ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน – ตอนที่ 153-2 ก่อนการแข่งขัน (2)

ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน

ตอนที่ 153 ก่อนการแข่งขัน (2)

“ดีจัง ฟางผิง ในอนาคตฉันก็จะสอบเข้าเซี่ยงไฮ้เหมือนกัน!” ฟางหยวนกอดหมอนบนโซฟา เผยสีหน้าเปี่ยมความหวัง

“เพราะเรื่องที่พักฟรีเนี่ยนะ?”

ฟางผิงหมดคำจะพูด “ตั้งเป้าต่ำจริงๆ…”

“เดี๋ยวพวกเราลงไปกินข้าวกัน กินข้าวเสร็จ ตอนบ่ายฉันจะพาพวกเธอไปเดินเที่ยวในมหาลัย อีกอย่าง จะเดินสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้ มือถือต้องพกติดตัวตลอด ตอนเย็นฉันไม่ได้พักกับพวกเธอที่นี่ ถ้ามีปัญหาอะไรโทรหาฉันหรือสอบถามจากโรงแรมก็ได้”

“รู้แล้วน่า พูดมากจริงๆ”

ฟางหยวนเบื่อจะฟังเรื่องพวกนี้แล้ว ไม่นานก็เอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “พี่ นักศึกษาของเซี่ยงไฮ้ที่เข้าร่วมการแข่งขัน นายรู้จักทุกคนใช่หรือเปล่า?”

“อืม”

“งั้นขอลายเซ็นให้ฉันหน่อยได้ไหม?”

ฟางผิงใบหน้าดำคล้ำ ฟางหยวนรีบอธิบายว่า “ไม่ได้ขาย ฉันจะเก็บไว้เอง!”

เธอบอกว่าไม่ขาย ทว่าเสี่ยวหลิงที่อยู่ด้านข้างกลับเอ่ยอย่างมึนงงว่า “หยวนหยวน พวกเราใช้มันเปิดตลาดได้นี่นา…”

ไม่รู้ว่าเด็กทั้งสองคนไปเรียนรู้คำพวกนี้มาจากไหน เดี๋ยวก็ ‘เปิดตลาด’ เดี๋ยวก็ ‘อิทธิพลของคนดัง’

ฟางผิงกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ฟางหยวนรีบปิดปากของเสี่ยวหลิง ทำสีหน้าตำหนิว่า โง่เกินไปแล้ว!

วุ่นวายกันอยู่พักหนึ่ง ก่อนฟางผิงจะพาพวกเธอลงไปกินข้าวด้านล่าง

ตอนที่กินข้าว พวกอู๋จื้อหาวโทรเข้ามานัดไปกินข้าวเย็นด้วยกัน

ตอนนี้พวกเขาเริ่มออกไปเที่ยวเล่นแล้ว หลายวันมานี้เซี่ยงไฮ้คึกคักเป็นอย่างมาก

ฟางผิงไม่ได้ปฏิเสธอะไรเช่นกัน โตๆ กันแล้วคงไม่หลงทางหรอก

บ่ายสองโมง ฟางผิงพาฟางหยวนและเสี่ยวหลิงมาถึงมหาวิทยาลัย

เสี้ยวนาทีที่เห็นประตูใหญ่ ทั้งสองคนก็ตกอกตกใจเหมือนตอนที่ฟางผิงเห็นประตูของเซี่ยงไฮ้เป็นครั้งแรกไม่ผิดเพี้ยน

เห็นได้ชัดว่าครั้งนี้ฟางหยวนมีการเตรียมพร้อมมาก่อน ยังพกกล้องถ่ายรูปมาด้วย

ดึงดันจะให้ฟางผิงถ่ายรูปพวกเธอคู่กับประตูใหญ่ให้ได้ กลับไปล้างฟิล์มแล้วจะเอาไปอวดกับเพื่อนๆ

รอจนเข้ามาในมหาวิทยาลัย ฟังฟางผิงแนะนำคร่าวๆ ทั้งสองคนก็ตื่นตะลึงขึ้นมาอีกครั้ง

มหาวิทยาลัยใหญ่ขนาดนี้ นักศึกษากลับมีหยิบมือเดียว?

“ฟางผิง ในอนาคตฉันจะสอบเข้าเซี่ยงไฮ้ให้ได้!”

ไม่รู้ว่าฟางหยวนให้คำมั่นสัญญาออกมากี่ครั้งแล้ว เสี่ยวหลิงเผยสีหน้าหวั่นไหวเช่นกัน ในสายตาของพวกเธอ มหาวิทยาลัยใหญ่ขนาดนี้ เป็นเรื่องดีจริงๆ ทั้งเซี่ยงไฮ้ยังมีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก

เดินรอบๆ มหาวิทยาลัยอยู่สักพัก ก่อนฟางหยวนจะรบเร้าว่า “รีบพาไปดูหอพักนายหน่อยสิ แม่บอกให้ฉันถ่ายรูปไปให้ดูด้วย อยากเห็นว่านายได้พักที่ดีๆ ไหม ยังให้ฉันมาดูด้วยว่านายสนิทกับรูมเมทหรือเปล่า แต่เหมือนนายจะไม่มีรูมเมท”

รอฟางผิงพาทั้งสองคนมาถึงโซนหอพัก ก็ร้องว้าวออกมาอีกครั้ง

เข้ามาในหอพักของฟางผิง ยังคงส่งเสียงชมไม่หยุด

ฟางผิงแทบไม่รู้ว่า เด็กสองคนนี้เอาพลังมาจากไหนหนักหนา ดูไม่เหนื่อยเลยสักนิด

ตลอดทั้งบ่าย ฟางผิงจึงติดแหงกอยู่กับเด็กทั้งสองคน พวกเธอนั่งพักในหออยู่ครู่หนึ่งก็นั่งไม่ติดที่อยู่บ้าง ลากฟางผิงออกไปเที่ยวรอบๆ มหาลัยอีกครั้ง

ตลอดทางฟางผิงมองเห็นนักศึกษาบางส่วนพาครอบครัวมาเดินเล่นในบริเวณมหาวิทยาลัยเช่นกัน

ปกติเซี่ยงไฮ้ไม่เปิดให้คนนอกเข้ามา แม้จะเป็นผู้ปกครอง ก็ไม่อาจเข้ามาในมหาวิทยาลัยสุ่มสี่สุ่มห้าได้

แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนกัน พรุ่งนี้การแข่งขันแลกเปลี่ยนจะเปิดฉากอย่างเป็นทางการ

แม้ตอนนี้ยังไม่อนุญาตให้คนภายนอกเข้ามาจำนวนเยอะๆ แต่หากนักศึกษาพาผู้ปกครองเข้ามา มหาวิทยาลัยกลับไม่ห้ามอะไร

ผู้ปกครองพวกนี้ หลายคนก็แสดงท่าทีไม่ต่างจากพวกฟางหยวน

ใบหน้าเต็มไปด้วยภาคภูมิใจ เห็นได้ชัดว่ามาจากสาเหตุที่ลูกๆ ของพวกเขาสามารถสอบเข้าเซี่ยงไฮ้ได้

เดินเที่ยวเกือบรอบมหาวิทยาลัยแล้ว ท้ายที่สุดพวกฟางหยวนจึงเริ่มเหนื่อยล้า

ตระหนักได้ว่าครั้งนี้พักอยู่ที่นี่หลายวัน ฟางหยวนไม่คิดจะเที่ยวให้ทั่วในวันเดียวเช่นกัน

ก่อนจะออกมา ฟางหยวนยังคงผิดหวังอยู่เล็กน้อย เพราะไม่ได้เจอกับนักศึกษาที่จะเข้าร่วมการแข่งขันพวกนั้น

“พี่ เมื่อไหร่จะได้เห็นนักศึกษาที่เข้าร่วมการแข่งขันพวกนั้น?”

“ไม่ใช่ว่าเธอเห็นไปแล้วเหรอ?”

“เห็นไปแล้ว? ไม่มีสักหน่อย…”

สาวน้อยทำหน้างงงวย ฟางผิงเอ่ยอย่างขบขัน “เธอเห็นแล้ว ทั้งเห็นหลายคนด้วย”

“จริงเหรอ? เจอตอนที่ฉันไม่ทันรู้ตัวใช่ไหม ทำไมนายไม่บอกฉันล่ะ?” ฟางหยวนฟองแก้ม รู้สึกขุ่นเคืองอยู่บ้าง

ถ้าบอกกันสักหน่อย ฉันจะได้ขอลายเซ็น

ตอนนี้คนน้อย พรุ่งนี้คงมากันเต็มมหาวิทยาลัยแล้ว

“หยุดคิดเรื่องลายเซ็นได้แล้ว ฉันเซ็นให้เธอตั้งเยอะไม่ใช่หรือไง? ตอนเย็นกินข้าวแล้ว เธอกับเสี่ยวหลิงอยู่ในโรงแรมดีๆ อย่าออกไปวิ่งวุ่นข้างนอก พรุ่งนี้เช้าฉันไปรับพวกเธอไม่ได้ แต่ฉันจะส่งคนไปรับพวกเธอ ถึงเวลานั้นพวกเธอเข้ามาในมหาลัยพร้อมกับเขาละกัน”

พรุ่งนี้ฟางผิงต้องเข้าร่วมพิธีเปิดการแข่งขัน ไม่อาจมารับคนได้อยู่แล้ว แต่หลี่เฉิงเจ๋อนั้นว่าง

“ไม่ต้องหรอก พรุ่งนี้พวกเราไปกับพวกพี่รั่วฉีได้”

“ไว้ค่อยว่ากันอีกที ยังไงเธอก็ทำตัวดีๆ หน่อย อย่าทำให้ฉันกังวลใจ”

“ไม่ใช่เด็กๆ สักหน่อย ใครทำให้นายกังวลกัน…”

สองพี่น้องคุยกันสักพัก ก่อนฟางผิงจะพาพวกเธอไปโรงแรมของพวกอู๋จื้อหาว

ตอนเย็น

ทุกคนกินข้าวเย็นด้วยกัน ฟางผิงยังต้องกลับไปมหาวิทยาลัยจึงกินค่อนข้างเร่งรีบ พวกอู๋จื้อหาวเห็นเขามีธุระเลยทำได้เพียงละทิ้งความคิดที่จะรั้งเขาพูดคุยยาวๆ ยังไงครั้งนี้พวกเขาก็พักอยู่ที่นี่หลายวันอยู่แล้ว

กินข้าวเสร็จแล้ว ไปส่งฟางหยวนและเสี่ยวหลิงกลับโรงแรม ฟางผิงไม่ได้ตรงดิ่งกลับหอพัก แต่ไปห้องฝึกซ้อมที่มักจะอยู่เป็นประจำ

ตอนที่เขาไปถึง คนที่อยู่ทีมหลักและทีมสำรองต่างมาถึงกันแล้ว

นอกจากคนพวกนี้ ยังมีอาจารย์ขั้นหกอยู่บางส่วน

ครั้งนี้ถังเฟิงกลับไม่พูดอะไร เขารู้จากทางฟู่ชางติ่งว่าครอบครัวของฟางผิงมา

พอฟางผิงมาถึง ถังเฟิงค่อยเอ่ยอย่างเคร่งขรึมว่า “คนมาครบกันแล้ว พรุ่งนี้จะมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ ไม่มีการประลอง แต่พรุ่งนี้จะมีการจับฉลากคู่ต่อสู้ในรอบแรก! รอบแรกของพวกเรา อย่าได้พบกับทีมปักกิ่งจะดีที่สุด! แม้ว่าทีมพันธมิตรแปดมหาวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยทั่วไปจะมีอัจฉริยะไม่น้อย แต่ในสายตาพวกเรา ปักกิ่งถึงจะเป็นคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุด! หากรอบแรกได้เจอกับทีมปักกิ่ง พวกเราอาจจะต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ ทีมหลักต้องพยายามหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บ เพื่อจะไม่ให้กระทบกับรอบหลังๆ”

ทุกคนไม่ได้พูดอะไร ความจริงแล้วถังเฟิงนั้นหมายความว่า หากรอบแรกพบกับทีมของปักกิ่ง อาจต้องเลือกใช้กลยุทธ์แบบหลบหลีก

ถึงเวลานั้นอาจต้องเป็นทีมสำรองที่ลงสนาม

แต่พวกสมาชิกทีมเห็นได้ชัดว่าไม่ได้คิดแบบนั้น

ทุกคนต่างเป็นอัจฉริยะ ไม่มีใครคิดว่าตัวเองด้อยกว่าใคร

ยิ่งไปกว่านั้นหนีการต่อสู้ในรอบแรก การประลองภายหลังอาจจะลำบากกว่าเดิม จุดนี้มีทั้งข้อดีและข้อเสีย

ถังเฟิงไม่พูดมากอีก รอถึงเวลานั้นค่อยว่ากันอีกที

พูดเรื่องพวกนี้แล้ว ถังเฟิงค่อยเอ่ยว่า “การประลองครั้งนี้ มหาวิทยาลัยเตรียมของเล็กๆ น้อยๆ ไว้ให้ทุกคนเช่นกัน ทุกคนจะได้ยาบำรุงเลือดและปราณธรรมดาสิบเม็ด ขั้นหนึ่งห้าเม็ด ขั้นสองอีกสองเม็ด นอกจากนี้ยาฟื้นฟู ยาหยุดเลือด และยารักษาบาดแผลล้วนเตรียมไว้ให้พวกเธอหมดแล้ว อีกอย่างตอนนี้ใครขาดแคลนอาวุธ สามารถไปยืมทางมหาลัยได้ อาวุธโลหะผสมยืมแล้วต้องคืน แต่หากไม่ใช้ ก็ไม่จำเป็นต้องยืม ใช้อาวุธที่ไม่ถนัดใช่ว่าจะเป็นเรื่องดีเสมอไป…”

ครั้งนี้เซี่ยงไฮ้ก็ไม่ตระหนี่ขี้เหนียว ยาบำรุงกำลังและยารักษาบาดแผลต่างๆ จัดสรรไว้ให้ไม่น้อย

แม้อาวุธโลหะผสมจะยืมได้อย่างเดียว แต่มีย่อมดีกว่าไม่มี

รอจัดการเรื่องพวกนี้เสร็จแล้ว ฟางผิงจึงตรงดิ่งไปที่ฝ่ายบริการ ยืมมีดขนาดใหญ่หนึ่งเล่ม นวมหนึ่งคู่ กริชสั้นอีกหนึ่งเล่ม…

อันที่จริงฟางผิงยังคิดจะยืมชุดเกราะเต็มตัว ปรากฏว่าตาเฒ่าหลี่บอกว่าไม่มี!

ฟางผิงไม่เชื่อว่าจะไม่มีชุดเกราะ แต่ตาเฒ่าหลี่คงไม่ให้ยืมมากกว่า

เห็นได้ชัดว่ามหาวิทยาลัยไม่อยากให้ทุกคนใส่ชุดเกราะลงสนาม ฟางผิงทำได้เพียงละทิ้งความคิดนี้ไป

รอจนเตรียมทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ทุกคนจึงรีบกลับหอพัก ค่ำคืนนี้โซนหอพักนักศึกษาใหม่เงียบสงบเป็นพิเศษ

———————

ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน

ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน

Status: Ongoing
ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน ฟางผิงกลับมาเกิดใหม่ในวัย 18 ปีในโลกที่ไม่เหมือนเดิมพร้อมระบบประหลาด และที่นี่เองที่เขาได้ก้าวเข้าสู่โลกของการฝึกยุทธ์รายละเอียด อีกหนึ่งผลงานแฟนตาซี-กำลังภายในที่มาพร้อมระบบสุดโกง จากนักเขียนเดียวกับ STARGATE ปริศนาประตูแห่งดาราฟางผิงย้อนเวลามาอยู่ในร่างของตัวเองในวัย 18 ปีผู้คนรอบข้างยังคงเป็นเหมือนเดิม แต่ที่โลกนี้กลับยังมีการฝึกยุทธ์ และให้ความสำคัญกับผู้ฝึกยุทธ์ช่วงเวลาสั้นๆ ฟางผิงก็สัมผัสได้ถึงสิ่งหนึ่ง นั่นก็คือสังคมนี้โหดร้ายกับเขาเป็นอย่างยิ่ง!หากไม่เป็นผู้ฝึกยุทธ์ ไม่เป็นผู้ที่แข็งแกร่ง แม้ว่าตัวเองจะกลับมาเกิดใหม่เกรงว่าคงทำได้เพียงก้มหน้าก้มตาเป็นคนชนชั้นล่างเท่านั้นด้วยเหตุนั้นเขาจึงสอบเข้ามหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ และกลายเป็นผู้ฝึกยุทธ์เพื่อให้ตนและครอบครัวสามารถใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในสังคมแห่งนี้แต่แน่นอนว่าเส้นทางของการเป็นผู้แข็งแกร่งย่อมไม่ง่ายดายขนาดนั้นแม้เขาจะมีระบบประหลาดคอยช่วยเหลืออยู่ก็ตามเรื่อง : ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนานผู้เขียน : เหล่าอิงชือเสี่ยวจี (老鹰吃小鸡)

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท