ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล – ตอนที่ 494 ผมหมดจอก คุณดื่มตามใจเลย!

ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

ตอนที่ 494 ผมหมดจอก คุณดื่มตามใจเลย!

ทนายอันพักผ่อนอยู่นานพอสมควรถึงได้ค่อยๆ ฟื้นกำลังขึ้นมา โจวเจ๋อก็รู้สึกไม่ค่อยดีนัก

สรุปคือ ทั้งสองคนเพิ่งจะเข้าไปในสถานที่ที่เต็มไปด้วยความลึกลับและอันตราย และยังไม่ทันได้พบเจอวิกฤตหนักก็เกือบจะฆ่ากันตายเสียแล้ว

แต่ทว่า หลังจากเลื่อนเวลาออกไปสักพัก เสียงเอะอะจากข้างนอกถ้ำกลับยิ่งดังมากขึ้น มีเสียงชักชวนให้ดื่มเหล้า มีการละเล่นในวงสุรา บ้างก็ร้องละครเพลง มีแม้กระทั่งท่องบทกลอน สนุกสนานเจี๊ยวจ๊าวจนเรียกได้ว่าสุดเหวี่ยง

โจวเจ๋อสบตากับทนายอัน ทั้งสองปรับอารมณ์เรียบร้อย ได้เวลาต้องออกไปแล้ว

เมื่อออกมาข้างนอกถ้ำ ทันใดนั้นก็เห็นแสงสว่าง เห็นได้ชัดว่ามีพรมแดงปูอยู่ บนนั้นเป็นงานเลี้ยงที่มีขนาดเท่ากับสนามฟุตบอล

โต๊ะสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ปูด้วยแผ่นวงกลมขนาดใหญ่ยิ่งกว่าสำทับไว้ด้านบนอีกที ส่วนบนนั้นวางเครื่องดื่มและกับแกล้มเอาไว้ แถมมีม้านั่งยาวทั้งสองด้าน เป็นเก้าอี้ยาวที่สามารถนั่งได้สามถึงสี่คน ตอนนี้คนที่อาศัยอยู่ในอาคารพาณิชย์ไม่ค่อยนิยมใช้เก้าอี้แบบนี้กันแล้ว สรุปแล้ว ที่นี่ให้ความรู้สึกเหมือนจัดงานแต่งที่ชนบทอย่างไรอย่างนั้น

แต่ทว่างานมงคลหรืองานศพขนานแท้ดั้งเดิมที่จัดขึ้นในชนบทน่ะ มักจะเคลียร์ทุ่งนาออกมาสักผืนก่อน ด้านบนมีเพิงและด้านล่างมีโต๊ะเก้าวางอยู่ แต่ภาพของที่นี่กลับเป็นกำแพงหินที่เป็นหลุมเป็นบ่อ มีตะเกียงจำนวนมากแขวนอยู่บนกำแพงหินซึ่งส่องสว่างไปทั่ว

มีคนมากมายนั่งดื่มกินคุยกันหัวเราะคิกคัก บางคนสวมเสื้อผ้าขาดรุ่งริ่ง เสื้อผ้าเย็บปะคล้ายกับขอทานก็ไม่ปาน บางคนสวมใส่เครื่องแบบราชการทำด้วยผ้าไหมและแพรต่วน ตัวขาวอวบอ้วน บางคนไว้ผมถักเปียด้านหลัง แต่บางคนก็ยังใส่สูท เพียงแต่ว่าสูทที่สวมใส่นั้นดูเก่าไปหน่อย คล้ายกับสไตล์ชุดราชปะแตนเก่าแก่ที่สุด

มีผู้คนมากมาย ทุกคนพากันดื่มกินและหัวเราะอย่างสนุกสนาน มีหญิงสาวที่สวมกระโปรงคอยนำเครื่องดื่มและกับแกล้มสดๆ ใหม่ๆ มาเสิร์ฟไม่ขาด วิ่งวุ่นและงานยุ่งเสียจนเท้าไม่ติดพื้นเลย ยังมีอีกสองคนที่เดินผ่านหน้าโจวเจ๋อและทนายอันไป เห็นได้ชัดว่าพวกเธอเห็นพวกเขาแล้ว แต่กลับไม่แสดงปฏิกิริยาอะไรเลย แค่เบี่ยงตัวเล็กน้อยและอ้อมออกไป

“นี่มันงานเลี้ยงฉลองผีหรือไง” โจวเจ๋อเอ่ยพูด

ในสุสานใต้ดินมีคนมาจากไหนมากมายขนาดนี้เนี่ย นอกจากนี้ ต่อให้คนเป็นจะมีมากมายขนาดนี้ แล้วจะไปเอาชุดแปลกประหลาดมากมายขนาดนี้มาจากไหนล่ะ

โจวเจ๋อเคยเห็นฉากที่คล้ายกันมาก่อน นั่นเป็นครั้งแรกที่เขาได้พบกับแม่นางไป๋ในดินแดนรกร้างที่แม่นางไป๋อาศัยอยู่ ตอนที่โจวเจ๋อไปก็มีงานเลี้ยงจัดขึ้นเช่นเดียวกัน ภูตผีปีศาจตามป่าเขามาชุมนุมกันไม่น้อย แต่เมื่อเทียบกับความเอิกเกริกที่แม่นางไป๋จัดในตอนแรกกับงานตรงหน้าเขาตอนนี้ดูแตกต่างกันราวฟ้ากับดินจริงๆ

“แม้ว่ามันจะปลอมบ้างแท้บ้าง จริงเท็จปะปนกัน แต่ก็จัดเสียอลังการงานสร้างไปหน่อย” ทนายอันจิ๊ปาก “เถ้าแก่ ทั้งหมอกพิษแล้วยังบวกกับฉากนี้อีก ทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเองบ้าบอมาลองหยั่งเชิงแบบนี้กำลังรนหาที่ตายอยู่ ผมคิดว่าถ้ายังแหย่ต่อไปสิ่งที่จะโดนไม่ใช่หัวใจ แต่เป็นรังแตน”

“ลองดูไปก่อนเถอะ”

โจวเจ๋อส่งสัญญาณให้ทนายอันอย่ากระโตกกระตาก จริงๆ แล้วทนายอันจะตื่นตระหนกก็ไม่แปลกหรอก เพราะโจวเจ๋อก็ตื่นตระหนกอยู่บ้างเหมือนกัน โดยเฉพาะเขารู้ดีว่าเจ้านั่นในร่างของเขาเพิ่งจะออกมา และภายในระยะเวลาอันสั้นนี้คงไม่ออกมาอีก ที่พึ่งอันสูงสุดของเขาไม่อยู่เสียแล้ว

ทั้งสองหาโต๊ะว่างและนั่งลง อาหารและสุราเมรัยบนโต๊ะนั้นอุดมสมบูรณ์มาก อันที่จริงทั้งสองกินขนมขบเคี้ยวบนรถมาแค่นิดหน่อย แถมจากนั้นยังเดินเที่ยวเตร่ในหุบเขากับแบดเจอร์กลางดึกอีก มันก็หิวจริงๆ นั่นแหละ แต่ไม่ว่าอาหารบนโต๊ะจะอร่อยแค่ไหน คนมากประสบการณ์อย่างโจวเจ๋อและทนายอันจะไม่แตะต้องเด็ดขาด

จะมีอาหารกับแกล้มรสเลิศมากมายในหุบเขาใต้ดินแห่งนี้ได้อย่างไร ทั้งยังมีผักนอกฤดูกาลอีกต่างหาก มันเป็นไปได้หรือ

โจวเจ๋อจำได้ว่าในงานเลี้ยงของแม่นางไป๋ในตอนแรก สวี่ชิงหล่างกินไปไม่น้อยทีเดียว สุดท้ายดันพบว่าในชามเต็มไปด้วยของจำพวกไส้เดือนและหนอนอะไรต่อมิอะไรจนอ้วกพุ่งออกมา เรียกได้ว่าน่าเวทนา

ทุกครั้งที่มีคนเดินผ่านโต๊ะพวกเขา โจวเจ๋อและทนายอันจะพากันหยิบจอกเหล้าขึ้นมาด้วยกัน

“เหอะๆ กินดีดื่มดีจังเลย”

“เหอะๆ ดื่มดีกินดีจังเลย”

รอจนคนไปแล้วก็วางจอกลงพร้อมกัน

“มีลู่ทางอะไรคร่าวๆ ไหม คิดคำนวณไว้หรือยัง” โจวเจ๋อถาม

“เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน” ทนายอันดีดนิ้ว “สามารถทำเช่นนี้ได้ อย่างน้อยต้องอยู่ระดับเดียวกับปีศาจเฒ่าเขาเฮยซานใน ‘โปเยโปโลเย’”

“ก่อนอื่นให้หาวิธีดูว่าหลินเข่ออยู่ที่นี่หรือเปล่า”

โจวเจ๋อตัดสินใจแล้ว เดิมทีก็ดั้นด้นตามหาหลินเข่อทุกหนทาง เป็นไปไม่ได้ที่พอเจออันตรายแล้วจะถอยกลับไป ไม่อย่างนั้นจะไม่เป็นการเสียเวลาเปล่าไปเลยหรือไง

ในตอนนี้เอง มีคนกลุ่มหนึ่งนั่งลงตรงโต๊ะที่โจวเจ๋อและทนายอันนั่งอยู่พลางพูดคุยและหัวเราะไปด้วย หลังจากเห็นคนกลุ่มนี้ ดวงตาของโจวเจ๋อและทนายอันพลันสว่างวาบ

อะไรกันเนี่ย ทำไมผีฝรั่งถึงโผล่มาที่นี่ได้ล่ะ

ใช่แล้ว เจ็ดคนที่นั่งลงเป็นฝรั่งผมบลอนด์นัยน์ตาสีฟ้าน้ำทะเลทั้งหมด สองคนในนั้นมีผมหยิกหยองเกินเบอร์มาก และหนึ่งในนั้นมีฝรั่งสาวแถมยังมีมนต์เสน่ห์สุดขั้วอีกต่างหาก ทั้งเจ็ดคนนี้สวมชุดตั้งแคมป์ และสไตล์ก็คล้ายกับในหนังคาวบอยตะวันตกของอเมริกายุคแรกนิดหน่อยด้วย

หลังจากพวกฝรั่งมังค่านั่งลงก็เริ่มพูดคุย ขณะเดียวกันก็ดื่มเหล้ากินเนื้อ เห็นได้ชัดว่าดูคุ้นเคยมาก เมื่อตอนที่โจวเจ๋อและทนายอันกำลังพินิจเพ่งมองพวกเขาอยู่ พวกเขาก็กำลังพินิจวิเคราะห์ ‘คนจีน’ สองคนที่นั่งโต๊ะของตัวเองเช่นกัน

โชคดีที่ไม่ว่าโจวเจ๋อหรือทนายอันล้วนได้รับการศึกษามาอย่างดี พวกเขาเหล่านั้นพูดภาษาอังกฤษ ทั้งสองคนก็ยังพอฟังเข้าใจได้ แต่เมื่อพวกเขาได้ยิน ‘ประธานาธิบดีโรสเวลต์’ ‘กะXรี่’ ‘fuck’ ‘พรรคริพับลิกัน’ และคำศัพท์มากมายจากปาก โจวเจ๋อก็สบตากับทนายอัน

“แยงกี้พวกนี้น่าจะตายไปนานแล้วใช่ไหม อาจมาตั้งแคมป์และสำรวจที่จีนก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง แต่ดันตายอยู่ที่นี่เสียก่อนใช่หรือเปล่า” ทนายอันเดา

“ไม่ใช่ น่าจะนานกว่านั้นอีกหน่อย” โจวเจ๋อส่ายหน้าและพูดต่อ “โรสเวลต์ที่พวกเขาพูดถึง ไม่ใช่แฟรงกลิน โรสเวลต์ ไม่ใช่โรสเวลต์ที่ก่อตั้งรัฐบาลใหม่คนนั้น แฟรงกลิน โรสเวลต์อยู่พรรคเดโมแครต แต่พวกเขากำลังด่าว่าพรรคริพับลิกัน น่าจะเป็นธีโอดอร์ โรสเวลต์ที่ดำรงตำแหน่งก่อนหน้านั้นหลายสิบปี เขาอยู่พรรคริพับลิกัน ประมาณช่วงราชวงศ์ชิงตอนปลายของเรา สมาชิกทั้งหมดของทีมสำรวจน่าจะเสียชีวิตในประเทศจีนช่วงปี 1901 ถึง 1909”

“…” ทนายอัน

วินาทีนี้ ดูเหมือนทนายอันรู้สึกถึงความหวาดกลัวจากการถูกคนบ้าการเรียนครอบงำ

“เถ้าแก่ ไม่แปลกใจเลยที่ชาติก่อนคุณจะเป็นโสด มัวเอาเวลามาจำแต่เรื่องพวกนี้จนหมด แล้วจะไปหาสาวได้ที่ไหนเล่า” ทนายอันพูดเหน็บแนมเล็กน้อย

“ใครให้พวกเจ้านั่งตรงนี้ไม่ทราบ”

ในเวลานี้ เสียงแหบพร่าแก่ๆ ดังขึ้นด้านหลังพวกโจวเจ๋อ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เมื่อเจ้าของเสียงยืนอยู่ข้างหลังพวกเขา โจวเจ๋อและทนายอันต่างไม่รู้สึกตัวด้วยซ้ำ!

เมื่อทั้งสองหันหน้าไปก็เห็นหญิงชราสวมชุดคลุมสีดำและติดดอกไม้ขนาดใหญ่ไว้ที่หน้าอก รอยย่นบนใบหน้าของหญิงชรานั้นหนายิ่งกว่ารังผึ้ง ลูกตาสีเขียวประกายคู่นั้นจมอยู่ในเบ้าตาหย่อนยาน หากไม่สังเกตดีๆ ก็จะหาไม่เจอ

“พวกเจ้าหน้าไม่คุ้นเลย ทำไมไม่เคยเห็นพวกเจ้ามาก่อน”

เมื่อหญิงชราเอ่ยถาม ลูกตาก็ดูเหมือนจะเบิกกว้างเล็กน้อย ดวงตาประหนึ่งเม็ดถั่วสองลูกกำลังจะถลนออกจากกองเนื้อที่หย่อนยาน

ก่อนที่โจวเจ๋อและทนายอันจะคิดออกว่าควรตอบคำถามนี้อย่างไร หญิงชราก็ดุด่าว่ากล่าวต่อทันที

“โต๊ะนี้เตรียมไว้สำหรับวิญญาณของเพื่อนฝรั่ง พวกเจ้าเหล่าผีจีนมีสิทธิ์อะไรมานั่งโต๊ะนี้ไม่ทราบ!”

“…” โจวเจ๋อ

“…” ทนายอัน

ในเวลานี้ จู่ๆ เสียงฆ้องและกลองดังมาจากข้างนอก บรรยากาศของโต๊ะอื่นๆ ที่อยู่ใกล้เคียงพลันคึกคักครึกครื้นขึ้นมาทันที ส่งเสียงโห่ร้องเชียร์กึกก้อง ราวกับว่าบุคคลสำคัญกำลังจะปรากฏตัวขึ้น

ความสนใจของหญิงชราก็ถูกดึงไปเช่นกัน ดูเหมือนว่าเธอมีเรื่องต้องทำจะเสียเวลานานไม่ได้ เมื่อเธอหันกลับมาสนใจที่โต๊ะนี้ กลับพบว่าโจวเจ๋อและทนายอันกำลังพูดคุยอย่างสนุกสนานกับฝรั่งทั้งเจ็ดคน โดยเฉพาะทนายอันกำลังลูบมือของฝรั่งสาว ไม่รู้ว่ากำลังพูดเรื่องตลกอะไร ทำเอาฝรั่งสาวหัวเราะ ‘คิกคัก’ ไม่หยุด

เมื่อเห็นฉากนี้ สีหน้าของหญิงชราผ่อนคลายลงไม่น้อยจึงไม่พูดอะไรต่ออีก แต่กลับรีบไปยังสถานที่ที่พลุกพล่านคึกคักที่สุดเพื่อเตรียมต้อนรับ เธอมีเรื่องที่ต้องทำมากมายจึงไม่มีเวลามาสนใจผีไร้ญาติไม่กี่ตนพวกนี้

วันนี้มีคนมากินดื่มกันเยอะมาก แต่อย่างไรเสียวันนี้ก็เป็นวันมงคล ฉะนั้นมาสนุกสนานกันเถอะ

โจวเจ๋อพูดโจมตีพรรคริพับลิกันกับฝรั่งที่อยู่ข้างๆ เขาแล้วนั่งลง ทนายอันก็นั่งลงโดยไม่สนใจฝรั่งสาวที่ตายไปเกินร้อยกว่าปี

“เถ้าแก่ ดูเหมือนว่ามีคนแต่งงานนะ”

โจวเจ๋อพยักหน้า ฝรั่งได้ข่าวมานิดหน่อย พวกเขาบอกว่าวันนี้จะมีคนแต่งงานกัน จึงเชิญพวกเขามาด้วย

“งานแต่งผีนี่จัดได้อลังการดีแท้ ดูเหมือนภูตผีวิญญาณไร้ญาติในภูเขาลำเนาไพรแถบนี้จะมากันหมดเลยนะ หญิงชราที่ดูแลงานเมื่อกี้ก็ดูเหมือนปีศาจจิ้งจอก”

“โชคดีที่เราไม่ใช่คน” ทนายอันยิ้มพูด “เลยไม่ต้องกลัวความแตก”

ในเวลานี้เอง หญิงชราคนนั้นดันไปและย้อนกลับมาแล้ว ข้างหลังหญิงชรามีชายร่างใหญ่ท้วมถูกผู้คนห้อมล้อม และพวกเขาตั้งใจเดินมาที่โต๊ะนี้

“รินเหล้า ดื่มอวยพร!”

หญิงชรากระซิบบอกทนายอันและโจวเจ๋อ ทนายอันพยักหน้าทันทีและหยิบไหเหล้าขึ้นมารินให้ผีฝรั่งทั้งเจ็ดก่อน เมื่อรินเหล้าใส่จอกตรงหน้าโจวเจ๋อ โจวเจ๋อทำสัญญาณมือบอกเป็นนัยๆ ว่ารินน้อยหน่อย

ทนายอันพยักหน้าบอกว่าเขารู้แล้ว จากนั้นโจวเจ๋อก็เห็นว่าจอกเหล้าตรงหน้าตัวเองถูกรินจนเต็มแก้ว แถมล้นกระฉอกออกมาไม่น้อย

“…” โจวเจ๋อ

แต่ในจอกของทนายอันกลับรินเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

คนทั้งโต๊ะร่วมกันดื่มอวยพร ตอนที่ผีฝรั่งทั้งเจ็ดดื่มอวยพรให้ชายร่างใหญ่ที่ถูกคนรายล้อม เขามีความสุขอย่างเห็นได้ชัด มีหน้ามีตามาก สุขใจหวานเยิ้มยิ่งกว่ากินน้ำผึ้ง แต่ยังเผยให้เห็นถึงท่าทางกังวลใจ ชายร่างใหญ่คนนี้ต้องเป็นเจ้าหน้าที่ของราชวงศ์ชิงแน่ๆ ถูกผีฝรั่งหักแข้งขา กลายเป็นผีแล้วยังกลัวถึงขนาดนี้อยู่อีก

ทนายอันพึมพำในใจ

ตอนดื่มอวยพร เขายกจอกเหล้าขึ้นมา แต่ดันถูกกระแทกสีข้างกะทันหัน จนจอกเหล้าในมือร่วงตกพื้น

ชั่วขณะหนึ่ง สายตาคนทั้งโต๊ะมองมาที่เขาเป็นจุดเดียว ทนายอันกระอักกระอ่วนเล็กน้อย ส่งสัญญาณว่าตัวเองจะรินเหล้าดื่มอวยพรอีกครั้ง แต่ในตอนนี้เอง โจวเจ๋อที่อยู่ข้างๆ หยิบไหเหล้าใบใหญ่ขึ้นมาวางไว้ตรงหน้าเขา!

“…” ทนายอัน

………………………………………………..

ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

Status: Ongoing
หลังจากการตายที่ไม่คาดคิด สิ่งที่เขาได้รับคือ ตัวตนใหม่ ร้านหนังสือใกล้เจ๊ง และตำแหน่งยมทูตจำเป็น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท