ตอนที่ 79 ทำความสะอาดครั้งใหญ่!
“นี่…แม่งทำห่าอะไร!”
โจวเจ๋อถามถังซือ
เห็นได้ชัดว่า ก่อนหน้านั้นที่หญิงสาวพูดว่า “อา ถ้าคุณไม่ช่วยฉัน ฉันก็จะตายให้คุณดู!”
ความจริงแล้วก็แค่พูดเฉยๆ ก็เหมือนกับครูประจำชั้นที่มักจะพูดกับนักเรียนตัวเองว่า “พวกเธอเป็นรุ่นที่ฉันดูแลดีที่สุด!”
แต่ความเป็นจริงแล้วเขาก็พูดแบบนี้กับทุกรุ่น จะคิดจริงจังไม่ได้
โจวเจ๋อคิดไม่ถึงว่าเธอจะฆ่าตัวตายจริงๆ และผู้หญิงอย่างเธอเป็นไปไม่ได้ที่จะฆ่าตัวตาย เธอรักตัวเองขนาดนั้นจะฆ่าตัวตายได้อย่างไร
แต่เธอก็มือไวเกินไป กระทั่งคำขู่ประโยคที่สอง หรือแม้แต่น้ำตาที่ยังไม่ทันไหลออกมา ก็ใช้มีดเล็กแทงคอของตัวเองแล้ว
โดยเฉพาะสีหน้าที่ตกตะลึงของเธอ ยิ่งอธิบายได้ชัดเจนว่า แม้แต่ตัวเธอเองที่อยู่ในเหตุการณ์ก็ยังทำสีหน้างุนงง
ฉันเป็นใคร ฉันอยู่ที่ไหน โอ้พระเจ้า ฉันฆ่าตัวเองตายเหรอ!
และคำอธิบายที่เหลือเพียงอย่างเดียวก็คือ มีคนควบคุมมีดของเธอ เพื่อให้เธอ ‘ฆ่าตัวตาย’ สำเร็จ และคนที่สามารถทำได้เช่นนี้ ก็อยู่ชั้นบนของตัวเอง
ไม่แน่ฆาตกรคนนั้นกำลังเคี้ยวลูกอมรสนมตรากระต่ายขาวอยู่ในปากก็เป็นได้
“เกิดอะไรขึ้นๆ!”
นักพรตเฒ่าที่กำลังทำกับข้าวอยู่ร้านข้างๆ ได้ยินเสียงตะโกนของโจวเจ๋อจึงวิ่งกลับมาทันที เมื่อเห็นหญิงสาวล้มอยู่บนพื้น เขาจึงตกใจทันที
“อ้าว สาวน้อยเป็นอะไรละ!” นักพรตเฒ่าเดินเข้าไปทันทีเตรียมจะช่วยคน
โจวเจ๋อเดินขึ้นไปข้างบนทันที เขาเห็นถังซือยังคงนอนอยู่บนเสื่อเหมือนเดิม
“คุณหมายความว่ายังไง”
“ใจเย็นๆ ค่ะ” ถังซือหัวเราะ ร่างกายของเธอไม่สามารถขยับได้ ตอนนี้จึงได้แต่พูดและหัวเราะ “คราวนี้ สั่งให้คนรับใช้ของคุณมานอนเป็นเพื่อนฉันได้หรือยังคะ”
“คุณอยากทำร้ายผมให้ตายเหรอ!” โจวเจ๋อถาม
ถังซือตกใจเล็กน้อย “ไม่ควรขอบใจฉันเหรอคะ”
“ขอบใจทำบ้านะสิ!” โจวเจ๋อเตะถ้วยน้ำชาที่อยู่ตรงหน้า น้ำที่อยู่ข้างในหกลงพื้น ส่วนแก้วก็ลอยไปกระแทกกับกำแพง
“ฉันไม่เชื่อว่าคุณมองไม่ออก ไม่อย่างนั้นทำไมคุณถึงไม่เข้าไปช่วย คุณเป็นหมอ การช่วยชีวิตคนน่าจะเป็นสัญชาตญาณของคุณ! คุณไม่ได้เข้าไปช่วยทันที แต่กลับขึ้นมาถามฉัน หรือว่าคุณคิดจะเบี้ยวอยากทำไขสือ” ถังซือพูดเสียงทุ้มหนัก
“ก็เพราะว่าผมมองออก ดังนั้นถึงไม่สนใจเธอ คุณรู้ไหมว่าตราประทับในมือของผมใครเป็นคนให้ผม คุณรู้ไหมว่าผีสาวไร้หน้าคนนั้นตอนนี้ยืนอยู่ฝั่งไหนกันแน่! คุณรู้ไหมว่าใครเป็นคนปล่อยยมทูตตนอื่นออกมา แล้วไปหาเรื่องพ่อหนุ่มของคุณที่หรงเฉิง คุณคิดว่าคุณเก่งมากใช่ไหม คุณคิดว่าคุณฉลาดมากใช่ไหม คุณรู้สึกว่าทุกคนมึนเมา แต่มีผมที่ได้สติคนเดียว! ทันทีที่คุณลงมือ เท่ากับว่าคุณบอกเธอว่าคุณอยู่กับผมที่นี่ไม่ใช่เหรอ”
ถังซือไม่พูด จู่ๆ เธอรู้สึกอึดอัดใจและละอายใจอยู่บ้าง
แสดงว่าโจวเจ๋อมองออกนานแล้วจริงๆ เขาจงใจที่จะประจบเอาใจให้ผ่านๆ ไป แต่ตัวเองกลับอวดฉลาดยื่นขาเข้ามาแทรก ผลักเรื่องราวลงสู่เหวลึกอย่างมิอาจคาดเดาได้
“โอ้ย แม่งเอ้ย อย่าพันข้าๆ! หายใจไม่ออกแล้ว!!!” นักพรตเฒ่าร้องตะโกนดังมาจากข้างล่าง
โจวเจ๋อมองถังซือที่นอนนิ่งไม่ขยับอยู่ตรงนั้น ด้วยแววตาลึกซึ้งหนึ่งที แล้วส่ายหน้า
“ยายโง่”
ต่อจากนั้นโจวเจ๋อก็ลงมาข้างล่าง และเห็นว่าในร้านหนังสือ นักพรตเฒ่าถูกเส้นผมกลุ่มหนึ่งห่อทีละก้อนๆเหมือนผีดิบที่มีขนสีดำในสุสาน และหญิงสาวที่นอนล้มอยู่กับพื้นคนนั้น ก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย
นิ้วของโจวเจ๋อมีเล็บงอกออกมา แล้วเดินเข้าไปจับเส้นผมโดยตรง
“ฉับๆๆๆ!” เสียงเส้นผมถูกตัดดังไม่หยุดแล้วผมก็ปลิวออกมา
แต่เส้นผมที่เหลือ กลับหมุนวนอยู่บนพื้นเหมือนหน้าคนในภาพวาดหมึกจีนทั่วไป งดงามและโบราณเป็นอย่างมาก แต่หากมองอย่างละเอียด จะเห็นว่าใบหน้านี้ ไม่ได้มีโครงหน้าที่ชัดเจน
“ควบคุมวัตถุ ความสามารถใหม่ของคุณเหรอ” เสียงของผู้หญิงดังไปทั่วร้านหนังสือ ท่ามกลางความว่างเปล่า ราวกับเสียงโหยหวนที่มาจากนรก
“หรือว่า ฉันได้ค้นพบสิ่งใหม่ เป็นการค้นพบที่น่าประหลาดใจอย่างมาก”
ผีสาวไร้หน้าเหมือนพึมพำกับตัวเอง ในความเป็นจริงนั้น เธอกำลังแสดงพลัง เหมือนกับขู่ว่าตัวเองจับจุดด้อยของศัตรูได้แล้ว
อันที่จริงตลอดเวลาที่ผ่านมาโจวเจ๋อไม่เข้าใจว่าทำไมผีสาวไร้หน้าถึงเกลียดตัวเองขนาดนี้ หรือเป็นเพราะเหตุผลที่ตัวเองใช้เล็บข่วนเธอตอนที่อยู่ในสระนรกหรือ หรือว่าเธอมีจุดประสงค์อย่างอื่นกับตัวเอง อย่างเช่นตอนที่เธอแผดเสียงคำรามอย่างบ้าคลั่งตอนที่ตัวเองออกมาจากนรก
แต่ขอเป็นเพียงคนปกติทั่วไป จะรู้สึกโกรธมากต่อพฤติกรรมทำตัวเย็นชาของคุณกับเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง
ก่อนหน้านั้นจริงๆ แล้ว โจวเจ๋อมองออก เพราะทั้งหมดทั้งมวล มันราบรื่นเกินไปและเป็นธรรมชาติเกินไป
เบาะแสเชื่อมต่อกับหญิงสาวคนนี้รวมกันเป็นเส้นตรง เธอใช้วิธีที่เหมาะสมที่สุด เหตุผลที่สมควรที่สุด มาปรากฏตัวต่อหน้าตัวเอง และเชื่อมต่อกับชีวิตและทิศทางของตัวเองก่อนหน้านั้นอย่างราบเรียบ
ไม่มีการจู่โจมในทันที แต่กลับเป็นการโจมตีอย่างกะทันหันที่สุด เธอต้องการความสมบูรณ์แบบมากเกินไปและจริงจังเกินไป มีเครื่องเตือนใจที่เธอปลอมตัวเป็นหมอหลินก่อนหน้านี้ คิดจะหลอกให้โจวเจ๋อติดกับอีกครั้ง ยากมาก
แน่นอนว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ โจวเจ๋อไม่คิดว่าผู้หญิงคนนั้นหลังจากที่เห็นสภาพของตัวเองในครั้งนั้น ยังจะกล้ามาปรากฏตัวต่อหน้าตัวเอง ยังจะกล้ายั่วยวนตัวเอง และยังจะกล้าขอร้องให้ตัวเองช่วยเหลือ
คราวที่แล้วเธอคิดจะยั่วตัวเองจริงๆ แต่โดนการปฏิเสธอย่างเย็นชาของตัวเอง เธอคิดว่าเธอเป็นหยางกุ้ยเฟยเหรอยังจะกล้ามาอีก
แท้จริงแล้วหากลองใจเย็นๆ แล้วพิจารณา ตอนที่ผีสาวไร้หน้าปลอมตัวเป็นหมอหลินครั้งที่แล้ว มีช่องโหว่อยู่หลายจุด แต่ตอนนั้นโจวเจ๋อเพิ่งจะรู้เรื่องที่สวีเล่อจ้างคนมาฆ่าตัวเองในตอนแรก ยังอยู่ในช่วงตกตะลึง ดังนั้นจึงมีโอกาสโดนหลอก
อย่างไรก็ตาม ผีสาวไร้หน้าเป็นตัวประหลาดที่เกิดจากความเคียดแค้นของวิญญาณผู้ตายมากมายนับไม่ถ้วนที่เดินผ่านน้ำพุเหลือง เธอไม่ใช่มนุษย์
กลลวงของคนเลวมีมากมายแค่ไหน เป็นได้แค่เพิ่มเรื่องตลกให้คนอื่นเท่านั้น
“คุณตายแน่ ฉันจะให้เธอรู้ว่าคุณกำลังทำอะไรอยู่ อย่าลืมนะ ว่าฐานะของคุณในตอนนี้ ฉันเป็นคนมอบให้คุณ”
เสียงของผีสาวไร้หน้าเห็นได้ชัดว่าสะใจมาก เหมือนกับเพื่อนตัวน้อยที่จับข้อบกพร่องของเพื่อนร่วมชั้นได้ แล้วจะไปบอกคุณครู และในเวลานี้ โจวเจ๋อจู่ๆ ก็เห็นหยดน้ำลอยขึ้นมาจากบนพื้น แล้วไปติดอยู่ที่กรอบประตูกระจก
“นี่เป็นแค่หุ่นเชิดแยกร่างของเธอเท่านั้น จับเธอไว้ เรื่องนี้ก็ไม่มีใครรู้”
นี่คือคำเตือนของถังซือ หรือไม่อาจจะเป็นการชดใช้กับความอวดเก่งของเธอเมื่อครู่ ชั่วเวลาเดียวหยดน้ำรอบๆเริ่มลอยขึ้นมาแล้วพุ่งไปที่เส้นผมบนพื้นเหล่านั้นโดยตรง
ผีสาวไร้หน้าก็ได้ยินคำพูดพวกนั้น เธอจึงกรีดร้องออกมา เส้นผมรวมตัวเข้าด้วยกัน จากนั้นลมหยินพัดวูบแล้วพุ่งออกไปนอกประตูทันที
ทว่าหมอกที่ถังซือรวบรวมในเวลานี้ เหมือนม่านสกัดกั้นการเคลื่อนไหวของก้อนผมไว้
ไป๋อิงอิงเวลานี้สัมผัสได้ถึงความผิดปกติ จึงวิ่งมาจากร้านข้างๆ เมื่อเห็นฉากในร้านหนังสือ เธอจึงอ้าปากเล็กน้อยและไม่ค่อยเข้าใจ
“อยากจะขวางฉันเหรอ” ผีสาวไร้หน้าตวาดเสียงด้วยความหยิ่งผยอง “ฉันจะดูว่าพวกคุณจะขวางยังไง!”
“ตู้ม!”
เส้นผมเดิมทีที่กระจุกตัวเป็นก้อนเวลานี้ระเบิดออก เพียงชั่วเวลาหนึ่ง ร้านหนังสือพลันกลายเป็นร้านตัดผม และมีเส้นผมกระจัดกระจายไปทั่วทุกทิศ
บางส่วนพยายามออกไปตามช่องลม บางส่วนพยายามขึ้นไปชั้นสอง และมีบางส่วนพยายามจะลงท่อในห้องน้ำ
ขอเพียงผมเส้นหนึ่งลอยออกไป ก็สามารถส่งข่าวที่นี่ให้กับนายท่านได้ เช่นนั้นเรื่องที่โจวเจ๋อแอบซ่อน ‘นักโทษ’ก็จะถูกเปิดเผย
เล็บของโจวเจ๋อวาดกลางอากาศไปมาไม่หยุด เส้นผมแต่ละเส้นหลังจากถูกเขาจับได้ก็สลายกลายเป็นผุยผง
นักพรตเฒ่าลูบเป้ากางเกงอีกครั้ง หยิบกระดาษยันต์ออกมาสองใบ แล้วตบไปกลางอากาศเป็นพัลวัน ขอเพียงเส้นผมสัมผัสกระดาษยันต์ก็จะติดหนึบ เหมือนกาวดักจับแมลงวันก็ไม่ปาน ได้ผลชะงัด
หนังสือเล่มหนึ่งถูกฉีกออก กระดาษลอยออกมาทีละใบ เหมือนถูกมีดดาบฟาดฟัน เส้นผมแต่ละเส้นถูกตัดขาด ร่วงลงพื้นแล้วเหี่ยวแห้งทันที
ถังซือที่นอนอยู่ชั้นสองไออยู่พักหนึ่ง มีเลือดสดไหลออกมาจากมุมปากของเธอ เธอเดิมทีก็บาดเจ็บอยู่แล้ว แต่เธอรู้ดีว่า เวลานี้จะออมแรงไม่ได้เด็ดขาด
ไป๋อิงอิงตาไวมือไว สองมือยื่นเข้าไปอย่างต่อเนื่อง ทุกครั้งที่จับเส้นผมได้ก็จะดึงให้ขาดทันที
แต่เดิมร้านหนังสือที่เงียบเหงากิจการไม่ค่อยดี เวลานี้เริ่มทำความสะอาดครั้งใหญ่ บรรยากาศคึกคักเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น เหมือนกับว่าจะมีหัวหน้ามาตรวจงาน
ในที่สุดทุกอย่างก็สิ้นสุดลง ผีสาวไร้หน้าแผดเสียงคำรามอย่างไม่พอใจเป็นครั้งสุดท้าย แล้วก็ไม่เห็นเส้นผมแม้แต่เส้นเดียว
โจวเจ๋อนั่งลงบนเก้าอี้พลาสติกตัวหนึ่ง คราบเลือดบนใบหน้าของเขาหายไปนานแล้ว เพราะนอกจากการกำจัดเส้นผมแล้วไม่มีอะไรเป็นของจริง
“เถ้าแก่ ทำงานเสร็จแล้ว ข้าเหนื่อยมากจริงๆ” นักพรตเฒ่าล้มตัวนั่งลงบนพื้น แล้วหายใจหอบอย่างแรง
ไป๋อิงอิงกลับไปรินน้ำชาให้โจวเจ๋อหนึ่งแก้ว เธอไม่รู้สึกเหนื่อยเท่าไร “เถ้าแก่ เป็นคนๆ นั้นอีกแล้วเหรอเจ้าคะ”
โจวเจ๋อพยักหน้า รับน้ำชามาแล้วดื่มหนึ่งอึก
“นางชอบท่านเหรอคะ ดึงดันจริงๆ” ไป๋อิงอิงแลบลิ้นออกมา
โจวเจ๋อไม่พูดอะไร แต่รู้สึกหนักใจอยู่บ้าง ผีสาวไร้หน้าไม่ใช่ปัญหาใหญ่เท่าไร แต่กลับทำให้คุณกินนอนไม่สบายใครก็ไม่อยากถูกคู่ต่อสู้จ้องมองทั้งนั้น
จากการพูดของเธอ ตัวเธอตามไปเมืองหรงเฉิงพร้อมกับสาวน้อยโลลิ และเหลือเส้นผมสองสามกระจุกทำเป็นหุ่นเชิดเพื่อต่อสู้กับตัวเอง
ถึงแม้จะต่อสู้ไม่สำเร็จ แต่ก็นำความสะอิดสะเอียนมาให้ตัวเอง
ศัตรูที่มีรสนิยมต่ำแบบนี้ มันทำให้คนเป็นบ้าได้จริงๆ
ตอนนี้โจวเจ๋อคิดอย่างเดียวก็คือ คนๆ นั้นที่อยู่เมืองหรงเฉิงทางที่ดีช่วยกำจัดสาวน้อยโลลิกับผีสาวไร้หน้าให้ตายตกไปพร้อมกัน จะได้เก็บตัวยุ่งยากของตัวเองทิ้งใส่ชักโครกแล้วกดทำความสะอาด
ถึงแม้ระดับความยากจะสูงมาก แต่ความฝันก็ต้องมีต่อไป
ขณะที่ไม่มีใครสังเกตอย่างละเอียด มีเส้นผมเส้นหนึ่งแอบขยับจากรอยต่อของนิตยสาร จากนั้นก็ร่วงลงพื้นสุดท้ายก็ลอยออกไปตามร่องของประตู
“ฟิ้ว!”
ประตูกระจกถูกเปิดออก เส้นผมถูกเหยียบอยู่ใต้รองเท้าหนังข้างหนึ่งพอดี
สวี่ชิงหล่างโน้มตัว เก็บเส้นผมขึ้นมา จากนั้นก็ดึงขาดทันที
ท่ามกลางความว่างเปล่าและมืดมิด ราวกับมีเสียงคำรามกับความล้มเหลวครั้งสุดท้ายของผู้หญิงดังตามมา!
สวี่ชิงหล่างตกตะลึงเล็กน้อย เหมือนจะได้ยินใครด่าตัวเอง แต่สักพักก็โกรธเดือดดาลขึ้นมา ชี้หน้าตะโกนด่าโจวเจ๋อ
“ดีมาก ผมวิ่งวุ่นข้างนอกในวันที่อากาศหนาวเพื่อหาร้านใหม่ แต่ดูคุณสิ ดูเส้นผมนี้ หรือว่ามีนักอ่านสาวสวยคนไหนเดินเข้าร้านมาคุยกับคุณอีก”
ความหมายนอกเหนือจากนี้
ฉันอุตส่าห์วิ่งไปโน่นไปนี่เพื่ออนาคตของพวกเรา แต่นายกลับนั่งเป่าแอร์เย็นๆ จีบสาวผมยาวอยู่ในร้าน! นายไม่คิดจะขอโทษฉันเหรอ!
…………………………………………………………………………