ตอนที่ 135 ต่อสู้ (2)
สิ้นเสียงตะโกนของฟางผิง สือเฟิงที่เผยใบหน้าซีดเผือดก็ทิ้งกระบองในมือ!
เขาหลอมกระดูกช่วงล่างแล้ว ตอนนี้เสียแขนไป ใช้กระบองกลับจะเป็นการจำกัดความสามารถของตัวเอง
แม้ว่ากระบองจะมีประโยชน์ แต่ทำให้สือเฟิงแสดงฝีมือได้น้อยลงเช่นกัน
ชั่วขณะนั้นพอทิ้งกระบองแล้ว สือเฟิงก็พุ่งเข้าหาพวกจ้าวชิงทันที แม้ว่าคนพวกนี้จะไม่ได้แข็งแกร่งมาก แต่ยังสามารถสร้างอุปสรรคให้เขาอยู่ดี
จ้าวชิงหน้าซีด กลับไม่คิดจะถอยหนี ฟางผิงที่อยู่ด้านหลังไม่ชักช้าอีกแล้ว มองข้ามความเจ็บปวดที่ขา หมุนดาบฟันลงมาทันที
พวกจ้าวเสวี่ยเหมยเห็นอย่างนั้น ต่างกระจายกันจู่โจมเข้ามาจากทุกทิศทาง
แววตาของสือเฟิงปรากฏความดุร้ายวาบขึ้นมา ออกหมัดอย่างไม่ลังเลเล็งไปหาจ้าวชิง
จ้าวชิงวาดหมัดป้องกัน ชั่วพริบตานั้นหมัดทั้งสองคนจึงปะทะกัน
จ้าวชิงถอยหลังออกมาหลายก้าว ใบหน้าแดงก่ำ
สือเฟิงออกหมัดกันเขาออกไปแล้ว เวลานี้ก้มตัวลงราวกับไม่มีกระดูกขา ก่อนจะวาดขาไปหาฟางผิงที่อยู่ด้านหลัง
ขาขวาของฟางผิงเป็นอุปสรรคอยู่บ้าง แต่ยังคงฝืนใช้ตั้งหลัก พร้อมทั้งเหยียดขาซ้ายแทงเท้าไปยังสือเฟิง
ดาบในมือนั้นเสียดสีกับอากาศจนเกิดเสียงดังลั่น ฟันลงไปที่หัวสือเฟิงเช่นกัน!
“ตายซะ!”
สือเฟิงเสียแขนซ้ายแล้ว ยังมาถูกคนจำนวนมากล้อมโจมตี
ด้านนอกนั้นยังมีผู้แข็งแกร่งอีกคนรออยู่ รู้ว่าต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย ครั้งนี้จึงไม่คิดจะหลบหลีกอีกแล้ว
ดาบยาวยังไม่ทันทิ้งน้ำหนักลงมา ขาของทั้งสองคนกลับสัมผัสกันเสียก่อน
“ปั่ก!”
เสียงเนื้อกระทบกัน พาให้ฟางผิงใบหน้าซีดอีกครั้ง รู้สึกราวกับนิ้วเท้าจะหัก
เสี้ยวนาทีต่อมา ดาบในมือฟางผิงก็ฟาดลงมาหาสือเฟิง
ไม่ได้ถูกที่กลางหัว แต่เป็นกระดูกไหปลาร้า!
สือเฟิงดวงตาแดงก่ำ แค่นหัวเราะ ก่อนจะใช้มือซ้ายจับดาบเอาไว้ ไม่ยอมให้ฟางผิงดึงออก ชักขาเตะไปยังฟางผิงอีกครั้ง
ฟางผิงเห็นอย่างนั้นก็ลอบสบถ ไม่คิดทิ้งดาบ แต่เพิ่มแรงในมือมากขึ้นอีก พร้อมทั้งแทงเท้าซ้ายซ้ำเข้าไป
“ฉึก” ปลายเท้าของฟางผิงแทงเข้าที่น่องของอีกฝ่าย
สือเฟิงหน้าไร้สีเลือด ถลึงตามองฟางผิงอย่างดุดัน ก่อนจะกวาดสายตามองคนอื่นๆ ที่กำลังจะโจมตีเข้ามา
ความแตกต่างของผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหนึ่งและขั้นสองไม่ได้ถึงขั้นทำให้คนหมดหวัง ตอนนี้เขาได้รับบาดเจ็บหนัก กระดูกไหปลาร้าถูกฟางผิงทำลายแล้ว
ขาก็ได้รับบาดเจ็บ แขนขวาที่กดดาบไว้ไม่สามารถขยับได้ ทำได้แค่ปล่อยให้คนอื่นทุบตีเท่านั้น
“นึกไม่ถึงว่าจะมาถูกเด็กเปรตอย่างพวกนายฆ่าเอาได้!”
สือเฟิงกัดฟันแน่น เลือดไหลซึมออกจากปาก จู่ๆ กลับคลายมือขวา ส่งมือไปหาถังซงถิงที่เข้ามาทางด้านข้างแทน
ถังซงถิงได้รับบาดเจ็บที่แขนซ้าย ตอนนี้กำลังวาดหมัดขวาเตรียมจะจู่โจมหัวของสือเฟิง
สือเฟิงคลายมือจากดาบกะทันหัน ใช้มือขวาจับหมัดของถังซงถิงไว้ ออกแรงดันไปข้างหลัง
คว้าตัวถังซงถิงได้แล้ว ดวงตานั้นเผยสีเลือดฝอยประปราย ใช้หัวเหวี่ยงเข้าหาหัวของถังซงถิงอย่างแรง
ถึงจะตายก็ขอฆ่าใครสักคนตายให้สมใจหน่อยเถอะ!
“ช่วยฉันด้วย!”
ถังซงถิงโมโหอย่างยิ่ง แขนซ้ายยกไม่ขึ้น แขนขวายังมาถูกจับไว้ หัวของอีกฝ่ายกำลังจะเข้ามาปะทะกับเขาแล้ว
ตอนนี้ฟางผิงชักดาบที่ติดอยู่ในกระดูกไหปลาร้าอีกฝ่ายไม่ทันแล้ว จึงทิ้งดาบไปทันที กำหมัดสองมือ พุ่งหมัดสลับไปยังหัวสือเฟิงแทน
“พลั่ก!”
ฟางผิงไม่คิดจะหยุด วาดหมัดจู่โจมระรัว!
“พลั่กๆๆ” เสียงดังออกมาติดต่อกัน สือเฟิงจับมือถังซงถิงไม่ปล่อย สุดท้ายหัวของทั้งสองคนยังคงปะทะกัน
“อ๊า!”
ถังซงถิงร้องเสียงหลง กลับพบว่าหัวไม่ได้ถึงขั้นปริแตกอย่างที่คิด แค่เจ็บนิดหน่อยเท่านั้น
เบิกตามองอีกที เวลานี้ยิ่งร้องดังขึ้นกว่าเดิม
“เร็ว รีบจัดการเขา!”
ถังซงถิงใบหน้าซีดราวกับกระดาษ บนหัวของถังเฟิงนั้นมีเลือดไหลออกมาอย่างไม่ขาดสาย เป็นฝีมือของฟางผิง
แต่ตอนนี้ ถังเฟิงยังคงจับเขาแน่น
หัวของทั้งสองเข้ามาใกล้กันจนถังซงถิงรับรู้ถึงเลือดที่กระเด็นมาเปรอะเปื้อนหน้าของเขา
ไม่มีใครสนใจเขา ฟางผิงยังคงลงมือไม่หยุด!
พวกจ้าวเสวี่ยเหมยต่างยังคงโจมตีเช่นกัน จวบจนสือเฟิงนิ่งสนิทแล้ว ทุกคนค่อยหยุดพากันหอบหายใจ
“ดูสิว่ายังหายใจอยู่หรือเปล่า?”
ฟางผิงทรุดตัวลงกับพื้นหอบหายใจ ในใจกลับรู้แล้วว่าอีกฝ่ายตายแน่ๆ
นี่หากยังไม่ตาย สือเฟิงคนนี้ก็คงเป็นอมตะแล้ว
สมาชิกในทีมพวกเขาที่ไม่ได้รับบาดเจ็บเดินเข้ามาดูอย่างระมัดระวัง มีคนกระทืบสือเฟิงอย่างแรงอีกที
ก่อนจะยื่นมือไปคลำชีพจรที่ลำคอ ผ่านไปพักหนึ่งค่อยเอ่ยอย่างโล่งใจว่า “ตายแล้ว”
“งั้นก็ดี”
ฟางผิงไม่คิดสนใจคนอื่น เลิกกางเกงของตัวเองขึ้นมาดู ตรงขาขวานั้นมีรอยฟกช้ำขึ้นมา
ลองไหลเวียนปราณตรวจสอบดู คล้อยหลังฟางผิงก็ลอบสบถ
กระดูกไม่ได้หัก แต่บาดเจ็บไม่น้อยเช่นกัน อย่างน้อยต้องรักษาช่วงหนึ่งถึงจะหายเป็นปกติได้
เวลานี้ฟางผิงค่อยมองไปทางคนอื่น “พวกนายเป็นไงกันบ้าง?”
ถังซงถิงยังคงเผยสีหน้าไร้เลือด ไม่มองสือเฟิงที่กองกับพื้นอีก เอ่ยว่า “แขนซ้ายน่าจะแตกร้าว ต้องรักษาตัวหลายวัน อย่างน้อยต้องใช้ยาเสริมสร้างกระดูกขั้นหนึ่งหนึ่งเม็ด”
ยาเสริมสร้างกระดูกขั้นหนึ่งต้องใช้สิบห้าคะแนน มอบรางวัลภารกิจให้เขาคนเดียว นับว่าสามารถชดใช้ความเสียหายได้
จ้าวเสวี่ยเหมยเอ่ยเสียงเบาว่า “กระดูกน่องขาขวาได้รับบาดเจ็บ ต้องทำการรักษา”
“กระดูกมือหักไปชิ้นหนึ่ง”
จ้าวชิงที่ประคองมือตัวเองอยู่ด้านข้าง สีหน้าไม่ค่อยดีนัก กระดูกหักคงจำเป็นต้องใช้ยาหลอมกระดูกขั้นหนึ่ง
หากยาหลอมกระดูกไม่ได้ผล บางทียังอาจต้องใช้ยาบำรุงอย่างอื่น
คนอื่นๆ ยังดี แม้ว่าจะมีคนถูกดึงเข้าไปพัวพัน แต่ก็ไม่ได้บาดเจ็บหนัก
ฟางผิงไม่คิดจะปลอบใจ เอ่ยอย่างเรียบนิ่ง “นี่คือผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสอง พวกเราสิบคน แม้สุดท้ายจะเอาชนะได้ แต่ภารกิจครั้งนี้ขาดทุนไปไม่น้อยเช่นกัน อีกฝ่ายคงไม่ใช่ขั้นสองที่มีฝีมือนัก อย่างน้อยก็ทำให้ฉันรู้สึกแบบนั้น เพิ่งหลอมกระดูกช่วงบน แต่ยังไม่ได้หลอมเสร็จสิ้น ไม่งั้นเวลานั้นใช้ดาบเดียวคงฟันแขนซ้ายเขาไม่ได้หรอก หากแขนซ้ายไม่ถูกทำลาย ตอนนี้พวกเรายังจะมีชีวิตอยู่หรือเปล่ายังไม่รู้เลย”
จ้าวเสวี่ยเหมยเอ่ยรับผิดว่า “ขอโทษ เป็นความผิดฉันเอง”
เธอเสียกระบองยาวไป ทำให้กระบองนั้นกลายเป็นอาวุธของสือเฟิง ทุกคนจึงต้องจู่โจมอย่างรอบคอบ ไม่กล้าประชิดตัวเขา
แน่นอนว่าหากประชิดตัวได้ ผลลัพธ์อาจจะไม่ดีกว่าตอนนี้เสมอไปเช่นกัน
ถังซงถิงปิดปากเงียบ ฟางผิงถอนหายใจว่า “เหมือนกันนั่นแหละ ทุกคนต่างพลาดพลั้งไปบ้าง ดีที่ผลลัพธ์ยังออกมาดี ฉันไม่อยากตำหนิใคร ครั้งนี้ฉันทำพลาดเหมือนกัน อย่างน้อยทุกคนก็ไม่แตกตื่น ดีกว่าที่ฉันคิดไว้”
เวลานั้นพวกจ้าวชิงต่างไม่มีใครหนี หากหนีไปสักคนสองคน ไม่มีใครสกัดสือเฟิง สือเฟิงมีโอกาสสูงที่จะฆ่าถังซงถิงเช่นกัน
ถังซงถิงตาย นับว่าหมดอุปสรรคและลดความกังวลให้ถังซงถิงอยู่บ้าง หลังจากนั้นอาจจะฆ่าคนตายอีก
ไม่เอ่ยถึงเรื่องนี้ให้มากความแล้ว ฟางผิงไม่สนใจว่าคนอื่นจะมีสีหน้ายังไง เดินเข้าไปค้นตัวของสือเฟิง
ตอนที่หวงปินหลบหนี บนร่างยังมีของซ่อนอยู่ไม่น้อย สือเฟิงจะไม่มีเชียวเหรอ?
“อู๋เค่อเผิง โจวเยวี่ยหง เข้าไปดูในห้อง ดาบที่อยู่หน้าประตูเอามาด้วย อย่าลืมค้นดูว่ายังมีอย่างอื่นอีกไหม”
“ได้!”
ทั้งสองคนรีบตรงไปยังห้องเช่าที่อยู่ไม่ไกล ฟางผิงพูดต่อว่า “จางเฮ่า หลิวต้าเซิ่ง พวกนายไปเฝ้าอยู่รอบนอก อย่าให้ใครเข้ามา”
จัดแจงเสร็จแล้ว ฟางผิงก็คลำอะไรบางอย่างได้เหมือนกัน
เขาดึงของออกมาจากกระเป๋าเสื้อของสือเฟิง ฟางผิงมองสักพัก ก่อนจะปรากฏสีหน้าดีใจ “ยาหลอมกระดูกขั้นหนึ่ง!”
“เยอะรึเปล่า?”
ถังซงถิงรีบถาม
“สามเม็ด”
“ยังดี…” ถังซงถิงถอยหายใจอย่างโล่งอก ยาหลอมกระดูกขั้นหนึ่งสามเม็ดไม่ถือว่าน้อยเลย
ไม่นาน พวกอู๋เค่อเผิงก็เดินออกมา โจวเยวี่ยหงเอ่ยว่า “มีดสั้นโลหะผสมหนึ่งด้าม เงินสดสองแสน นอกจากนี้ยังมียาบำรุงเลือดและปราณธรรมดาห้าเม็ด”
ตามราคาตลาด มูลค่ายาสูงถึงสองล้าน มีดสั้นน่าจะประมาณห้าแสน รวมกับเงินสดแล้ว ได้มาถึงสองล้านเจ็ดแสนหยวน
นี่ถือเป็นสาเหตุที่ให้รางวัลภารกิจไม่เยอะเช่นกัน
ผู้ฝึกยุทธ์พวกนี้ พกของดีติดตัวอยู่หลายอย่าง
“เก็บของมาก่อน อีกเดี๋ยวค่อยแบ่งกัน ไปคุยกับอาจารย์โจวของพวกเราก่อนเถอะ!”
ฟางผิงกัดฟัน แม้ครั้งนี้จะไม่มีคนตาย แต่ได้รับบาดเจ็บหลายคนเช่นกัน
เด็กที่ร้องไห้เท่านั้นถึงจะมีนมกิน ถึงจะกอบกู้สถานการณ์ไม่ได้ ก็ต้องมีคำอธิบายดีๆ ให้กันสักหน่อย!
ทำไมผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหนึ่งสูงสุดถึงกลายเป็นขั้นสองไปได้!
———————