ตอนที่ 131 เก็บค่าคุ้มครอง (2)
“ราคาของพวกเราถูกกว่า บริการด้วยความเชี่ยวชาญกว่า การทำธุรกิจในเวลานี้ หลักๆ ดูที่เรื่องบริการ บริการได้แย่ อย่างอื่นทำได้ดีขนาดไหน ไม่มีการบอกต่อคงไร้ประโยชน์ ธุรกิจขนส่งในปัจจุบัน ผมก็เข้าใจเช่นกัน ส่วนมากล้วนเป็นแบบตัวแทนจำหน่าย จุดส่งของที่เป็นตัวแทนจำหน่ายพวกนี้ ถ้าพูดตามความเป็นจริงคือคงไม่สนใจว่าบริษัทคุณจะเสื่อมเสียชื่อเสียงหรือเปล่า! มีลูกค้าก็แค่ส่งไปเท่านั้น เรื่องบริการแทบไม่ต้องคิด ร่วมเป็นตัวแทนจำหน่ายกับบริษัทคุณ บริษัทคุณชื่อเสียงฉาวโฉ่ แค่เปลี่ยนเป็นแบรนด์อื่น เปลี่ยนเป็นตัวแทนจำหน่ายบริษัทใหม่ แต่พวกเราไม่เหมือนกัน พวกเราอยากทำแบรนด์ของตัวเอง คงจะไม่ทำเรื่องลวกๆ นี่คือจุดเด่นของพวกเรา!”
“ในขณะเดียวกันก็ถือว่าเป็นจุดด้อย”
หลี่เฉิงเจ๋อเตือนว่า “เหตุผลที่บริษัทขนส่งต้องการให้คนอื่นร่วมธุรกิจ เรื่องค่าตัวแทนจำหน่ายเป็นแค่เรื่องเล็ก แต่พวกเขาคิดจะขยายขอบเขตและอิทธิพลของตัวเอง พวกเราใช้แบรนด์ของพวกเรา เมื่อเปิดแล้วจะเป็นตลาดของพวกเราเอง ทุกคนตระหนักถึงจุดนี้ได้เหมือนกัน”
“ลองดู บริษัทขนส่งไม่ได้มีแค่แห่งเดียว ผมไม่เชื่อหรอกว่าทุกบริษัทจะต้องใช้แบรนด์ของพวกเขาเท่านั้น ถ้าไม่ได้จริงๆ พวกเราก็จ่ายค่าตัวแทนและค่าร่วมธุรกิจแต่ไม่ต้องใช้แบรนด์ของพวกเขา ผมคิดว่าต้องมีคนตอบรับแน่!”
ฟางผิงเอ่ยอย่างมั่นใจ
หลี่เฉิงเจ๋อส่ายหัว ทำได้เพียงเอ่ยว่า “บริษัทใหญ่อาจจะไม่ได้ แต่บริษัทขนาดกลางหรือขนาดเล็กอาจมีโอกาสตอบรับ แต่พอเป็นแบบนี้ แม้ช่วงแรกพวกเราจะรับธุรกิจมา เกรงว่าคงจะไม่มีกำไรอะไร”
“เรื่องนี้ไม่สำคัญ แบรนด์มีชื่อเสียงแล้ว นั่นคือเงินเหมือนกัน”
ฟางผิงยังเอ่ยต่อ “ธุรกิจส่งอาหารล่ะ ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?”
“ใช้ได้เลยครับ แต่เริ่มมีคนทำตามแล้ว!”
หลี่เฉิงเจ๋อเอ่ยด้วยสีหน้าดูไม่ดีนัก “ธุรกิจนี้ทำได้ไม่ยาก ช่วงแรกก็ใช้ต้นทุนต่ำ ตอนนี้ทางตะวันออกของเมืองมหาวิทยาลัย เริ่มมีเค้าลางของแพลตฟอร์มธุรกิจอาหารเกิดขึ้นในมหาวิทยาลัยแล้ว”
“โฆษณา กระตุ้น บริการ มืออาชีพ”
ฟางผิงเอ่ยคำพวกนี้ออกมา เตือนว่า “พวกเราให้บริการก่อน สร้างความประทับใจให้ผู้คนแบบมืออาชีพ! ยูนิฟอร์มต้องใหม่ เป็นแบบเดียวกัน จะสวมสะปะสะเปะไม่ได้ ดูแล้วไม่น่าเชื่อถือ สัญลักษณ์ของหยวนฟางต้องชัดเจน ให้บริการด้วยความรวดเร็ว ให้ค่าตอบแทนการขายกับไรเดอร์สูงกว่าบริษัทอื่นนิดหนึ่ง อีกอย่างพวกแฟลตฟอร์มต้องรวบรัด เข้าใจง่าย ผมเคยเห็นแพลตฟอร์มอาหารในอินเตอร์เน็ตเหมือนกัน ค่อนข้างซับซ้อน อาหารเครื่องดื่มทุกอย่างต้องแบ่งประเภท แยกพื้นที่ออกมาต่างหาก อีกอย่างต้องสั่งได้รวดเร็ว! มีการรับรองจัดเก็บเงินปลายทางและจ่ายเงินออนไลน์ มีวิธีจ่ายเงินที่หลากหลาย พยายามรวมทุกวิธีจ่ายเงินในปัจจุบันให้ครอบคลุม ยังมีอีกเรื่อง ตอนนี้เตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงได้แล้ว”
“เปลี่ยนแปลง?”
“พูดง่ายๆ ก็คือการเปลี่ยนแปลงบนมือถือ ปัจจุบันสิ่งที่ทุกคนพกติดตัวมากที่สุดคือมือถือ ต่างประเทศเข้าสู่ยุคของระบบโทรศัพท์ 3G แล้ว พวกเราคงจะตามมาในเร็วๆ นี้เช่นกัน หากคอมพิวเตอร์ถูกแทนที่ด้วยมือถือแล้ว ธุรกิจมือถือก็จะเป็นกระแสหลักของสังคม ตอนนี้พวกเรายังมีเวลาเตรียมตัว ระบบโทรศัพท์ 3G เพียงเกิดขึ้นได้ไม่นาน พวกเราต้องเตรียมพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เปิดให้บริการบนมือถือเป็นคนแรก ขยับขยายกิจการ ผมไม่ได้พูดถึงแค่ธุรกิจส่งอาหาร แต่รวมถึงธุรกิจขนส่งด้วย เข้าใจความหมายของผมใช่ไหม? ตอนนี้การให้บริการขนส่งยุ่งยากไม่น้อย ภายหลังสั่งซื้อสินค้าในมือถือ พวกเรารับส่งถึงหน้าประตู สร้างเครือข่ายลูกค้าธุรกิจขนส่ง นำหน้าคนอื่น นานวันเข้าพอมีชื่อเสียง ตลาดก็จะเปิดรับ”
ฟางผิงพูดต่อ “ผมไม่ได้คิดว่าจะสามารถทำเงินได้อย่างรวดเร็ว ช่วงแรกต้องใช้เวลาเตรียมตัวและวางแผน รอ 3G กลายเป็นกระแสหลักแล้ว พวกเรามีการเตรียมพร้อมก็จะเดินนำหน้าคนอื่น ไม่ต้องกลัวว่าจะหาเงินไม่ได้”
หลี่เฉิงเจ๋อได้ฟังแล้ว อดถามไม่ได้ “คุณฟาง เรื่องพวกนี้คุณคิดออกมาคนเดียวเหรอครับ?”
ฟางผิงเพิ่งจะเป็นนักศึกษาปีหนึ่งเท่านั้น กลับดูเหมือนว่าเขาชำนาญเรื่องธุรกิจยิ่งกว่าตัวเองซะอีก บางเรื่องก็เข้าใจอย่างทะลุปรุโปร่ง รู้จักมองโอกาสในอนาคต
แน่นอนว่า ใจกล้าเช่นกัน
เวลานี้ระบบ 3G เพิ่งจะเริ่มใช้ในต่างประเทศ ในประเทศเพิ่งจะถูกทดสอบไป ยังไม่ได้เปิดใช้อย่างเป็นทางการ
ฟางผิงเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “เวลาว่างชอบดูข่าว คิดอะไรไปเรื่อยเท่านั้น พวกเราตามโลกไม่ทันทุกก้าวหรอก ตอนนี้คิดจะทำถือเป็นเรื่องดีแล้ว เพียงแค่ต้องหาลู่ทางใหม่เท่านั้น สำเร็จคงดีที่สุด แต่ถ้าไม่สำเร็จก็ไม่เสียดาย”
หลี่เฉิงเจ๋อยังคงนับถืออย่างยิ่ง ผ่านไปสักพัก ค่อยกล่าวอย่างลังเล “คุณฟาง ตอนนี้บริษัท…”
“ไม่มีเงินแล้ว?”
“ไม่ใช่ครับ เงินแปดล้านครั้งก่อนของคุณไม่ได้หมดเร็วขนาดนั้น”
หลี่เฉิงเจ๋อส่ายหัว ก่อนจะอธิบายต่อ “เพราะคุณไม่เคยออกหน้าเลย ผมเป็นคนรับผิดชอบมาตลอด ก่อนหน้านี้มีการโหมข่าวว่าบริษัทของพวกเราเปิดโดยนักศึกษามหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้เซี่ยงไฮ้ ทุกคนต่างกลัวเกรงอยู่บ้าง จึงไม่ได้เคลื่อนไหวอะไร แต่คุณไม่ออกหน้าเลยแบบนี้ พวกเรายังขยับขยายออกไปเรื่อยๆ ตอนนี้บางบริษัทนั่งไม่ติดที่แล้ว ทางเมืองมหาวิทยาลัยยังมีบริษัทขนส่งอื่นๆ เปิดให้บริการอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน รวมทั้งพวกร้านอาหารใกล้ๆ มหาวิทยาลัย…”
“พวกเขาก่อกวน?”
“ไม่ถึงกับก่อกวน แต่เป็นการเบ่งบารมีและตักเตือน”
“ตักเตือน?”
“ครับ ช่วงนี้มีผลกระทบกับไรเดอร์อยู่บ้าง บางมหาวิทยาลัยตอนนี้ไม่อนุญาตให้คนของพวกเราขึ้นตึก ก่อนหน้านี้ขึ้นได้ คนของพวกเราทำตามกฎเหมือนกัน แต่ตอนนี้ไม่ให้ขึ้นแล้ว ทั้งมหาวิทยาลัยที่ไม่ให้ขึ้นพวกนั้น ต่างมีบริษัทอื่นขยับขยายกิจการที่นั่น ผมเดาว่าพวกเขาน่าจะชักใยอยู่เบื้องหลัง”
ฟางผิงเงียบไปพักหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยว่า “ลองแก้ไขปัญหาด้วยวิธีของอารยชนก่อน หากปรับความเข้าใจกันได้ ตีสนิทคงดีที่สุด แต่ถ้าพูดไม่รู้เรื่อง คุณโทรหาผมอีกที ถึงเวลานั้นผมจะจัดการตามสถานการณ์เอง”
“ครับ”
“…”
ฟางผิงกำชับสองสามประโยคแล้ว ไม่คิดจะรั้งตัวนานอีก ออกมาจากบริษัทอย่างรวดเร็ว
เห็นว่าค่าทรัพย์สินของตัวเองคงจะลดต่ำกว่าสิบล้านในไม่ช้า ฟางผิงถอนหายใจ ไม่มีเงินทำอะไรไม่ได้เลย!
เขาควรจะหาวิธีอื่นหาเงินสักหน่อยดีหรือเปล่า?
แม้ว่าบริษัทขนส่งจะทำเงินได้ แต่ไม่ใช่ว่าจะได้กำไรก้อนโตในวันสองวันนี้
นี่เป็นเรื่องที่ฟางผิงเตรียมไว้สำหรับอนาคต ส่วนเวลานี้ยังต้องพึ่งพาวิธีอื่นสักหน่อย
—
ฟางผิงกลับมหาวิทยาลัยด้วยความกลุ้มใจในการหาเงิน
ตอนที่ถึงหอพัก ใต้ตึกนั้นเขาเจอนักศึกษาปีหนึ่งหลายคน เหมือนจะมีนายอ้วนที่เจอกันเมื่อตอนเปิดเทอมด้วย
ได้ยินพวกนักศึกษาปีหนึ่งพูดคุยเรื่องไปเที่ยวเล่นกินข้าวช่วงสุดสัปดาห์
ฟางผิงจึงบ่นออกมา “ไม่รู้ว่าจะเก็บเงินค่าคุ้มครองจากหมู่นักศึกษาใหม่ได้หรือเปล่า?”
นักศึกษาใหม่ของมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้มีแต่คนรวยๆ ทั้งนั้น
เงินแสนถือเป็นเรื่องเล็ก!
คนหนึ่งเก็บได้หนึ่งแสน คนนับพันก็เก็บได้เป็นร้อยล้านแล้ว
“เก็บค่าคุ้มครองเป็นอีกทางเลือกหนึ่งเหมือนกัน อันดับแรกคงต้องทำให้มหาลัยไม่ฆ่าฉันตายซะก่อน”
—
ในเวลาเดียวกัน
ฟางหยวนทำหน้างุนงง มองเด็กสาวตัวน้อยด้านหน้า สภาพดูไม่ได้เท่าไหร่
“พี่สาวรับฉันเข้าสมาคมด้วยได้ไหม? ฉันจะจ่ายค่าสมาชิกให้ด้วย!”
เด็กสาวอายุน้อยกว่าฟางหยวน ตัวผอมแห้ง เอ่ยด้วยใบหน้าคาดหวัง “เข้าสมาคมหยวนผิงแล้ว ฉันจะเชื่อฟัง พี่สาวให้ฉันทำอะไรจะทำทุกอย่าง!”
“แม้ว่า…แม้ว่ายกพวกตีกัน…ฉันสู้ไม่ไหว ก็จะแสดงอำนาจบารมีของพี่สาว!”
เด็กสาวกำหมัดแน่น ใบหน้ายังมีเลือดฝาดขึ้นมา
ฟางหยวนหน้าเขียวคล้ำ ผ่านไปพักหนึ่งค่อยเอ่ยด้วยใบหน้าบูดบึ้ง “น้องสาว เธอเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า?”
‘ฉันไม่ใช่แก๊งอันธพาลสักหน่อย!’ ฟางหยวนกู่ร้องในใจ
ฉันจะสร้างเครือข่ายธุรกิจต่างหาก เข้าใจหรือเปล่า?
ทำไมถึงมีคนอยากจ่ายค่าคุ้มครองเพื่อเข้าสู่สมาคมหยวนผิงกันนะ?
——————