ตอนที่ 697 : หีบสมบัติทั้งสี่
“หลินหลี่ เราได้รับหีบสมบัติมาบ้างไหม?” เย่ฉางตะโกนขึ้น เมื่อเขาเห็นหลินหลี่ตื่นนอนแล้ว
“ผมขอดูก่อนนะ ปลาเพลิง, ไข่ปลาน้ําพุร้อน, ปลาลาวาดำ, ปลาลายมังกร มีเพียงปลาที่หายากเท่านั้น นี่คือผลิตภัณฑ์ที่เป็นซิกเนอเจอร์ของที่นี่! พี่ใหญ่ขาว รับนะ!” หลินหลี่โยนปลาลายมังกรไปให้เย่ฉาง เย่ฉางตรวจสอบปลาทันทีที่เขาได้รับปลานี้ให้ค่าสถานะถาวร หากกินปลาอาจมีโอกาสได้เรียนรู้สกิลธาตุน้ําและลม ไม่เลว! ฉันจะใช้เป็นวัตถุดิบอีกอย่างหนึ่งสําหรับมื้อค่ํา!” จากนั้นเขาก็ส่ายหัว “หีบสมบัติ! ฉันกําลังพูดถึงหีบสมบัติ!”
“มีทั้งหมดสี่หีบ!” หลินหลี่รีบหยิบหีบออกมาอย่างรวดเร็ว และเย่ฉางก็ยื่นมือออกมาเพื่อเปิดหีบทันที ทันใดนั้นจางเจิ้งเฉียงก็เข้ามากอดเขา และอุ้มเขาพาดไว้บนไหล่ “เพื่อน! ใจเย็น! ใจเย็นก่อน!”
“สมบัติ! สมบัติ! สมบัติ! สมบัติ! ทั้งหมดมันเป็นของฉัน!” เย่ฉางตะโกนและกรีดร้องเห มือนปีศาจที่คืบคลานออกมาจากนรก เวอร์เลียนน่าผงะถอยหลังหลังจากที่ได้เห็นฉากนั้น
“แล้วแบบนี้ล่ะ? เพื่อน เราจะให้นายเปิดหีบสมบัติหนึ่งหีบ” จางเจิ้งเฉียงประนีประนอม เมื่อเขาเห็นเย่ฉางกําลังจะกลายเป็นบ้า
จากนั้นเย่ฉางก็เริ่มสงบลงและเย้ยหยัน “มันจะเลวร้ายแค่ไหนที่ฉันจะเปิดหีบทั้งหมด ไม่เป็นไร งั้นเราจะเปิดกันคนละหีบ ฉันจะให้พวกนายได้เป็นพยานถึงความแตกต่างระหว่างอุปกรณ์ระดับพระเจ้าที่ได้จากหัตถ์พระเจ้าของฉัน กับสิ่งธรรมดาของพวกนายเอง!”
หลังจากตกลงกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว หลินหลี่ก็เริ่มแจกจ่ายหีบสมบัติให้ทุกคน เมื่อเวอร์เลียนน่าได้รับหีบสมบัติ เธอก็ครุ่นคิด “นี่มันสกิลการตกปลาแบบไหนกัน? เขาตกหีบสมบัติได้ 4 อันเลยงั้นเหรอ?!” เธอมองไปที่หลินหลี่อย่างสับสน “ไอ้หนุ่มที่ดูเหมือนเด็กคนนี้น่ากลัวเกินไปแล้ว” เธอนึกถึงฉากที่โอดะฮิโคชิต่อสู้กับหลินหลี่ครั้งที่แล้ว โอดะฮิโคชิ ผู้ที่มีเทคนิคการวาดดาบที่แข็งแกร่งที่สุดถูกฆ่าตายทันทีโดยผู้เล่นประเภทความแข็งแกร่ง ในขณะที่เธอค่อยๆเปิดหีบสมบัติ เธอก็รู้สึกตกใจ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่ดี” จากนั้นเธอก็เทสิ่งของลงบนพื้น
หลินหลี่ยังเททุกอย่างที่เขาได้รับจากหีบสมบัติออกมา จนทําให้เวอร์เลียนน่ารู้สึกหนาวสั่น “ทําไมปริมาณของเขาถึงมากกว่าสิ่งที่ฉันได้รับถึงสองเท่า?”
ในขณะเดียวกันจางเจิ้งเฉียงก็ถอนหายใจ “ของฉันเป็นวัสดุทั้งหมด แต่ทั้งหมดล้วนเป็นของมีค่า และหายาก มีเหล็กศักดิ์สิทธิ์หนึ่งอัน ฉันเก็บมันไว้ดีกว่า นี่น่าจะเพียงพอแล้ว เพื่อน! ไว้ฉันจะทําอุปกรณ์ระดับพระเจ้าให้นายนะ”
เย่ฉางเชิดคางขึ้น และพูดอย่างหยิ่งผยอง “โอ้ ไม่ต้อง! อุปกรณ์ระดับพระเจ้านั้นอยู่ใน หีบสมบัติของฉันแล้ว”
เมื่อเปิดหีบสมบัติ เขาก็ตกตะลึง เขาปิดแล้วเปิดใหม่อีกครั้ง จากนั้นเขาก็ปิดแล้วเปิดใหม่อีกครั้ง ครู่ต่อมาเขาจ้องไปที่ทั้งสามคน และเปิดหีบสมบัติ และปิดมันอีกครั้ง หลังจากสูดหายใจเข้าลึกๆ เขาก็เตะหีบสมบัติลงไปในบ่อน้ําพุร้อน และตะโกน “แม่มันเถอะ! พวกนายเอาอุปกรณ์ของฉันไปใส่ไว้ในหีบสมบัติของพวกนายใช่ไหม!? พวกนายคิดว่าฉันไม่รู้เกี่ยวกับเรื่องนี้นั้นเหรอ?”
เวอร์เลียนน่าตกตะลึง นายหมายความว่าไง? ทําไมนายถึงเตะหีบสมบัติทิ้งไปแบบนั้น? ทําไมนายถึงกล่าวหาเราว่าขโมยอุปกรณ์ของนายไป?”
จางเจิ้งเฉียงและหลินหลี่ถอนหายใจ “มาแจกจ่ายสิ่งของกันเถอะ”
“ฉันหวังว่าพวกนายจะสามารถขายหนังสือสกิลให้กับฉัน” เวอร์เลียนน่าเห็นว่ามีสกิลที่เหมาะกับกริชของเธอ ซึ่งเป็นหนังสือสกิลที่เย่ฉางถือไว้อยู่
“อันนี้? ฉันจะมอบให้เธอ เนื่องจากเราเป็นเพื่อนกันแล้ว มันจะทําลายมิตรภาพของเรา ถ้าเราพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องเงิน” เมื่อพูดจบ เย่ฉางก็ยื่นมือออกมา และแตะไปที่ก้นของเวอร์เลียนน่าอย่างแม่นยํา เวอร์เลียนน่าตกใจ และเขินอาย ครั้งล่าสุดฉันไม่รู้ และไม่สามารถตอบโต้เขาได้ทัน แม้ว่าตอนนี้ฉันจะรู้แล้ว แต่ฉันก็ไม่สามารถตอบโต้เขาได้อยู่ดี ถ้าชายคนนี้อยากเป็นแอสซาซิน เขาจะเป็นคนที่น่ากลัวอย่างมาก! เขาแปลกเกินไป แม้ว่าเขาจะดูผิดเพี้ยน แต่เขาก็เปล่งออร่าที่บริสุทธิ์ แม้ว่าเขาจะจับก้นฉันไปสักพักหนึ่ง แต่ฉันก็ไม่รู้สึกว่าตัวเองถูกขืนใจ ฉันเพียงแค่รู้สึกอาย และขมขึ้นเล็กน้อย
เวอร์เลียนน่าผลักมือของเย่ฉางออกไปอย่างใจเย็น และหยิบหนังสือสกิลมา “ฉันเป็นหนี้บุญคุณนายแล้ว”
เมื่อเห็นว่าเย่ฉางไม่ได้สนใจอะไรมาก เวอร์เลียนน่าก็ครุ่นคิด “นี่คือหนังสือสกิลระดับอีปิก รวมถึงสกิลระดับฮีโร่ และรางวัลที่คุณแชร์ให้ฉัน แน่นอนว่าฉันจะคืนวิญญาณระดับฮีโร่ให้คุณในฤดูกาลนี้! ฉันกุหลาบแห่งแวร์ซาย จะตอบแทนใครก็ตามที่ช่วยฉันก่อนเสมอ! แต่แน่นอนฉันจะแก้แค้นด้วยเช่นกัน!” หลินหลี่สังเกตเห็นเวอร์เลียนน่าจ้องมองไปที่ก้นของเย่ฉาง “เอ๊ะ! การจ้องมองของเธอเป็นแบบเดียวกันกับที่พี่สาวโรสมองดูก้นของพี่ใหญ่ขาว! ทั้งคู่กําลังโกรธจัด! ก้นของพี่ใหญ่ขาวเป็นที่น่าดึงดูดสายตางั้นเหรอ?”
“อาซิน วันนี้เราพบเพื่อนใหม่ด้วย แต่ทําไมเธอถึงเอาแต่จ้องมองไปที่ก้นของพี่ใหญ่ขาวละ? เห็นได้ชัดว่าก้นของฉันน่ารักกว่าอีก” หลินเลอส่งข้อความถึงคู่หมั้นของเขาซงซิน
“ทุกคนมีความชอบของตัวเอง แต่ในความคิดของฉัน ก้นของหลินหลี่ดีที่สุด!” ซงซินครุ่นคิด “ผู้หญิงคนนั้นแค่อยากเตะก้นของพี่ใหญ่ขาว เพราะเย่ฉางนั้นเป็นไอ้สารเลวตัวพ่อ!” อย่างไรก็ตามเธอก็ลืมความจริงที่ว่า หลินหลี่นั้นเลวร้ายยิ่งกว่าเย่ฉางเสียอีก
หลังจากได้รับคําตอบที่ต้องการแล้ว หลินหลี่ก็กระโดดลงแช่น้ําพุร้อนอย่างเปลือยกายทันที เมื่อมองไปยังรูปลักษณ์ที่ไม่ถูกโมเสสของหลินหลี่ เวอร์เลียนน่าก็สังสย รูปลักษณ์ส่วนตัวไม่ได้ถูกนําไปใส่โมเสสอย่างถาวร สิ่งนี้ต้องเหมาะกับไอ้หนุ่มนี้แน่ๆ ร่างกายที่เปลือยเปล่าของเขาไม่ได้ ทําให้คนอื่นรู้สึกขยะแขยง แค่รู้สึกเหมือนกับกําลังมองไปที่เด็กหนุ่มเปลือยกาย ฉันรู้สึกเหมือนเขากําลังสะบัดน้ําเล็กๆของเขา” ทันใดนั้นเธอก็ส่ายหัว “บ้าเอ๊ย จิตใจของฉันเกือบจะโสมมเหมือนกับ พวกเขาแล้ว!”
เย่ฉาง และจางเจิ้งเฉียงก็กระโดดลงไปในบ่อน้ําพุร้อนด้วยเช่นกัน
“เพื่อน ตรุษจีนใกล้เข้ามาแล้ว และนายก็ได้ตอบรับคําเชิญสําหรับงาน กาล่าตรุษจีนไปแล้วด้วย นายคิดจะแสดงอะไรบ้างรึเปล่า?” จางเจิ้งเฉียงพันผ้าเช็ดตัวรอบร่างกาย ส่วนล่างของเขาและนั่งอยู่บนก้อนหิน
“อาจเป็นละครเพลง? ฉันยังไม่แน่ใจเหมือนกัน เราจะตัดสินใจเมื่อถึงตอนนั้นก็แล้วกัน ไม่จําเป็นต้องรีบเร่งเพราะเรายังมีเวลาเหลืออีกหลายสิบวัน” เย่ฉางวางผ้าขนหนูไว้บนหัวของเขา
“พี่ใหญ่ขาว พี่จะให้เงินปีใหม่กับหลินหลี่จํานวนมากใช่ไหม?!” หลินหลี่ว่ายน้ํามาหาเย่ฉาง
“แน่นอน ปีนี้หลินหลี่จะได้รับเงินเพิ่มขึ้นถึง 200%” คําพูดของเย่ฉางทําให้หลินหลี่ฉีกยิ้มออกมาทันที จากนั้นเขาว่ายน้ําไปที่จางเจิ้งเฉียง “พี่ใหญ่เฉียง! พี่ใหญ่เฉียง!”
“เหมือนเดิมนั่นแหละ! บ้าเอ๊ย ถ้าไม่ใช่ว่าเราทําเพื่อนานะปีที่แล้ว เราจะมีบะหมี่กึ่งสํา เร็จรูปตั้งแต่วันที่ 1 ถึงวันที่ 15 ของวันตรุษจีน” จางเจิ้งเฉียงนึกย้อนไปถึงความทรงจําอันขมขึ้นของปีใหม่จีนปีที่แล้ว แต่ถึงอย่างเมื่อพิจารณาถึงปีนี้ เขาก็เพิ่งรู้ว่าปีที่แล้วนั้นยอดเยี่ยมมากเพียงใด “หลินหลี่ก็อยากกินบะหมี่กึ่งสําเร็จรูป” หลินหลี่เริ่มส่งเสียงอึดฮัด จางเจิ้งเฉียงหันหลังกลับ และกอดเขา “ฉันจะซื้อบะหมี่กึ่งสําเร็จรูปจํานวนมากมาในภายหลัง ฉันจะซื้อรสชาติที่นายชอบ”
“พี่ใหญ่เฉียงดีที่สุดเลย! ผมรักพี่ที่สุด” หลินหลี่กลายเป็นมีความสุขทันที
ในขณะเดียวกันเวอร์เลียนน่าก็ไม่พูดไม่ออก และเธอก็อยากกินเช่นนั้น อันที่จริงแล้วบะหมี่กึ่งสําเร็จรูปเหล่านี้ ทุกวันนี้ โอ้ ไม่… ฉันไม่สามารถทนได้อีกต่อไป!” จากนั้นเธอก็ส่งข้อความไปหาแม่บ้านของเธอ “แม่บ้าน คุณช่วยไปซื้อบะหมี่กึ่งสําเร็จรูปมาให้ฉันหน่อยนะ เอารสไก่ย่างพริกไทยดํา…”
“คุณหนู ฉันคิดว่าคุณหนูพูดว่าบะหมี่กึ่งสําเร็จรูปนั้นเหมาะสําหรับคนโง่ไม่ใช่เหรอคะ?”
“….” เวอร์เลียนน่าตกตะลึงไปชั่วครู่ ‘ฉันคิดว่าฉันเคยพูดแบบนี้มาก่อน’
“คุณหนู ถึงแม้ว่าเหตุการณ์ในสงครามคริสมาสต์ที่ยิ่งใหญ่น่าอาย แต่คุณหนูต้องลุกขึ้นสู้และกลับสู่วันวานที่รุ่งโรจน์อีกครั้ง!”
“เพียงแค่ไปซื้อมาก็พอ! อย่าพูดมาก!” เวอร์เลียนน่าถูกทําให้โกรธ
“เฮ้อ” แม่บ้านถอนหายใจ และเวอร์เลียนน่าก็กดตัดสาย
จากนั้นเย่ฉางก็ยกมุมผ้าเช็ดตัวที่ปิดบังใบหน้าของเขาออก และเห็นเวอร์เลียนน่าที่กําลังโกรธเกรี้ยว “ถอดเสื้อผ้าแล้วไปแช่ในบ่อน้ําพุร้อนได้แล้ว มันค่อนข้างสบาย และเราก็สามารถพูดคุยได้เช่นกัน”
“ไม่เป็นไร ขอบใจ” เวอร์เลียนน่าปฏิเสธเขา ขณะที่เธอลงไปนั่งบนพื้น
“เธอกําลังแบ่งแยกเรางั้นเหรอ?” เย่ฉางเปลี่ยนไปอยู่ในตําแหน่งที่สะดวกสบายมากขึ้น
“นายไม่มีคําพูดอะไรที่ดีกว่านี้แล้วงั้นเหรอ?!” เวอร์เลียนน่าหมดคําพูด
“ทําซะ! นี่ถือเป็นการตอบแทนความโปรดปรานแก่ฉัน เนื่องจากเธอออกมาเที่ยวกับ พวกฉันแล้ว เธอก็ควรจะสนุกไปกับมัน ชีวิตนั้นสั้น อย่าพลาดโอกาสในการมีความสุข และผ่อนคลายไปหน่อยเลยหน่า บางครั้งการสูญเสียคือการสูญเสียชีวิตมนุษย์นั้นอ่อนแอ และสั้นอยู่แล้ว ไม่ใช่งั้นเหรอ?” เย่ฉางพูดอย่างขมขึ้นโดยมีผ้าขนหนูปิดอยู่บนใบหน้าของเขา
เวอร์เลียนน่าได้รับอิทธิพลจากคําพูดของเย่ฉาง ก็จริง! ทําไมฉันถึงต้องคิดมากด้วย?” จากนั้นเธอก็ถอดชุดเกราะออก เย่ฉาง, จางเจิ้งเฉียง และหลินหลีก็หันไปมองเธอทันที
“…..” เวอร์เลียนน่าหมดคําพูด เธอห่อตัวเองด้วยผ้าเช็ดตัว แล้วถอดชุดเกราะที่เหลือออก “หลังจากได้เรียนรู้บทเรียนมามากมาย ฉันก็เกือบที่จะเชื่อเขาไปแล้วจริงๆ