ตอนที่ 158 น่าจะเป็นงูเหลือมป่า
กินข้าวกลางวันเสร็จ ดื่มชาอีกคนละถ้วย มู่เถาเยา ซย่าโหวโซ่ว ถังถัง และผู้อาวุโสตระกูลถังก็เตรียมออกเดินทาง
ตะกร้าใบเล็ก กล่องยา และเสียมเล็กของมู่เถาเยาวางซ้อนอยู่ในตะกร้าใบใหญ่ที่ซย่าโหวโซ่วสะพาย เธอต้องใช้กำลังภายในพาถังถังกับปู่ทวดเหาะไป
สองปู่หลานก็สะพายตะกร้ากันคนละใบ
ทุกคนออกมาส่งพวกเขาที่ประตู
มือของมู่เถาเยาเกี่ยวข้างละคน ปลายเท้าถีบแรงส่ง เหาะขึ้นไปในชั่วพริบตาเหมือนลูกธนู
ซย่าโหวโซ่วก็ตามไปติดๆ
อยู่หมู่บ้านเถาหยวนก็ดีแบบนี้ อยากเหาะยังไงก็ได้ ไม่ต้องคำนึงถึงอะไร
ตรงปากทางขึ้นเขากับทางเข้าหมู่บ้านมีตั้งด่านไว้ หากคนนอกต้องการเข้ามาจำเป็นต้องผ่านการยืนยันตัวตนสองชั้น ก็เหมือนกับโรงงานข้างนอกที่ต้องสแกนบัตรผ่านประตู แค่อาณาเขตของพวกเขากว้างกว่าเยอะมาก
ทิวทัศน์ของหมู่บ้านเถาหยวนซานงดงามมาก แต่อย่างไรเสียก็ไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยว อีกทั้งพิกัดทางภูมิศาสตร์ก็เป็นที่ห่างไกล ปกติจึงไม่ค่อยมีคนนอกเข้ามาเท่าไรยกเว้นชาวบ้านจากหมู่บ้านใกล้เคียงอย่างหมู่บ้านสายน้ำไหล หมู่บ้านน้ำเหนือที่มาทำงานในหมู่บ้านเถาหยวนซาน และยังมีบริษัทที่ร่วมมือกัน
ด่านที่อยู่ตรงปากทางขึ้นเขากับทางเข้าหมู่บ้านดูเป็นส่วนเกิน แต่หมู่บ้านเถาหยวนซานมีกิจการเยอะมาก วันหน้าต้องโด่งดังแน่ การระมัดระวังรอบคอบไว้ก่อนย่อมเป็นสิ่งจำเป็น
มู่เถาเยาพาสองคนไปด้วย เธอตั้งใจผ่อนความเร็วให้ช้าลง ซย่าโหวโซ่วถึงพอจะตามทันอยู่บ้าง
ถังถังกับปู่ทวดถังอยากพูด แต่มู่เถาเยาเหาะเร็วมาก คำพูดที่ออกมาหายไปกับลม แม้จะอยู่ข้างกันก็ไม่ได้ยิน ทั้งสองคนจึงเก็บเอาคำพูดที่สวยงามกลืนกลับลงท้องไปก่อน
มู่เถาเยาจงใจเลี้ยวไปทางหมู่บ้านสายน้ำไหล
จากข้อมูลที่ตี้อู๋เปียนให้เธอมา สันนิษฐานว่าหมอลู่อาจออกมาจากหมู่บ้านสายน้ำไหล
แต่เดิมทีเขตภายในก็ใหญ่มากอยู่แล้ว ต่อให้เป็นทิศทางเดียวกันก็ใช่ว่าจะบังเอิญเจอกันได้ง่ายๆ แล้วนับประสาอะไรกับที่หมอลู่จะไม่ออกมาเร็วๆ นี้ และพวกเขาก็ไม่มีเวลามากพอที่จะเข้าไปใกล้บริเวณใจกลางด้วย
ก็แค่อยากลองเสี่ยงดวงดูเท่านั้น
เมื่อเหาะไปถึงรอยต่อระหว่างโซนภายนอกกับภายในของป่าเซียนโหยว มู่เถาเยาก็พาสองปู่หลานตระกูลถังหย่อนลงพื้นอย่างแผ่วเบา
“เสี่ยวเยาเยา ที่นี่ก็คือโซนภายในแล้วเหรอ มีกลิ่นของพฤกษศาสตร์โบราณโชยมาเลยนะ!”
“ค่ะ กลิ่นของโซนภายในแตกต่างกับโซนภายนอกจริงๆ”
ปู่ทวดถังมองด้านใน ขอบตาเริ่มแดง น้ำตาคลอเล็กน้อย
นึกไม่ถึงว่าเขาจะมีโอกาสได้เข้ามาโซนในของป่าเซียนโหยวตอนที่ยังมีชีวิตอยู่
ศาสตร์แพทย์แผนโบราณได้เมตตาตระกูลถังของเขาเป็นอย่างมาก
มู่เถาเยาหยิบตะกร้าใบน้อยและเสียมเล็กของตัวเองมาจากตะกร้าใบใหญ่ของซย่าโหวโซ่ว
“อาจารย์เล็กคะ หนูกับพี่ถังถังจะเดินด้านหน้า อาจารย์เล็กกับผู้อาวุโสอย่าห่างจากขอบเขตสายตาของพวกหนูนะคะ”
ซย่าโหวโซ่วยิ้มพลางพยักหน้า “เสี่ยวเยาเยา พวกเราจะไม่ทำให้หนูเสียสมาธิแน่นอน เก็บสมุนไพรไปเถอะนะ”
“ค่ะ”
มู่เถาเยาบอกสมุนไพรที่จำเป็นทั้งหมดในการทำยากำลังภายในให้สองปู่หลานตระกูลถังฟังไปก่อนแล้ว
โดยทั่วไปคนในยุคปัจจุบันไม่รู้ถึงการมีอยู่ของยากำลังภายใน แม้แต่หยวนเหยี่ยกับผู้อาวุโสตระกูลถังก็ไม่รู้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องการปรุงยาเลย
พวกเขาเป็นคนยุคปัจจุบัน ไม่รู้ว่ามียากำลังภายในสิ่งที่เหมือนเป็นการฝืนธรรมชาติสิ่งนี้อยู่ด้วย
ถึงแม้คนของตระกูลฝึกยุทธจะฝึกฝนกำลังภายในกันตั้งแต่เด็ก แต่พวกเขาก็ไม่ใช่หมอ
เมื่อชาติก่อนยากำลังภายในเป็นแค่ยาที่ธรรมดาสามัญมาก อย่างไรเสียคนส่วนใหญ่ก็ฝึกศิลปะการต่อสู้กันอยู่แล้ว ยกเว้นพวกชาวบ้านทั่วไป
กำลังภายในที่เพิ่มขึ้นจากการใช้ยาช่วยจนถึงในตอนสุดท้ายล้วนต้องมีการฝึกฝนร่วมด้วยถึงจะเกิดประโยชน์ จะกลายเป็นยอดฝีมือได้หรือไม่ก็ต้องดูว่าตัวเองมีพรสวรรค์หรือเปล่า ทนการฝึกที่แสนยากลำบากได้หรือไม่
ยากำลังภายในที่ไม่มีดอกจื่อตันจะให้สรรพคุณธรรมดาเท่านั้น
ผู้คนในชาติที่แล้วส่วนใหญ่ฝึกศิลปะการต่อสู้กันตั้งแต่เด็ก ไม่จำเป็นต้องใช้ยากำลังภายใน เว้นเสียแต่ยากำลังภายในที่มีส่วนผสมของดอกจื่อตัน
แต่ทั่วทั้งแผ่นดินจงโจวอาจมีแค่ตระกูลเป่ยเท่านั้นที่เก็บรักษาไว้หนึ่งต้น
หากตระกูลอื่นมี จะต้องให้หมอที่เก่งที่สุดช่วยทำออกมาเป็นยาแน่นอน
ถึงแม้การกินสดก็ให้สรรพคุณที่ไม่ต่างกัน แต่การทำออกมาเป็นยาสามารถผสมกับสมุนไพรชนิดอื่นแล้วทำออกมาได้จากหนึ่งเป็นสามเม็ด ด้วยเหตุนี้จึงไม่น่าจะมีใครยอมตัดใจกินสดได้
อยู่ๆ ผู้อาวุโสตระกูลถังก็หันไปตะโกนเรียกคนทางขวาด้านหน้า “เสี่ยวเยาเยา!” น้ำเสียงเต็มไปด้วยความตื่นเต้นดีใจ
มู่เถาเยาจับแขนถังถังแล้วหันกลับไป
“มีอะไรเหรอคะปู่ทวด เจออะไรเหรอ”
“เสี่ยวเยาเยา ลองดูนี่หน่อย นี่ใช่สมุนไพรที่ช่วยเสริมกำลังวังชาหรือเปล่า” เขาไม่รู้จักสมุนไพรชนิดนี้ แค่เคยได้ยินมู่เถาเยาบรรยายลักษณะให้ฟัง ไม่กล้าฟันธง
ปู่ทวดถังนั่งยองอยู่บนพื้น ใช้เสียมเล็กขุดสมุนไพรตรงหน้า เผยให้เห็นกลางลำต้นที่เป็นสีเขียวอ่อนให้มู่เถาเยาดู
มู่เถาเยาย่อตัวลง ลูบใบของสมุนไพร เล็กมากจนแทบสัมผัสไม่ถึงอะไร
“นี่ก็คือสมุนไพรเสริมกำลังวังชาค่ะ”
เป็นสมุนไพรหลักที่ขาดไม่ได้ในการทำยากำลังภายใน
ถังถังพูดด้วยความดีใจ “วันนี้ดวงดีใช้ได้เลยนะ พอมาถึงก็เจอสมุนไพรหลักเลย”
มู่เถาเยายิ้มมุมปาก ดูดีใจอย่างเห็นได้ชัดเช่นกัน
สมุนไพรเสริมกำลังวังชามีความธรรมดามาก ไม่มีกลิ่นอะไรเป็นพิเศษ อีกทั้งยังชอบขึ้นตามต้นไม้ใบหญ้าที่หน้าตาและสีใกล้เคียงกัน
เดิมทีเธอคิดว่าสมุนไพรเสริมกำลังวังชาจะหาเจอเป็นอย่างสุดท้าย ไม่คิดว่าจะเจอของยากสุดตั้งแต่เริ่มก่อน
มันไม่เหมือนกับโสมหลิงเซิน โสมหลิงเซินมีคุณลักษณะที่พิเศษมาก ไม่เพียงแต่จะซ่อนเก่ง เมื่อโตเต็มที่ยังวิ่งได้ด้วย!
สมุนไพรเสริมกำลังวังชาดูธรรมดามาก มันไม่มีประโยชน์อย่างอื่นอีกนอกจากเป็นส่วนผสมสำคัญของยากำลังภายใน จึงไม่ค่อยมีใครสนใจมัน และก็ไม่มีสัตว์ที่เฝ้ามันไว้ ดังนั้นไม่ต้องกังวลว่าจะมีสัตว์มีพิษโผล่ออกมากัด
“แถวนี้จะต้องมีสมุนไพรเสริมกำลังวังชาอีกแน่นอน ทุกคนลองหาดูรอบๆ นะคะ ปกติพวกมันจะขึ้นเป็นครอบครัวอยู่ในพื้นที่เดียวกันค่ะ”
“อยากให้คนรวบไปยกครัวงั้นเหรอ ดูรักกันดีเนอะ!” ถังถังพูดติดตลก
มู่เถาเยายิ้มพลางขอบคุณผู้อาวุโสตระกูลถัง จากนั้นก็ถอนสมุนไพรเสริมกำลังวังชาต้นนั้นขึ้นมาพร้อมรากแล้วเอาใส่ตะกร้าที่สะพายไว้
ปู่ทวดถังดีใจมากที่ตัวเองช่วยได้ เขากังวลมาตลอดว่าตัวเองแก่แล้วไม่ได้เรื่อง มีแต่จะเป็นตัวถ่วงให้คนหนุ่มสาว
ความจริงประจักษ์แล้วว่าเขามีประโยชน์มาก!
ความมั่นใจทะลุเกินพิกัด!
หลังจากเก็บสมุนไพรเสริมกำลังวังชาที่เป็นส่วนผสมหลักจากแถวนั้นพอแล้ว พวกเขาก็เดินเข้าไปด้านในต่อ
มู่เถาเยามองหาสมุนไพรพลางดูร่องรอยของหมอลู่
สมุนไพรหาง่าย แต่ร่องรอยกลับไม่มีเลย
เธอคิดว่าหมอลู่คงไม่เคยผ่านมาทางนี้
ยิ่งเดินเข้าไปด้านในก็ยิ่งหนาวเย็น
มู่เถาเยาตะโกนให้ทุกคนหยุดตอนที่เหลือแค่เก็บสมุนไพรชนิดสุดท้าย
เธอได้ยินเสียงผิดปกติแล้ว
“อาจารย์เล็กพาผู้อาวุโสกับพี่ถังถังเดินไปด้านซ้ายนะคะ” ด้านซ้ายไม่มีเสียงของอันตราย
“เกิดอะไรขึ้นเหรอเสี่ยวเยาเยา” หูของซย่าโหวโซ่วไม่ไวเท่ามู่เถาเยา ยังไม่ได้ยินอะไรที่ผิดปกติ
“อาจมีสัตว์เลื้อยคลานขนาดใหญ่กำลังมุ่งหน้ามาทางนี้ค่ะ หนูคิดว่าอาจเป็นงูเหลือมป่า”
สีหน้าของถังถังเปลี่ยนไปเล็กน้อย
ผู้อาวุโสตระกูลถัง “เสี่ยวเยาเยา งูเหลือมป่าไม่ได้อาศัยอยู่ตามหนองน้ำหรือพื้นที่น้ำตื้นหรอกเหรอ แถวนี้ดูเหมือนจะไม่มีแหล่งน้ำเลยนะ อีกอย่าง งูเหลือมชอบเคลื่อนไหวตอนกลางคืนหรือเปล่า”
“เดิมทีป่าเซียนโหยวก็มีความพิเศษอยู่แล้ว เรื่องผิดปกติย่อมมีความเป็นไปได้ค่ะ”
ถังถังจับมือมู่เถาเยา “เสี่ยวเยาเยา พวกเราหลบไปด้วยกันเถอะ”
“ไม่เป็นไร ฉันเคยเจองูเหลือมตัวยาวสิบห้าเมตร หนักเกินสองร้อยห้าสิบกิโลมาแล้ว” ก็แค่เธอทายาให้ตัวเอง หลบซ่อนเก็บลมหายใจ ไม่ให้มันสังเกตเห็น
ต่อให้เผชิญหน้าโดยตรงเธอก็เอาชนะได้ แต่ชาตินี้เธอเลี่ยงฆ่าสิ่งมีชีวิตได้ก็จะเลี่ยง
เมื่อชาติก่อนเข่นฆ่าทำบาปไปมาก ชาตินี้จะพยายามช่วยชีวิตอย่างสุดความสามารถแล้วกัน