ตอนที่ 211 ไม่มีคนจน
บนโต๊ะอาหาร เป่ยซีถามลูกสาวว่าตอนบ่ายวางแผนทำอะไร
มู่เถาเยาตอบ “พาครอบครัวเกาหม่าสามตัวไปปล่อยที่เขตป่าชั้นนอกเสร็จก็ไม่มีอะไรแล้วค่ะ คงอยู่กับทุกคนที่บ้าน ตอนเย็นไปเก็บผลไม้เอากลับไปสักหน่อย ศิษย์พี่หญิงห้าของหนูเริ่มแพ้ท้องแล้ว”
หยวนเหยี่ย “งั้นก็รีบกลับไป ข้าวเย็นกินที่บ้านศิษย์พี่หญิงห้าของเอ็งแล้วกัน ไม่ต้องรอวันรุ่งขึ้นค่อยเอาผลไม้ไปให้”
ไม่อยากแยกกับลูกศิษย์คนเล็ก แต่ก็สงสารลูกศิษย์คนที่ห้า
เพิ่งจะท้องตอนอายุสี่สิบกว่า จะบอกว่าไม่เป็นห่วงเลยก็คงไม่จริง
เขาเป็นหมอ รู้ระดับการพัฒนาการรักษาทางการแพทย์ของยุคปัจจุบัน และก็รู้ว่าคนอายุสี่สิบกว่าที่ตั้งครรภ์มีเยอะแยะ แต่ก็ยังเป็นห่วงอยู่ดี!
เฮ้อ อายุยิ่งเยอะก็ยิ่งอ่อนไหว
มู่เถาเยาพยักหน้า “หนูก็คิดแบบนั้นเหมือนกันค่ะ”
เป่ยซี “เสี่ยวเยาเยา หลังงีบช่วงบ่ายพวกแม่จะไปช่วยเก็บผลไม้นะ”
ทุกคนพากันพยักหน้า
“ค่ะ”
เจ้าถุงลมน้อยยกมืออวบๆ ขึ้น พูดเสียงเจื้อยแจ้ว “อันเหยี่ยก็ช่วยพี่สาวเก็บผลไม้ได้”
“ย่าเยาเยา ผมก็ช่วยได้”
“จ้ะ ทั้งสองคนก็ไปช่วยเก็บด้วยเนอะ”
เด็กทั้งสองดีใจมากที่ตัวเองสามารถช่วยงานมู่เถาเยาได้
หลังจากกินข้าวเสร็จ มู่เถาเยาก็นั่งดื่มชาพูดคุยกับทุกคนอยู่ในห้องรับแขก
แน่นอนว่าส่วนใหญ่คนอื่นจะพูด เธอนั่งฟัง
อืม แตงที่ปลูกเองในหมู่บ้านทั้งหอมทั้งอร่อย!
เสียงนั่งกินแจ๊บๆ ปะปนกับเสียงพูดคุยของทุกคน บรรยากาศอบอุ่นเป็นกันเอง
สนุกสนานครึกครื้น
ไม่นานก็ถึงเวลาที่มีคนต้องไปพักผ่อน เช่น ตี้อู๋เปียน เป่ยซี ปู่ตี้ ย่าตี้
เจ้าถุงลมน้อยหลับอยู่บนโซฟาในห้องรับแขก
ตอนนี้เป็นหน้าร้อนย่อมไม่มีปัญหา
ส่วนคนที่ไม่อยากไปงีบก็ดื่มชาต่อ อย่างเช่น เหลียงจี ไป๋เฮ่าอวี๋ เยี่ยอิ่ง เฉิงซิ่น อาจารย์เหอเฟิง
มู่เถาเยาจึงอาศัยเวลานี้พาม้าทั้งสามตัวไปที่ป่าเซียนโหยว
เอาต้นท้อต้นใหญ่ที่หยวนเหยี่ยเก็บมู่เถาเยาได้เป็นเส้นแบ่ง พาพวกมันสามตัวเดินตามเส้นแบ่งไประยะหนึ่ง
เมื่อคนที่นอนกลางวันตื่น คนกลุ่มใหญ่ก็ถือกล่องแยกขึ้นรถชมทัศนียภาพไปยังสวนผลไม้ตรงล่างเขา
ลูกท้อ ลูกพลัม หยางเหมย แอปริคอต เชอร์รี่ ลิ้นจี่ มะม่วง…แยกเก็บกันได้หลายกล่อง
อย่างไรเสียเครื่องบินก็พอวาง ไม่ต้องกลัวว่าจะกินไม่หมด
เก็บผลไม้กันไปได้ชั่วโมงครึ่ง มู่เถาเยาก็ออกมารวมกับทุกคน
ตี้อู๋เปียนถามถึงพวกเกาหม่าก่อน จากนั้นก็มองกล่องบนพื้น “ซาลาเปาน้อย คนท้องกินผลไม้บางอย่างเยอะเกินไปไม่ได้ใช่ไหม อย่างเช่นลิ้นจี่ แอปริคอต อะไรพวกนี้”
“ศิษย์พี่หญิงห้าของฉันรู้ ที่เอาไปเยอะเพราะคนเยอะ ครอบครัวอาจารย์อาเล็กสามคน พวกศิษย์พี่ที่อยู่เมืองเย่ว์ตู…เสี่ยวหว่านกับเหยาเหยาสอบเสร็จก็จะมาหาด้วย น้าเล็กอวิ๋นก็จะไปที่เผ่าโดยออกจากเย่ว์ตู ฉันจะขอให้น้าเล็กอวิ๋นช่วยเอาไปฝากคุณตา คุณยาย พ่อ อา และก็พวกพี่ชายฉัน”
“…ไม่ลืมแม้แต่คนเดียว”
มู่เถาเยาพยักหน้าอย่างจริงจัง
อยู่ๆ ตี้อู๋เปียนก็รู้สึกว่าซาลาเปาน้อยเป็นเด็กดีมาก!
ลูบหัวหน่อย!
มู่เถาเยากะพริบตาปริบๆ สงสัยหนักมากว่าทำไมตี้อู๋เปียนถึงลูบหัวเธอเหมือนที่ลูบหัวเจ้าถุงลมน้อย
เจ้าถุงลมน้อยเห็นพี่สาวถูกอาเล็กของตัวเองลูบหัวก็วิ่งเข้ามา อยากถูกลูบบ้าง
ตี้อู๋เปียนลูบแบบขอไปทีสองทีแล้วชักมือกลับ
เด็กน้อยแยกไม่ออกว่าเป็นการกระทำเพียงผิวเผิน เขาวิ่งกลับไปช่วยทุกคนเก็บผลไม้อย่างอารมณ์ดี
คนเยอะ ไม่นานก็เก็บผลไม้ได้ยี่สิบกว่าลังใหญ่ ถูกนำไปที่ลานจอดเครื่องบิน
พวกมู่เถาเยาเดินกลับ คนที่ต้องกลับเย่ว์ตูต่างแยกย้ายเก็บสัมภาระ
เวลาบ่ายสามโมงครึ่งเครื่องบินก็ทะยานขึ้นฟ้า
ขามามีคนนั่งอยู่ครึ่งลำ ขากลับเหลือแค่ไม่กี่คน
ครอบครัวอาจารย์อาเล็กสามคน ครอบครัวศิษย์พี่ใหญ่สามคนบวกปาอิน ศิษย์พี่หญิงห้ากับสามี ศิษย์พี่หกกับภรรยา ต่างพากันมาที่เขตเซิ่งซื่อฉางอัน
เมื่อเครื่องบินลงจอดสนิท คนกลุ่มนี้รวมถึงพวกบอดี้การ์ดที่อยู่เฝ้าบ้านตระกูลตี้ก็พร้อมใจมาช่วยขนผลไม้และของอื่นๆ เอาไปขึ้นรถ
พอกลับถึงตำหนักพระจันทร์ เฉิงอันนั่ว ปาอิน และเจียงเฟิงเหมียนก็ไปช่วยกันล้างผลไม้เอามาวางบนโต๊ะ
มู่เถาเยา “ทำไมศิษย์พี่หญิงห้ากับพี่เขยก็มาด้วยล่ะคะ เยี่ยจั๋วไม่กวนเหรอคะ”
“เยี่ยจั๋วรู้ว่าอาเยาเยาจะกลับมาแล้วก็เป็นเด็กดีมากเลยล่ะ!” ศิษย์พี่หญิงห้าลูบท้องด้วยใบหน้าที่มีความสุข
เจียงเฟิงเหมียนเอาจานใส่หยางเหมยวางตรงหน้าศิษย์พี่หญิงห้า “พี่ห้ากินหยางเหมยสิคะ หนูลองแล้ว หวานมากเลยค่ะ ไม่เข็ดฟันเลยสักนิด หลานเยี่ยจั๋วต้องชอบกินแน่นอน”
“จ้ะ”
เหลียงจียิ้มพูด “เสี่ยวเยาเยา ไม่งั้นพวกเราทำกับข้าวที่ตำหนักพระจันทร์ไหม พี่จะทำกับเสี่ยวอิน ทุกคนจะได้ลองชิมอาหารรสต้นตำรับของเผ่าหมาป่าพระจันทร์ด้วย โอกาสที่อยู่กันครบแบบนี้หาได้ไม่ง่ายเลยนะ”
“ในตู้เย็นไม่มีผัก”
เฉิงอันนั่วยืนขึ้นทันที “เดี๋ยวผมไปซื้อให้”
ปาอิน “ขอฉันเข้าไปดูในครัวก่อน เดี๋ยวไปด้วย พี่เหลียงจีก็พักผ่อนก่อนระหว่างรอนะคะ”
คนอื่นๆ ไม่ว่าอะไร มู่เถาเยาก็พยักหน้า
ปาอินกับเฉิงอันนั่วเดินออกมาจากห้องครัวก็ไปจ่ายตลาดทันที
คนที่ออกไปกับพวกเขายังมีศิษย์พี่หกเว่ยฉางหย่วน ขับรถสุดเท่ที่เย่ว์จือเหิงให้มู่เถาเยา
รถคันนี้ขึ้นทะเบียนที่ตำหนักพระจันทร์แล้ว เข้าออกเขตเซิ่งซื่อฉางอันได้ตามสบาย
“ว้าว! รถของอาจารย์อาเล็กดีมาก! รู้สึกสบายมากเลย!”
ศิษย์พี่หกยิ้มพูด “รถคันนี้ดูแตกต่างจากรถของพวกเรา”
ปาอินพูดอย่างอารมณ์ดี “คุณชายใหญ่ของพวกเราเป็นอัจฉริยะ ของที่คิดค้นออกมาได้…” บลาๆๆ
ผู้ชายทั้งสองคนพยักหน้าหงึกๆ
ศิษย์พี่หกยิ้มถาม “เสี่ยวอิน ได้ยินมาว่าที่เผ่าพวกเธอไม่มีคนยากจนเหรอ”
“ใช่ค่ะ ตอนนี้คนในหมู่บ้านเราไม่มีครอบครัวไหนที่เงินเก็บน้อยกว่าสิบล้าน คนเร่ร่อนก็ไม่มีให้เห็นตั้งแต่ร้อยปีก่อนแล้ว ตอนนี้คนในเผ่าของเราไม่ทำงานก็รับเงินหลายแสนได้ แต่ตราบใดที่เป็นคนปกติก็ไม่มีใครไม่ทำงานนะคะ”
เป็นเพราะแบบนี้คนในเผ่าพวกเขาถึงเลือกเรียนตามความสนใจ ไม่ได้อิงตามคะแนนสอบเลือกมหาวิทยาลัย
ปาอินยิ้มดวงตาโค้งมน ภูมิใจในบ้านเกิดของตัวเองมาก
“นี่แหละประเทศในอุดมคติ! ครอบครัวของเสี่ยวเยาเยาสุดยอดจริงๆ ! นี่ถ้าเป็นยุคโบราณก็ระดับจักรพรรดิเลยนะ!” ศิษย์พี่หกชมใหญ่
“อาจารย์อาเล็กของผมได้ความฉลาดมาจากตระกูลเย่ว์นี่เอง”
ศิษย์พี่หกถามด้วยความสงสัย “เสี่ยวอิน เผ่าของเธอมีกิจการมากมายอยู่ในหลายประเทศเหรอ”
“ค่ะ นอกจากที่เห็นๆ กันและมีบันทึกอย่างเป็นทางการแล้ว เช่น น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ ที่หนูรู้ก็ยังมีกิจการขนส่ง เช่น อากาศยาน เรือขนส่ง ธนาคารของพวกเราก็มีเยอะมาก…ส่วนกิจการอื่นหนูไม่ค่อยรู้แล้วค่ะ”
สองคนที่อยู่บนรถเป็นคนที่เสี่ยวเยาเยาไว้ใจได้ ดังนั้นเปิดเผยนิดหน่อยก็ไม่เป็นไร
ศิษย์พี่หกยิ้มพลางพยักหน้า “ภูมิประเทศของเผ่าพวกเธอได้เปรียบมาก ทรัพยากรอุดมสมบูรณ์ ทุกคนอยู่อย่างมีความสุข”
เฉิงอันนั่ว “มิน่าถึงไม่มีคนทำผิดอะไรเลย”
เผ่าหมาป่าพระจันทร์เป็นเผ่าที่คนทั้งโลกยอมรับว่ามีความปรองดองกันมากที่สุด
“เผ่าของเรามีบทลงโทษรุนแรงสำหรับคนทำผิด! ต่อให้ทิ้งขยะไม่เป็นที่ก็ต้องติดคุก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงอย่างอื่นเลย ก็เลยไม่มีใครยอมเสี่ยงให้ตัวเองทำผิด อันที่จริงก็ไม่มีปัญหาอะไรที่รัฐบาลช่วยแก้ไขไม่ได้ เลยไม่มีใครยอมทำผิดเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์”
เฉิงอันนั่ว “พูดซะอยากลองไปดูเลย”
ศิษย์พี่หกก็บอกอยากไป
“ไปสิๆ นั่งเครื่องบินของเสี่ยวเยาเยาไป ไม่ถูกตรวจหรอก”
ศิษย์พี่หกยิ้มพูด “ไว้มีโอกาสเหมาะๆ จะไปแน่นอน”
“ศิษย์พี่หก เสี่ยวอันนั่ว ไม่งั้นตามฉันกลับไปตอนปิดเทอมหน้าร้อนไหม ไว้ฉันจะพาไปเก็บสมุนไพรด้วย ที่เผ่าของเรามีสมุนไพรบนเขาทุกลูกเลยนะ”
เฉิงอันนั่ว “พ่อผมบอกว่าตระกูลเย่ว์ชวนผมไปเรียนรู้ที่เผ่าตอนเดือนกันยา”
ศิษย์พี่หก “อื้อหือ! โอกาสหายากเลยนะ!”
“ครับ ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดก็น่าจะไปครับ”
“เสี่ยวอันนั่ว ไว้ถึงตอนนั้นไปนอนบ้านยายฉันได้นะ แถวบ้านยายฉันมีแต่โรงเรียน แถมยายฉันยังเป็นสุดยอดเชฟอันดับสองของเผ่าด้วย เคยได้รางวัลด้วยนะ!”
“ไว้ค่อยว่ากัน ขอบใจนะปาอิน”
“ไม่เป็นไร ถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแล้ว พวกเราลงไปซื้อของกันเถอะ!”
“อืม”