
“ฮ่า ผู้กำกับหนิงเองก็ชอบเจาะป่าด้วยเหมือนกันสินะคะ” ถังถังยิ้มกว้างเหมือนดอกไม้
“ถังถังใช้คำให้ถูกต้องด้วย ใครไม่รู้อาจคิดว่าเธอยังเรียนไม่จบชั้นประถม!”
“เจาะป่าแล้วจะทำไมล่ะ แบบนี้ฟังดูตรงกว่าเยอะเลยไม่ใช่เหรอ” ถังถังไม่เห็นด้วย
“ไปๆๆ ฉากวันนี้ของเธอถ่ายเสร็จแล้วนี่ รีบกลับไปพักผ่อนซะ อย่ามากระทบงานของฉัน”
“จะกระทบงานคุณได้ยังไง! ไม่ใช่ว่าทุกคนกำลังพักกันอยู่เหรอคะ เห็นคุณดูอารมณ์ไม่ดีก็เลยเข้ามาคุยเป็นเพื่อน! พูดถึงเรื่องนี้ ผู้กำกับหนิง คุณเคยเข้าไปในป่าชั้นในไหม”
“ฉันดูเหมือนคนโง่นักเหรอ” ผู้กำกับหนิงมองเธอด้วยสายตาว่างเปล่า
ถังถังสังเกตใบหน้าที่หล่อเหลาที่แผ่ฮอร์โมนของผู้ชายออกมาอย่างเต็มเปี่ยม จากนั้นก็ส่ายหัว “ไม่เหมือนเลยค่ะ”
“งั้นหรือเธอคิดว่าฉันเบื่อชีวิตแล้วก็เลยอยากวิ่งเข้าไปเป็นมื้อเย็นให้สัตว์พวกนั้น?”
“…ก็ไม่เหมือน”
ไร้สาระ!
แต่นั่นคือสิ่งที่เขาหมายถึงเหรอ เห็นได้ชัดว่าเขากำลังเสียดสีความสวยแต่ไร้สมองของเธอ!
จู่ๆ ถังถังก็ขยับเข้าไปใกล้เขาและลดเสียงของเธอลง “ผู้กำกับหนิง ทักษะวรยุทธของคุณเป็นยังไงบ้าง ทำไมเราไม่เข้าไปในป่าด้วยกันสักสองสามวันล่ะคะ”
ผู้กำกับหนิง “…”
ถ้าไม่รู้แจ้งเห็นชัดตับไตไส้พุงของนางเอกสาวคนนี้ แม้แต่คนดีๆ อย่างเขาก็ยังต้องคิดลึก!
ผู้กำกับหนิงมองไปที่ถังถังด้วยความเวทนาและพูดว่า “เธอมีเจ้านายและผู้จัดการส่วนตัวที่ดี”
มิฉะนั้นด้วยรูปร่างหน้าตาของเธอ บวกกับไม่มีพื้นหลังครอบครัวที่แข็งแกร่งคอยสนับสนุน เธอจะยังอยู่ในแวดวงนี้อย่างขาวสะอาดได้อย่างไร
“หือ พวกเขาดีมากจริงๆ นั่นแหละ! ผู้กำกับหนิงรอถ่ายทำเสร็จแล้วค่อยเข้าไปใช่ไหมคะ”
“ไปลงนรกน่ะสิ! เธอรู้ไหมว่าสภาพแวดล้อมในป่าชั้นในมันเป็นยังไง”
“รู้สิคะ!” เจ้าตัวเล็กน่ารักพวกนั้นกำลังรอเธออยู่!
แต่เงื่อนไขหลักก็คือเธอต้องเอาชนะเจ้าพวกไร้มารยาทที่ต้านพิษเหล่านั้นให้ได้เสียก่อน!
เนื่องจากในป่าดึกดำบรรพ์เซียนโหยวมีพิษมากมาย สัตว์และพืชหลายชนิดในนั้นจึงมีคุณสมบัติสามารถต้านทานพิษได้ตามธรรมชาติ
สรรพสิ่งในโลกล้วนพึ่งพาและต่อต้านซึ่งกันและกัน
อนิจจาหากประธานเย่ว์สามารถแบกเธอเข้าป่าไปด้วยกันได้ เธอคงไม่ต้องมาไล่ถามทุกคนแบบนี้!
แน่นอนว่าคนถามอย่างเธอเองก็เลือกเช่นกัน
ลืมไปได้เลยถ้าคนคนนั้นเป็นเพียงคนธรรมดาทั่วไป ถ้าไม่มีทักษะวรยุทธที่แข็งแกร่งสักหน่อย เข้าไปก็มีแต่ไปตายเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม เธอรู้ว่าผู้กำกับหนิงเคยเป็นทหารและเคยฝึกศิลปะการต่อสู้โบราณมาก่อน แต่เธอไม่รู้ว่าทักษะของเขาสูงถึงขั้นไหน
เธอเคยคิดว่าตัวเองแข็งแกร่งมากๆ อย่างน้อยในตระกูลถังเธอก็ต้องติดอันดับหนึ่งในห้าอย่างแน่นอน แต่เมื่อมาอยู่ต่อหน้าศิษย์ของตระกูลผู้ฝึกยุทธโบราณที่แท้จริง ถังถังถึงเพิ่งตระหนักว่าหมัดมวยของเธอนั้นแทบไม่นับว่าเป็นอะไรเลย
ต่อหน้าอาจารย์ของเสี่ยวเยาเยา เธอรับมือเขาได้เพียงไม่กี่กระบวนท่าเท่านั้น…
นี่มันจะทำร้ายจิตใจกันมากเกินไปแล้ว!
ผู้กำกับหนิงถามเธออย่างจริงจังว่า “เธอไปถูกอะไรกระตุ้นมาถึงได้อยากรีบไปตายแบบนั้น”
“…เปล่า ฉันแค่อยากเข้าไปหาดอกไม้ ต้นไม้ และสัตว์เล็กๆ ข้างในนั้น”
“เขตป่าเซียนโหยวชั้นในเป็นเขตป่าดึกดำบรรพ์ที่มืดมิดและน่ากลัวที่สุดในโลก สัตว์หลายชนิดในนั้นได้รับสมญานามว่าใหญ่ที่สุดในโลก และพืชหลายชนิดก็ถูกขนานนามว่า มีพิษร้ายแรงมากที่สุดในโลก”
ดวงตาของถังถังเป็นประกายเมื่อเขาได้ยินคำว่า ‘พิษร้ายแรงมากที่สุด’ ไม่กี่คำนี้
ผู้กำกับหนิง “…”
เขารู้สึกว่าจำเป็นต้องให้บทเรียนเกี่ยวกับป่าเซียนโหยวกับแม่สาวไร้เดียงสาหมายเลขหนึ่งคนนี้อย่างจริงจังสักยกแล้ว ไม่อย่างนั้นหากเธอแอบเข้าไปวิ่งเล่นในป่าด้วยความอยากรู้อยากเห็นในขณะที่คนอื่นๆ พลั้งเผลอกันอยู่ สุดท้ายน่ากลัวว่าแม้แต่กระดูกก็ยังหาไม่พบ!
“ถังถัง เธอฟังฉันให้ดีนะ…”
“อื้มๆ”
“…ในป่ามีจระเข้ อนาคอนดา เสือ สิงโต หมาป่า…”
ถังถังพยักหน้าหงึกหงัก “ฉันรู้ค่ะ ฉันรู้”
“…” เธอรู้แล้วยังอยากเข้าไปอีก เบื่อชีวิตจริงๆ แล้วสินะ!
ต่อให้เหน็ดเหนื่อยกับการใช้ชีวิตแค่ไหน แต่ก็ไม่จำเป็นต้องเลือกวิธีตายที่น่าสลดขนาดนั้นไหม
หรืออาจเป็นเพราะเธอยังไม่รู้ฤทธิ์เดชของเจ้าพวกนั้นในป่าดี ก็เลยคิดว่าพวกมันเป็นของเล่น?
“ถังถัง ฉันจะบอกอะไรให้เธอฟัง ในป่าไม่ได้มีแค่สัตว์ร้ายเท่านั้นที่อันตราย แต่ยังมีพิษอีกมากมาย อาทิเช่นพิษจากแมงมุมนักล่าที่ได้ชื่อว่าเป็นพิษที่อันตรายที่สุดในโลก แมงมุมชนิดนี้มีสัญชาตญาณการล่าที่รุนแรงมาก มันจะโจมตีผู้คนโดยไม่มีเหตุผล และถ้าถูกมันกัดเพียงครั้งเดียว เธอก็เตรียมตัวโบกมือลาโลกนี้ไปได้เลย!”
ดวงตากลมโตของถังถังสว่างเจิดจ้าเหมือนพระอาทิตย์ตอนเที่ยงวัน
ผู้กำกับหนิง “…”
เด็กคนนี้คงไม่ได้โง่ไปแล้วหรอกใช่ไหม ขนาดความตายยังไม่กลัว?
“ผู้กำกับหนิง คุณไม่เคยเข้าไปในเขตป่าชั้นในมาก่อน ทำไมถึงได้รู้ละเอียดขนาดนี้ล่ะคะ”
“…”
โอเค เธอคือเด็กโง่ของจริง!
ผู้กำกับหนิงสั่งสอนเธออย่างจริงจังว่า “ถังถังถ้าเธอว่างไม่มีอะไรทำก็อ่านหนังสือให้มากขึ้นและดูข่าวให้มากขึ้น มีหลายสิ่งหลายอย่างในโลกนี้ที่เธอสามารถเรียนรู้ได้แม้จะไม่ได้ไปเห็นกับตาก็ตามที”
เคยร่วมงานกันมาก็หลายครั้ง ทำไมเขาถึงไม่เคยสังเกตเห็นเลยว่าเด็กคนนี้เป็นแบบนี้
อย่างไรก็ตาม โง่ส่วนโง่ แต่ฝีมือในการแสดงของเธอนั้นขนาดเขายังต้องซูฮก แถมเธอยังตั้งใจและรับผิดชอบงานได้อย่างดีเยี่ยม!
จำได้ว่าเด็กคนนี้เคยเข้ามหาวิทยาลัยมาก่อนแถมผลการเรียนของเธอยังอยู่ในกลุ่มที่ดีที่สุด ระดับไอคิวของเธอก็ต้องสัมพันธ์กัน ดังนั้นความโง่ของเธอจึงเป็นเฉพาะกับบางเรื่อง?
“ฉันรู้ค่ะ!”
แมงมุมน้อยน่ารักมาก! พวกมันไม่กัดเธอหรอก ไม่กล้ากัดด้วย!
“ในนั้นไม่ได้มีแค่แมงมุมเท่านั้นที่กินคน แต่ยังมีมดกระสุนทองด้วย! เธอรู้จักมดกระสุนทองไหม พวกมันไม่ใช่มดอย่างที่เรามักจะเห็นกันแต่เป็นมดที่มีเขี้ยวที่น่ากลัวที่สุดในโลก!” ผู้กำกับหนิงยังคงไม่ละความพยายามที่จะทำให้เธอกลัว
ถังถังพยักหน้าขึ้นลงอย่างแรง “รู้จักสิคะ ได้ยินมาว่าคนที่โดนมดชนิดนี้กัดจะรู้สึกเหมือนโดนไฟฟ้าแรงสูงช็อต หัวใจจะหยุดเต้นทันที และก่อนที่คนคนนั้นจะทันได้รับรู้ถึงความเจ็บปวด เขาก็หมดลมหายใจไปแล้ว!”
น่าแปลกอยู่อย่างที่เห็นๆ อยู่ว่าคนที่เคยถูกมดชนิดนี้กัดไม่เคยมีใครรอดเลยสักราย แล้วข้อสรุปที่ว่า ‘ไม่ทันได้รับรู้ถึงความเจ็บปวด’ ได้มาจากไหน
“นอกจากนี้ยังมีสัตว์ร้ายอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นงูพิษ กบพิษ ตะขาบพิษ แมลงพิษ…โดยเฉพาะแมลงพิษนี่แหละน่ากลัวที่สุด! พิษของมันสามารถละลายร่างคนได้ ถ้าถูกมันกัด เธอจะได้แต่เฝ้าดูร่างของตัวเองค่อยๆ หลุดหายไปทีละส่วนอย่างช่วยไม่ได้ ความเจ็บปวดและความกลัวนั้นเกินกว่าที่มนุษย์คนใดจะทนรับได้!”
“รู้ค่ะ รู้ค่ะ” อยากจับ! อยากจับ! อยากจับ!!!
พิษนี้มีประโยชน์เกินไปแล้ว!
“รู้แล้วก็ดี อย่าแอบเข้าไปวิ่งเล่นในป่าคนเดียวเชียว”
เขาไม่เชื่อหรอกว่าเธอไม่กลัว!
ผู้กำกับหนิงถอนหายใจด้วยความโล่งอกและรู้สึกได้ทันทีว่าเขานั้นยิ่งใหญ่มาก!
สิ่งนี้ช่วยชีวิตคนไว้ได้หนึ่งชีวิตเลยนะ!