ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล – ตอนที่ 325 ทำให้แย่ลง

ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

ตอนที่ 325 ทำให้แย่ลง

เถ้าแก่โจวไม่คิดว่าตัวเองเป็นคนนิสัยดีเท่าไร ถึงแม้เขาจะชอบนอนอาบแดด ชอบขี้เกียจมักจะปล่อยให้เวลาผ่านไปเปล่าๆ แต่ในความเป็นจริงนั้นถ้าหากไม่ใช่เพราะผลงานของการจับผีร้ายในครั้งนี้ให้รางวัลหนัก เขาคงไม่นั่งรถนานสามชั่วโมงอย่าง ‘ลำบากลำบน’ มาที่ฉางโจว

พี่ชาย คุณบ้าไปแล้วเหรอ ผมสังเกตเห็นว่าคุณก็ตัวสั่นเพราะเสียงระฆังเหมือนกัน แต่ผมไม่ใส่ใจขนาดนั้น ผลปรากฏว่าคุณกลับทำให้แย่ลงกว่าเดิม!

โจวเจ๋อสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วลุกขึ้น ตัวตนของผู้ชายวัยกลางคนคนนี้ไม่ต้องพูดก็รู้ เมืองฉางโจวมียมทูตสามตน ตนหนึ่งเก็บศพทำความสะอาดอยู่ที่บ้าน อีกสองตนวันๆ เอาแต่ลุ่มหลงมัวเมาอยู่ในไนต์คลับไม่ตั้งใจทำงาน ตอนนี้กลับมีคนที่ตัวสั่นเหมือนตัวเองโผล่มาแต่อยู่ในร่างของคนเป็น มันเป็นตัวอะไรกันแน่ไม่พูดก็รู้แล้ว

นี่เหมือนตำรวจอเมริกาที่ไม่รับผิดชอบ เลิกงานตรงเวลา พอเห็นผู้หญิงโดนลวนลามเดิมทีไม่คิดจะสนใจ ผลสรุปคือเมื่อมองอย่างละเอียด กลับพบว่าคนที่โดนลวนลามเป็นลูกสาวของตัวเอง

ผู้ชายวัยกลางคนลุกขึ้น รีบพูดขอโทษโจวเจ๋อติดต่อกัน “ขอโทษๆๆๆ….” จากนั้นโจวเจ๋อจึงยื่นมือเก็บเศษใบชาที่ติดหน้าของตัวเอง ส่วนมืออีกข้างหนึ่งก็คว้าคอของอีกฝ่ายอย่างแรง

“เอื้อ…” ผู้ชายวัยกลางคนเริ่มดิ้นโดยอัตโนมัติ ลูกค้าและพนักงานในร้านน้ำชาก็มองมาทางนี้

“ตำรวจจับผู้ร้าย!” โจวเจ๋อตะโกน

ทุกคนต่างงงงันไปชั่วขณะ เดิมทีมีความน่าจะเป็นน้อยมากอยู่แล้วที่จะเห็นผู้กล้าออกมายืนหยัดเพื่อความถูกต้องตามท้องถนน ดังนั้นจึงยิ่งไม่มีใครก้าวออกมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคนที่กำลัง ‘ต่อสู้กัน’ เป็นผู้ชายสองคน ไม่ใช่สาวสวยเสียหน่อย

โจวเจ๋อบีบคอด้านหลังของผู้ชายวัยกลางคนอยู่แบบนี้แล้วลากออกมาจากร้านน้ำชาอย่างโจ่งแจ้ง คอด้านหลังของคนจริงๆ แล้วบอบบางเป็นอย่างมาก ไม่เชื่อคุณก็ลองดู เวลาถูกคนใช้แรงบีบตรงนั้น มากพอที่จะทำให้คุณเจ็บปวดจนมึนศีรษะ

เมื่อเดินออกมาจากร้านน้ำชา โจวเจ๋อกะว่าจะหามุมลับตาคนดึงวิญญาณของไอ้หมอนี่ออกมาส่งกลับไปนรกเพราะขี้เกียจกลับไปที่บ้านของหลิวฉู่อวี่ แต่ผู้ชายวัยกลางคนที่โดนจับไว้กลับเข้าใจผิดคิดว่าโจวเจ๋อเป็นอันธพาล จึงร้องขอชีวิตไม่หยุด และยังบอกว่าตัวเองยอมจ่ายเงินให้ลูกพี่เพื่อชดเชยค่าเสื้อผ้า

โจวเจ๋อยิ้มพราย รู้สึกว่าไอ้หมอนี่โง่ๆ ทึ่มๆ ผู้หลบหนีที่ยืมศพคืนชีพได้จะโง่ขนาดนี้เชียวเหรอ

‘ปึ้ง!’ โจวเจ๋อโยนอีกฝ่ายไปที่กองขยะที่อยู่ตรงทางเลี้ยวของซอย เขาสะบัดมือซ้าย เล็บยาวออกมา แต่ตอนที่โจวเจ๋อจะดึงวิญญาณออกมานั้น ผู้ชายวัยกลางคนพลันลืมตาและปากได้ท่องคาถาอะไรบางอย่าง

มันไม่ใช่คาถาลวงตา แต่ชั่วเวลาเพียงครู่เดียว โจวเจ๋อกลับรู้สึกหนักขาทั้งสองข้างเป็นอย่างมาก กระทั่งเริ่มสูญเสียการทรงตัว ตัวโอนเอนอยู่กับที่ไม่หยุด เหมือนจะล้มลงได้ตลอดเวลา

สีหน้าทึ่มเซ่อซ่าบนใบหน้าของผู้ชายวัยกลางคนพลันหายไป แทนที่ด้วยสีหน้าดูถูกเหยียดหยามไม่เกรงใจใคร เขากำลังหัวเราะ เขาหัวเราะอย่างสบายใจ หลังจากลุกขึ้นยืนจากกองขยะแล้ว เขาจัดระเบียบเสื้อผ้าของตัวเองเล็กน้อย แล้วยื่นหน้าเข้ามาพูดกับโจวเจ๋อ “คุณเป็นยมทูตใช่ไหม” โจวเจ๋อขึงตาใส่เขา

“ฮิๆ มีบางคนที่คุณจับไม่ได้หรอก” ผู้ชายวัยกลางคนเชิดหน้า แล้วพ่นเสียง ‘ขาก…’ ออกมาจากในปาก เขากำลังจะขากเสลดใส่ใครไม่ต้องพูดก็รู้ วินาทีนั้นเล็บทั้งสิบนิ้วของโจวเจ๋อพลันเกิดควันสีดำพวยพุ่งออกมา ควันดำลอยฟุ้งกระจายไปทั่ว โจวเจ๋อที่โดนมนต์วิเศษสะกดเมื่อครู่ตัวเบาในทันใด

‘ฉึบ!’ ผู้ชายวัยกลางคนยังไม่ทันได้ขากเสลดออกมา คอของเขาก็ถูกเล็บของโจวเจ๋อปาดเป็นแผลแล้ว เลือดสดไหลทะลักออกมา ผู้ชายวัยกลางคนเซล้มไปข้างหลัง มือข้างหนึ่งกดคอของตัวเองอย่างแน่นหนา พลางมองโจวเจ๋อด้วยแววตาที่เหลือเชื่อ

พวกลูกเศรษฐีเพลย์บอยบางคนคิดว่าบ้านตัวเองใหญ่ จึงไม่เห็นตำรวจบ้านๆ อยู่ในสายตา แต่หารู้ไม่ตำรวจบ้านๆ ที่เขาเจอกลับเป็นลูกเจ้าหน้าที่รัฐระดับสูงที่มาทดลองใช้ชีวิตด้วยตัวเอง ผู้ชายวัยกลางคนวิ่งไปข้างหลังทันที โดยไม่สนใจเลือดสดที่ไหลทะลักออกมาจากคอของตัวเอง

โจวเจ๋อขยับคอของตัวเองเสียงดังกร๊อบแล้วรีบวิ่งตามไป เมื่อเทียบกับการทำผลงาน สำหรับโจวเจ๋อในตอนนี้พฤติกรรมที่ไอ้หมอนั่นอยากจะขากเสลดใส่ตัวเขาเมื่อครู่ ทำให้เขายากที่จะทนรับได้ยิ่งกว่า คนที่รักอนามัยเป็นที่สุด ถ้าหากโดนขากเสลดใส่จริงๆ อย่างนั้นฆ่าเขาให้ตายเสียยังดีกว่า!

ผู้ชายวัยกลางคนรู้ว่าตัวเองหนีได้ไม่ไกล และข้างหลังเขามีควันสีดำเป็นสายกำลังเข้าใกล้เขาอย่างรวดเร็ว พยายามที่จะพันธนาการเขาเอาไว้

ผู้ชายวัยกลางคนกัดฟันเงยหน้ามองไปข้างหน้าแวบหนึ่ง จากนั้นจึงกระโดดพุ่งเข้าประตูวัด ตรงหน้าประตูวัดมีเณรรูปหนึ่งและผู้ที่มากราบไหว้บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์สองสามคนกำลังคุยอะไรกันอยู่ ตอนที่เห็นผู้ชายตัวอาบเลือดพุ่งเข้ามา ผู้หญิงสองสามคนที่มาไหว้พระร้องกรี๊ดทันที และเณรน้อยที่กำลังแสร้งทำเป็นหยิบไม้กวาดกวาดพื้นและถ่ายรูปกับสาวๆ อย่างเกินงามก็ก้นจ้ำเบ้าลงไปกับพื้น

วัดเป็นสถานที่ที่เงียบสงบ เข้ามาล้วนต้องพูดจาเสียงเบาสำรวมกิริยามารยาท มีหรือจะเคยเห็นภาพเลือดอาบแบบนี้มาก่อน โจวเจ๋อขมวดคิ้ว เขาลังเลอยู่เล็กน้อยแต่ก็ยังก้าวขาเข้าไปในประตูวัด เพราะเวลาแบบนี้คุณไม่มีเวลาสนใจอย่างอื่นแล้ว

ถึงแม้จะทำให้พระพุทธเจ้าต้องโกรธ แต่วิญญาณร้ายตัวนี้เถ้าแก่โจวจะต้องจับให้ได้ ต้องส่งคุณลงไปนรก ลงไปทอดอยู่ในกระทะน้ำมันเป็นร้อยรอบ!

ผู้ชายวัยกลางคนหันมามองโจวเจ๋อที่ไล่ตามมาพลางวิ่งลึกเข้าไปในวัดอย่างไร้จุดหมาย วิ่งผ่านพระวิหารของวัด ตอนที่โจวเจ๋อวิ่งผ่านพระวิหารได้เงยหน้ามองพระพุทธรูปด้วยความตั้งใจ เขารู้สึกกลัวเล็กน้อยถ้าหากจู่ๆ พระพุทธรูปขยับขึ้นมาแล้วกวัดแกว่งอาวุธวิเศษอย่างวัชระจัดการเขาล่ะ!

แต่ดูเหมือนเขาจะคิดมากไป พระพุทธรูปยังคงสงบนิ่ง ด้านหลังเป็นสถานที่พักอาศัยของพระสองสามรูปและเณรน้อย นับว่าเป็นหอพักขนาดเล็กชั้นเดียว ผู้ชายวัยกลางคนวิ่งชนประตูห้องหนึ่งของเรือนด้านข้างโดยตรง

โจวเจ๋อจึงวิ่งตามเข้าไป ตอนนี้ไอ้หมอนี่คงหนีไม่พ้นแล้วใช่ไหม! เถ้าแก่โจวไม่กลัวเรื่องจะใหญ่โต เพราะเขาเตรียมจะจัดการผีร้ายไม่ได้ไล่ตามฆ่า ‘คน’ อย่างมากกลับไปก็แค่เผาเงินกระดาษเยอะหน่อย แต่ต้องจัดการระบายความอัดอั้นตันใจในตอนนี้ออกไปก่อนแล้วค่อยว่ากัน

“เฮ้ยยย!!!!!!!!” เสียงร้องของผู้ชายดังมาจากเรือนด้านข้าง น่าจะเป็นพระที่กำลังนอนกลางวันอยู่ด้านในต่อจากนั้นก็คือ “ว้ายยย!!!!!!” เสียงร้องกรี๊ดของผู้หญิงก็ดังมาจากเรือนด้านข้างเหมือนกัน เสียงสูง ตื่นเต้น นุ่มนวลไพเราะเป็นจังหวะจะโคน!

โจวเจ๋อเดินเซ ในนี้มีผู้หญิงได้อย่างไร โอเค ถึงแม้ตอนนี้พระจะนับว่าเป็นอาชีพอย่างหนึ่ง ยิ่งเป็นวัดที่ดีเมื่อเป็นพระจะได้สวัสดิการที่ดีไปด้วย กระทั่งต้องจบการศึกษาระดับปริญญาตรีหรือไม่ก็ปริญญาโทขึ้นไป ไม่อย่างนั้นคุณอยากจะโกนผมเข้าวัดอยู่ฟรีกินฟรีไม่มีทาง

แต่วัดแห่งนี้ไม่ธรรมดา เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่ปฏิบัติตามกฎ หลังจากโจวเจ๋อเข้าไปดูแล้วจึงเห็นพระอ้วนจ้ำม่ำเปลือยกายท่อนบน ถูกผู้ชายวัยกลางคนทับอยู่บนเสื่อ เมื่อครู่ผู้ชายวัยกลางคนทุบแจกันแตก เขาใช้มือข้างหนึ่งปิดแผลที่คอของตัวเอง ส่วนมืออีกข้างหนึ่งถือเศษกระเบื้องที่แตกจ่อไปที่คอของพระอ้วน

ส่วนอีกด้านหนึ่งของเสื่อ มีผู้หญิงใส่เสื้อหนังกางเกงหนังยืนอยู่ และข้างเท้าของผู้หญิงยังมีแส้หนังสีดำตกอยู่ตรงนั้น

พระอ้วนไม่ขัดขืน เพราะเขาขัดขืนไม่ได้ เนื่องจากเขาถูกเชือกป่านสีแดงที่ทั้งหนาทั้งยาวเส้นหนึ่งมัดอยู่บนตัวของเขา ฟ้าดินเป็นพยาน โจวเจ๋อมั่นใจว่าผู้ชายวัยกลางคนคนนี้อย่าว่าแต่โดนโจวเจ๋อทำร้ายจนเป็นลูกธนูแผ่วปลายแล้วเลย ต่อให้เขาร่างกายแข็งแรง ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะจับคนมัดแน่นขนาดนี้ได้ทั้งๆ ที่โจวเจ๋อวิ่งตามหลังเขาเข้ามาไม่ถึงสิบวินาที!

แสดงว่าพระอ้วนคนนี้ถูกมัดและนอนอยู่ตรงนั้นก่อนหน้านี้แล้ว ดูเหมือนกำลังเล่นเกมอะไรที่เด็กดูไม่ได้ ผู้หญิงยังคงร้องวี้ดว้ายอยู่ ร้องจนโจวเจ๋อรำคาญ ดังนั้นจึงกวาดนัยน์ตาสีดำเป็นประกายมองหญิงสาวหนึ่งที หญิงสาวคนนั้นจึงหยุดร้อง

จากนั้นสายตาของผู้หญิงได้มองไปที่เล็บของโจวเจ๋อ มือขวายังพอไหว เล็บยาวแค่เล็กน้อย ทว่ามือซ้ายของเขากลับมีเล็บทั้งห้าที่แข็งและหนาเหมือนใบมีดมันคืออะไร! แต่งคอสเพลย์เป็นวูฟเวอรีนเหรอ

“ไสหัวไป!” โจวเจ๋อตวาดเบาๆ ผู้หญิงรีบวิ่งผ่านตัวโจวเจ๋อไปทันที ไม่กล้าโอ้เอ้เลยสักนิด ถึงแม้เธอจะใส่เสื้อผ้าที่ไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไร แต่เธอไม่มีเวลาสนใจอะไรมาก ต่อให้ตัวเปลือยล่อนจ้อนเธอก็จะวิ่งออกมาอย่างไม่ลังเลแม้แต่นิดเดียว ดังนั้นในห้องนี้จึงมีสามคน ล้วนแต่เป็นตัวประหลาดทั้งสิ้น!

สายตาของโจวเจ๋อมองไปที่ผู้ชายวัยกลางคนที่พยายามห้ามเลือดแต่ไม่สำเร็จ ผู้ชายวัยกลางคนมองโจวเจ๋อพลางใช้เศษกระเบื้องที่แหลมคนในมือกรีดคอที่อ้วนตุ๊ต๊ะของพระอ้วนเบาๆ เกิดเป็นรอยเลือดออกมาเยอะมาก

พระอ้วนตกใจตัวสั่นงันงก น้ำตาคลอเบ้า เห็นได้ชัดว่าเขาตกใจกลัวไม่น้อย โจวเจ๋อเลียปาก พลางคิดว่าบทไม่ถูกต้อง ก่อนหน้านั้นตัวเองนั่งอยู่ด้านนอกวัด ตอนที่ได้ยินเสียงเคาะระฆังยังสามารถทำให้ตัวเองรู้สึกทรมานได้ ซึ่งหมายความว่าวัดนี้ต้องมีความศักดิ์สิทธิ์อยู่บ้าง และน่าจะมีพระที่มีฌานสูงอยู่ข้างใน

แต่แม่งอะไรเนี่ย นี่มันคือพระบ้าบออะไร! พอนึกถึงตัวเองที่นั่งดื่มน้ำชาเงียบๆ อยู่นอกวัดก่อนหน้านี้พร้อมกับลิ้มรสชาติความทรมานจากเสียงระฆังไปพลางๆ ราวกับว่าร่างกายและจิตใจของตัวเองได้ยกระดับแล้ว จากนั้นมองพระอ้วนที่อยู่ตรงหน้าอีกครั้ง จู่ๆ เถ้าแก่โจวรู้สึกสะอิดสะเอียนขึ้นมา

“คุณอย่าเข้ามา ถ้าเข้ามา ถ้าเข้ามาละก็ ผมจะ…ผมจะฆ่าเขา!” ผู้ชายวัยกลางคนเค้นเสียงสูง เขากำลังรอ เขากำลังรอคนมาช่วยเขา เขาแอบหนีตอนที่คนนั้นไม่ทันระวัง ตอนนี้คนนั้นน่าจะรู้ตัวแล้วใช่ไหม

พระอ้วนยักคิ้วหลิ่วตาให้โจวเจ๋อไม่หยุด ขอร้องให้โจวเจ๋อรีบถอยออกไป อย่าปล่อยให้ชีวิตของตัวประกันอย่างเขาได้รับการข่มขู่ โจวเจ๋อกลับหยิบบุหรี่ออกมาหนึ่งมวนอย่างเงียบๆ จุดบุหรี่สูบเข้าปอดเต็มแรงแล้วพ่นออกมา จากนั้นเขี่ยก้นบุหรี่ด้วยความเคยชิน เมื่อเห็นผู้ชายวัยกลางคนกับพระอ้วนกำลังมองตัวเอง เหมือนรอตัวเองตอบ

โจวเจ๋อจึงยักไหล่แล้วพูดอย่างสงสัยว่า “แม่งเอ๊ยคุณรีบฆ่าสิ ฆ่าพระคนนี้เลย แล้วผมค่อยส่งคุณไปลงนรก เร็วสิถ้าคุณไม่ฆ่าผมฆ่าเอง!”

…………………………………………………………………………

ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

Status: Ongoing
หลังจากการตายที่ไม่คาดคิด สิ่งที่เขาได้รับคือ ตัวตนใหม่ ร้านหนังสือใกล้เจ๊ง และตำแหน่งยมทูตจำเป็น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน