ตอนที่ 2033 ตามหาคนร้าย
ฟู่เยว่เดินออกจากประตูร้านไป แต่ผ่านไปพักหนึ่งเขาก็ชะโงกหน้าเข้ามาอีกครั้ง “ข้าไปจริงๆนะ ,
หลิงอันพยักหน้าและทํามือส่งสัญญาณว่าเชิญตามสบาย
ฟู่เยว่ออกไปอีกครั้ง แต่หลังจากนั้นไม่นานเขาก็เดินกลับเข้าประตูมาและนั่งลงอีกครั้ง
“ข้าเข้าใจผิดไปจริงๆรึ?” ใบหน้าของเขาแสดงออกอย่างโง่งม
“อืม!” พวกหลิงฮันทุกคนพยักหน้า ถึงแม้คนผู้นี้จะเป็นราชาในหมู่ราชา แต่ก็มีนิสัยที่น่าตลกยิ่งนัก
ฟู่เยว่ไม่นึกว่าตนเองจะปล่อยไก่ออกไปตัวใหญ่ขนาดนั้น เมื่อครู่นี้เขาสามารถหลบหนีไปได้อย่างแน่นอน ซึ่งเป็นข้อพิสูจน์แล้วว่าอีกฝ่ายไม่ได้หลอกเขา
บัดซบ ข้านี่ช่างโง่จริงๆ
เขาถอนหายใจหนักอึ้ง และสีหน้ากลายเป็นสีแดง
แต่เมื่อเวลาผ่านไปเขาก็เอ่ยขึ้นมา “ถึงแม้ข้าจะเข้าใจพวกเจ้าผิด แต่นั่นก็มีเหตุผลอยู่” เขาหยุดนิ่งไปก่อนจะกล่าวต่อ “เจ้าเองก็เข้าใจข้าผิดเช่นกัน ข้าไม่ได้ใช้อํานาจของตนเองในการกดขี่สตรี”
“ข้ารู้” หลิงฮันพยักหน้า ไม่เช่นนั้นแล้วเขาคงไม่สุภาพกับอีกฝ่ายอยู่แบบนี้
“สตรีผู้นั้นปลอมตัวเป็นคนรับใช้ของตระกูลข้า และขโมยเม็ดยาชีวิตไร้มรณาที่ท่านปู่ของข้าเพิ่งหลอมไป กว่าคนรับใช้คนอื่นจะรู้ตัวนางก็หลบหนีไปได้เสียแล้ว ทําให้เมื่อเข้ารับรู้ข่าว จึงต้องรีบออกไล่ตามแต่ก็ยังสายเกินไป” ฟู่เยว่กล่าว
โอ้ เรื่องราวซับซ้อนเช่นนั้นเลยรี?
“เป็นความจริงรึ?” หลิงฮันขมวดคิ้ว หากเรื่องนี้เป็นความจริง พวกเขาก็ทําสิ่งที่ไม่สมควรลงไปจริงๆ
“ข้าขอให้สัตย์สาบานด้วยเกียรติของตระกูลฟูเลยข้าไม่ได้หลอกลวง!” ฟู่เยว่กล่าวอย่างจริงจัง
หลิงฮันพยักหน้า “ถ้างั้นก็เป็นความเข้าใจผิดจริงๆ”
พวกเขาเข้าใจจุดประสงค์ที่ตระกูลฟูไล่ล่าสตรีผู้นั้นผิด ส่วนฟู่เยว่เองก็เข้าใจผิดคิดว่าพวกเขาต้องการจับตัวตนเองไปเรียกค่าไถ่
“ในเมื่อเป็นแบบนั้นก็ออกตามหานางกันเถอะ” หลิงฮันลุกขึ้นยืนทันที
“จากจํานวนคนที่มากมายดั่งมหาสมุทรไร้ขอบเขต จะไปหานางเจอได้อย่างไร?” ฟู่เยว่ถอนหายใจ จํานวนประชากรทั่วทั้งเมืองนั้นอยู่ที่ราวๆหมื่นล้านคน การจะหาคนเพียงคนเดียวให้พบเป็นอะไรที่ยากลําบากมาก
“ให้หนิวจัดการเอง!” ฮูหนิวเสนอตัว
หลิงฮันหัวเราะและกล่าว “ถ้างั้นหนิวก็นําทางไปเลย”
“ได้!” ฮูหนิวลุกขึ้น แต่หลังจากนางเดินไปได้ไม่กี่ก้าว ก็รีบหันหลังกลับมาเก็บอาหารที่ยังกินเหลือบนโต๊ะ
ฟู่เยว่ส่ายหัวไปมาและไม่เชื่อถือแม้แต่น้อย
“ไปได้แล้ว!” หลิงฮันลากฟู่เยว่ให้ตามมา ด้วยพลังของเขาแน่นอนว่าฟู่เยว่ไม่สามารถขัดขืนได้
กลุ่มของพวกเขาออกจากร้านอาหารกลับไปยังบริเวณที่พบเจอกับสตรีก่อนหน้านี้
ฮูหนิวทําจมูกฟุดฟิดดมกลิ่นอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะชี้ทิศทางและกล่าว “ทางนั้น!”
ให้ตายเถอะ นี่จมูกเจ้าเป็นของสุนัขรึไง
ฟู่เยว่อดไม่ได้ที่จะอุทานขึ้นมาในใจ แต่ด้วยความงดงามที่ราวกับเทพธิดาของฮูหนิว เขาจึงไม่ได้กล่าวออกไป
หลิงฮันและคนอื่นๆ มั่นใจในตัวฮูหนิวมาก เพราะจมูกของสาวน้อยผู้นี้รับกลิ่นได้ดียิ่งกว่าสุนัขเสียอีก
ในระหว่างการเดินทาง ฮูหนิวจะหยุดนิ่งบ้างเป็นบางครั้ง ก่อนจะพาทุ่งคนหันซ้ายขวามุ่งไปยังทิศทางอื่น กลุ่มของพวกเขาข้ามผ่านสันเขาลูกหนึ่งไป และในเวลาสองวันต่อมาก็มาถึงหมู่บ้านขนาดเล็กแห่งหนึ่ง
“ที่นี่แหละ!” ฮูหนิวกล่าวและชี้นิ้วไปที่หมู่บ้าน
ที่นี่น่ะ ?
แน่นอนว่าฟู่เยว่ย่อมไม่เชื่อ เขาส่ายหัวไปมาด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยข้อกังขา
“ไปกัน!” หลิงฮันลากฟู่เยว่ตามเข้าไป
เมื่อกลุ่มของพวกเขาเข้าสู่หมู่บ้าน กลุ่มของเด็กน้อยก็วิ่งเข้ามาล้อมรอบพวกเขาทันที โดยที่แต่ละคนมองไปยังจักรพรรดินี ฮูหนิว และสตรีคนอื่นๆอย่างไม่ละสายตา
เด็กเหล่านี้ไม่เคยเห็นสตรีที่งดงามราวกับเทพธิดาเช่นนี้มาก่อน
หลิงอันและกลุ่มของเขาเดินมาหยุดหน้าประตูบ้านหลังหนึ่ง บ้านหลังนี้คลุมหลังคาเอาไว้ด้วยหญ้าฟาง ซึ่งดูเป็นบ้านที่ธรรมดาสามัญมาก
“ที่นี่งั้นรึ?” ฟู่เยว่ยังคงส่ายหัวไปมา เขาได้ยินมาจากคนรับใช้ว่าสตรีที่เป็นหัวขโมยนั้นมีพลังอยู่ในระดับโลกียนิพพาน ถึงแม้จอมยุทธระดับโลกนิพพานจะไม่มีคุณสมบัติถูกเรียกว่าปรมาจารย์ในดินแดงแห่งเซียน แต่พวกเขาก็พอมีอํานาจอยู่บ้าง และสามารถสร้างเมืองขนาดย่อมๆขึ้นเองได้
คนที่มีอํานาจแบบนั้นจะมาอาศัยอยู่ในสถานที่คับแคบเช่นนี้น่ะ?
ใครจะไปเชื่อกัน!
หลิงฮันถามพวกเด็กๆ “ใครรู้บ้างว่าใครอาศัยอยู่ที่นี่? จริงสิ คนที่ตอบคําถามเป็นคนแรก ข้าจะให้ลูกอมสองเม็ดเป็นรางวัล” เขากล่าวพร้อมกับนําลูกอมออกมา
“ข้ารู้ๆ!”
“ ข้าก็รู้เหมือนกัน!”
เหล่าเด็กแย่งกันตอบเป็นคนแรก ในขณะที่ซูหนิวตั้งท่าขู่ เพราะลูกอมเหล่านี้เป็นสิ่งที่สมควรเตรียมไว้เพื่อโน้มน้าวนาง
“พี่มีชายกับพี่สาวอาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้”
“พี่สาวเป็นคนที่สวยมาก!”
“แต่ก็ยังไม่เท่ากับพวกพี่สาวเหล่านี้”
“พวกเขาเพิ่มย้ายมาที่นี่เมื่อสองปีก่อนนี้เอง”
“ฝั่งคนที่เป็นพี่ชายนั้นเจ็บป่วยอยู่และไอตลอดเวลา ข้าเคยเห็นเขากระอักโลหิตออกมาด้วย!”
หลิงฮันยิ้มและมอบลูกอมให้แก่เด็กก่อนจะกล่าว “ไปเล่นกันได้แล้ว”
ทันทีหลังจากนั้นเหล่าเด็กน้อยก็แยกย้ายกันไป
หลิงฮันผลักประตูรั้วเข้าไปหน้าบ้านเข้าไป แต่ก่อนที่จะเปิดประตูของตัวบ้าน เขาก็ได้ยินเสียงไอมาจากด้านใน
เขาผลักประตูบ้านเข้าไปเบาๆ และพบกับเครื่องใช้ภายในบ้านที่ดูเรียบง่ายเป็นอย่างมาก ภายในบ้านมีเพียงโต๊ะ ตู้ และเตียงอย่างละชิ้นเท่านั้น โดยที่บนเตียงได้มีบุรุษนอนไออย่างรุนแรงจนสําลักโลหิตออกมาอยู่ผู้หนึ่ง
“พวกเจ้าเป็นใครกัน” บุรุษผู้นั้นเห็นพวกหลิงฮันและพยายามฝืนยกศีรษะขึ้นมา ใบหน้าของคนผู้นี้ซีดขาวมากราวกับไม่มีโลหิตอยู่ในร่างกาย
“นี่มัน กลิ่นสมุนไพรของเม็ดยาชีวิตไร้มรณา” ฟู่เยว่สูดดมกลิ่นและพูดโพล่งออกมา “เจ้ากินเม็ดยาเม็ดยาชีวิตไร้มรณาเข้าไป!”
บุรุษบนเตียงส่ายหัวไปมาและกล่าว “ข้าไม่กินเม็ดยานิรันดร์ที่ว่าเข้าไป เจ้าคงคิดผิดแล้ว ข้าไม่รู้ว่าเจ้าพูดถึงเรื่องอะไร!”
ฟู่เยว่ไม่รู้สึกสงสัยอีกต่อไป ฮูหนิวนําทางมาถูกที่จริงๆ และบุรุษผู้นี้ก็กินเม็ดยาชีวิตไร้มรณาเข้าไปแล้วด้วย ฟู่เยว่เกรี้ยวกราดเป็นอย่างมาก เม็ดยานิรันดร์ชุดนี้เป็นเม็ดยาที่ราชานิรันดร์ไจ่ เยว่สั่งให้ปูของเขาหลอมให้ ตอนนี้เมื่อเม็ดยาถูกคนผู้นี้กินไปแล้ว แล้วพวกเขาจะไปบอกเรื่องนี้กับราชานิรันดร์ว่าอย่างไร?
“ไม่ต้องกังวลไป พวกเราไม่ได้มาร้าย” หลิงฮันยิ้มและกดฝ่ามือลงที่ร่างของบุรุษตรงหน้า พร้อมกับชี้นําอํานาจของแก่นกําเนิดพฤกษาเข้าไปยังร่างกายของอีกฝ่าย
พลังชีวิตอันเข้มข้นหลั่งไหลเข้าไป ทําให้บุรุษตรงหน้าหยุดไอและสีหน้าอันซีดขาวได้กลับมาปรากฏร่องรอยของโลหิต
“เจ้าได้รับบาดเจ็บโดยใครสักคน” หลิงฮันกล่าว “คนผู้นั้นสมควรมีพลังมากพอที่จะสังหารเจ้า แต่เขาก็เลือกที่จะสร้างบาดแผลอันแสนสาหัสให้แก่เจ้าแทน เพื่อที่เจ้าจะได้ทรมานก่อนตาย!”
สีหน้าบุรุษตรงหน้าเปลี่ยนไปมา แต่สุดท้ายก็ถอนหายใจลากยาวและกล่าว “ถูกอย่างที่เจ้ากล่าวมา”
“ไหนลองเล่ามา” หลิงฮันรู้สึกสนใจ
ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าสตรีที่เป็นหัวขโมยจะขโมยเม็ดยาชีวิตไร้มรณาไปเพื่อขายหรือแลกเปลี่ยนกับผลประโยชน์อื่นๆ แต่เรื่องราวกับแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง
“เม็ดยาชีวิตไร้มรณามีทั้งหมดสิบเม็ด เจ้าน่าจะยังกินพวกมันไปไม่หมด บอกมาว่าเม็ดยาที่เหลืออยู่ไหน?” ฟู่เยว่เอ่ยถาม
“นี่เจ้าไม่เห็นรึไงว่ามีคนปวยอยู่นะ?” หลิงฮันจับฟู่เยวโยนไปด้านข้างและกล่าว “ลองเล่ามา” เขามองไปยังบุรุษตรงหน้าอีกครั้ง
ฟู่เยว่อดไม่ได้ที่จะรู้สึกหดหู่ ข้าเป็นถึงหลานของนักปรุงยาสี่ดาวที่ยิ่งใหญ่แท้ๆ เจ้าปฏิบัติกับข้าเช่นนี้ได้อย่างไร?